ตนเองยังไม่ไปถึงที่ ตระกูลฉีก็ส่งคนมาถอนหมั้นก่อนแล้ว!
หลังจากตกตะลึงเพียงครู่ เฉิงชิงก็เปิดกล่องไม้ตรวจสอบดู ณ ตรงนั้น ภายในคือเทียบดวงชะตาของบุตรสาวคนโตอย่างที่คิด
นางหลิ่วแทบจะเป็ลม
ตระกูลฉีคิดจะกดดันฮุ่ยเหนียงจนตายเลยหรือ?
เห็นๆ อยู่ว่าเป็เื่ที่สามารถตัดสินได้ในที่ลับ ท่านลุงใหญ่ฉีกลับนำคนกลุ่มหนึ่งมาถอนหมั้นถึงที่อย่างกะทันหัน จะให้เหล่าเพื่อนบ้านไม่พูดคุยกันได้อย่างไร ตระกูลลุงทางสายเืไม่ไว้หน้าฮุ่ยเหนียงเช่นนี้ คนนอกจะด่าว่าท่านลุงใหญ่ฉีได้ว่าเืเย็นไร้ไมตรี แอบซุบซิบกันว่าหรือฮุ่ยเหนียงมีข้อบกพร่องทางร่างกายร้ายแรงอะไร หรือไม่ก็เพราะเหตุใดท่านลุงทางสายเืจึงป่าวประกาศถอนหมั้นต่อหน้าชาวประชาเช่นนี้โดยไม่ใส่ใจชื่อเสียงและหน้าตาของหลานสาว!
นางหลิ่วโกรธจนตัวสั่น “ท่านลุงฉี หรือว่าข้าน้อยทำผิดที่ใดจึงทำให้ท่านโกรธ เหตุใดท่านจึงต้องทำกับฮุ่ยเหนียงถึงเพียงนี้?”
เป็เพราะนางพาบุตรชายหญิงกลับหนานอี๋โดยที่ไม่ได้ไปเยี่ยมคารวะตระกูลฉีหรือ?
一ทั้งบ้านยังอยู่ใน่ไว้ทุกข์ เดิมก็ไม่เหมาะจะไปเยี่ยมเยียนญาติ!
แววตาที่กระจ่างใสของบุตรสาวคนโตเปลี่ยนเป็หม่นหมอง
ท่านลุงผู้นี้ให้ความรู้สึกแปลกหน้า ไม่เหมือนกับในความทรงจำของนางเลยแม้แต่น้อย
นางสามารถไม่แต่งงานกับญาติผู้พี่ได้ แต่ยังคงโอบกอดความหวังกับท่านลุงไว้ ทว่าความเ็าของท่านลุงใหญ่ฉีทำลายความหวังเล็กน้อยนั้นไปหมดสิ้น
ฉีเหยียนซงเองก็หงอยเหงาเศร้าซึม
ถึงเขาไม่้าจะแต่งญาติผู้น้องเป็ภรรยาเอก แต่ก็คิดจะค่อยๆ หลอกล่อญาติผู้น้องเป็อนุภรรยา บัดนี้ดีนัก ถูกบิดาเข้ามาวุ่นวาย ครอบครัวของญาติผู้น้องเกรงว่าจะโกรธแล้ว ญาติผู้น้องไหนเลยจะยอมเป็อนุภรรยา เฮ้อ!
ทุกคนในครอบครัวเฉิงล้วนโกรธเกรี้ยว มีเพียงเฉิงชิงที่ยังคงรักษาความมีเหตุมีผล
การที่ท่านลุงใหญ่ฉีมาถอนหมั้นต่อหน้าผู้คนกะทันหันเป็การทำให้นางเสียจังหวะ แต่ทั้งสองฝ่ายก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ้าล้มเลิกงานแต่งนี้
แต่ท่าทีของท่านลุงใหญ่ฉีแสดงชัดเจนว่า้าฉีกหน้า ตระกูลฉีไม่ไว้หน้าบุตรสาวคนโต แล้วไยเฉิงชิงต้องไว้หน้าอีกฝ่าย?
“นายท่านฉีมาก็ดีแล้ว ข้าจะได้ไม่ต้องวิ่งไปอำเภอหย่งหยาง เข้าใจว่านายท่านฉีคงจะทราบถึงการกระทำของบุตรชายท่ายแล้ว อับอายต่อพวกเราตระกูลฉีจึงชิงยกการถอนหมั้นขึ้นมาสินะขอรับ! ซือโม่ เ้าไปที่โต๊ะหนังสือของข้า นำเทียบดวงชะตาของคุณชายรองฉีออกมา แล้วยกกล่องในห้องออกมาด้วย ในเมื่อวันนี้มีเหล่าเพื่อนบ้านเป็พยาน ข้าจะได้ยกเลิกการแต่งงานนี้อย่างหมดจด!”
แม้แต่ท่านลุงตระกูลฉี นางก็ไม่เรียกแล้ว
ซือโม่วิ่งไปอย่างรวดเร็ว หยิบเทียบดวงชะตาและกล่องดังกล่าวออกมา
一กลุ่มเพื่อนบ้านมองดูอย่างฉงนสนเท่ห์ สรุปแล้วผู้ใดกันแน่ที่้าถอนหมั้น?
ตระกูลของฝ่ายชายท่าทางดุดันข่มขู่ แต่หนุ่มน้อยเฉิงชิงกลับเตรียมการไว้นานแล้ว
คิ้วของลุงใหญ่ฉีขมวดแน่น “เด็กน้อย ไยปากเ้าจึงเต็มไปด้วยถ้อยคำไร้สาระ เหตุใดพวกเราจึงต้องอับอายต่อตระกูลฉีด้วย? ข้าตัดสินใจถอนหมั้นเป็เพราะไม่้าเป็ญาติกับเฉิงจือหย่วนบิดาเ้า ตัวเขามาจากตระกูลเฉิงแห่งหนานอี๋ ยามยักยอกเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติเคยคิดถึงชื่อเสียงของบรรพบุรุษบ้างหรือไม่… ช่างเถิด ข้าไม่อยากโต้เถียงกับเด็กน้อยอย่างเ้า รีบนำเทียบดวงชะตาของฉีเหยียนซงคืนมา การแต่งงานของทั้งสองตระกูลก็จะยกเลิกกันเช่นนี้”
ลุงใหญ่ตระกูลเฉิงหยุดพักชั่วครู่ “ส่วนฮุ่ยเหนียง เดิมก็เป็หลานสาวของตระกูลฉีเรา หากนางยินยอม หลังจากนี้ก็จะไปใช้ชีวิตอยู่ที่ตระกูลฉี ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเ้าแซ่เฉิงอีก”
แม้ไม่ได้แต่งงาน ถึงอย่างไรก็ต้องดูแลหลายสาวทางสายเื การกระทำของลุงใหญ่ฉีแสดงให้เห็นว่าตนให้ความสำคัญมากกับเืเนื้อเชื้อไข ถือเป็คนละเื่กัน
บุตรสาวคนโตส่ายหน้า “ข้าไม่ยินยอม ข้าจะอยู่กับครอบครัว”
“ฮุ่ยเหนียง เ้าอยู่กับครอบครัวแล้วลุงจะดูแลเ้าได้อย่างไร เ้าอย่าเอาอารมณ์เป็ใหญ่ แม้การหมั้นหมายระหว่างเ้าและเหยียนซงจะเป็โมฆะไป แต่ลุงก็ยังช่วยหาการแต่งงานที่ดีให้แก่เ้าได้ ตระกูลฉีสิจึงจะเป็ที่พึ่งให้กับเ้า”
ไม่ว่าลุงใหญ่ฉีจะกล่าวเช่นไร บุตรสาวคนโตล้วนไม่ยินยอม
เสียงถกเถียงของเหล้าเพื่อนบ้านยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ มีคนวิจารณ์ว่าลุงใหญ่ฉีเผด็จการ
“ถอนหมั้นก็ถอนหมั้นสิ เหตุใดต้องบีบบังคับแยกเืเนื้อเชื้อครอบครัวเขาด้วย ปกติตระกูลเฉิงก็กลมเกลียวกันมากอยู่แล้ว”
“นั่นสิ คนเช่นเ้านี่พูดเหตุผลด้วยไม่ได้!”
เหล่าเพื่อนบ้านล้วนเห็นกับตาว่านางหลิ่วปฏิบัติต่อบุตรสาวคนโตเช่นไร ลุงแท้ๆ กลับป่าวประกาศถอนหมั้นอย่างเอิกเกริก ไม่มีความคิดจะเ็ปใจแทนหลานสาว หากบุตรสาวไปใช้ชีวิตที่ตระกูลฉีสิถึงจะเรียกว่าโง่!
ลุงใหญ่ฉีกล่าวว่านี่คือเื่ในครอบครัว ไม่เกี่ยวข้องกับเพื่อนบ้าน อาซ้อใหญ่ผู้ปากจัดนางหนึ่งก็ทะเลาะกับเขากลางถนน ไม่ยอมแม้แต่น้อย
ลุงใหญ่ฉีหมดความอดทนแล้ว จึงเร่งให้เฉิงชิงคืนเทียบดวงชะตาของบุตรชาย
เหล่าเพื่อนบ้านขวางหน้าเฉิงชิง โน้มน้าวไม่ให้นางคืนกลับไปโดยง่าย
“ผิดสัญญาแต่งงานก็ต้องจ่ายเงินด้วย ทำเช่นนี้ถือเป็การรังแกคนแล้ว!”
“ใช่ อย่าไปคืนให้เขา ดูความโเี้ไร้เหตุผลของเขาสิ…”
ลุงใหญ่ฉีดึงดูดความโกรธแค้นเข้าแล้ว
เฉิงชิงหัวเราะอย่างอดไม่อยู่ “ทุกท่านโปรดเข้าใจ นายท่านฉีร้อนตัวจึงรีบร้อนเช่นนี้ เทียบดวงชะตาย่อมคืนแน่ แต่ว่าต้องพูดคุยให้ชัดเจนก่อน เื่การถอนหมั้น ไม่ใช่ว่าพี่สาวคนโตของข้าบกพร่องด้านคุณธรรม แต่เป็เพราะครอบครัวเราไม่อาจเชื่อถือคุณธรรมของคุณชายรองฉีได้ ไม่ยินยอมให้พี่สาวคนโตของข้าใช้ชีวิตราวตกนรกจึงได้ยืนกรานถอนหมั้น!”
ฉีเหยียนซงโกรธจนหายใจไม่ออก
ลุงใหญ่ฉีมองเฉิงชิงเต็มสองตา
“เ้านี่ช่างฉลาด พูดจาฉะฉานนัก!”
เฉิงชิงประสานมือ “นายท่านฉีชมเกินไปแล้ว ข้าไม่เคยปล่อยข่าวลือ เพียงแต่กล่าวตามความจริงเท่านั้น ในนี้ข้าไม่ได้มีเพียงเทียบดวงชะตาที่จะคืนให้ตระกูลฉี ยังมีสิ่งของที่ตระกูลฉีส่งมาให้ในหลายปีนี้ อีกทั้งขอเชิญนายท่านฉีคืนสินเดิมของมารดาผู้ให้กำเนิดพี่ใหญ่กลับมาด้วยขอรับ”
ถึงเฉิงชิงจะกลับไปยากจนอีกครั้ง แต่ก็ไม่คิดจะให้เหล่าพี่สาวไปจำนำเสื้อผ้าและเครื่องประดับ โชคดีที่เป็เช่นนี้ ลุงใหญ่ฉีมาถอนหมั้นถึงที่ เฉิงชิงจึงสามารถจัดการส่งคืนสิ่งของที่ตระกูลฉีทยอยส่งมามอบให้บุตรสาวคนโตใน่หลายปีที่ผ่านมา!
สิ่งของเหล่านี้ไม่สำคัญว่าจะเป็ของที่ตระกูลฉีมอบให้หลานสาวหรือก็คือลูกสะใภ้ในอนาคต กลับกันความเป็ญาตินี้รักษาไว้ไม่ได้ ตัดขาดกันอย่างหมดจดเช่นนั้น
หลังจากภรรยาเดิมของเฉิงจือหย่วนเสียชีวิตไปแล้ว นางหลิ่วที่เป็ภรรยาคนต่อมาของเฉิงจือหย่วน ก่อนจะเข้าประตูมาก็เก็บรักษาสินเดิมของนางฉีไว้แล้ว สินเดิมเหล่านี้ล้วนเก็บไว้ให้บุตรสาวคนโต
หลังจากที่ตระกูลฉีมาเยี่ยมเยียน เฉิงจือหย่วนก็ได้มอบหมายสินเดิมของนางฉีให้ตระกูลฉีไปดูแลทันที อีกทั้งหลังจากที่ทั้งสองตระกูลวางแผนจะแต่งงานทางเครือญาติแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็ที่จะต้องนำกลับไป ถึงอย่างไรบุตรสาวคนโตก็จะต้องแต่งกลับตระกูลฉี สินเดิมของนางฉีก็จะส่งมอบให้บุตรสาวคนโตต่อโดยตรง
ปีนั้นยามนางฉีออกเรือน เฉิงจือหย่วนทั้งหนุ่มแน่นและโดดเด่น ทั้งสองตระกูลเหมาะสมกันดี ตระกูลฉีคือตระกูลใหญ่ในอำเภอหย่งหยาง ภายในอำเภอมีถนนร้านค้าสายหนึ่งเป็ของตระกูลฉี ในชนบทยังมีที่นาผืนใหญ่ สินเดิมของนางฉีเองก็อุดมสมบูรณ์มาก ของแต่ละอย่างรวมกันแล้วคิดเป็เงินกว่าห้าหกพันตำลึง!
สองมือของลุงใหญ่ฉีว่างเปล่า ยื่นเทียบดวงชะตาให้แล้วก็เอ่ยว่า้าจะถอนหมั้น เฉิงชิงกลับมองไม่เป็ความจริงใจในการถอนหมั้นของตระกูลฉี
คืนเทียบดวงชะตาแต่ไม่คืนสินเดิมของนางฉี คิดจะเก็บงำเงินจำนวนมากขนาดนั้นไว้หรือ?
ถือดีอะไร ทั้งหมดนั่นคือของที่นางฉีหลงเหลือไว้ให้บุตรสาวคนโต!
เฉิงชิงกล่าวข้อตกลงของทั้งสองตระกูลอย่างฉะฉาน ในมือก็ถือรายการสินเดิมที่เหลืองซีดแผ่นนั้น
“เื่นี้ นายท่านฉี้าจะกล่าวอะไรหรือไม่ขอรับ?”
เห็นชัดว่าลุงใหญ่ฉีไม่ทันได้เตรียมตัวเกี่ยวกับเื่นี้
เขาลอบด่าความเ้าเล่ห์ของเฉิงชิง กระแอมเล็กน้อย “ผู้ใดกันที่นำเงินมากมายขนาดนั้นออกจากบ้าน สินเดิมของมารดาฮุ่ยเหนียงย่อมต้องให้ตระกูลฉีดูแลต่อไป รอเมื่อฮุ่ยเหนียงออกเรือนจึงค่อยให้คืนไป เ้าช่างมากแผนการ คิดนำสินเดิมของมารดาฮุ่ยเหนียงกลับไปก็เพื่อเป็การเติมเต็มกระเป๋าตระกูลเฉิงของเ้า”
เฉิงชิงส่ายรายการสินเดิมของนางฉีไปมา
“หากนายท่านฉีไม่ยินยอม เช่นนั้นเทียบดวงชะตาก็ไม่อาจคืนกลับไปได้ชั่วคราว ไม่สู้พวกเราไปที่ว่าการอำเภอด้วยกัน ให้ท่านนายอำเภอเป็ผู้ตัดสิน!”
ลุงใหญ่ฉีไม่้าจะไปที่ว่าการอำเภอ เหล่าเพื่อนบ้านก็ส่งเสียงอึกทึก ล้วนด่าว่าเขา้ายักยอกสินเดิมที่นางฉีเหลือไว้ให้บุตรสาว
ลุงใหญ่ฉียืนกรานที่จะดูแลเงินจำนวนนั้นแทนหลานสาว บุตรสาวคนโตจึงก้าวขึ้นมายืนข้างกายเฉิงชิง
“ขอบคุณนายท่านฉีที่เป็ห่วง เงินนี้จะใช้จ่ายอย่างไรข้าจะเป็คนตัดสินใจเองเ้าค่ะ แม้นในอนาคตจะตกต่ำถึงขั้นต้องขอทาน แต่ก็จะหลีกเลี่ยงประตูใหญ่ของตระกูลฉี”
บุตรสาวคนโตก็ไม่เรียกท่านลุงแล้ว เรียก ‘นายท่านฉี’ เช่นเดียวกับเฉิงชิง เห็นได้ว่าถูกการแสดงออกของลุงใหญ่ฉีทำให้จิตใจแตกสลาย
ในตอนที่ทั้งสองฝ่ายถึงทางตัน นายท่านห้าเฉิงพร้อมคนจำนวนหนึ่งก็มาถึงพอดี
ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีกแล้ว มารังแกคนถึงที่ ผู้นำตระกูลอย่างนายท่านห้าเฉิงผู้นี้ย่อมต้องออกหน้า!
