“กัวไฮว่ ขอบคุณมากนะที่วันนี้ช่วยให้พวกเราชนะการประลอง” หลิวเย่าซือพูดยิ้มๆ “เธอบอกว่าเธอจะเปิดคลินิกจริงหรือเปล่าฉันเคยรู้มาว่าถ้าอยากเปิดคลินิกที่ถนนซิ่งหลินจะต้องมีความสามารถจริงๆไม่งั้นคนอื่นจะมาหาเื่ได้ แล้วหมอคนอื่นๆ ที่ถนนซิ่งหลินก็จะไล่นายออกไป”
“จะเปิดกิจการเสาร์นี้ ไว้ถึงตอนนั้นเดี๋ยวพวกเธอก็จะรู้เอง” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ซือซือเธอช่วยพิจารณาเื่ที่ฉันบอกไปหน่อยนะ มาที่คลินิกของฉันสิ่งที่เรียนในมหาลัยน่ะมีจำกัด สิ่งที่คณบดีหลิวให้เธอได้ก็มีจำกัดถ้าอยากเป็หมอที่แท้จริงก็เพียงแค่มาหาฉันเท่านั้น”
“ตอนที่ไปเอายาคุณปู่บอกฉันแล้วล่ะว่าถ้าคลินิกนายเปิดกิจการที่ถนนซิ่งหลินได้จริงๆฉันก็ไปที่คลินิกนายได้” น้ำเสียงของหลิวเย่าซือเบาลงเรื่อยๆ
“ยายหนู กัวไฮว่นี่ไม่เลวเลยนะ ปู่ฉินของแกชมเขาใหญ่เลยดูทรงแล้วเด็กนี่น่าจะมีความสามารถจริงๆ ถ้าเขาให้เธอไปที่คลินิกเขาเธอต้องตอบตกลงนะเส้นทางแห่งการแพทย์จีนน่าจะอยู่ที่เขาหมดแล้วอันที่จริงอายุเธอกับเขาใกล้เคียงกันมากถ้าเธอทำให้เขาเป็ลูกเขยตระกูลเราได้งั้นก็ยิ่งดีใหญ่เลย” ในตอนนั้นหลิวเฉินกังพูดกับหลิวเย่าซือแบบนี้
“พรุ่งนี้เธอไปรับสมัครคนกับอวี้เอ๋อร์แล้วก็กลับคลินิกมาด้วยกันเถอะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เหลิ่งซวงฉันกับเธอไม่ต้องพูดอะไรกันมาก ฉันอยากจะรับเธอเป็ศิษย์ ถ้าเธอตกลงฉันจะมอบความรู้ทั้งหมดให้เธอเลยแต่ถ้าเธอไม่ตกลงฉันก็ยังหวังว่าเธอจะมาที่คลินิกฉันได้นะ”
“ฉะ...ฉันเหมือนกันกับซือซือได้ไหม ให้ช่วยงานที่คลินิกนายก่อนนายให้ฉันเป็ศิษย์ ฉัน...” เหลิ่งซวงพูดอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี
“เธอไปทำงานที่คลินิกฉันก่อนก็ได้ไว้เธออยากให้ฉันเป็อาจารย์หรือเปล่าก็แล้วแต่เธอ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “พวกเรากินข้าวกันเถอะ”
เป็เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง โจวเทียนหยางก็ยกอาหารคาวหลายจานมาเสิร์ฟตัวเขาเองก็หาเก้าอี้เตี้ยมานั่งลงอย่างไม่ได้เกรงอกเกรงใจ
“อาโจว เอาแก้วเหล้ามาสิครับ เดี๋ยวผมให้ลุงได้ชิมเหล้าสักหน่อย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ โจวเทียนหยางชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อกี้เด็กนี่เอาเหล้ามาจากไหนกัน เมื่อก่อนเสี่ยวซือก็มากินข้าวอย่างเดียวไม่ดื่มเหล้าส่วนเขาก็รู้ร่างกายของตนเองดีกว่าจะดื่มเหล้าเยอะไม่ได้ปกติเลยไม่ดื่ม
“ดี งั้นวันนี้ฉันแหกกฎดื่มเป็เพื่อนพวกเธอหน่อยก็แล้วกัน” ในขณะที่โจวเทียนหยางพูดเขาก็นำถ้วยกระเบื้องมาจากในห้อง “ฉันไม่มีแก้วเหล้า ใช้นี่แล้วกันนะ”
กัวไฮว่ยิ้มพลางผงกศีรษะ ทุกคนต่างก็มีถ้วยเล็กๆพวกเขาคีบเนื้อกวางเข้าไปในปากจากนั้นก็ตามด้วยดื่มเหล้าในถ้วยอย่างไม่ได้เกรงอกเกรงใจ
“อาโจว เนื้อกวางนี่ไม่แย่เลย อาเลือกใช้วัตถุดิบก็พิถีพิถันเห็ดในนี่ก็เป็เห็นป่าบนูเา คู่กันกับเนื้อกวางรสเลิศของจริงเลยครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ฮ่าๆ พ่อหนุ่มรู้เื่อาหารเยอะนะเนี่ย ฉันชอบให้ฉันดื่มเหล้าเธอหน่อยเป็ไง” โจวเทียนหยางพูดยิ้มๆเขาถือถ้วยเหล้าขึ้นมาก่อนจะดื่มหมดในอึกเดียว
“พวกเธอก็ชิมสิ รสชาติไม่เลวเลยนะ” กัวไฮว่พูดขึ้นกับหลิวเย่าซือและเหลิ่งซวงเด็กสาวทั้งสองเองก็ไม่เกรงใจ พวกเธอหยิบถ้วยเหล้าขึ้นมาก่อนจะชิมค่อยๆ ละเลียดชิม
“ไอ้น้อง เธอเอาเหล้านี้มาจากไหน ไม่สิ เหล้านี่ไม่มีใครขายหรอกเธอยังมีเหล้านี่อีกเท่าไหร่ ช่วยแบ่งมาให้ฉันหน่อยได้ไหม” โจวเทียนหยางพูดพลางถูฝ่ามือ
“อาโจว อีกถ้วยนะครับ” กัวไฮว่ไม่ได้พูดอะไรมากเขายิ้มพลางเทเหล้าใส่ถ้วยของของโจวเทียนหยางจนเต็ม
“น้องกัวไฮว่ นายให้เหล้าฉันอีกได้ไหม” หลิวเย่าซือพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“ฉันก็เอาอีก” เหลิ่งซวงพูดต่อ
“วันนี้เอาให้พอ ดื่มให้ท้องแตกไปเลย ฮ่าๆ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “อาโจวครับ ขอผมใช้ครัวอาหน่อยนะ จะไปเพิ่มอาหารน่ะครับ” กัวไฮว่พูดพลางเดินเข้าไปในครัวจากนั้นโจวเทียนหยางก็เดินถือถ้วยเหล้าตามเข้าไปในครัวด้วยกัน
“พ่อหนุ่ม นี่มันวัตถุดิบอะไรของเธอเนี่ย ฉันดูไม่ออกเลย” โจวเทียนหยางมองชิ้นเนื้อขนาดไม่เล็กที่อยู่ในมือกัวไฮว่ก่อนจะถามยิ้มๆ
“อุ้งตีนหมี แต่ว่าใหญ่กว่าที่พวกคุณเคยเห็นหน่อยนึง” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เมื่อกี้อาใช้กำลังภายในในการทำอาหารผมก็จะลองดูบ้าง” ในขณะที่พูดกัวไฮว่ก็วางอุ้งตีนหมีไว้บนเขียง จากนั้นก็กำหมัดทุบไปบนชิ้นเนื้อ
“กำลังภายในน่ากลัวเชียว พ่อหนุ่ม เธอมีความสามารถอะไรกันแน่เนี่ย” โจวเทียนหยางพูดเบาๆ “เนื้อนี่ไม่ใช่อุ้งตีนหมีธรรมดาๆสิท่า นี่คืออุ้งตีนาาหมี แต่ว่าพ่อหนุ่มมีอุ้งตีนหมีแบบนี้ได้ยังไงกัน”
กัวไฮว่หัวเราะแต่ไม่ได้พูด าาหมี? จะพูดอย่างนั้นก็ได้ นี่คืออุ้งตีนมารหมีในสมัยโบราณเมื่อก่อนเ้าของน้ำเต้านี่น่าจะมีอยู่จำนวนหนึ่ง
“อุ้งตีนหมีนี่น่าจะเข้ากับน้ำผึ้งนะไม่รู้ว่านึ่งรังผึ้งนี่กับอุ้งตีนหมีแล้วจะออกมาเป็รสชาติยังไง” กัวไฮว่พูดพลางถือรังผึ้งเก้าชั้นไว้ในมือโดยปกติแล้วรังผึ้งเก้าชั้นจะใหญ่ แต่ว่ารังผึ้งที่อยู่ในมือของเขานั้นเล็กกว่ามากจากนั้นเขาก็ใช้กำลังภายในในการทุบรังผึ้งให้แหลกแล้วนำไปโรยบนอุ้งตีนหมี
“อาโจวเปิดหม้อนึ่งเลยครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆโจวเทียนหยางวางถ้วยเหล้าในมือลง จากนั้นก็เปิดหม้อนึ่ง เขาเติมฟืนใต้หม้อเพราะการใช้ถ่านนึ่งกับใช้ไม้ฟืนจะได้รสชาติที่ต่างกันมาก
“ใช้ไม้นี่สิ!” ในขณะที่พูดกัวไฮว่ก็โยนไม้จันทน์จื่อจินขนาดไม่เล็กไปใต้หม้อจากนั้นก็พัดอากาศเข้าไปให้หม้อทำให้ไม้ทั้งท่อนลุกไหม้ขึ้นมา
“พระเ้า เด็กนี่คิดจะทำอาหารอะไรกันแน่อย่าว่าแต่อุ้งตีนหมีกับรังผึ้งเมื่อกี้เลย แค่ไม้ท่อนนั้นราคาก็ซื้อร้านเล็กๆของฉันนี่ได้แล้วมั้งเนี่ย” โจวเทียนหยางพูดไม่ออกเขาลอบคิดขึ้นในใจ
“หอมมากเลย กัวไฮว่คิดจะทำอะไรกันแน่นะ” หลิวเย่าซือสูดดมเข้าไปลึกกลิ่นหอมที่สะพัดในอากาศลอยเข้าไปในร่างกายผ่านทางจมูกจากนั้นความรู้สึกอุ่นร้อนก็หยุดอยู่ตรงจุดกลางตันเถียน[1]
เดิมทีตำแหน่งของร้านนี้อยู่ไม่ใกล้ทว่ากลิ่นหอมที่ลอยออกมาจากห้องครัวเป็ระลอกๆ ทำเอาคนที่อยู่รอบร้านต่างก็หยุดฝีเท้าถึงขั้นที่ว่าบางคนเดินตามกลิ่นหอมเข้ามาในร้าน
“อู๋กัง โผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” ภายในวังแห่งจันทราสตรีงามเทพธิดาฉางเอ๋อตวาดเสียงดังลั่นจากนั้นอู๋กังก็ปรากฏตัวขึ้นในวังแห่งจันทรา
“ท่านพี่ ไม่ทราบว่าผู้ใดทำผิดต่อท่านหรือ ท่านบอกมา ข้าจะไปสับมันให้” อู๋กังพูดพลางแบกขวานด้ามใหญ่เอาไว้
“วันนี้ไม่มีเื่อะไร เดี๋ยวเ้าไปจับมารหมีที่แดนมารมาหน่อยเอาแบบที่อุ้งมือใหญ่ๆ หน่อยนะ แล้วก็ช่วยไปเอารังเซียนผึ้งมาด้วยเอาที่มีน้ำผึ้งเยอะๆ เลย” ฉางเอ๋อพูดยิ้มๆ
“ท่านพี่ ่นี้แดนมารเองก็ไม่ได้มาหาเื่เลย ข้าไปแบบนี้ไม่ดีกระมัง” อู๋กังพูดขึ้นเบา
“ไม่ดี...ไม่ดีกับผีสิ ไม่ได้จะให้เ้าไปหาเื่มารัเสียหน่อยเ้าจะกลัวไปไย ถ้าเ้าทำไม่สำเร็จ ข้างจะให้หยางเจี่ยนไป่นี้เด็กนี่ดูเหมือนจะว่างนะ” ฉางเอ๋อพูดยิ้มๆ “ทว่าคราหลังหากมีอะไรดีๆ ข้าจะไม่ให้เขาให้เ้า”
“ดูท่านพี่พูดเข้า ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ ข้าจะจับหัวาามารหมีกลับมา” พูดเสร็จ อู๋กังก็หายตัวไปในวังแห่งจันทรา
“ดูท่าอุ้งตีนหมีนี่น่าจะอร่อยทีเดียวเชียว” ฉางเอ๋อพูดยิ้มๆ
[1] จุดศูนย์กลางของพลังงานภายในร่างกาย แบ่งออกเป็สามตำแหน่งได้แก่บริเวณระหว่างคิ้ว บริเวณใต้หัวใจและบริเวณใต้สะดือ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้