อาหลินบุตรสาวเ้าเมืองเมื่อถูกเปิดเผยตัวตนแล้ว นางจึงคิดจะหนี แต่เสิ่นเหวยอันกลับใช้แส้ซึ่งเป็อาวุธประจำตัวของเขาตวัดไปรัดรอบลำตัวของอาหลินเอาไว้ แรงของเขาไม่เบาเลย ทำให้อาหลินถูกดึงจนล้มลงกับพื้นส่งเสียงร้องโอดครวญไม่หยุด
ด้านเซวียนซานหลางนั้นก็ประคองมู่หลานเฟินที่ตอนนี้อ่อนแรงเอาไว้ ริมฝีปากของนางมีโลหิตสีดำไหลออกมาไม่หยุด
"มู่หลานเฟิน เ้าห้ามหลับนะ นี่คือคำสั่ง หากเ้ากล้าหลับข้าจะไม่ไว้ชีวิตเ้าแน่!"
มู่หลานเฟินในตอนนี้แม้แต่แรงเถียงเขายังแทบไม่มี พิษนี้หนักหนาจริง ๆ อีกทั้งก่อนหน้านี้นางพยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายจนไม่เหลือแล้ว ตอนนี้จึงรู้สึกทนไม่ไหว
"ซื่อจื่อ ข้าเจ็บ..."
ก่อนหน้านี้แม้นางจะระวังตัวมากเพียงใดแต่ก็ยังมีช่องโหว่ อาหลินสาดผงยาพิษใส่ใบหน้าของนางอย่างรวดเร็วจนนางไม่ทันตั้งตัว
"ซื่อจื่อ ในห้องยังมีฝุ่นผงของยาพิษอยู่ ท่านกับพี่เสิ่นรีบออกไปก่อน เร็ว!"
"จะตายแล้วยังมาห่วงพวกข้า มู่หลานเฟิน เ้าจำเอาไว้ ข้าไม่ให้เ้าตาย ข้ายังไม่ได้สะสางหนี้แค้นกับเ้า มู่หลานเฟิน มู่หลานเฟิน!"
มู่หลานเฟินหมดสติไปแล้ว เซวียนซานหลางตื่นตระหนกไม่น้อย เขาพยายามตั้งสติก่อนจะหันไปเอ่ยกับเสิ่นเหวยอัน
"เ้าจัดการนาง ข้าจะพามู่หลานเฟินไปหาหมอ อีกไม่นานซูอวี้เฉิงน่าจะใกล้เดินทางมาถึงแล้ว พวกเราจะได้สะสางเื่นี้ในคราเดียว"
"ได้ เ้ารีบพานางไปรักษา ทางนี้ข้าจะจัดการเอง"
เอ่ยจบเซวียนซานหลางก็อุ้มมู่หลานเฟินที่หมดสติวิ่งตรงไปที่โรงหมอทันที เซวียนเจ๋อและลั่วเหมยที่เห็นสภาพของมู่หลานเฟินก็ตื่นตระหนก เพราะพวกเขาไม่ได้กินสิ่งใดไปต่างไม่ได้หมดสติเช่นชาวบ้านคนอื่น
"พี่ใหญ่ หรานหร่าน!"
"อย่าเพิ่งถาม รีบพานางไปโรงหมอ ชักช้าไม่ได้แล้ว"
เซวียนซานหลางอุ้มมู่หลานเฟินวิ่งไปโรงหมอ ระหว่างทางเขาลอบสังเกตสีหน้าของนางเป็ระยะ ยามนี้ใบหน้าสวยหวานเริ่มซีดเผือดลงไปทุกขณะ
โรงหมอแต่ละแห่งล้วนปิดหมด ท่านหมอที่มาร่วมงานล้วนกินดื่มไปไม่น้อยจึงหมดสติลง เซวียนซานหลางเริ่มเคร่งเครียดขึ้นมาทุกขณะ
แต่เหมือน์จะยังเข้าข้างเขาอยู่บ้าง เมื่อมีท่านหมอผู้หนึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากไปรักษาคนต่างหมู่บ้าน จึงไม่ได้มาร่วมงานแต่งและกินดื่มจนหมดสติ เซวียนซานหลางรีบบอกให้ท่านหมอช่วยคน ท่านหมอเองก็ไม่รอช้ารีบลงมือรักษามู่หลานเฟินทันที
โชคดีที่ท่านหมอมาทันเวลา ในที่สุดมู่หลานเฟินก็ปลอดภัย แต่เพราะนางาเ็ภายในไม่น้อย จำต้องพักรักษาตัวที่โรงหมอให้สุขภาพดีขึ้นเสียก่อน
เซวียนเจ๋อและลั่วเหมยพรูลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ส่วนเซวียนซานหลางก็เอาแต่จ้องมองมู่หลานเฟินที่นอนอยู่บนเตียงด้วยแววตาครุ่นคิด
ก่อนออกมาจากบ้าน นางบอกให้เขาและเสิ่นเหวยอันระวังตัวเพราะอาจยังมีฝุ่นละอองของพิษหลงเหลืออยู่ เขาจึงกินยาถอนพิษที่ท่านหมอมอบให้เช่นเดียวกัน และยังให้อาต่งนำไปมอบให้เสิ่นเหวยอันด้วยเช่นเดียวกัน
ท่าทีที่เป็ห่วงเป็ใยอย่างจริงใจของนางนั้น มันทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจอย่างแปลกประหลาด
มู่หลานเฟิน ยิ่งนานวันข้ายิ่งรู้สึกว่าข้าคาดเดาความนึกคิดของเ้าไม่ออกเลยจริง ๆ
เช้าวันต่อมาเื่ที่อาหลินคือฆาตกรก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองถงหวาง เหล่าชาวบ้านต่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเองว่า อาหลินบุตรสาวท่านเ้าเมืองที่มีนิสัยอ่อนโยนและเอาใจใส่ชาวบ้านจะเป็ฆาตกรที่สังหารบุตรสาวของพวกเขา จากที่เคยเอ็นดูรักใคร่กลับกลายเป็ความเกลียดชังถึงขั้นด่าทอสาปแช่งอย่างยากจะให้อภัย
ท่านเ้าเมืองถงหวางเมื่อทราบเื่ก็รีบมาหาบุตรสาวของตนที่ศาลาว่าการเมืองถงหวาง เพื่อเจรจาของตัวคนกลับไปไต่สวนด้วยตนเอง
เสิ่นเหวยอันนั่งอยู่ที่ตำแหน่งประธาน พลางปรายตามองเ้าเมืองถงหวางด้วยแววตาที่เ็า
ตอนนี้จับตัวคนทำความผิดได้แล้ว แน่นอนว่าเซวียนซานหลางและเสิ่นเหวยอันก็ไม่จำเป็ต้องปกปิดสถานะของตนเองอีกต่อไป แม้จะยังไม่ได้บอกอันใดกับเ้าเมืองถงหวางมากนัก แต่มีหรือที่เ้าเมืองถงหวางจะมองไม่ออกว่าชายหนุ่มที่นั่งมองหน้าเขาด้วยแววตาเ็าตอนนี้มีอำนาจในมือมากเพียงใดแววตานี้สามารถกดดันคนให้ตายได้อย่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก
"ท่านเ้าเมือง บุตรสาวของท่านทนการทรมานของข้าไม่ไหว จึงยอมรับสารภาพเื่ราวทั้งหมดแล้ว หวังว่าท่านจะเห็นแก่ความถูกต้อง เห็นแก่หญิงสาวที่ตายไปอย่างไม่ได้รับความเป็ธรรม ให้ข้าลงโทษบุตรสาวของท่านอย่างไม่คัดค้าน อย่าได้ขวางงานข้า"
เ้าเมืองถงหวางหันไปมองอาหลินบุตรสาวของตนที่ตอนนี้นั่งหัวเราะราวกับคนบ้าก็รู้สึกปวดใจยิ่งนัก นางถูกทรมานจนขาดสติรู้แจ้งไปเสียแล้ว เขาเ็ปใจยิ่งนัก ชายวัยกลางคนกำมือแน่น ก่อนจะเอ่ย
"อาหลินเป็บุตรสาวของข้า อย่างไรเื่นี้ข้าย่อมต้องจัดการด้วยตนเอง ท่านเป็เพียงขุนนางที่ได้รับมอบหมายให้มาจับคนร้าย เป็เพียงขุนนางที่ผ่านทางมา ซ้ำตอนเข้าเมืองถงหวางก็ยังไม่เข้ามารายงานต่อข้าผู้เป็เ้าเมือง กลับลอบกระทำการตามใจชอบกันเอง เื่นี้ช่างทำการอุกอาจเกินไป"
เสิ่นเหวยอันเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็ส่งเสียงเหอะออกมา ดูท่าเ้าเมืองถงหวางผู้นี้คงจะตามใจบุตรสาวจนเคยตัว เห็นผิดเป็ชอบกลับดำเป็ขาวได้อย่างไม่น่าให้อภัย
"เ้าเมืองถงหวาง ท่านคิดจะขัดขวางการทำงานของข้าหรือ ข้าไม่ใช่ขุนนางผู้ผ่านทางมาเพียงเท่านั้น แต่ข้าคือหัวหน้าศาลต้าหลี่ มีสิทธิ์ตัดสินโทษของบุตรสาวเ้าโดยชอบธรรม"
เ้าเมืองถงหวางกำมือแน่น ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่เกรงกลัว
"ข้า้าตัวคนกลับไป!"
"วันนี้จะไม่มีใครพาตัวนักโทษกลับไปได้ทั้งนั้น!"
อยู่ ๆ ก็มีเสียงของบุรุษผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นมา น้ำเสียงของเขาเ็าและทรงอำนาจเป็อย่างมาก เหล่าชาวบ้านที่มามุงดูการตัดสินคดีต่างหันไปมอง ก่อนจะต้องใไม่น้อย
ตอนนี้เซวียนซานหลางไม่ได้แต่งกายเหมือนชาวบ้านทั่วไปอีกแล้ว เขาสวมชุดสีดำ ลวดลายการปักละเอียดประณีต ยามที่เขาย่างกรายผ่านฝูงชนเข้ามา ช่างดูสูงส่งสง่างามน่าเกรงขามหาใดเปรียบ เ้าเมืองถงหวางถึงกับลอบกลืนน้ำลายลงคอ ส่วนอาหลินที่เห็นเซวียนซานหลางเดินเข้ามาก็ตกตะลึงไม่น้อย
เดิมทีนางไม่อยากจะสารภาพความผิด แต่เพราะทนการทรมานไม่ไหวจึงยอมรับความจริงและแสร้งทำเป็คนบ้า
ไม่คิดเลยว่าอาซานจะเป็ขุนนางหนุ่มที่รูปงามมากถึงขนาดนี้ น่าเสียดายนักที่แผนการของนางล้มเหลว
หรือว่าที่ผ่านมาเป็แผนการของเขาที่คิดจะจับคนคนร้ายอย่างนางอยู่ก่อนแล้ว
อาหลินส่งเสียงออกมาเหมือนคนบ้า เซวียนซานหลางปรายตามองนางอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะหันมาเอ่ยกับเ้าเมืองถงหวาง
"บุตรสาวของท่านทำความผิด เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์เพียงเพราะความแค้นส่วนตน ปล่อยเอาไว้ไม่ได้ ต้องตัดสินปะาชีวิตเท่านั้น"
“เ้าเป็ใครกัน จึงกล้ามาตัดสินปะาชีวิตคนตามใจชอบ!”
“ข้าน่ะหรือ ข้าคือเซวียนซื่อจื่อ บุตรชายคนโตของจวนชินอ๋อง และยังเป็หลานชายของฝ่าา รู้เช่นนี้แล้ว เ้าคงไม่ต้องถามอีกหนกระมังว่าข้าเป็ใคร เหตุใดจึงสั่งปะาบุตรสาวของเ้าได้”
เ้าเมืองถงหวางเมื่อได้ยินก็หน้าซีดเผือดลนลาน เซวียนซานหลางคร้านจะสนใจเขา ชายหนุ่มเดินไปหาเสิ่นเหวยอันที่นั่งอยู่ตำแหน่งประธาน เสิ่นเหวยอันไม่ได้ลุกขึ้นแต่อย่างใด เซวียนซานหลางก็คร้านจะทะเลาะกับเสิ่นเหวยอันเพียงเพราะที่นั่งตำแหน่งเดียว จึงไม่ได้ต่อว่าอันใด
เสิ่นเหวยอันได้ส่งคนมาแจ้งเขาก่อนหน้านี้แล้ว ถึงสาเหตุที่อาหลินลงมือ
เมื่อสองปีก่อนนางรักใคร่ชอบพออยู่กับบุรุษผู้หนึ่ง แต่แล้วเขากลับหักหลังนาง แท้จริงเขามีภรรยาแล้ว อาหลินหลงรักคนผิดจนขาดสติ นางลงมือลวงภรรยาของชายคนนั้นมาฆ่าทิ้ง นางลงมืออย่างอำมหิต ด้วยการควักดวงตา ถอดเล็บ และรัดคอ ก่อนจะส่งคนไปฆ่าบุรุษผู้นั้นด้วยอีกคน
เดิมทีเมื่อได้สะสางความแค้นแล้วเื่ราวก็ควรจบลงเพียงเท่านี้ แต่ดูเหมือนจิตใจของอาหลินจะบิดเบี้ยวไปเสียแล้ว นางหลงใหลการฆ่า เห็นสตรีคนใดแต่งงานมีความสุขไม่ได้ เพราะนางคิดว่าในเมื่อตนเองไม่มีความสุข แล้วเหตุใดสตรีน่าโง่เ่าั้จะต้องมีความสุขกันเล่า นางเกลียดชุดแต่งงาน และเกลียดคนที่ได้สวมใส่มันด้วย! นางจึงวางแผนให้คนไปจับตัวหญิงสาวพวกนั้นมาสังหารทิ้งเสียด้วยวิธีการเดียวกับที่ฆ่าภรรยาของอดีตคนรัก
ก่อนตายหญิงสาวเ่าั้ได้รับความทุกข์ทรมานมาก อาหลินเล่าว่านางลงมือสังหารอย่างไรโดยไม่รู้สึกผิด นางใช้ผงสลายลมปราณและเส้นเอ็นกับสตรีเ่าั้ ซึ่งก็คือยาพิษตัวเดียวกับที่ใช้กับมู่หลานเฟิน เมื่อคนถูกพาตัวมาแล้วนางก็จัดการถอดเล็บ ควักดวงตาหญิงสาวทั้งเป็ มองดูพวกนางทรมานท่ี่ขยับตัวไม่ได้ หนีไม่ได้ กรีดร้องไม่ได้ นางรู้สึกมีความสุขยิ่งนัก จากนั้นค่อยจัดการแขวนคอพวกนางเสีย
และเสียงที่มู่หลานเฟินได้ยินก็คือเสียงของอาหลินเอง ทุกคืนนางจะร้องเพลงเสียงโหยหวนชวนขนหัวลุกเพื่อระบายความเหงา
ส่วนเื่ที่ว่าเหตุใดชาวบ้านจึงหลับสนิทคล้ายถูกวางยานั้นนางกลับปิดปากเงียบไม่ยอมเอ่ยถึงแม้แต่คำเดียว
สตรีจิตใจอำมหิตเช่นนี้มีเพียงต้องตกตายไปสถานเดียวเท่านั้น จึงจะสาสมกับสิ่งที่นางทำลงไป
ต่อให้โกรธแค้นความรักมากเพียงใด ก็ไม่มีสิทธิ์หมายมาดทำลายชีวิตของผู้อื่น
เื่นี้ค่อนข้างอยู่เหนือความคาดหมายสำหรับเซวียนซานหลางอยู่บ้าง สตรีนางนี้เก็บงำมือที่เปื้อนเืของตนเองเอาไว้ได้อย่างมิดชิด เขาไม่คาดคิดเลยว่าจะเป็นาง
อีกทั้งนางยังมีบิดาคอยให้ท้าย
อยู่ ๆ เซวียนซานหลางก็คิดเื่หนึ่งขึ้นมาได้
หรือว่าการที่อาหลินลงมือได้อย่างราบรื่นเช่นนี้เป็เพราะบิดาของนางคอยถือหางให้ท้ายอยู่เื้ั?
เขาปรายตามองพิจารณาเ้าเมืิองถงหวางแต่กลับไม่พบพิรุธอันใด เห็นเพียงบิดาผู้หนึ่งที่้าปกป้องบุตรสาว แน่นอนว่าเื่เช่นนี้ก็ย่อมเป็ธรรมดาของคนเป็พ่อ ไม่ว่าลูกจะทำความผิดมากเพียงใด แต่สุดท้ายแล้วคนเป็พ่อย่อมต้องออกมากางปีกปกป้องอย่างไม่มีข้อแม้
เมื่อเห็นว่าเื่ราวคงจะไม่เป็ไปตามที่ตนคิด เ้าเมืองถงหวางจึงคิดเื่หนึ่งขึ้นมาได้
อาหลินเป็บุตรสาวเพียงคนเดียวของเขา แน่นอนว่าย่อมไม่อาจนิ่งดูดายทนมองนางตายได้ เขาถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับเซวียนซานหลางและเสิ่นเหวยอัน
"เช่นนั้นข้าอยากขอเวลาพวกท่านสักสองวัน อาหลินเป็บุตรสาวเพียงคนเดียวของข้า แต่ไหนแต่ไรมานางถูกทะนุถนอมราวกับไข่มุกในฝ่ามือ นางผิดข้ายอมรับ แต่คนเป็บิดาจะทนมองบุตรสาวตนเองตกตายไปต่อหน้าต่อตาได้หรือ ข้าอยากจะขอให้พวกท่านเลื่อนเวลาตัดสินลงโทษไปอีกสักสองวัน เพื่อให้ข้าได้ใช้่เวลาสุดท้ายกับบุตรสาวได้หรือไม่"
เสิ่นเหวยอันเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็หันมามองหน้าเซวียนซานหลาง เซวียนซานหลางพยักหน้าเป็เชิงตกลง เ้าเมืองถงหวางเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ดีใจเป็อย่างมาก เซวียนซานหลางลอบส่งสายตาให้อาต่งองครักษ์ของตนไปจับตาดูคนของจวนเ้าเมืองเอาไว้และกลับมารายงานเขา อาต่งเองก็รู้หน้าที่เป็อย่างดี
ทันทีที่กลับมาถึงจวนเ้าเมือง เ้าเมืองถงหวางก็หันไปสั่งการกับคนของตนทันที
"จะเป็การเสี่ยงเกินไปหรือไม่ขอรับท่านเ้าเมือง"
องครักษ์ข้างกายเอ่ยปรามอย่างไม่เห็นด้วย แต่เ้าเมืองถงหวางตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้ว ชีวิตของอาหลินขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขาแล้ว อย่างไรเขาต้องช่วยนางอย่างสุดความสามารถ
เมื่อเห็นว่าไม่อาจคัดค้านเ้านายได้ องครักษ์ข้างกายจำต้องยอมทำตามที่เ้านายสั่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
