“ความหมายของหลิวอี๋เหนียงคือแม่นมหวางไม่มีความผิดหรือ?”
น้ำเสียงของต้วนชิงิเอ่ยขึ้น ทำเอานางสะดุ้งด้วยความใ พลันเงยหน้าขึ้นมอง พบสายตาเ็าโกรธแค้นมองกลับมา ละม้ายจะเฉือนนางเป็ชิ้นๆ คาดไม่ถึงเลยว่าเด็กสาวที่อายุยังไม่ถึงสิบปีจะมีสายตาเคียดแค้นได้ถึงเพียงนี้
หลิวหรงตระหนกใจนพูดอะไรไม่ออกขณะที่ต้วนชิงิเบือนหน้ายิ้มเยาะเย้ย
“บ่าวรับใช้ทำผิด นายหญิงกลับปกป้อง เช่นนั้นกฎในจวนต้วนจะมีไว้ให้ใครเคารพ?”
หลิวหรงยังคงนิ่งงันหาคำพูดไม่เจอดุจเดิม ต้วนชิงิกำลังช่วยนางโดยการลงโทษแม่นมหวางแทนให้ หากยังไม่รับน้ำใจนี้ นางจะดูแลจัดการจวนต้วนต่อไปได้อย่างไร?
หลิวหรงทำได้เพียงฝืนยิ้มออกมา ในแววตากลับเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง
“ขอบคุณคุณหนูใหญ่ที่ชี้แนะ”
ต้วนชิงิ! เ้าบังอาจมาลงโทษคนของข้า วันข้างหน้าข้าจะให้เ้าเจ็บยิ่งกว่านางเป็ร้อยเท่าพันเท่า!
เมื่อถึงตรงนี้ต้วนเจิ้งเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า มองไปยังต้วนอวี้ที่ท่าทีเหมือนอยากจะออกไปจากตรงนี้เต็มที ทว่าสายตาต้วนชิงิกลับชะเง้อมองไปข้างหน้าคล้ายกำลังรอการมาของใครบางคน
ผ่านไปครู่เดียวต้วนอวี้หรานก็วิ่งเข้ามาในศาลาหยุดตรงหน้าต้วนชิงิ มือเล็กๆ ยกขึ้นชี้หน้านาง
“ต้วนชิงิ เ้าทำเื่งามหน้าไว้อีกแล้ว!”
นางขมวดคิ้วเล็กน้อยมองไปทางต้วนอวี้หราน เอ่ยตอบอย่างสนิทสนม
“โอ้... น้องอวี้หราน ทำไมเ้าถึงมาที่นี่ได้”
ละครฉากใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น และตัวละครหลักก็คือต้วนอวี้หราน!
แม่นมของต้วนอวี้ดันหลังให้เขาเดินขึ้นไปข้างหน้า เด็กน้อยพูดอย่างอึกอัก
“ต้วนอวี้ทำความเคารพพี่รอง!”
ทุกคนต่างรู้ว่าต้วนอวี้หรานกำลังโกรธจัด เมื่อเห็นต้วนอวี้เดินมาใกล้นางจึงใช้แรงผลักเขาออกไป
“หลบไปเ้าเด็กบ้า!” ต้วนอวี้ถูกนางผลักล้มลงไปกองกับพื้น เด็กน้อยเบะปากใบหน้าเริ่มเปลี่ยนสี ทว่ายังไม่ได้ร้องไห้ออกมา ต้วนเจิ้งเมื่อเห็นต้วนอวี้หรานทำเช่นนั้นพลันโกรธเกรี้ยว
“บังอาจ!!!”
ต้วนอวี้หรานได้ยินเช่นนั้นถึงได้สติว่าในศาลามีคนนั่งเต็มไปหมด นางร้องไห้เสียงดังในชั่วพริบตา
“ท่านพ่อต้องให้ความเป็ธรรมกับลูก พี่หญิงแกล้งลูก!”
เขาไม่สนใจบุตรสาวคนรองกลับกวักมือเรียกให้ต้วนอวี้เข้ามาหา ถามไถ่ถึงอาการด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“เ้าเป็อย่างไรบ้าง เจ็บตรงไหนหรือไม่?”
ถูกผลักตอนที่ไม่ได้ตั้งตัว ทำให้เขาล้มลงไปอย่างแรง เด็กน้อยในยามนี้มือหนึ่งขยี้ตา มือหนึ่งลูบก้น
เขาก้าวเดินไปข้างหน้าอย่ากล้าๆ กลัวๆ เมื่อเห็นผู้เป็บิดามีแววตาดุดันสีหน้าไม่พอใจ ต้วนชิงิแอบส่งสายตาทำให้เขามีความกล้าขึ้นมา เด็กน้อยขยับไปยืนตรงหน้าต้วนเจิ้งด้วยท่าทีอกผายไหล่ผึ่ง พูดเสียงดัง
“ต้วนอวี้ไม่เจ็บ พี่สาวบอกว่าเป็ลูกท่านแม่ทัพใหญ่ต้วนจะต้องไม่อ่อนแอ!”
แววตาที่ดุดันของต้วนเจิ้งพลันมีรอยยิ้มขึ้นมา ทว่าสีหน้าของเขากลับเปลี่ยนไป พลางหันไปกำลังจะเอ่ยปากบอกให้แม่นมของต้วนอวี้พาเขากลับไปพัก แต่คาดไม่ถึงว่าสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเ็ปของบุตรชายจะเปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็ว
ต้วนเจิ้งยกมือขึ้นปัดไปที่กางเกงของต้วนอวี้ พบว่าก้นบวมขึ้นเพราะล้มไปกระแทกเข้ากับก้อนหิน เขาจึงสั่งให้แม่นมพาต้วนอวี้ไปใส่ยา พลางหันไปตบโต๊ะพูดเสียงดัง
“ต้วนอวี้หราน เ้าไม่มีสมองหรือไร ต้วนอวี้เป็น้องชายเ้า ทำไมถึงทำแบบนี้กับน้อง?”
ถ้าต้วนอวี้เป็เด็กบ้าแล้วเ้าเป็อะไร นอกจากเด็กบ้าเหมือนกัน?
สิ่งที่ต้วนเจิ้งรับไม่ได้ที่สุดก็คือ ต้วนอวี้หรานที่ดูฉลาดเฉลียวกลับทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด ต้วนอวี้เดินมาแสดงความเคารพ แต่นางกลับไม่ หรือมองไม่เห็นเขาที่เป็บิดาอย่างนั้นหรือ?
เมื่อถูกผู้เป็บิดาดุด่า นางแทบจะถอยหลังกลับแทบไม่ทัน ใบหน้างามขาวซีดราวกับกระดาษ เมื่อเห็นหลิวหรงที่อยู่หลังต้วนเจิ้งส่งสายตาให้ นางจึงรีบเดินไปขอโทษ
“ท่านพ่อ อวี้หรานผิดไปแล้ว อวี้หรานไม่รู้ว่าท่านพ่ออยู่ที่นี่จึงเพิกเฉยไป!”
ใครจะไม่รู้! คำขอโทษของต้วนอวี้หรานไม่มีความจริงใจแม้แต่น้อย ส่วนสิ่งที่ทำให้ต้วนเจิ้งโกรธขึ้นไปอีกคือต้วนอวี้หรานมองข้ามหัวเขา ยังกล้าชี้หน้าด่าต้วนชิงิและผลักต้วนอวี้ เื่น้องสาวกดขี่พี่สาวคงเกิดขึ้นเป็ประจำตอนที่เขาไม่ได้อยู่ในจวนใช่หรือไม่?
ต้วนอวี้หรานมองไปทางต้วนชิงิด้วยความเกลียดชัง ชี้หน้านาง “เพราะเ้านั่นแหละ!”
ยิ่งเห็นยิ่งโกรธเป็ทวีคูณ เขาตวาดลั่น
“เถียเฟิง ใช้กฎจวนลงโทษนาง!”
ทว่าเมื่อผู้เป็มารดาได้ยินว่าจะใช้กฎในจวนลงโทษ นางไม่สนใจเื่ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้แล้ว รีบวิ่งไปคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนด้วยความใ
“นายท่าน...”
ยิ่งเห็นหลิวหรงขอร้องให้อวี้หราน เขายิ่งรู้สึกทนไม่ได้
“เ้าดูลูกสาวที่เ้าเลี้ยงมาสิ แล้วดูชิงิ!”
แววตาของหลิวหรงมีประกายความเคียดแค้นเผยออกมาอย่างปิดไม่มิด นางคิดไม่ถึงว่าต้วนชิงิจะทนได้ขนาดนี้ เล่ห์เหลี่ยมของนางทำไมมากมายเช่นนี้ ช่างไม่เหมือนกับเด็กน้อยคนหนึ่งเลย
เื่ทั้งหมดเป็เพราะต้วนชิงิ ดีมาก นางทำได้ดีมาก!
พลางปรายตามองไปยังต้วนชิงิด้วยสายตาเคียดแค้นระคนสงสัยในคราเดียวกัน เด็กสาวตรงหน้ากล้าลงมือและจัดการทุกเื่ได้อย่างรอบคอบ นางรู้สึกคล้ายว่าอีกฝ่ายเปลี่ยนไปไม่เหมือนดังกาลก่อนที่ไร้ประโยชน์ หวาดกลัวไปเสียทุกเื่และกลัวตายเป็ที่สุด
พูดได้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มากเกินไป!
เด็กสาวเดินไปตรงหน้าต้วนเจิ้งด้วยท่าทีเคารพนอบน้อม
“ท่านพ่อให้น้องอวี้หรานอธิบายให้ชัดเจนเสียก่อน บางทีอาจจะเป็ความผิดของลูกก็ได้ แต่ลูกไม่รู้ว่าผิดตรงที่ใด!”
นางเอ่ยออกมาด้วยสีหน้านิ่งเฉย ผิดกับต้วนอวี้หรานที่ใบหน้าบูดเบี้ยวจากความโกรธ
“ไม่เคารพผู้ใหญ่เป็ความผิดของนาง ยังจะต้องพูดอะไรอีก?”
ต้วนชิงิพยักหน้าเล็กน้อย
“ท่านพ่อเคยสอนลูกว่าต้องจัดการทีละเื่ อย่าเอาเื่ต่างๆ มาตัดสินร่วมกัน ครั้งนี้อวี้หรานมาหาลูก ท่านพ่อควรให้นางอธิบายให้ชัดเจน ส่วนเื่ไม่เคารพผู้ใหญ่ ท่านพ่อค่อยสืบสาวราวเื่ได้ไหมเ้าคะ?”
คำพูดของนางชัดเจนทั้งยังตรงประเด็น นางกำลังช่วยพูดขอร้องให้ต้วนอวี้หราน ทว่ายังไม่ลืมเตือนให้ต้วนเจิ้งอย่าลืมจัดการต้วนอวี้หรานที่ไม่เคารพผู้ใหญ่
ทางด้านหลิวหรงฟังแล้วได้แต่กัดฟันกรอด ไม่สามารถตอบโต้กลับไปได้ !
ต้วนชิงิก้าวเดินไปและหยุดตรงหน้าผู้เป็น้องสาวต่างมารดา
“อวี้หราน พี่สาวอยากรู้ว่ามีเื่อะไรที่พี่สาวคนนี้ทำไม่ถูก ทำให้เ้าเข้ามาต่อว่าเช่นนี้?”
ต้วนชิงิก้มหน้าลงพูดกระซิบเสียงเบาได้ยินเพียงสองคน
“น้องสาว ถ้าท่านแม่ไม่อยู่แล้ว ใครกันที่จะคอยดูแลเ้า?” ได้ยินคำพูดต้วนชิงิ ต้วนอวี้หรานที่ก้มหน้าอยู่โกรธเดือดดาลขึ้นมาทันที
“ต้วนชิงิ เ้านี่มัน...”
นางหยุดชะงักลงทันทีเมื่อเหลือบไปเห็นต้วนเจิ้งที่จ้องเขม็งอยู่ รีบเปลี่ยนคำพูด
“ต้วนชิงิ ทำไมเ้าให้คนพูดไปทั่วว่าข้าแย่งของเ้ามา? ที่จริงของเ่าั้เป็ของที่เ้าไม่้าแล้วถึงให้ข้า... ทำไมต้องทำเช่นนี้?”
วันนี้ตอนที่ต้วนอวี้หรานออกจากเรือน ได้ยินบ่าวรับใช้สองคนพูดว่าคุณหนูรองใช้อำนาจบาตรใหญ่จากอี๋เหนียงไปแย่งของคุณหนูใหญ่ ดูท่าคุณหนูใหญ่ไม่มีทางได้คืนมาเป็แน่!
ต้วนอวี้หรานได้ฟังพลันเดือดดาลขึ้นทันที รับไม่ได้กับคำกล่าวว่าเช่นนี้ จึงลงโทษบ่าวทั้งสองอย่างรุนแรง เมื่อรู้ว่าต้วนชิงิอยู่ที่ศาลาจึงวิ่งตามมาทันที
แม้รู้ว่าในศาลามีคนอยู่ แต่เมื่อนางมองมาตำแหน่งที่ต้วนชิงินั่งบังต้วนเจิ้งมิดพอดี อีกทั้งนางใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากมอง ประจวบเหมาะกับที่ไป๋หย่วนฮ่าวยิ้มเยาะเย้ยจึงคิดว่าต้วนชิงิกำลังสมรู้ร่วมคิดกับเขา นางโกรธจนลมออกหู ลืมดูไปว่ามีใครอยู่บ้าง
ดังนั้นจึงถูกต้วนเจิ้งเห็นเื่ทั้งหมดพอดี