มาลองคิดดูดีๆ ตอนนี้ข้าคงบอกว่าตัวเอง 'ฉลาดขึ้น' ได้กระมัง? ก่อนหน้านี้ข้าเป็หมูที่ใช้ชีวิตอย่างเลื่อนลอย คิดแต่เพียงแค่เื่ความ้าของร่างกาย แต่ตอนนี้ข้าใช้เวลามากขึ้นกับการคิด นี่เป็สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับสหายร่วมคอกของข้ามาก่อน และสิ่งเดียวที่ข้าจำได้ ข้อสงสัยที่เข้าท่าเพียงอย่างเดียว ก็คือน้ำยาที่คุณหนูเอามาให้ทุกวัน
“ลองหาข้อมูลดูก่อนดีกว่า! จำได้ว่าเกมที่เคยเล่นก็ทำแบบนี้...”
เกม? ข้าเป็หมูไม่ใช่เหรอ? นอกจากเล่นไล่จับกับสหายทั้งหลายหรือกลิ้งตัวเล่นโคลนแล้ว ข้าเคยเล่นเกมอื่นด้วยหรือ? ในหัวข้าปรากฎภาพความทรงจำเลือนราง นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เล่นเกม 3A เห็นตัวเองใช้มืุ์กดแป้นพิมพ์ ไม่รู้ว่าความทรงจำของใครที่ปนเปื้อนในหัวข้า หรือแท้จริงแล้วมันเป็ความทรงจำของข้าเอง?
ข้าหอบความสงสัยเต็มหัวเดินกลับไปที่คอกหมูช้าๆ มองดูสหายที่กินอิ่มแล้วนอนหลับไป ข้ารู้สึกว่าตัวเองต่างไปจากพวกมัน แต่ข้าก็ยังต้องทำตัวเป็ 'หมู' ต่อไป เพราะรู้ชะตาชีวิตของตัวเอง
หมูไม่ได้ถูกเลี้ยงไว้ดูเล่น
ถูกต้องแล้ว เป้าหมายของมนุษย์เหล่านี้คือการเลี้ยงเราให้โต ขุนให้อ้วน แล้วก็ฆ่าพวกเราไปกิน พ่อแม่ พี่ใหญ่ พี่รอง พี่หญิงสาม พี่สี่ พี่หญิงห้า...น้องพี่อีกหลายสิบตัว ต่างก็ถูกมนุษย์เหล่านี้สังหารสิ้น ข้าตัวเล็กกว่าพี่น้องบางตัว ตามหลักแล้ว ชะตาคงยังไม่ถึงฆาตในเร็ววัน นั่นหมายความว่า ก่อนวันที่จะถูกฆ่าตาย ข้ายังมีโอกาส
ข้าแสร้งทอดกายนอนลงไปอย่างสงบ ในใจมีแต่ความว้าวุ่น หมูตัวหนึ่งสามารถเลี้ยงคนกลุ่มนี้ได้สามวัน นับจากครั้งล่าสุดที่พวกเขาจับน้องสาวตัวอ้วนตุ้บของข้าไป ก็เพิ่งผ่านไปได้ไม่ถึงสองวัน ดูจากขนาดตัวของน้องสาว คงอยู่ได้สักสองสามวันอย่างแน่นอน
ข้าเพิ่งจะโล่งใจที่ยังมีเวลาเตรียมตัว ก็ได้ยินเสียงพูดคุยและเสียงฝีเท้าของคนหลายคนอยู่ด้านนอกคอกหมู อารมณ์ที่ผ่อนคลายก็ตึงเครียดขึ้นมาทันใด
ข้ารู้สึกหนาวะเืเหมือนถูกแช่ในน้ำแข็ง ความทรงจำเลวร้ายต่างๆ ผุดขึ้นมาเมื่อประตูคอกถูกเปิดออก ข้านึกถึงวิธีการที่พวกเขาปฏิบัติต่อเรา ตัวสั่นเทาอย่างอดไม่ได้ ยังไม่ต้องพูดถึงเื่ศักดิ์ศรี การถูกด่า ถูกตีเป็เื่ปกติ สิ่งที่ทำให้ข้าหวาดกลัวที่สุดคือความรู้สึกสิ้นหวังที่ชีวิตตกอยู่ในมือผู้อื่น เพียงคำสั่งเดียวก็ถูกพรากไปได้
ข้ากลืนน้ำลาย ก่อนที่ข้าจะคิดหาทางรับมือ ชายหนุ่มห้าคนก็เดินเข้ามา พวกเขาที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานต่างหยุดพูดพร้อมกัน ชายที่ตัวใหญ่ที่สุดคนหนึ่งสบถออกมาอย่างสุดทนว่า “ให้ตายสิวะ เหม็นฉิบหาย!”
“จัดการคนละตัว เอาตัวที่อ้วนที่สุด รีบลงมือซะ!”
ชายห้าคนชะเง้อมองแต่ละคอก ข้าที่อยู่กลางคอกอดใไม่ได้ วันนี้มันวันอะไรกัน ถึงต้องเชือดหมูทีเดียวห้าตัว!?
แบบนี้แย่แน่ ข้าอายุมากที่สุดในบรรดาหมูที่เหลืออยู่ ตัวไม่ใหญ่ที่สุด แต่ก็อยู่ในกลุ่มตัวใหญ่ มีโอกาสถูกเลือกสูง!
บรรยากาศในคอกหมูเริ่มวุ่นวายขึ้น ถึงแม้ว่าเวลาปกติจะเอาแต่กินๆ นอนๆ แต่เมื่อพี่น้องลดน้อยถอยลงทุกวันย่อมทำให้ทุกตัวสงสัย พวกเราอาศัยอบู่บนเขาเซียนซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังิญญา ถึงจะี้เี แต่สมองก็ไม่เฉื่อยชาเหมือนสัตว์เลี้ยงทั่วไป
พี่ชายที่ดื้อรั้นของข้าะโเตะสันจมูกของชายคนหนึ่งจังๆ ความเ็ปทำให้เขาต้องยกมือขึ้นปิดจมูก เซถลาไปสองก้าว เืไหลออกมาสองสายย้อมเสื้อผ้าสีฟ้าของเขาให้เป็สีแดง
ชายหนุ่มคนอื่นต่างหัวเราะเยาะ ชายที่ถูกโจมตีโมโหมาก “ก็ดี! ในเมื่อรีบอยากไปเกิดใหม่ถึงเพียงนั้น ก็รับดาบของข้าไปซะ!”
ชายผู้นั้นใช้มือซ้ายปิดจมูก มือขวาชี้ไปที่พี่ชายของข้า พร้อมกับดาบสีเงินที่บินออกมาจากถุงเก็บของข้างเอว ในพริบตา พี่ชายของข้าก็ถูกหั่นเป็ชิ้นๆ ชายผู้นั้นถ่มน้ำลายอย่างดูถูก ยกมือขวาขึ้น เก็บดาบและชิ้นเนื้อเปื้อนเืใส่ในถุงเก็บของ
“ฉิบ! ผู้บำเพ็ญ!” ในหัวข้าเหมือนฟ้าผ่า ตัวข้าสั่นไปทั้งตัว “พวกนี้คงเป็ผู้บำเพ็ญทั้งหมดสินะ?”
แม้แต่มนุษย์ธรรมดายังถูกมองว่าเป็มดปลวกเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้บำเพ็ญ ไม่ต้องพูดถึงพวกเราที่เกลือกโคลนกลั้วปฏิกูลอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เราก็เป็เพียงเนื้อบนโต๊ะอาหารเท่านั้น
สหายของชายผู้นั้นตบไหล่เขาเพื่อปลอบโยน “เฮ้ย! ศิษย์น้อง ต้องทำถึงขนาดนั้นเชียวหรือ? มันก็แค่หมูตัวเดียว จะเอาอะไรกับมันนักหนา?”
“เวรเอ๊ย! ก็แค่หมูตัวเดียว ยังกล้าโอหังกับข้าอีกหรือ!?”
“นี่ เลิกสบถสาบานได้แล้ว เดี๋ยวอาจารย์ได้ยินเข้าก็เดือดร้อนกันอีก”
เืกำเดาของชายผู้นั้นค่อยๆ หยุดไหล เอ่ยอย่างดูถูก “อย่ามาเพ้อเจ้อ อาจารย์จะมาที่นี่ทำไม?”
ระหว่างที่คุยกัน ชายคนอื่นๆ ก็สอดส่ายสายตามองหาหมูตัวใหญ่ไปพลาง “เออ ตัวนั้นก็ใช้ได้นี่!”
สหายของชายผู้นั้นเข้าเข้ามาใกล้ แล้วโบกมือไปมาหน้าจมูก “ให้ตาย! ไอ้ตัวนี้เพิ่งคลานออกมาจากกองขี้กระมัง? สกปรกไปทั้งตัว”
หมูตัวที่ถูกเลือกเหมือนจะเข้าใจคำบ่น จึงตั้งใจล้มตัวลงไปคลุกกับกองปฏิกูลที่ตนเพิ่งถ่าย คลุกอยู่หลายรอบอย่างชาญฉลาด
“หึ ฟังภาษาคนออกด้วยหรือ? กินแล้วจะเพิ่มพลังบำเพ็ญหรือไม่? ไหนลองใช้วิชาชำระกายกับเ้าดูซิ” ชายผู้นั้นเหยียดฝ่ามือไปทางหมูตัวนั้น แสงสีขาวจางๆ ส่องออกมาจากฝ่ามือของเขา ิัเ้าหมูที่เปื้อนด้วยมูลสีน้ำตาล เมื่อสบแสงก็กลับมาเป็สีชมพูสะอาดใส
เมื่อเห็นว่าเ้าหมูสะอาดพอแล้ว ชายผู้นั้นก็หดมือ แล้วชกเข้าที่ท้ายทอยเ้าหมูจนสลบไป ก่อนที่เ้าหมูจะล้มลง ชายผู้นั้นก็ใช้มือจับที่ิั แล้วดึงหมูหนักสองร้อยจินขึ้นพาดบ่า ท่าทางผ่อนคลายเหมือนพาดผ้าขนหนูอย่างไรอย่างนั้น
“เอาล่ะ พี่ไปก่อนนะ!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้