เสิ่นม่านมองไปตามทิศทางที่สารถีชี้ ภายใต้แสงจันทราที่มืดสลัว มีศพสีดำนอนอยู่ข้างทาง
ั้แ่มาถึงมิตินี้ นี่เป็ครั้งแรกที่ได้เห็นคนตาย
เสิ่นม่านแอบรับไม่ได้ แต่ยามนี้กลับมีความกล้าจากที่ใดก็ไม่ทราบหลั่งไหลเข้ามาหานาง ฉะนั้นนางจึงเดินไปดูคนตายที่ว่านั่น
สภาพศพนอนคว่ำไม่เห็นหน้า เห็นเพียงลำคอที่ขาวดั่งหิมะ เสิ่นม่านเริ่มกระอักกระอ่วนใจ นางลังเลอยู่ชั่วขณะ สุดท้ายจึงยื่นมือไปแตะชีพจรตรงลำคอ
สิ่งที่รับรู้ใต้ลำคอนั้นคือ ชีพจรของชายคนนี้ยังคงเต้นอยู่!
ฟู่… เสิ่นม่านโล่งอก โชคดีที่ยังไม่ตาย
นางค่อนข้างกล้าหาญ ขณะที่กำลังจะพลิกตัวชายคนนั้นเพื่อดูหน้าของเขา มือผอมเรียวที่จู่ๆ ก็มีเรี่ยวแรงขึ้นมา ได้คว้าข้อมือของนางเอาไว้ทันควัน
เสิ่นม่านแม้จะได้เตรียมใจก่อนหน้านี้แล้ว แต่พอจู่ๆ ถูกมือของอีกฝ่ายพุ่งเข้ามาเช่นนี้ก็ทำเอาสะดุ้งโหยงจนแทบะโเด้งขึ้น
ชายคนนั้นกลับเอ่ยอะไรบางอย่าง น้ำเสียงฟังดูอ่อนระโหยโรยแรง
“หิว...”
เสิ่นม่านได้ยินไม่ชัดจึงขยับใบหูเข้าใกล้ “อะไรนะ? เ้าพูดว่าอะไรนะ?”
วินาทีถัดมา ชายคนนั้นพลันปล่อยมือนางและหมดสติไป
เสิ่นม่านจับชีพจรของเขาอีกครั้ง หัวใจยังคงเต้นอยู่
ขณะเดียวกัน ในสมองก็ปรากฏเสียงหุ่นยนต์ดังขึ้นทันใด “ติ๊ดๆ ค้นพบแหล่งพลังงาน เริ่มการชาร์จพลังงาน”
อะไรกันเนี่ย? เสิ่นม่านคิดว่าตนเองหูฝาดไป แต่เสียงอันคุ้นเคยในสมองนั้น ชัดเจนว่าระบบของนางกำลังเริ่มทำงาน อีกทั้งยังเติมพลังงานอย่างรวดเร็วด้วย
เสิ่นม่านหดมือกลับมาและหยิกขาตนเองอย่างแรงหนึ่งที
โอ๊ย เจ็บ!
ขณะเดียวกัน เสียงเติมพลังงานก็หายไปด้วย
นางไม่กล้าเชื่อ การคาดเดาที่ใจกล้าบ้าบิ่นกำลังก่อเกิด มือที่สั่นเทายื่นไปทางลำคอของชายคนนั้นอีกครั้ง เสียงเติมพลังงานก็ดังขึ้นอีกครั้งเช่นกัน
หลังจากทำซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายหน ในที่สุดเสิ่นม่านก็ยอมเชื่อ ชายคนนี้คือแหล่งพลังงานที่นางเฝ้าฝันอยู่ทุกค่ำคืน!
์! ความสุขท่วมท้นมาถึงอย่างกะทันหัน!
ชายคนนี้นับเป็ของขวัญที่์ประทานให้นางโดยแท้! ของขวัญที่ล้ำค่าเยี่ยงนี้ เหตุใดจึงมานอนหลับเป็ตายอยู่ข้างทางได้เล่า? นี่มันของล้ำค่าแห่ง์เชียวนะ!
เสิ่นม่านใจเต้นตึกตัก นางหามชายคนนั้นขึ้นมาและลากเขากลับไปยังเกวียนวัว
สารถีและต้าเป่าตาค้าง “!”
เสิ่นม่านหาได้รู้ตัวไม่ นางกำลังหัวเราะอย่างมีความสุขเป็บ้าเป็หลัง “ฮ่าๆ ...ชายคนนี้ยังไม่ตาย ข้ารู้สึกว่าน่าจะพอช่วยเขาได้ เร็วเข้า ไปบ้านข้ากันเถิด!”
สารถีมองด้วยสีหน้าตื่นใและเอ่ยอย่างอ้ำอึ้ง “เ้าแน่ใจหรือว่ากำลังช่วย? เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่า… เ้าเหมือนโจรสาวที่กำลังปล้นสะดมอย่างไรอย่างนั้น”
เสิ่นม่านเองก็รู้สึกว่าการแสดงออกของตนเองออกจะโจ่งแจ้งจนน่าหวาดกลัวเกินไปสักหน่อย นางจึงรีบเก็บอาการแล้วปั้นรอยยิ้มสงบเสงี่ยมเปี่ยมเมตตาออกไปแทน
“จะเป็ไปได้อย่างไร? ช่วยชีวิตคนนั้นได้ผลบุญใหญ่หลวง เห็นคนหมดสติอยู่ข้างทาง แล้วจะไม่ช่วยได้อย่างไร สารถี ท่านว่าถูกต้องหรือไม่?”
สารถีไม่ส่งเสียงใด เขาเพียงชำเลืองมองชายที่ถูกช่วยมา
โอ้ นี่มันพ่อหนุ่มหน้าหยกรูปงามชัดๆ!
เพียงแต่ผอมเป็ต้นถั่วงอก เพียงแค่ลมพัดก็น่าจะสามารถพัดเขาปลิวไปได้ มองดูแล้วสีหน้าก็เหมือนคนป่วยหนัก
เกวียนวัวเคลื่อนตัวอยู่บนทางอีกราวหนึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงบ้าน เสิ่นม่านลงจากเกวียนก็แบกชายคนนั้นเข้าบ้านไปอย่างแทบจะอดใจรอไม่ไหว
สารถีมองดูแสงไฟที่สว่างในบ้านพลางส่ายศีรษะ อนิจจา ใต้หล้านี้ ใจคนยากแท้หยั่งถึงจริงๆ
ภายในบ้าน
เสิ่นม่านวางชายคนนั้นไว้บนเตียงคั่งหนึ่งเดียวของบ้าน จากนั้นก็รีบช่วยต้าเป่าล้างเนื้อล้างตัวอย่างอดใจรอแทบไม่ไหว หลังจากจัดการอะไรเรียบร้อย มือของนางก็วางไปยังลำคอที่ปรากฏออกมานอกเสื้อของชายผู้นั้นอีกครั้ง
เสียงเติมพลังงานของระบบดังขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเวลานี้เสิ่นม่านฟังแล้วรู้สึกว่าไพเราะเสนาะหูเป็พิเศษ
อย่างไรก็ตาม ต้าเป่าไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น เขามองดูเสิ่นม่านด้วยความเป็ห่วงและเอ่ยถามอย่างช้าๆ “ท่านแม่ ท่านชอบพี่ชายท่านนี้หรือ?”
เสิ่นม่านตกตะลึงและมองเขาอย่างงงงวย “เด็กโง่ เ้ากำลังพูดเื่อะไร?”
ต้าเป่าพูดความกังวลใจของตนออกมา “ก็ท่านแม่เอาแต่มองเขาตลอดทั้งคืน แล้วยังยิ้มอีกด้วย”
เสิ่นม่านได้สติจากคำพูดของต้าเป่า คืนนี้นางแสดงความดีใจออกนอกหน้าจนเกินไป นั่นคงทำให้เด็กใแล้ว
เสิ่นม่านนวดขมับ หลังจากพินิจแล้วจึงตอบ “ต้าเป่าจ๊ะ ที่แม่ยิ้มก็เพราะว่า แม่หาพระโพธิสัตว์ที่จะมาโปรดบ้านเราได้แล้วน่ะสิ”
“หืม?” เขาเคยได้ยินเื่พระโพธิสัตว์ แต่ไม่ยักเคยเห็นพระโพธิสัตว์แบบมีชีวิต อีกทั้งยังเป็พระโพธิสัตว์หนุ่มรูปงามอีกด้วย
เขามีข้อสงสัยในใจ แต่ท่าทางของเสิ่นม่านทั้งเคร่งเครียดและจริงจัง “เมื่อวานแม่ฝัน...”
“ในความฝันคือพระโพธิสัตว์องค์เดียวกันจากครั้งที่แล้ว เขาบอกแม่ว่าวันนี้ต้องช่วยคนที่หมดสติและต้องพากลับบ้าน... หากทำได้เท่านี้ ต่อไปเราก็จะมีความรุ่งเรืองมั่งคั่งอย่างไม่รู้จักจบสิ้น!”
ต้าเป่า “!”
ฟังดูแล้วต้องเก่งกาจเป็แน่! เนื่องจากเขาเคยเห็นภาพเหตุการณ์ที่เสิ่นม่านเสกอาหารกลางอากาศมาแล้วหนึ่งครั้ง ต้าเป่าจึงยอมเชื่อสนิทใจโดยไร้ข้อกังขา
เสิ่นม่านเห็นเขาหลงกลจึงปั้นเื่ต่อ “แต่แม่ยังไม่รู้ว่า ตกลงแล้วจะเป็ความรุ่งเรืองมั่งคั่งแบบใดที่รอเราอยู่”
“คืนนี้เราต้องเข้านอนแต่หัวค่ำ แม่จะลองเสี่ยงดวงดูว่าจะสามารถเจอกับท่านเทพในฝันได้อีกครั้งหรือไม่ จะได้ให้เขาสอนก้าวแรกในการเดินเข้าสู่เส้นทางแห่งความร่ำรวย”
“อืม!” คราวนี้ต้าเป่าเชื่ออย่างสมบูรณ์ เขาห่มผ้าและผล็อยหลับไปอย่างว่าง่าย
ในทางกลับกัน เสิ่นม่านซึ่งนอนอยู่ข้างกายชายคนนั้น มือของนางยังคงจับมือของชายหนุ่มไว้แน่น จากนั้นก็พูดเสียงเบา
“พลังงานปาลาลา!”
“ฉันอยู่นี่”
ระบบถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง
ในเวลาเพียงไม่กี่วัน เสิ่นม่านได้ตระหนักถึงความดีใจที่ได้ของรักคืนกลับมา ชั่วจังหวะนั้นน้ำตาถึงกับรื้นออกมา นางหลับตาลง ในสมองปรากฏภาพหน้าจอแสงสว่างที่คุ้นเคย นางเริ่มควบคุมระบบของตนเองอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้เนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ฟังก์ชันส่วนใหญ่ของระบบได้รับความเสียหายและไม่สามารถย้อนกลับไปใช้ใหม่ได้ ปัจจุบันพื้นที่ที่เหลือคือโซนการแพทย์ โซนเกษตรกรรม โซนอุตสาหกรรม โซนบันเทิง และโซนครัวของนาง
ทว่าโซนทั้งหลายนี้ ยังมีบางที่ที่เกิดความขัดข้อง ตัวอย่างเช่น โซนการแพทย์สามารถทําการรักษาพยาบาลได้เพียงการรักษาอย่างง่าย สังเคราะห์ยาบางชนิดและคงความจำเป็สำหรับสุขภาพร่างกายในชีวิตประจำวันเพียงเท่านั้น
สำหรับโซนเทคโนโลยีระดับสูงนั้น เนื่องจากความขัดข้องก่อนหน้านี้ยังไม่ได้รับการซ่อมแซม เบื้องต้นจึงไม่สามารถเปิดใช้งานได้
อย่างไรก็ตาม การบำรุงรักษาไม่ใช่เื่ยากและนางยังมีคู่มือการบำรุงรักษาระบบอยู่ นางมั่นใจว่าตราบใดที่มีพลังงานเพียงพอ นางก็สามารถเรียนรู้วิธีซ่อมแซมได้ เชื่อว่าอย่างมากสุดภายในครึ่งปี นางต้องซ่อมแซมสำเร็จเป็แน่
อาจบอกได้ว่า โซนที่เบื้องต้นนางสามารถปกป้องได้ดีที่สุดก็คือโซนครัว ด้านในนั้นมีแอปพลิเคชันที่จำเป็อย่างครบถ้วน ทั้งยังมีตำราสูตรอาหารและเครื่องมืออุปกรณ์จากทั่วทุกมุมโลก นางสามารถใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ได้
นอกจากนี้ยังมีโซนเกษตรกรรม ซึ่งเสิ่นม่านได้อัปเกรดไปหลายครั้ง ตอนนี้นางจึงสามารถใช้พลังงานของระบบในการปรับแต่งพืชพันธุ์เพื่อเร่งการสุกของผลผลิตทางการเกษตร…
หลังจากวุ่นวายอยู่สองชั่วโมง ในที่สุดนางก็วิเคราะห์สถานการณ์ก่อนหน้านี้ของระบบได้แล้ว หลังจัดการเสร็จสิ้น นางก็ง่วงจนทนไม่ไหวและหลับสนิทไปทั้งอย่างนั้นทันที
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เสิ่นม่านยังอยู่ในห้วงฝันก็ถูกคนผลักลงจากเตียงคั่งเสียงดัง “ตุ้บ” จากนั้นนางก็กลิ้งหลุน ๆ ไปหลายตลบ
เสิ่นม่านรีบกระเสือกกระสนลุกขึ้น จนศีรษะของนางถูกโขกจนหัวโน
ชายบนเตียงตื่นขึ้นและจ้องมองนางอย่างโกรธแค้น
“เ้าเป็ใคร เหตุใดจึงบังอาจมาล่วงเกินข้า!?”
-----