ฮ่องเต้ หลงเซวียน ร่างอ้วนท้วมในชุดคลุมยาวสีทองอร่ามแทรกไปด้วยลายั ดูทรงอำนาจแต่มากด้วยอายุ เขายืนอยู่ท่ามกลางเหล่าขุนนางที่รายล้อม ร่างกายและสีหน้าของเขานั้นอาจดูเป็เช่นจักรพรรดิผู้มั่นคง แต่แววตาของฮ่องเต้กลับสะท้อนความหื่นกระหายที่ซ่อนเร้น ดวงตานั้นจับจ้องมายังแม่ทัพหยางเจี้ยนผู้ก้มศีรษะลงคำนับ ทว่าดูสง่างามทรงอำนาจในชุดเกราะเหล็ก
แม่ทัพหยางเจี้ยนเป็ชายหนุ่มในวัย 32 ร่างกายกำยำ สายตาคมเฉียบ ขนานนามว่าเป็แม่ทัพมือฉมังที่ไม่มีใครโค่นได้ ฝีมือการรบของเขาเลื่องลือทั่วแผ่นดิน และการมีกองทัพของหยางเจี้ยนหนุนหลังทำให้ราชบัลลังก์ของฮ่องเต้มั่นคงเรื่อยมา
เสียงฮ่องเต้ที่แหบพร่าแต่หนักแน่นเอ่ยขึ้น “ท่านแม่ทัพ ข้าเรียกท่านมาด้วยเื่เร่งด่วน ขณะนี้แดนเหนือกำลังเกิดา ข้า้าให้ท่านไปยุติความวุ่นวายในครั้งนี้”
แม่ทัพหยางเจี้ยนขยับตัวอย่างสง่างาม คำตอบของเขาชัดเจนและมั่นคง "กระหม่อมจะปฏิบัติหน้าที่นี้ให้ดีที่สุดพ่ะ
ฮ่องเต้หลงเซวียนแย้มยิ้ม ดวงตาคู่นั้นเป็ประกายไปด้วยความพึงพอใจ ริมฝีปากหนาขยับขึ้นอย่างช้า ๆ ก่อนจะเปล่งเสียงหัวเราะที่ฟังแล้วเต็มไปด้วยความย่ามใจ “หึหึหึ ข้าเชื่อใจท่าน พวกฏแดนเหนือพวกนั้นมิอาจมีชีวิตรอดเมื่อเผชิญกับคมดาบของท่านแม่ทัพแน่”
พระวรกายอันหนักแน่นของฮ่องเต้เอนพิงบัลลังก์ทองคำอันสง่างาม แม้จะมีาปะทุอยู่ทั่วแผ่นดิน แต่แววตาของพระองค์กลับไร้ซึ่งความหวาดหวั่น หัวใจของฮ่องเต้ที่แน่วแน่มั่นคงนั้นห่อหุ้มด้วยความมั่นใจ เพราะมีหยางเจี้ยนขุนศึกผู้แข็งแกร่งและซื่อสัตย์คอยเคียงข้าง เสมือนดั่งปราการเหล็กที่ไม่มีวันสั่นคลอน
หยางเจี้ยนยืนสง่าภายใต้คำชมของฮ่องเต้ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นของเขาสะท้อนถึงความจงรักภักดีและเจตนาที่จะสยบศัตรูให้สิ้นซากเพื่อปกป้องแผ่นดิน ชายหนุ่มก้มศีรษะลงอีกครั้งตอบรับคำสั่งอันศักดิ์สิทธิ์นั้น "กระหม่อมจะทำให้ศัตรูไม่เหลือแม้แต่เงาพ่ะย่ะค่ะ"
ฮ่องเต้หลงเซวียนมองขุนศึกคู่ใจด้วยความอิ่มเอมใจ คำพูดที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจของหยางเจี้ยนทำให้พระองค์ยิ่งรู้สึกมั่นคง ราวกับบัลลังก์ที่พระองค์นั่งอยู่นี้จะไม่มีวันสั่นไหว
ฮ่องเต้หลงเซวียนโน้มกายเข้าไปใกล้แม่ทัพหยางเจี้ยนก่อนจะกระซิบด้วยเสียงแ่เบาทว่าชัดเจน “ท่านแม่ทัพจะต้องออกรบในไม่ช้า คืนนี้ข้าจักจัดงานเลี้ยงส่วนตัวให้ท่านโดยเฉพาะ” แววตาของพระองค์เป็ประกายแฝงไปด้วยความย่ามใจและเจตนาอันซับซ้อน พลางหยักยิ้มอย่างเ้าเล่ห์จนเห็นถึงความหื่นกระหายบนใบหน้าที่บ่งบอกถึงความตั้งใจของฮ่องเต้ที่ประสงค์จะใช้ค่ำคืนนี้เป็คืนแห่งการรื่นรมย์
เสียงกระซิบนั้นชัดเจนในความหมาย คืนนี้พระองค์จะเปิด "หอระเริงลม" สถานที่อันหรูหราซึ่งมักเป็ที่โปรดปรานของฮ่องเต้ หอระเริงลมนี้คือแหล่งรื่นรมย์ที่เต็มไปด้วยความบันเทิงและสตรีที่ล้วนเป็ที่หมายปอง เป็ดั่งสรวง์ส่วนตัวสำหรับฮ่องเต้หลงเซวียน ที่ประทับไปด้วยความสุขสมและลุ่มหลงในวังวนแห่งความหรูหรา
แม่ทัพหยางเจี้ยนยืนนิ่งรับฟังด้วยสีหน้าสงบนิ่งดั่งหินผา แต่ในใจกลับเต้นระรัวเมื่อได้ยินคำว่า "หอระเริงลม" สถานที่ที่เลื่องชื่อไปทั่วราชสำนักว่าเต็มไปด้วยเหล่าสาวงามผู้เปี่ยมด้วยเสน่ห์ล้นเหลือ ร่างกายของเขาผงาดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ใจที่เคยแข็งกร้าวดั่งหินกลับถูกเติมเต็มด้วยจินตนาการอันชวนหวั่นไหว ภาพของเหล่าสตรีผู้มีรูปร่างงดงามเย้ายวนดั่งนาง์ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในห้วงความคิด
ท่ามกลางจิตใจที่ตื่นตัว แม่ทัพหยางเจี้ยนยังคงยืนรักษามาดอันสง่างาม สีหน้ายังไม่แสดงอารมณ์ใดออกมา แต่ในแววตาแฝงไปด้วยประกายบางอย่างที่มิอาจซ่อนเร้น แม้เขาจะเป็ชายผู้แข็งแกร่งและจงรักภักดี แต่ในยามนี้ความเย้ายวนของหอระเริงลมกลับทำให้หัวใจนักรบต้องสั่นไหวเป็ครั้งแรก
เมื่อราตรีมาถึง งานเลี้ยงอันลับเฉพาะเริ่มต้นขึ้นที่หอระเริงลม ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลสาบ แสงไฟอ่อนๆ สะท้อนน้ำทำให้บรรยากาศของสถานที่แห่งนี้ยิ่งลึกลับน่าหลงใหล ในค่ำคืนนี้ ทั่วทั้งหอมีเพียงฮ่องเต้หลงเซวียนและแม่ทัพหยางเจี้ยนเท่านั้นที่ได้รับเกียรติให้เข้าร่วม เสียงน้ำทะเลสาบกระทบฝั่งแ่เบา ประกอบกับเสียงดนตรีและกลิ่นหอมของดอกไม้ ทำให้สถานที่แห่งนี้ราวกับเป็สรวง์บนดิน
ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปในหอ หยางเจี้ยนััได้ถึงความเย้ายวนที่ปกคลุมทุกอณูของสถานที่ สาวงามจำนวนมากปรากฏกายอยู่ในชุดเสื้อผ้าน้อยชิ้น บางนางสวมเสื้อคลุมโปร่งแสง บางนางเผยให้เห็นสัดส่วนที่งดงามจนไม่อาจละสายตา สตรีเ่าั้ล้วนมีรูปร่างงดงามอ่อนช้อย ผิวพรรณเปล่งปลั่งจับแสงเทียนสลัว มอบรอยยิ้มหวานซึ่งทำให้บรรยากาศอบอวลไปด้วยความปรารถนาอันยากจะต้านทาน
ฮ่องเต้หลงเซวียนทรงพอพระทัย ทรงผายพระหัตถ์เชิญชวนแม่ทัพหนุ่มให้ร่วมดื่มด่ำกับค่ำคืนพิเศษนี้ แววพระเนตรสะท้อนความกระหายอันแฝงเร้น ทรงทอดพระเนตรไปยังหยางเจี้ยนด้วยความยินดี “เพลิดเพลินเถิด ท่านแม่ทัพ ค่ำคืนนี้เป็ของท่าน”
แม่ทัพหยางเจี้ยนเอนกายลงบนเบาะกำมะหยี่ในหอระเริงลม มือใหญ่หยิบจอกสุราขึ้นดื่มพลางปล่อยให้น้ำสุราอุ่นไหลผ่านลำคอ เสียงหัวเราะใสๆ ของเหล่าสาวงามที่รายล้อมดังแ่รอบตัว เสมือนดั่งเสียงกระซิบของปีศาจสาวในห้วงอารมณ์ที่ลึกล้ำ แต่ละนางยิ้มแย้มราวกับจะสะกดใจเขา สาวงามเ่าั้มีผิวพรรณเนียนนุ่มเปล่งประกาย สัดส่วนอันเย้ายวนปรากฏให้เห็นจากชุดบางเบาที่เผยให้เห็นความงดงามทุกส่วนราวกับตั้งใจ
พวกนางเข้ามาใกล้ แววตาหยางเจี้ยนเริ่มเต็มไปด้วยความหวั่นไหว แม้เขาจะเคยผ่านศึกามามากมาย แต่ยามนี้กลับรู้สึกราวกับถูกดึงเข้าสู่วังวนแห่งเสน่ห์ที่แสนร้ายกาจ ดวงตาคมของเขาเผลอสบตากับหญิงสาวคนหนึ่งที่ยิ้มอย่างมีนัยยะ เธอค่อยๆ รินสุราให้เขาอีกจอก พร้อมกับเลื่อนมือนุ่มนวลของนางมาแตะเบาๆ ที่มือเขา หยางเจี้ยนััถึงความร้อนระอุของความปรารถนาที่ค่อยๆ ก่อตัว
ในห้วงเวลาเช่นนี้ หอระเริงลมกลับกลายเป็เหมือนโลกที่เขาไม่อาจหลีกหนี เหล่าสาวงามรอบตัวเป็เสมือนปีศาจสาวที่พร้อมจะล่อลวงให้เขาหลงมัวเมาไปในความสุขสมจนลืมทุกสิ่ง
สาวงามค่อยๆ ย่างก้าวเข้าใกล้แม่ทัพหยางเจี้ยน ท่วงท่าของนางนุ่มนวลและแฝงไปด้วยความเย้ายวนราวกับงูที่เลื้อยเข้าหาเหยื่อ นางโน้มกายลงต่ำเข้าไปใกล้เขาอีกนิด ดวงตาคมคายจ้องมองร่างกำยำที่แข็งแกร่งของแม่ทัพหนุ่มอย่างไม่วางตา ในขณะที่ริมฝีปากสีแดงสดค่อยๆ คลี่ยิ้ม
นางเอ่ยออกมาเบาๆ ด้วยเสียงที่พร่าไหวเต็มไปด้วยแรงปรารถนา ราวกับทุกถ้อยคำมีมนต์สะกด “ท่านแม่ทัพ...ค่ำคืนนี้ ข้าอยากจะปฏิบัติรับใช้ท่านด้วยเรือนร่างของข้า”
คำพูดนั้นแฝงด้วยเจตนาที่ชัดเจน ดวงตาของนางเป็ประกายลุกโชนด้วยความเร่าร้อนที่มิอาจซ่อนเร้น นางจ้องมองเขาราวกับสัตว์ร้ายผู้หิวกระหายที่เฝ้ารอเหยื่อมานานแสนนาน ร่างกายที่แสนกำยำแข็งแรงของแม่ทัพหยางเจี้ยนสำหรับนางแล้วเสมือนดั่งเหยื่อชั้นเลิศที่ยิ่งกระตุ้นความหิวโหยในใจให้ทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก
มือเรียวบางของนางเลื่อนแตะลงบนแผ่นอกที่แข็งแกร่งของเขา ัันั้นอบอุ่นและแฝงไปด้วยความอ่อนโยนลึกลับ แต่ในความนุ่มนวลนั้นกลับเต็มไปด้วยเจตนาชัดเจน นางมองลึกลงในดวงตาของเขา ราวกับจะดึงเขาเข้าสู่วังวนแห่งความปรารถนาอันไร้สิ้นสุด
