“ข้าผู้เป็พระชายาขอสั่งให้พวกเ้าหยุดเดี๋ยวนี้”ซูฉีฉีะโสั่งเสียงต่ำอีกครั้งตอนนี้นางกังวลแค่ร่างกายเล็กๆ ของจิ่งม่านจะเป็อย่างไรหลังโดนพวกเขาเฆี่ยนตีอย่างหนัก
พระชายาคำนี้ทำให้บุรุษเ่าั้หยุดมือลงในที่สุด
ไม่ผิด เพราะไม่ว่าอย่างไรนางก็ถือได้ว่าเป็พระชายาที่ถูกต้องชอบธรรมของติ้งเป่ยโหว
“เหอะไอ้พวกไร้ประโยชน์” ฮวาเชียนจือกระทืบเท้าด้วยความหงุดหงิดนางสะบัดมือแย่งเอาแส้หนังจากมือของบุรุษผู้หนึ่งที่อยู่ตรงนั้น ก่อนจะฟาดแส้ลงไปบนตัวของจิ่งม่านที่กำลังสั่นสะท้านด้วยความเ็ปอย่างแรง
ทุกครั้งที่แส้ฟาดลงไปนั้นทำให้จิ่งม่านต้องร้องคร่ำครวญออกมาอย่างทรมาน
“ฮวาเชียนจือ...”ซูฉีฉีะโเสียงดัง ตอนนี้นางไม่สนใจอะไรมากแล้วนางใช้แรงกระแทกประตูทว่าประตูกลับนิ่งเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มีเพียงคนภายนอกถึงจะเปิดประตูบานนี้ได้ นางที่เดิมเป็เพียงหญิงสาวอ่อนแอคนหนึ่งแรงของนางมีไม่มากนัก
จิ่งม่านแต่เดิมที่ร้องไห้คร่ำครวญดิ้นไปดิ้นมาอยู่ที่พื้น ตอนนี้กลับไม่มีเสียงอีกแล้ว
ซูฉีฉีมองลอดผ่านช่องประตูจึงเห็นจิ่งม่านที่เสียชีวิตลงอย่างน่าอนาถอยู่ที่พื้นเห็นแบบนั้นนางก็รู้สึกเหมือนมีน้ำเย็นะเืท่วมเอ่อขึ้นในหัวใจมันเย็นขึ้นเรื่อยๆ เย็นขึ้นเรื่อยๆ
“โยนไปหลังเขาให้มันไปเป็อาหารของหมาป่า” ฮวาเชียนจือโยนแส้หนังในมือทิ้งก่อนจะสั่งอย่างเคียดแค้นพร้อมกับหันไปจ้องซูฉีฉีอย่างอาฆาต
เื่ที่นางคิดจะทำไม่ว่าใครก็ห้ามไม่ได้
ซูฉีฉีค่อยๆ ทรุดตัวลงกับพื้นนางกัดริมฝีปากตัวเองแรงๆ นางเห็นคนข้างกายของตนถูกตีจนเสียชีวิตความรู้สึกไร้ความสามารถ ช่วยเหลือใครไม่ได้อัดแน่นอยู่ในใจของนาง ทำให้นางเ็ปใจยิ่งนัก
“จิ่งม่าน...ข้าก็ยังไม่สามารถช่วยเ้าได้อยู่ดี เป็ข้าที่ไม่ดีเอง”ซูฉีฉีคร่ำครวญเสียงเบา ั้แ่เล็กจนโตอะไรที่ทนได้นางก็มักจะทนเสมอ อะไรที่ทนไม่ได้นางก็พยายามที่จะทน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็เพราะว่ามารดาของนางอยู่ที่จวนอัครมหาเสนาบดีนั้นไร้ซึ่งอำนาจใดๆเป็ถึงฮูหยินใหญ่แต่กลับถูกฮูหยินรองคอยกดขี่ข่มเหง
แต่ก่อนนางก็เคยไปฟ้องบิดาของตนทว่าต่อหน้าบิดานางฮูหยินรองก็มักจะเอ่ยปากรับผิดเสมอ แต่ลับหลังนั้นนางกลับยิ่งหาเื่มากลั่นแกล้งพวกนางสองแม่ลูกมากยิ่งขึ้นด้วยเหตุนี้นางเลยทำได้เพียงแต่คอยอดทนอดกลั้นเหมือนดั่งมารดาของตน
แต่ว่า ตอนนี้นางกลับรู้สึกไม่อยากที่จะอดทนอีกต่อไปแล้ว
ฮวาเชียนจือผู้นั้นโหดร้ายเกินไป
พักอาศัยอยู่ในห้องเก็บฟืนเป็เวลาสามวันสามคืนซูฉีฉีนอกจากตื่นแล้วก็นอน นอนแล้วก็ตื่น นางก็ไม่ได้กินข้าวไม่ได้ดื่มน้ำร่างกายที่แต่เดิมผอมบางอยู่แล้วก็ผอมบางมากขึ้นไปอีก
เพราะการตายของจิ่งม่านทำให้คนรับใช้ทั้งหมดไม่กล้าแม้แต่จะเข้าใกล้ห้องเก็บฟืน
ที่นี่นับวันก็ยิ่งเหน็บหนาวมากขึ้นเรื่อยๆ
อากาศค่อยๆ หนาวเย็นลง
ในที่สุดหิมะแรกก็ได้ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า
นางอ้าปากพ่นลมออกมาเพื่อให้ลมอุ่นนั้นเพิ่มความร้อนให้กับนิ้วมือที่ถูกความหนาวทำให้แข็งตัวของตนตอนนี้ซูฉีฉีไม่สามารถนอนหลับได้อีกต่อไป อากาศนี้เหน็บหนาวจนเกินทน ถ้าหากว่านางนอนหลับไปแล้วเกรงว่านางอาจจะไม่มีโอกาสตื่นขึ้นมาอีกเลยก็เป็ได้
ในขณะที่กำลังมองโลกภายนอกที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวบริสุทธิ์นั้นอยู่ๆ ประตูของห้องเก็บฟืนก็ถูกบุรุษผู้หนึ่งเปิดออก
เขาย่างก้าวเข้ามา มิได้เอ่ยคำใดๆ แต่กลับยกตัวซูฉีฉีขึ้นมาก่อนจะแบกนางเดินออกไปข้างนอกห้องไปตามทิศทางของโรงซักล้าง
ซูฉีฉีกระตุกมุมปากขึ้นนางไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะเหตุใดผู้หญิงคนนั้นถึงยอมปล่อยตัวนางออกมา แต่ว่าในที่สุดนางก็ไม่ต้องนอนหนาวตายอยู่ในห้องเก็บฟืนแล้ว
นางไม่อยากตาย นางยังมีมารดาของตนอยู่สตรีที่อ่อนแอเช่นนั้น ถ้าหากรู้ว่านางตายอยู่ที่จวนอ๋องติ้งเป่ยโหวไม่รู้เลยว่านางจะเป็เช่นไร!
สาวใช้สามคนที่อยู่ห้องเดียวกันกับนางรีบเทน้ำร้อนหยิบหมั่นโถวให้นาง
พวกนางต่างก็มีความผูกพันธ์กับซูฉีฉีแล้วแต่แค่พวกนางไม่กล้าเอาอาหารไปส่งที่ห้องเก็บฟืน
วันที่สอง นางยังคงเป็สาวใช้โรงซักล้างซูฉีฉีก็ยังคงประพฤติตัวเหมือนเดิม เสมือนว่าเื่ไม่กี่วันก่อนนั้นไม่เคยเกิดเื่อะไรขึ้นทั้งสิ้นนางไม่เอ่ยถึงเื่นั้นแม้แต่น้อย
ผู้หญิง เมื่อรวมตัวกันแล้วก็หนีไม่พ้นเื่ซุบซิบนินทา
เพราะฉะนั้น...
“ได้ยินว่าหลายวันมานี้ท่านอ๋องไม่ได้อยู่ในจวน ออกไปจัดการธุระ”
“มิน่าเล่า คุณหนูฮวาถึงได้กล้าทำตัววางอำนาจเช่นนั้น”
มีหลายคนไม่ชื่นชอบฮวาเชียนจือแต่เพราะติดที่ว่านางคุมอำนาจจัดการเื่ในจวน ทำให้โดยทั่วไปแล้วก็ต่างหวาดกลัวนางกันอยู่สามส่วน
“เมื่อวานท่านอ๋องกลับมาถึงจวน นางก็เปลี่ยนกลับเป็สตรีผู้เรียบร้อย มารยาทงามอีกครั้ง” สาวใช้อีกคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ
“แต่ว่า...ข้าได้ยินมาว่าครั้งนี้ท่านอ๋องออกไปข้างนอกดูเหมือนว่าจะประสบอุบัติเหตุเล็กน้อย...”
ตำแหน่งของโรงซักล้างนั้นค่อนข้างจะกันดารทำให้คำพูดใดๆ ที่เอ่ยนั้นไม่ค่อยถูกกระจายไปที่อื่น ทว่าข่าวสารจากข้างหน้านั้นล้วนถูกกระจายเข้ามาในนี้ทำให้เป็หัวข้อสนทนาอย่างสนุกสนานของผู้คน
“เกิดเื่อะไรขึ้น...”
“ถูกพิษ อีกทั้งยังสาหัสมากหมอที่มีชื่อเสียงในระแวกนี้ล้วนถูกเชิญมากันหมด” สาวใช้คนหนึ่งพูดพลางสั่นศีรษะ “ไม่มีผู้ใดสามารถรักษาให้หายได้”
“ถ้าอย่างนั้น...ก็เชิญหมอเทวดาจูเก่ออวี๊สิ”
“เชิญมาได้แล้วอย่างไรหมอเทวดาผู้นั้นหยิ่งยโสนัก เขาไม่มีทางยอมรักษาให้โดยง่ายหรอก”
ซูฉีฉีเอาไม้ทุบๆ เสื้อผ้าในมือของตนเพราะว่าอากาศหนาวเย็นทำให้น้ำเย็นมาก มือทั้งสองของนางจึงบวมแดงจนไม่ได้รูปตอนแรกนั้นนางรู้สึกเจ็บ แต่ตอนนี้ชาจนไร้ความรู้สึกแล้ว
แต่ว่าได้ยินที่พวกเขาคุยกันมาถึงท่อนนี้นางก็ค่อยๆ กลอกตาขึ้นลงช้าๆ บางที นางอาจจะไม่ควรใช้ชีวิตอย่างนี้ต่อไป