“เอ๋ ให้เรียกท่านน้า เ้ามาหลบอันใด”
กู้ชิงชิงเอื้อมมือควานไปด้านหลังเพื่อจับบุตรชาย แต่ท่าทางการจับเช่นนี้ต้องเปลืองแรงอยู่ไม่น้อย ควานตัวอยู่นานก็จับคนออกมาไม่ได้เสียที
มีขนมแขวนอยู่บนผนัง ิเป่าจูจึงเอามาแกะห่อออก หยิบขนมกุ้ยฮวา [1] ออกมาชิ้นหนึ่ง บิชิ้นเล็กๆ ก่อนจะนั่งยองลงเบื้องหน้าหนิวหนิว หยอกเล่นกับเขา
“หนิวหนิว ข้ามีขนมกุ้ยฮวา อร่อยมาก ทั้งหวาน ทั้งนุ่ม และหอมด้วย เ้าอยากได้หรือไม่”
หนิวหนิวมองิเป่าจูอย่างขลาดกลัว ก่อนจ้องขนมกุ้ยฮวาเขม็ง บนขนมยังโรยเกล็ดน้ำตาลสีขาวดูน่ากินมากจริงๆ
เด็กน้อยทำปากแจ๊บๆ พร้อมกับกลืนน้ำลาย ก่อนเอ่ยเสียงเบาหวิว “อยากขอรับ”
“ถ้าอยากได้ ก็เรียกน้าเป่าจูก่อน” ิเป่าจูพยายามหลอกล่อ เครื่องเคราใบหน้าทั้งห้า [2] แสดงถึงการปลุกเร้าให้กำลังใจเต็มที่
“ท่านน้า...” หนิวหนิวต้านทานความยั่วยวนไม่ไหว หลังจากลังเลอยู่สักพักก็เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเบาหวิว
ท่านน้า? ฟังแล้วก็รู้สึกแปลกๆ แต่เมื่อเห็นน้ำลายของหนิวหนิวใกล้จะหยดลงมาอยู่รอมร่อ ก็ไม่แกล้งเขาอีกต่อไป
“หนิวหนิวเด็กดี นี่จ้ะ”
มือน้อยเล็กจ้อยร่อย เหมือนจะจับขนมที่ิเป่าจูบิออกมาไม่อยู่ นางจึงวางขนมกุ้ยฮวาทั้งชิ้นใส่มือเขาเสียเลย
กลิ่นหอมโชยมาปะจมูกแทบจะทนรอไม่ไหวแม้เสี้ยวนาที เมื่อขนมกุ้ยฮวามาถึงมือ หนิวหนิวก็ส่งเข้าปากกัดไปหนึ่งคำทันที หลังจากนั้นก็หยุดไม่ได้อีกต่อไป
เหมือนอย่างที่ท่านน้าบอกทุกอย่าง ทั้งหวาน นุ่มและหอมมาก อร่อยสุดยอดไปเลย
ไม่ใช่เื่ยากที่จะสร้างโลกทางความรู้สึกให้กับเด็กน้อย เพียงแค่ขนมกุ้ยฮวาชิ้นเดียวก็ทำให้เขาชมชอบท่านน้าที่เพิ่งพบกันครั้งแรกจากก้นบึ้งหัวใจ
ขนมของท่านน้าอร่อยยิ่ง เขาชอบท่านน้าผู้นี้ที่สุด
กู้ชิงชิงอิดหนาระอาใจกับความตะกละของบุตรชายอย่างยิ่ง นางยิ้มด้วยความรักใคร่เอ็นดู แล้วบอกเขาว่าถ้ากินเสร็จแล้วอย่าลืมไปล้างมือด้วย
หนิวหนิวกินอย่างมีความสุข ตอบอื้อกับมารดาทันควัน แต่จำได้หรือไม่ค่อยว่ากันอีกที
เด็กน้อยกินขนม ผู้ใหญ่ก็นั่งคุยกันอยู่ข้างๆ หลังจากคุยกันไม่กี่ประโยค ิเป่าจูถึงรู้ว่าเพราะเหตุใดกู้ชิงชิงถึงกลับบ้านมากะทันหันเวลานี้
ที่แท้นางกับสามีทะเลาะกัน ด้วยความโมโห นางจึงพาบุตรชายกลับบ้านมารดาโดยไม่ได้นำอะไรติดตัวมาเลย
เคราะห์ดีที่ท่านป้าจงยังเก็บเสื้อผ้าก่อนแต่งงานของนางไว้สองสามชุด มิเช่นนั้นก็คงไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าจะให้เปลี่ยน
ส่วนสาเหตุนั้นทำเอาิเป่าจูหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
ตอนแรกบอกว่ามีปากเสียงกันนางยังคิดจะเตือนสักหน่อย แต่พอทราบสาเหตุแล้ว ิเป่าจูกลับรู้สึกหวานชื่นในอก ไม่เพียงแต่ไม่คิดจะโน้มน้าว ยังรู้สึกเหมือนอาหารสุนัขอัดแน่นอยู่เต็มปากอีกด้วย
“เ้าบอกมา ข้ามาถูกทางแล้วใช่หรือไม่ ข้าแค่อยากมีบุตรสาวอีกคน เขากลับบ่ายเบี่ยงสารพัด มิหนำซ้ำยังกล่าวอีกว่าหากคลอดเป็บุตรชายอีกคนจะทำเช่นไร ดูเขาพูดเข้าสิ เขายังไม่พอใจอีกหรือ ฮึ! หากคลอดบุตรชายอีกคน มีหรือที่เขาจะไม่แอบดีใจ”
กู้ชิงชิงตัดพ้อต่อว่าสามีที่ไม่เข้าใจความปรารถนาของตนเองที่อยากได้บุตรชายบุตรสาวพรั่งพร้อม เล่าเื่ราวหลังแต่งงานให้ิเป่าจูซึ่งเพิ่งพบกันเป็ครั้งแรกฟังไม่หยุดปาก
“พี่เขยรักถนอมท่าน”
ิเป่าจูนับว่าเข้าใจแล้ว สามีของกู้ชิงชิงไม่ได้กลัวว่าจะคลอดบุตรชายมาอีกคน หรือกลัวจะเลี้ยงดูไม่ไหว แต่รู้สึกปวดใจที่เห็นภรรยาต้องทรมานถึงหนึ่งคืนเต็มๆ กว่าจะคลอดหนิวหนิวออกมา
ยามคลอดนางเ็ปกรีดร้องตลอดทั้งคืน เขายืนรออยู่ในสวนย่อมวิตกกังวลตลอดทั้งคืนเช่นเดียวกัน และไม่้าให้ภรรยาต้องทนทุกข์ทรมานจากการคลอดบุตรอีกแล้ว
“เพ้ย!”
กู้ชิงชิงยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห ไม่ยอมฟังคำเกลี้ยกล่อม
แต่แน่นอนว่าการถ่มน้ำลายนี้หาได้พุ่งเป้ามาที่ิเป่าจู
ิเป่าจูย่อมรู้แก่ใจ แต่อย่างไรก็ตามนี่เป็เื่ของสามีภรรยา ไม่มีประโยชน์อะไรที่นางจะเกลี้ยกล่อม ควรให้พวกเขาคุยกันเองถึงจะดีที่สุด
“ท่านน้า” หนิวหนิวกอดขาของิเป่าจู ไม่มีท่าทีหวาดกลัวเหมือนอย่างตอนแรก
“เอาอีกหรือ”
ิเป่าจูเห็นหนิวหนิวเข้ามาฉอเลาะก็เดาได้ว่าเขา้าสิ่งใด
เป็จริงดังคาด
พอได้ยินนางเอ่ยปาก ดวงตาของเขาก็ลุกวาวเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง
“ไม่ได้ น้องเป่าจูอย่าไปตามใจเขา เด็กคนนี้ถ้ากินขนมเยอะไป จะไม่ยอมกินข้าว”
ตอนแรกเห็นิเป่าจูยื่นมือไปที่ห่อกระดาษน้ำมัน หนิวหนิวก็หน้าระรื่นด้วยความดีใจ แต่พอได้ยินมารดาเอ่ยปาก ก็ตาละห้อยในชั่วพริบตา
แต่ยอมรั้งมือกลับอย่างเชื่อฟัง ไม่งอแงเอาแต่ใจเหมือนเด็กคนอื่นๆ เพียงแค่เม้มปากทำท่าทางน่าสงสาร เห็นได้ว่าปกติกู้ชิงชิงอบรมสั่งสอนมาอย่างดี
“ไม่ใช่หนิวหนิวอยากกิน แต่หนิวหนิวอยากให้เชียนเชียนได้ชิมบ้าง”
ิเป่าจูเงยหน้าครุ่นคิด ชื่อนี้เหมือนว่านางจะได้ยินตอนที่เพิ่งเข้ามา อ้อ เป็ชื่อไก่ตัวหนึ่ง
เ้าหนูนี่ช่างน่าสนใจ แต่โลกของเด็กน้อยนางไม่อาจเข้าใจได้จริงๆ
แต่นางก็ทำใจไม่ได้ที่จะทำลายความหวังอันไร้เดียงสาของเด็กน้อย ิเป่าจูยังคงเอื้อมมือไปที่กระดาษน้ำมัน ซ้ำยังเอ่ยปากขอร้องแทนเขา
“ไม่เป็ไรหรอกเ้าค่ะพี่ชิง แค่ชิ้นเดียวเอง ข้าเพิ่งพบเขาเป็ครั้งแรก ไม่ได้เตรียมของอะไรไว้เลย ถึงอย่างไรหนิวหนิวก็มิใช่คนกิน แต่เป็เชียนเชียนใช่หรือไม่”
ครึ่งประโยคแรกนางเอ่ยกับกู้ชิงชิง แต่ครึ่งหลังกลับหันมากระเซ้าหนิวหนิวพร้อมกับยัดขนมใส่มือเขา
“อื้อ” หนิวหนิวพยักหน้าอย่างหนักแน่น รับขนมไปด้วยความดีใจ
ทั้งสองเห็นหนิวหนิวะโโลดเต้นไปยังสวนด้านหลัง ต่างก็หันมายิ้มให้กัน
“จริงสิ น้องเป่าจู ข้าคิดดูแล้ว อย่างไรก็ต้องบอกเื่นี้กับเ้า” ขณะที่กู้ชิงชิงมองิเป่าจู ทันใดนั้นก็นึกเื่หนึ่งขึ้นมาได้ น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็หนักใจ
“เป็อะไรไปหรือ พี่ชิง ท่านมีอะไรก็พูดกับข้าตรงๆ ได้เลย”
ิเป่าจูรู้สึกประหลาดใจ ทั้งสองพบกันครั้งแรก มีเื่อะไรที่นางต้องพูดกับตนเองให้ได้ ซ้ำยังมีสีหน้าหนักใจอีกด้วย
“ก่อนข้าจะออกจากบ้านหนึ่งวัน ได้ยินมาว่าตาเฒ่าจากหมู่บ้านของเราที่เคยไปสู่ขอเ้า ทางครอบครัวของเขายังไม่ยอมตัดใจ ยังไปโวยวายถึงบ้านสกุลหวัง ข้าเกรงว่า... เ้าต้องระวังไว้หน่อย”
เื่นี้สร้างความโกลาหลไว้ไม่น้อย ซุนเถียนพาภรรยาไปด่าทอหน้าประตูบ้านสกุลหวังอยู่สองวัน ยังขู่ว่าจะไปฟ้องร้องกับทางการ ผู้เฒ่าหวังถึงยอมเปิดประตูให้คนเข้าไป
ไม่รู้ว่าอยู่ในบ้านคุยอะไรกันบ้าง เข้าไปั้แ่บ่ายจนฟ้ามืดแล้วถึงมีคนเห็นซุนเถียนสองสามีภรรยาออกมาจากบ้านสกุลหวัง
อย่าเห็นว่าเป็คำพูดเพียงไม่กี่คำ ิเป่าจูต้องใช้เวลาขบคิดอยู่พักใหญ่ถึงเข้าใจความหมายเหล่านี้
นี่คือการแต่งงานที่ท่านลุงใหญ่แสนประเสริฐของตนเองจัดเตรียมไว้มิใช่หรือ เพื่อตบแต่งภรรยาให้บุตรชายโง่เขลาของตนเอง ถึงกับยกนางให้แต่งงานกับชายชราวัยแปดสิบอย่างโหดร้าย
ตอนนางข้ามภพมาอยู่ในร่างนี้ เป่าอวี้ถูกหวังซื่อเฆี่ยนเพราะเื่นี้ สกุลหวังที่ว่าก็น่าจะเป็ตระกูลมารดาของหวังซื่อ
ดวงตานางพลันนิ่งขรึม นานมากแล้วที่ไม่เคยมีใครเอ่ยถึง จนนางก็เกือบจะลืมเื่เหล่านี้ไปแล้ว
“ขอบคุณพี่ชิงมากเ้าค่ะ วางใจเถอะ เื่นี้ไม่มีทางสำเร็จ” นางไม่มีทางแต่งออกไปอย่างแน่นอน
นางนึกว่าิเถี่ยจู้จะยกเลิกการหมั้นหมายนี้ไปนานแล้ว ที่แท้ก็ยังไม่ได้ยกเลิก ถึงอย่างไรในสัญญาตัดความสัมพันธ์ พวกเขาก็ได้พิมพ์ลายนิ้วมือไปแล้ว
ในสัญญาเขียนไว้ว่าไม่ว่างานแต่งงานหรืองานศพก็จะไม่เกี่ยวข้องกัน
รออีกสองสามวันนางจะจ่ายเงินอีกสิบตำลึงที่เหลือ ทั้งสองครอบครัวก็จะตัดขาดไม่เกี่ยวข้องกันอีก
พวกเขาอยากสร้างปัญหาดีนักก็ปล่อยให้เขาวุ่นวายกันไป คนรับปากคือิเถี่ยจู้กับหวังซื่อ ต่อให้เป็เื่คอขาดบาดตายก็ไม่เกี่ยวข้องกับนางิเป่าจู
“เ้าอย่าย่ามใจเกินไป ซุนเถียนเป็อันธพาล คนทั้งหมู่บ้านของพวกเราต่างรู้กันดี” กู้ชิงชิงเห็นิเป่าจูไม่นำพาก็อดห่วงไม่ได้
เชิงอรรถ
[1] ขนมกุ้ยฮวา หรือขนมหอมหมื่นลี้ เป็ขนมที่ผสมกุ้ยฮวา หรือดอกหอมหมื่นลี้ ซึ่งเป็ดอกไม้จีนโบราณที่มีชื่อเสียง มีความสวยงามและมีกลิ่นหอมลงไปผสมลงไป หรือจะเพียงราดน้ำผึ้งดอกกุ้ยก็ได้ เนื้อของขนมมีทั้งที่ทำจากแป้งข้าวเ้า แป้งข้าวเหนียว แป้งแห้ว และถั่วเขียวกวนซึ่งแต่ละอย่างก็จะให้เนื้อััที่แตกต่างกัน หากเป็แป้งข้าวเ้าเนื้อจะนุ่มเบาเหมือนเค้ก แป้งข้าวเหนียวเนื้อจะมีความหนึบ แต่ถ้าทำจากแป้งแห้วก็จะได้เป็วุ้นที่มีความใส หรือถ้าทำจากถั่วกวนก็จะคล้ายกับขนมถั่วกวนของคนไทย
[2] เครื่องเคราใบหน้าทั้งห้า หมายถึงองค์ประกอบทั้งห้าบนใบหน้าซึ่งส่งผลต่อรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งได้แก่ คิ้ว ตา ใบหู จมูก ปาก
