หลังจากประกาศกฏกติกา กรรมการเรียกผู้เข้าแข่งขันมาจับฉลากจากกล่องไม้ในมือของเขา
ผู้เข้าแข่งขัน 16 คนที่เหลือต่างก็เดินเข้ามาจับฉลากของตน ในกล่องจะมีฉลากหมายเลข 1-8 ซึ่งจะมีสองใบที่เลขเหมือนกัน แต่จะเป็กระดาษสีดำและสีขาว หากได้หมายเลขที่ตรงกันแต่คนละสีนั่นคือทั้งสองฝ่ายจะต้องต่อสู้กัน
หลี่ชิงหยุนและคนอื่นๆบนเวทีเดินไปหยิบฉลากของตน กระดาษในมือของหลี่ชิงหยุนคือหมายเลข 1 สีขาว
หมายความว่าเขาจะได้ต่อสู้เป็คู่แรก
"หยางฉี เ้าคิดว่าเด็กหนุ่มหลี่ชิงหยุนจะผ่านรอบ 16 คนหรือไม่?" เล่ยตงเทียนกำลังประเมินพลังของหลี่ชิงหยุนจากรอบแรก มันเห็นทักษะของหลี่ชิงหยุนก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน เอกลักษณ์ความแข็งแกร่งของหลี่ชิงหยุนอยู่ที่ความเร็วและทักษะดาบของเขา หากมีใครสามารถตามความเร็วของเขาทันก็อาจจะได้เปรียบ
แถมยังมีพลังวิญญานที่น่าสะพรึงกลัวของหลี่ชิงหยุนอยู่อีกด้วย
"แม้ว่าระดับพลังของเขาจะไม่สูงนักเมื่อเทียบกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ แต่ด้วยทักษะและการเคลื่อนไหวของเขา เขาน่าจะเข้าสู่รอบ 4 คนสุดท้ายได้อย่างไม่ยากเย็นนัก" หยางฉีพยายามประเมินหลี่ชิงหยุนให้ต่ำที่สุด เพียงแต่ความเร็วของหลี่ชิงหยุนน่ากลัวเกินไป หากเขาสามารถใช้ประโยชน์จากความเร็วของเขาได้ หลี่ชิงหยุนจะมีข้อได้เปรียบเพิ่มขึ้นมาแม้ว่าระดับพลังของเขาจะไม่สูงเท่าคนอื่นก็ตาม
"มารอดูกัน หากเป็ไปได้ ข้าอยากรับสมัครเขาให้เข้าร่วมกับตระกูลเล่ยจริงๆ" เล่ยตงเทียนคาดหวังกับหลี่ชิงหยุนไว้อย่างสูง หากมันสามารถดึงหลี่ชิงหยุนเข้ามาเป็พวกได้ ตระกูลเล่ยอาจจะมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกคนอย่างแน่นอน
.
.
.
บนเวทีหลี่ชิงหยุนมองไปที่คู่ต่อสู้ของเขาที่ได้กระดาษหมายเลข 1 สีดำ
ด้านหน้าของเขาเป็หญิงสาวในชุดสีเขียวใบไม้ นางดูขี้อายอย่างแปลกประหลาด ใบหน้านางเป็รูปไข่พร้อมกับดวงตาที่ใส่ซื่อคู่นั้น ทำให้ทุกๆสายตามองไปที่นางด้วยความเอ็นดู
แต่หลี่ชิงหยุนจะไม่ประมาทคนประเภทนี้อย่างแน่นอน ผู้ที่เอาตัวรอดจนเหลือแค่ 16 คนสุดท้าย จะเป็สาวขี้อายธรรมดาได้อย่างไร?
"สะ-สวัสดีนายน้อย ข้าชื่อ...หนานกงหลิง" หญิงสาวชุดเขียวมีรอยแดงจางๆบนใบหน้าและแนะนำตัวกับหลี่ชิงหยุนอย่างขี้อาย
น้ำเสียงของนางดูตะกุกตะกักและเหมือนว่านางจะอายจริงๆ
"สวัสดีแม่นางหนานกง ข้าหลี่ชิงหยุน ยินดีที่ได้รู้จัก" หลังจากทั้งสองแนะนำตัวกันเรียบร้อย ขณะนี้ถึงเวลาแล้วสำหรับการต่อสู้รอบที่สอง
"คู่ที่หนึ่งรอบที่สอง เริ่มต่อสู้ได้!" กรรมการประกาศเริ่มการต่อสู้ทันที
วินาทีต่อมาเสียงระฆังก็ดังขึ้น
หลี่ชิงหยุนควงดาบสีดำในมือของเขา เขารับรู้ได้ว่าหนานกงหลิงผู้นี้อยู่ที่ระดับลมปราณหยกขั้นสมบูรณ์แบบ
"แม่นางหนานกง ระวัง" หลี่ชิงหยุนวิ่งไปข้างหน้าเพื่อเข้าใกล้กับหนานกงหลิง
เมื่อหนานกงหลิงเห็นว่าทักษะความเร็วของหลี่ชิงหยุนนั้นเร็วมาก ทันใดนั้นกู่ฉินก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของนางโดยพลัน
"ผู้ใช้ทักษะกู่ฉิน" หลี่ชิงหยุนไม่คาดคิดมาก่อนว่าผู้ใช้ทักษะดนตรีจะสามารถผ่านเข้าสู่รอบลึกๆเช่นนี้ได้
ตระกูลหนานกงนั้นมีชื่อเสียงมาจากบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งรุ่นแรกของพวกเขา มีข่าวลือว่าบรรพบุรุษคิดค้นทักษะของกู่ฉินขึ้นมา บรรพบุรุษผู้นั้นเป็แค่เด็กกำพร้าตัวคนเดียว เขาได้ไต่เต้าขึ้นไปเรื่อยๆจากการต่อสู้และสะสมชื่อเสียง จนเขาได้ฉายาว่าปรมาจารย์กู่ฉิน และด้วยผลงานจากการต่อสู้ของบรรพบุรุษหนานกงในา เขาได้รับเลือกให้เป็ตระกูลขุนนางจากกษัตริย์โม่องค์ก่อน บรรพบุรุษหนานกงจึงได้สร้างตระกูลที่เป็ของเขาขึ้นมาใหม่ จากนั้นตระกูลหนานกงก็สืบทอดชื่อเสียงทางด้านดนตรีจากบรรพบุรุษมาจากรุ่นสู่รุ่น
ความน่ากลัวของทักษะดนตรีคือการควบคุมกฏแห่งธรรมชาติที่แปลกประหลาด เพียงแต่การใช้ทักษะกู่ฉินนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับพลังฉีแต่ขึ้นอยู่กับการควบคุมพลังิญญา
หนานกงหลิงใช้นิ้วที่เพรียวบางของนางดีดกู่ฉินอย่างช้าๆ เสียงที่ไพเราะของกู่ฉินลอยเข้าหูของทุกคนในที่แห่งนี้ เสียงกู่ฉินของนางให้ความรู้สึกเชื่องช้าและสวยงามราวกับเวลาค่อยๆหยุดลง
นั่นทำให้ผู้ชมรู้สึกเพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรีอันไพเราะ
ทันใดนั้นแรงกดอากาศรอบข้างของหลี่ชิงหยุนเริ่มเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
หลี่ชิงหยุนรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของเขาช้าลงอย่างมาก เขาพยายามจะเร่งความเร็วเพื่อไปให้ถึงหนานกงหลิงให้ได้เร็วที่สุด
จู่ๆความเร็วในการเล่นกู่ฉินของนางเริ่มเปลี่ยนไป จังหวะของกู่ฉินในคราวนี้เต็มไปรัศมีของใบมีดที่แหลมคมปรากฏขึ้นกลางอากาศ ใบมีดกว่า 20 เล่มพุ่งตรงไปที่หลี่ชิงหยุนทันที!
หลี่ชิงหยุนเริ่มััได้ถึงความน่ากลัวของหญิงสาวผู้นี้แล้ว นางสามารถเร่งหรือควบคุมจังหวะการต่อสู้ได้อย่างที่้าเมื่ออยู่ในขอบเขตพลังิญญา ความสามารถเช่นนี้หากนางทำหน้าที่เป็ผู้สนับสนุนในการต่อสู้แบบกลุ่ม นางจะกลายเป็ไพ่ตายของกลุ่มอย่างแน่นอน
หลี่ชิงหยุนพยายามหลบการเคลื่อนไหวออกด้านข้าง แม้ว่าร่างกายของเขาจะรู้สึกหนักอึ้งแต่เขาก็สามารถหลบรัศมีใบมีดได้เกือบทั้งหมด
อย่างไรก็ตามแม้ว่าทักษะกู่ฉินจะสามารถควบคุมแรงโน้มถ่วงของการต่อสู้ได้ แต่ก็มีจุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเช่นกัน นั่นคือตัวของผู้บรรเลงเอง หากผู้บรรเลงไม่มีการป้องกันในระหว่างที่กำลังโจมตี สิ่งนี้จะกลายเป็จุดอ่อนไปโดยปริยาย
หนานกงหลิงเห็นว่าหลี่ชิงหยุนสามารถหลบการโจมตีของนางได้ทั้งหมด ความเร็วนิ้วของนางเพิ่มขึ้นอีกครั้ง คราวนี้รัศมีใบมีดไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอีกต่อไป ราวกับว่านางกำลังใช้อากาศรอบๆให้กลายเป็ใบมีดพุ่งโจมตีไปที่หลี่ชิงหยุนอย่างต่อเนื่อง
หลี่ชิงหยุนไม่ได้ประมาท เขาพยายามหลบใบมีดรอบๆตัวเขาอย่างทุลักทุเล
ใบมีดอากาศเริ่มมีจำนวนที่มากขึ้น แม้แต่หลี่ชิงหยุนยังมีรอยขีดข่วนจากใบมีดหลายแผล สุดท้ายเขาไม่สามารถหลบมันได้ทั้งหมด
"แบบนี้ไม่ดีแน่!" ความเร็วและจำนวนใบมีดของหนานกงหลิงยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลี่ชิงหยุนใช้การเคลื่อนไหวแบบสลับข้างเพื่อหลบการโจมตีที่มาถึงตัวของตน ขณะนี้เขาจำเป็ต้องเปิดใช้งานเนตรปฐมกาลเพื่อมองการเคลื่อนไหวล่วงหน้าของใบมีด
ดวงตาของหลี่ชิงหยุนเป็สีทองจางๆ คราวนี้เขาสามารถหลบใบมีดอากาศกว่าร้อยเล่มได้อย่างง่ายดาย
ระยะห่างระหว่างทั้งคู่เริ่มลดลง หลี่ชิงหยุนเข้าสู่ระยะการโจมตีแล้ว เขาปล่อยคลื่นดาบไปที่หนานกงหลิงทันที
คลื่นดาบสีขาวพุ่งตรงไปที่กู่ฉินของนาง หนานกงหลิงเริ่มดีดกู่ฉินด้วยความเร็วอีกครั้ง การโจมตีคลื่นดาบของหลี่ชิงหยุนถูกสกัดกั้นด้วยเกราะอากาศอย่างง่ายดาย
"เอ๊ะ!?" หลี่ชิงหยุนไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน "ผู้ใช้ทักษะดนตรีช่างน่ากลัวจริงๆ...เห็นทีข้าต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีเสียใหม่"
เขาเพิ่งรับรู้ได้ว่าแม้ว่าระดับการบ่มเพาะของหนานกงหลิงจะอยู่แค่ระดับลมปราณหยกสมบูรณ์แบบ แต่พลังิญญาของนางนั้นเทียบได้กับระดับลมปราณโลกขั้นกลางแล้ว
หลี่ชิงหยุนถอยห่างออกมา ตอนนี้การโจมตีดาบของหลี่ชิงหยุนไม่สามารถไปถึงตัวหนานกงหลิงได้ ดังนั้นเขา้าใช้การโจมตีจากระยะไกล
ระยะการป้องกันกู่ฉินของหนานกงหลิงนั้นมีขีดจำกัดเพียงแค่ 50 เมตรรอบๆตัว
"เอาล่ะ มาลองดูกัน" หลี่ชิงหยุน หยิบเข็มสีทองของเขาออกมา เข็มนี้ไม่นับว่าเป็สิ่งประดิษฐ์ระดับสูงในการต่อสู้ มันเป็เพียงแค่เข็มที่ใช้ในการแพทย์เท่านั้น
เขาปลดปล่อยเข็มสีทองที่มีฉีต้นกำเนิด 20 เล่มออกไปในคราวเดียว
หนานกงหลิงเห็นว่าหลี่ชิงหยุนออกห่างจากระยะของตนและเปลี่ยนอาวุธอย่างกะทันหัน นางก็ริเริ่มสร้างการป้องกันเข็มสีทองทันที
เข็ม 20 เล่มเล็งไปที่ร่างกายของหนานกงหลิงที่นั่งเล่นกู่ฉินกลางอากาศด้วยความเร็วสูงสุด
วินาทีต่อมาหนานกงหลิงริเริ่มสร้างเกราะจากฉีและสุญญากาศรอบๆตัวเพื่อป้องกันเข็มทั้ง 20 เล่มโดยพลัน
ทันใดนั้นเข็มก็เข้าปะทะกับเกราะฉี ความแม่นยำในการควบคุมของหนานกงหลิงนั้นแม่นยำอย่างแท้จริง
เข็ม 20 เล่มไม่สามารถทะลุผ่านเกราะสุญญากาศของหนานกงหลิงไปได้
จู่ๆมีเข็มที่เล็กกว่าเข็มสีทองก่อนหน้านี้หลบซ่อนอยู่ด้านหลังเข็มสีทอง และมันหลุดพ้นจากเกราะป้องกันของหนานกงหลิงไปได้อย่างน่าอัศจรรย์
หนานกงหลิงเริ่มตื่นตระหนก นางรีบสร้างเกราะสุญญากาศเพิ่มขึ้นอีกชั้น
แต่ทันใดนั้นหลี่ชิงหยุนใช้การเคลื่อนไหว 9 ก้าวลวงตา โผล่ออกมาจากด้านหลังของหนานกงหลิงอย่างกะทันหัน
"อะไร!" หนานกงหลิงไม่ได้สังเกตุเห็นการเคลื่อนไหวของหลี่ชิงหยุนเลยแม้แต่น้อย ขณะนี้นางกำลังใช้พลังิญญาของสร้างเกราะเพื่อป้องกันเข็มด้านหน้า จนไม่มีเวลามากพอที่จะรับการโจมตีจากทั้งสองด้าน
หลี่ชิงหยุนริเริ่มใช้คลื่นดาบโจมตีหนานกงหลิงจากด้านหลังทันที
หากหนานกงหลิง้าตั้งรับการโจมตีจากหลี่ชิงหยุน นางก็จะโดนการโจมตีจากเข็มนั้นแทน
หนานกงหลิงกัดฟันและเลือกที่ป้องกันการโจมตีของหลี่ชิงหยุนจากด้านหลัง ผลสุดท้ายนางจึงปล่อยให้เข็มโจมตีร่างกายของนางแทน
จากด้านหลังดาบของหลี่ชิงหยุนปะทะกับเกราะสุญญากาศ และแสดงให้เห็นว่าการโจมตีของหลี่ชิงหยุนไม่สามารถทะลุเกราะนี้ไปได้จริงๆ
แม้จะเป็เช่นนั้นแต่หลี่ชิงหยุนกลับไม่ได้ตื่นตระหนก เขาเพียงแค่ยิ้มอย่างเ้าเล่ห์ให้กับหนานกงหลิง
"จึก!"
อีกด้านเข็มเล่มเล็กเจาะไปที่ข้อมือของหนานกงหลิง เวลาต่อมานางรู้สึกว่ามือของนางไม่สามารถขยับหรือเล่นกู่ฉินต่อไปได้!
"กะ-เกิดอะไรขึ้น?" หนานกงหลิงใที่นางไม่สามารถควบคุมมือที่กำลังบรรเลงกู่ฉินได้
เข็มนี้คือเข็มที่กลั่นจากสมุนไพรชนิดหยินระดับสูง ดังนั้นมันจึงสามารถแช่แข็งการเคลื่อนไหวได้ชั่วขณะ สิ่งนี้ใช้สำหรับการหยุดการไหลเวียนของเส้นลมปราณเท่านั้น
เมื่อมือของหนานกงหลิงไม่สามารถขยับได้ ดังนั้นเกราะป้องกันที่นางสร้างขึ้นจากสุญญากาศเพื่อป้องกันดาบของหลี่ชิงหยุนก็จางหายไปทันที
เมื่อเห็นโอกาสหลี่ชิงหยุนใช้คลื่นดาบโจมตีหนานกงหลิงอีกระลอก
"ฉัวะ!"
หนานกงหลิงไม่สามารถป้องกันดาบที่สองได้ทันเวลา นางถูกกระแทกถอยหลังกลับอย่างแรง และกระอักเืออกมาเบาๆ
หนานกงหลิงที่าเ็เล็กน้อยพยายามกัดฟันอดทนต่อความเ็ป แต่นางรู้ว่าหลี่ชิงหยุนยับยั้งพลังคลื่นดาบเอาไว้ เขาเพียงแค่้าผลักนางออกไปเท่านั้น
นางพยายามลุกขึ้นและ้าควบคุมกู่ฉินเพื่อต่อสู้กับเขาอีกครั้ง
จู่ๆเสียงของผู้ตัดสินก็ดังขึ้น "หนานกงหลิงออกนอกสนาม คู่ที่หนึ่ง ชัยชนะของหลี่ชิงหยุน!"
หลังจากสิ้นสุดเสียงผู้ตัดสิน ผู้ชมทุกสายตามองไปที่หลี่ชิงหยุนอย่างแปลกประหลาด
สถานการณ์ก่อนหน้านี้หลี่ชิงหยุนไม่สามารถแม้แต่จะเข้าใกล้ระยะของหนานกงหลิงได้ด้วยซ้ำ แต่เพียงแค่จังหวะเดียวหลี่ชิงหยุนสามารถพลิกกลับมาชนะได้อย่างสมบูรณ์แบบ
"โอ้!" เสียงะโดังขึ้นจากทุกทิศทางเพื่อแสดงความยินดีให้กับหลี่ชิงหยุน
"นายน้อยหลี่สุดยอดมาก" สาวๆมากมายต่างเรื่มะโให้กำลังใจหลี่ชิงหยุน
หนานกงหลิงที่ยืนอยู่นอกขอบเวทีก็พูดไม่ออก นางแค่ถอนหายใจเบาๆและพูดกับหลี่ชิงหยุนว่า "นายน้อยหลี่ ขอบคุณสำหรับความเมตตา"
น้ำเสียงของนางไม่ได้ขี้อายเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป ดูเหมือนว่าบุคลิกของนางจะเปลี่ยนไปเมื่อได้ัักับกู่ฉิน
"ทักษะกู่ฉินของแม่นางหนานกงแข็งแกร่งและไพเราะอย่างยิ่ง ข้าชื่นชมทักษะของแม่นางหนานกงจริงๆ" หลี่ชิงหยุนเกาหัวและยิ้มแหยะๆ
สิ่งที่หลี่ชิงหยุนพูดนั้นออกมาจากใจของเขาจริงๆ เขาแทบไม่เคยเจอผู้ที่ใช้ทักษะด้านดนตรีเลย ดังนั้นการรับมือกับหนานกงหลิงจึงเป็เื่ยากเล็กน้อยสำหรับเขา
หนานกงหลิงเขินอายเล็กน้อยสำหรับคำชมของหลี่ชิงหยุน
ทั้งสองเดินลงจากเวทีด้วยกัน ทั้งสองแลกเปลี่ยนคำพูดกันเล็กน้อย หนานกงหลิงเริ่มหน้าแดงอีกครั้งหลังจากคุยกัน
ดูเหมือนว่าหลี่ชิงหยุนค่อนข้างจะมีพร์ในด้านการจีบสาว
ผู้ตัดสินหันไปมองข้างเวทีและพูดช้าๆ "คู่ที่สอง... ลงสู่สนาม!"
เมื่อสิ้นสุดเสียงประกาศหญิงสาวในชุดสีฟ้าที่มีผมสีขาวะโขึ้นมาบนเวที นางคือปิงเสวี่ยเอ๋อร์จากตระกูลปิง
ตรงข้ามคือชายร่างผอมบางในชุดสีเหลือง ชายผู้นี้มาจากตระกูลเล่ยอย่างเห็นได้ชัด
"คู่ที่สอง เริ่มการต่อสู้!" ผู้ตัดสินประกาศ เสียงเคาะระฆังสำหรับรอบที่สองดังขึ้น