ภายในชั่วพริบตา ก็มีเสียงร้อง “อ๊าก” ด้วยความเ็ปดังขึ้น พร้อมกับตัวของเซียวหลิงอวิ๋นที่กระเด็นไปข้างหลัง ฝ่ามือขวามีรูทะลุเืไหลหยดลงมาราวกับลูกปัด!
“ไอ้สารเลว รนหาที่ตายแล้ว!” สิ้นเสียงคำราม จ้าวเหวินจัวก็หงายฝ่ามือสีขาวอวบอ้วนของเขา ชั่วขณะต่อมา พลังิญญาสีเขียวอันทรงพลังก็พุ่งออกมา เปลี่ยนรูปร่างกลายเป็ตราประทับสีเขียวขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่าสองเมตรปรากฏขึ้นเหนือหัวของจ้าวอู่จี๋ แล้วกระแทกลงมาอย่างแรง!
เมื่อเห็นเซียวหลิงอวิ๋นถูกอีกฝ่ายทำร้ายจนได้รับาเ็ทั้งๆ ที่อยู่ภายใต้จมูกของตัวเอง ก็นึกถึงตอนที่ตัวเองได้ให้คำมั่นสัญญาต่อหน้าผู้าุโสูงสุดทั้งสอง หนอยแน่ะ เป็ถึงปรมาจารย์ิญญาระดับกลาง กลับกล้าลงมือกับนักยุทธ์ระดับกลาง จ้าวเหวินจัวที่บันดาลโทสะจึงลงไม้ลงมือทันที ใช้วิชาิญญาระดับเหลืองชั้นสูงสุด ‘ตราประทับเขียวขจีกำราบมาร’ ออกมาทันที
จริงๆ แล้ว จ้าวอู่จี๋ก็เองลงมือไปโดยตั้งใจเช่นกัน เขาแค่้าช่วยฉินลู่ิ และบังคับให้เซียวหลิงอวิ๋นถอยออกไปเท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเซียวหลิงอวิ๋นจริงๆ แต่อย่างใด!
แต่เซียวหลิงอวิ๋นเองก็ฉลาดเช่นกัน ตัวเขาที่กำลังกังวลอยู่ว่าจะหาโอกาสลากจ้าวอู่จี๋ลงมากินในน้ำไม่ได้อยู่นั้น จู่ๆ ก็มีโอกาสอันงามมลอยเข้ามาพอดี ชั่วขณะที่ลำแสงโค้งกำลังพุ่งมาถึงนั้น อย่าว่าแต่เขาจะจงใจเอามือมารับเลย ตัวเขาไม่คิดใช้วิชากายค้อนสำริดเพื่อป้องกันด้วยซ้ำ ฝ่ามือจึงถูกแทงทะลุในทันที!
และเป็อย่างที่คาดการณ์เอาไว้ จ้าวเหวินจัวลงมือในทันที!
โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น รอยยิ้มปรากฏในดวงตาของเซียวหลิงอวิ๋นขณะที่กำลังค่อยๆ ถอยหลบออกมาอย่างช้าๆ!
เมื่อจ้าวอู่จี๋เห็นตราประทับสีเขียวขนาดใหญ่ตกลงราวกับูเาทับ ตราประทับสีเขียวก็แหวกผ่านอากาศจนเกิดเสียงดังสนั่นก่อนที่จะทุบลงมา ทำให้เก้าอี้ไม้จันทน์ที่จ้าวอู่จี๋นั่งอยู่ส่งเสียงแตกหักดังสนั่น ตัวเขารู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาทั้งใจ แต่ก็ไม่กล้าเสียสมาธิแม้แต่น้อย เมื่อตั้งสมาธิได้ก็ปล่อยมีดสั้นสีน้ำเงินออกมาสามเล่ม พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วดุจสายฟ้า มีดสั้นทั้งสามเล่มนั้นพอปะทะกับตราประทับสีเขียว ก็แหลกเป็ชิ้นๆ พร้อมกัน
จ้าวอู่จี๋นั้นรู้ดีอยู่แล้วว่าลำพังมีดเล็กสามเล่มนี้ย่อมไม่สามารถหยุดตราประทับสีเขียวได้ จึงใช้มันเพื่อถ่วงเวลาให้ตัวเองสักนิด อาศัย่เวลาสั้นๆ นี้ ตัวของจ้าวอู่จี๋ก็ถอยกลับออกมาอย่างรวดเร็ว!
“เปรี้ยง!” หลังชนเข้ากับกำแพงด้านหลังจนทะลุ และในขณะเดียวกัน “โครม!” ก็มีเสียงดังสนั่นตามมา พื้นดินสั่นะเื ทั้งห้องก็สั่นะเื ตราประทับสีเขียวก็ทุบจนพื้นห้องแข็งๆ กลายเป็หลุมลึกหลายสิบเมตร!
ปรมาจารย์ิญญาโจมตีด้วยความโกรธ! พลังทำลายล้างนั้นช่างยิ่งใหญ่นัก จนใบหน้าของคนหลายคนที่อยู่ในห้องถึงกับเปลี่ยนไปทันที พวกเขาต่างก็รีบใช้วิชาตัวเบาหลบหนีออกจากห้องโถงใหญ่ในทันที เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกหางเลขไปด้วย
“คิดหนีงั้นหรือ?” จ้าวเหวินจัวคำรามด้วยความโกรธ จากนั้นก็พลิกฝ่ามือ แล้วตราประทับสีเขียวก็พุ่งออกไปอีกครั้ง ไล่ตามจ้าวอู่จี๋ไป!
ทางเซียวหลิงอวิ๋นที่เพิ่งจะหนีออกมาจากห้องโถงที่กำลังสั่นคลอน ตัวเขาไม่ได้หยุดวิ่งแม้แต่ชั่วขณะเดียว และเหยียดเท้าลงไปที่พื้นพร้อมกับพุ่งตัวไปหาฉินลู่ิที่กำลังหนีออกมาเช่นกัน ฉินลู่ิถึงกับเปลี่ยนสีหน้าทันที รีบหลบฉากออกไปอีกทาง จากนั้นก็หันไปมองที่เซียวว่านจุนและะโใส่ “เ้าเฒ่าเซียว ตระกูลเซียวของเ้ากำลังจะตายอยู่แล้ว ยังกล้าอวดดีอยู่อีกอย่างนั้นหรือ ในอีกสิบปีข้างหน้า ไม่สิ นับจากนี้ไป ร้านยาซื่อไห่ของเราจะไม่มีวันร่วมมือกับตระกูลเซียวของพวกเ้าอีกแล้ว จะไม่มีการซื้อฝักบัวเพลิงก็แม้แต่ดอกเดียว พวกเ้าคอยดูได้เลย...”
“โอ้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ร้านยาซื่อไห่กำลังคิดจะทำลายจวนเซียวโหวอยู่หรือ!” ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น!
ตามมาด้วยเสียงของคนอื่นๆ “ร้านยาซื่อไห่นี่ช่างปากเก่งเสียจริง ไม่เพียงแต่จะขอยุติความร่วมมือ ยังกล้าประกาศอีกว่าจะไม่รับซื้อฝักบัวเพลิงเลยแม้แต่ดอกเดียวอีก และยังส่งคนมาทุบทำลายจวนเซียวโหวอีกด้วย หึหึ ช่างอาจหาญเสียจริง”
“ร้านยาซื่อไห่อาศัยใครในแคว้นมู่อวิ๋นของเรามาอวดเบ่งกันนะ?”
“กล้าทำลายจวนเซียวโหวอย่างนั้นหรือ นี่แสดงว่าคงไม่สนใจตระกูลโหวของพวกเราในแคว้นมู่อวิ๋นแล้วอย่างนั้นสินะ หรือแม้แต่ตระกูลอ๋องก็ยังไม่สนใจ! ถึงได้กล้าคิดทำลายตระกูลโหว หรือขอยุติการค้าขายได้ตามใจชอบเช่นนั้น!”
...
เสียงเหล่านี้ดังขึ้นพร้อมกับหลายๆ คนที่ปรากฏตัว!
พวกเขาคือเจิ้งอวิ๋นหลง หลิวอวิ๋นฉี และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียจากทั้งห้าตระกูลใหญ่!
“ท่านเซียวโหว ในเมื่อร้านยาซื่อไห่ตัดความสัมพันธ์กับพวกท่านแล้ว พวกเราร้านเชียนตันฟางยินดีที่จะรับ่ต่อเอง ราคาที่พวกเราให้ก็สูงกว่าราคาที่พวกท่านกับร้านยาซื่อไห่ตกลงกันเอาไว้ก่อนหน้านี้ถึงสองเท่า ไม่ใช่แค่ฝักบัวเพลิงเท่านั้น แต่เชียนตันฟางของเราจะรับซื้อทั้งหมด ขอเพียงเป็วัตถุดิบสำหรับหลอมยาิญญาหรือแม้แต่หินผลึกไฟที่ขุดได้บนเขาจิงหั่วหลิงซาน ร้านเชียนตันฟางของเรายินดีรับซื้อไว้ทั้งหมด!” เสียงดังฟังชัดของหยางเจี่ยงดังขึ้น!
“พวกเราสมาคมโอสถซินโยวเองก็ยินดีเป็อย่างยิ่งที่จะให้ความร่วมมือกับตระกูลเซียวโหวของท่าน ให้ราคาเดียวกันกับร้านเชียนตันฟาง!” สวีหลงพูดตาม!
“พะ... พวกท่าน...” ฉินลู่ิตาค้าง!
หลังจากที่เจิ้งอวิ๋นหลงและพรรคพวกเอ่ยคำเ่าั้ออกมา ตัวเขาก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรไม่ถูกต้องเป็แน่... แต่ว่า...พวกตระกูลใหญ่เหล่านี้ไม่ได้มาเพื่อกดดันตระกูลเซียวโหวและชิงูเาจิงหั่วหลิงซานไปหรอกหรือ? ทำไมถึงมาช่วยพูดแทนตระกูลเซียวโหวกันล่ะ?
จนเมื่อหยางเจี่ยงและสวีหลงทั้งสองคนพูดขึ้น จึงมองไปที่ผู้คนซึ่งมีสีหน้าเป็มิตรต่อเซียวว่านจุน แม้กระทั่งยิ้มประจบประแจง แล้วหวนนึกถึงพลังถล่มทลายของชายอ้วนที่เข้ามาพร้อมกับเด็กหนุ่มแซ่เซียว ทันใดนั้นฉินลู่ิก็รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันที!
“อุ่ฟ” เืพุ่งกระอักออกมาจากปาก ดวงตากลอกกลับด้านและหมดสติไปในทันที!
“เปรี้ยงๆ ครืนนน โครม!” พร้อมด้วยเสียงที่ดังสนั่น บ้านแต่ละหลังของจวนเซียวโหวก็เริ่มทนต่อการต่อสู้อันรุนแรงของปรมาจารย์ิญญาทั้งสองคนไม่ไหว พังครืนลงมาทีละหลัง!
“สวีหลงขอคารวะท่านสอง!” สวีหลงเดินเข้าไปหาเจิ้งอวิ๋นหลงและยกมือขึ้นคารวะ! สวีเฟยที่เป็ลุงของสวีหลงกับเจิ้งอวิ๋นหลงนั้นเป็สหายกัน!
“ช่างโชคดีที่ได้พบท่านสองก่อน ไม่เช่นนั้น ตัวข้าอาจจะเลือกเดินผิดฝั่งก็ได้!” สวีหลงที่พอจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้วถึงกับปาดเหงื่อกาฬและพูดออกมาเสียงแ่!
“ฮ่าๆๆ เสี่ยวหลง หากตกลงร่วมมือกับตระกูลเซียวโหวได้ ข้ารับรองว่าเมื่อเ้ากลับไปเมื่อไรจะได้เลื่อนตำแหน่งอย่างแน่นอน!”
“ขอคุณชายเซียวอย่าได้กังวล จวนหลังนี้ จะต้องมีคนจ่ายค่าชดใช้ให้แน่นอน และเงินที่จ่ายชดใช้ก็เพียงพอให้ท่านสร้างใหม่ให้กว้างใหญ่กว่า สูงกว่าเดิม นับจากนี้ไป จวนของท่านก็จะถูกใช้เป็ฐานที่มั่นของพวกเราทั้งหกตระกูล!” หลิวอวิ๋นฉีกล่าวปลอบเซียวว่านจุน
“ใช่แล้ว คุณชายเซียว ทั้งร้านยาซื่อไห่และตระกูลจ้าวเหล่านี้ล้วนแต่เป็แกะตัวอ้วนทั้งนั้น ร่ำรวยกว่าตระกูลหลิ่วโหวมาก ค่าชดใช้นี้ย่อมไม่น้อยแน่นอน!”
ผู้คนต่างก็พากันหัวเราะ
ไม่นานนัก!
ครั้นเสียงครืนเริ่มจางหายไป ท่ามกลางกลุ่มควันก็มีร่างหนึ่งเหินทะยานขึ้นบนท้องฟ้า เป็ชายอ้วนที่พุ่งออกมา!
“ตูม!” พร้อมด้วยเสียงดังสนั่น เขาโยนร่างคนคนหนึ่งลงมากองที่พื้นในสภาพราวกับสุนัขตาย!
...
ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา!
ผู้คนหลายสิบคนจากจวนจ้าวอ๋องและร้านยาซื่อไห่ถูกควบคุมตัวเอาไว้โดยไม่พลาดแม้แต่คนเดียว
เซียวหลิงอวิ๋นนั้นไม่ได้สนใจเื่ของการรีดไถเงินค่าชดเชยจากจวนจ้าวอ๋องและร้านยาซื่อไห่แต่อย่างใด แต่ให้หลี่เฉวียนเดินนำทางไปข้างหน้า พร้อมกับพวกจ้าวเหวินจัว พวกเขาทั้งสี่คนก็มุ่งตรงไปยังจวนของบิดาเ้าของร่างนี้ ‘เซียวเซิ่งหู่’
โชคยังดี! อวัยวะภายในยังไม่เสียหาย!
แต่สภาพร่างกายของท่านพ่อนั้นย่ำแย่เกินไปแล้ว!
คนคนนี้อายุสี่สิบสามปีแล้ว แต่พลังยุทธ์ยังอยู่ในระดับผู้ใช้พลังิญญาระดับกลางเท่านั้น อีกทั้งยังเป็ผู้ใช้พลังิญญาระดับกลางที่อาศัยความมั่งคั่งของตระกูลเซียวอีกด้วย!
ทั้งพร์ และร่างกายต่างก็ย่ำแย่ไปหมด!
จำเป็ต้องเสริมแกร่งให้ดีขึ้น แม้จะไม่ได้ขึ้นสู่แดนเบื้องบน หรือไม่ได้มีชีวิตอยู่เป็พันปี อย่างน้อยก็พอจะอยู่ได้สามถึงห้าร้อยปี และยังมีท่านปู่ ท่านอาสาม และท่านอาห้าอีก เราจะต้องคิดหาวิธีเพิ่มพร์และปรับปรุงร่างกายให้ได้! และเปลี่ยนตระกูลเซียวให้กลายเป็ตระกูลที่ใหญ่ที่สุดรองมาจากสำนักเท่านั้น ซึ่งถือเป็หน้าที่และความกตัญญูอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่ตัวเขาจะทำเพื่อเ้าของร่างนี้!
