วันต่อมา ถังชิงหรูตื่นนอนลุกขึ้นมานั่งบนพื้น มองไปยังบุรุษที่กำลังหลับสบายด้วยความหงุดหงิด แทบอยากจะใช้เท้าบดขยี้ไปบนใบหน้าหล่อเหลาดวงนั้น
เป็ผู้ชายประสาอะไร นางเป็แขก ทั้งยังเป็หมอที่มาช่วยรักษาให้ เขายังแล้งน้ำใจจะให้นางนอนพื้น ไม่ว่านางจะทักท้วงอย่างไรก็ไร้ผล เขาถึงกับบอกว่าหากไม่พอใจก็ไปนอนข้างนอก อย่างไรเสียหมาป่าและเสือดาวเ่าั้ก็เหงาหงอยมานาน พวกมันคงจะมีความสุขมากหากมีเหยื่อรายใหม่ให้พวกมันไล่ล่า
นางค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้ชายหนุ่ม พลางยื่นมือออกไป ขณะที่มือของนางกำลังจะบีบที่ลำคอของเขา มือข้างหนึ่งก็พุ่งเข้ามาคว้าแขนของนางก่อนดึงเข้าไปข้างใน ร่างของนางกลิ้งไปบนเตียง คนผู้นั้นใช้เท้าทั้งสองข้างหนีบขาของนางไว้จนขยับไม่ได้
ถังชิงหรูถลึงตาใส่บุรุษตรงหน้า ก่อนตวาดอย่างหัวเสีย "ปล่อยนะ"
"เมื่อครู่เ้าคิดสังหารข้า?" หลีซูจ้องนางด้วยแววตาเยียบเย็น "ใครให้ความกล้ากับเ้ากันฮึ"
"ถูกทำร้ายจนประสาทหลอนไปแล้วหรือไร นี่คือบ้านท่าน ข้าจะสังหารท่านไปทำไม" ถังชิงหรูกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ "ข้าแค่อยากล้อเล่นกับท่านนิดหน่อย นึกไม่ถึงว่าท่านจะไม่ขำ"
"ขอเตือนด้วยความหวังดี หากไม่อยากอายุสั้นก็อย่าเข้ามาใกล้ข้ายามที่ข้าหลับอยู่" หลีซูรั้งกรงเล็บกลับไป
ถังชิงหรูลูบใบหน้าของตนเองพลางขมวดคิ้วถามว่า "ท่านทำอันใดกับข้ากันเนี่ย ทำไมใบหน้าของข้าถึงแสบร้อนเยี่ยงนี้เล่า"
"แค่พิษเล็กน้อย เ้าเป็หมอเทวดามิใช่หรือ คิดว่าคงพอจะรักษาเองได้" หลีซูมองนางอย่างเหยียดหยัน "หากพิษเล็กน้อยแค่นี้ยังรักษาไม่ได้ ข้าคงประเมินเ้าสูงไปจริงๆ "
ถังชิงหรูยกเท้าเตะ แต่หลีซูถอยหลบไปด้านหลังก่อนะโลงจากเตียง
หลังกินข้าวเช้า ถังชิงหรูก็ไปจากกระท่อมไม้หลังน้อยของหลีซู และลงจากหุบเขาิญญากลับไปจวนชิ่งอ๋อง เมื่อมาถึงเชิงเขา เห็นมีรถม้าคันหนึ่งจอดอยู่ สารถีบังคับรถเข้ามา กล่าวกับถังชิงหรูว่า "แม่นาง ในที่สุดท่านก็มาเสียที รีบไปดูท่านอ๋องเถิดขอรับ"
"เฮ่อ..." ถังชิงหรูถอนหายใจอย่างระอา
ทุกครั้งที่เห็นมีคนมารอ นางก็เดาออกว่าต้องเป็ลูกไม้ของเฉินิ
"เขาเป็อะไรอีกล่ะ" ถังชิงหรูเอ่ยถามอย่างอารมณ์ไม่ดี
"แม่นางไปดูก็จะทราบเองขอรับ" สารถีก้มหน้าก้มตาเชิญถังชิงหรูขึ้นรถ แล้วบังคับม้าตรงไปยังจวนชิ่งอ๋อง
ยามถังชิงหรูเห็นใบหน้าที่บวมเป็หัวหมูของเฉินิแล้วก็คิ้วขมวด "นี่ท่านไปโดนอะไรมา"
เฉินิขึงตาใส่ถังชิงหรู พลางแค่นเสียงหึด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ "เ้ายังจะมาพูดอีก หากไม่เพราะเ้า ข้าจะเปลี่ยนมาเป็อย่างนี้หรือ"
"เพราะข้า?" ถังชิงหรูมองชายหนุ่มด้วยสีหน้างุนงง
นางเปิดล่วมยาแล้วค่อยๆ ใส่ยาให้เขาอย่างใจเย็น พลางเอ่ยถาม "ข้าไม่เห็นเข้าใจ ใบหน้าท่านาเ็เกี่ยวข้องกับข้าตรงไหน"
"ทำไมจะไม่เกี่ยว?" เฉินิมองค้อนตาเขียว ประหนึ่งกำลังบอกว่าหากเ้าไม่ยอมรับเดี๋ยวน่าดู
พ่อบ้านหลินซึ่งยืนอยู่ตรงนั้นหัวเราะเบาๆ กล่าวว่า "แม่นางติดอยู่บนเขาิญญาแห่งนั้นทั้งคืน ท่านอ๋องของเราวิตกว่าแม่นางจะเป็อันตราย จึงคิดจะปีนเขาขึ้นไปยามดึกดื่น แต่ไม่นึกว่าแค่ไปถึงเชิงเขาก็ถูกฝูงผึ้งรุมต่อย ท่านอ๋องเจ็บจนทนไม่ไหวเลยจำเป็ต้องกลับจวนก่อน"
"ท่านก็แปลกคนนัก ถูกผึ้งต่อยขนาดนี้ ไยไม่ให้ท่านหมอมาดูเล่า ในจวนชิ่งอ๋องมีข้าเป็หมอคนเดียวหรืออย่างไร ไม่ใช่ว่าเอะอะอะไรก็มาฝากความหวังไว้ที่ข้าหมด ท่านแค่มิอาจเข้าใกล้สตรี ใช่ว่าเข้าใกล้บุรุษไม่ได้เสียหน่อย เมื่อก่อนตอนข้ายังไม่มา ยามเจ็บไข้ท่านไม่มีคนมาดูแลหรือ" ถังชิงหรูบ่นยับ "แล้วก็โชคดีแล้วที่ไม่ขึ้นเขา ฝูงผึ้งที่เชิงเขาน่ะเื่เล็ก บนเขามีทั้งงูและแมงป่องพิษเต็มไปหมด หากท่านขึ้นเขายังจะรักษาชีวิตได้หรือ อย่าลืมว่าชีวิตของท่านใครเป็คนช่วยกลับมา"
พ่อบ้านหลินได้ยินว่าบนเขาเต็มไปด้วยอันตรายถึงเพียงนั้นก็หน้าถอดสี ร้องตีโพยตีพายอยู่ด้านข้าง "ท่านอ๋อง บรรพบุรุษน้อยของบ่าว ต่อไปอย่าได้เอาแต่ใจเช่นนี้อีกนะขอรับ แม่นางถังหาใช่สตรีดาษดื่นทั่วไป มิถูกผู้ใดรังแกง่ายๆ หากมีคนข่มเหงนาง นางแค่โปรยผงพิษใส่อีกฝ่ายก็ตอบโต้ไม่ได้แล้ว เมื่อคืนหากท่านขึ้นเขาแล้วถูกสัตว์มีพิษกัด พวกเราก็ยังตามหาแม่นางถังไม่พบ แล้วจะทำอย่างไรเล่า ถึงเวลาเกรงว่าประชาชนทั้งเมืองชิ่งคงต้องตายตามท่านไปด้วย"
เฉินินั่งลง ตวัดหางตาไปที่พ่อบ้านพลางเอ่ยว่า "ท่านเนี่ยยิ่งแก่ก็ยิ่งพูดมาก เปิ่นหวางบอกแล้วไงว่าแค่ไปเดินเล่นเรื่อยเปื่อย มิได้ไปตามหาสตรีผู้นี้เสียหน่อย ต่อไปเปิ่นหวางไม่ไปแถวนั้นอีกก็ได้"
"แหม... ไปเดินเล่นเสียไกลเชียวนะ" ถังชิงหรูไม่เปิดโปงความคิดของเขา "เอาล่ะ ่นี้ก็อย่าไปััส่งเดช อีกสองวันก็จะดีขึ้นเอง"
"ตั้งสองวันเชียว? เ้าจะให้ข้าอยู่กับใบหน้าหัวสุกรแบบนี้เนี่ยนะ" เฉินิถลึงตาใส่นาง "เ้าเป็หมอเทวดาไม่ใช่หรือ ไฉนาแเล็กน้อยแค่นี้ยังรักษาไม่ได้"
ถังชิงหรูได้ยินคำพูดที่ว่า เ้าเป็หมอเทวดามิใช่หรือ มานับครั้งไม่ถ้วน ฟังจนหูแทบกลายเป็รังไหมอยู่แล้ว นางเป็หมอเทวดา หาใช่เทพยดา หมอเทวดาต้องเนรมิตได้ทุกอย่างเลยหรือไร เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า
"ไม่มีเื่อื่นแล้วใช่หรือไม่ หากไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวกลับก่อน ถูกเคี่ยวกรำมาทั้งคืนจนไม่ได้หลับได้นอน" ถังชิงหรูลุกขึ้น นวดแขนที่ปวดเมื่อย "เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว พรุ่งนี้ยังต้องไปหาเ้าหนุ่มนั่นอีก เขาช่างรู้จักทรมานผู้อื่นเสียจริง"
เฉินิรั้งแขนของนางไว้ พลางหรี่ตาเอ่ยถามเสียงเข้ม "พวกเ้าไปทำอะไรกันแน่"
ถังชิงหรูเลิกคิ้ว ตอบกลับอย่างยั่วโทสะ "หนึ่งชายหนึ่งหญิงในกระท่อมกลางป่าเขา ไร้ผู้คนบ้านใกล้เรือนเคียง ท่านว่าพวกเราจะทำสิ่งใดกันบ้างเล่า"
"ผู้หญิงอย่างเ้านี่มัน...." เฉินิโมโหจนเจ็บหน้าอก
ใบหน้าที่เคยหล่อเหลายามนี้บวมปูดจนคล้ายหัวสุกร ยิ่งมาทำท่าทุบอก ก็แลดูน่าเวทนาจริงๆ
พ่อบ้านหลินทนมองต่อไปไม่ไหว เข้ามาพูดกับถังชิงหรู "แม่นางอย่าแกล้งท่านอ๋องอีกเลยขอรับ เพื่อตามหาแม่นาง ท่านอ๋องไม่ได้นอนเลยทั้งคืน"
"หน้าบวมเสียขนาดนี้ย่อมนอนไม่หลับอยู่แล้ว เขาไม่ได้ทำเพื่อข้าหรอก หรือต่อให้ทำเพื่อข้าก็คงวิตกว่าหากข้าตาย ต่อไปจะไม่มีผู้ใดรักษาโรคให้เขาอีกแล้ว" ถังชิงหรูจงใจแสดงว่าโมโหเฉินิ นางเก็บเครื่องมือแพทย์แล้วหันไปพูดกับชายหนุ่ม "รักษาตัวให้ดี หากไม่อยากทำให้ผู้อื่นใตาย ่นี้ก็อย่าไปหาข้าที่โรงหมอเป็อันขาด"
เฉินิกำลังโกรธจนแน่นอก จึงเบือนหน้าหนี ไม่สนใจนางอีก
ถังชิงหรูรู้สึกโล่งหูอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน นางสะพายล่วมยาไปจากจวนอ๋อง
"ท่านอ๋อง..." พ่อบ้านเห็นเฉินิลุกขึ้นเดินไปที่ประตูใหญ่ ก็รีบเข้าไปเกลี้ยกล่อมห้ามปราม "แม้ว่าท่านอ๋องจะคิดถึงแม่นางถัง ก็ไม่ควรรีบร้อน รักษาใบหน้าให้หายก่อนค่อยไปเถิด หากไปในสภาพนี้ อาจทำให้คนไข้ของแม่นางถังตื่นตระหนกได้"
เฉินิกวาดตามองไปด้วยสายตาเยียบเย็น พลางกล่าวเสียงเรียบ "ใครว่าข้าจะไปหานาง สตรีผู้นั้นเพิ่งออกไปเมื่อครู่ ข้าจะคิดถึงมากจนต้องออกไปหาเดี๋ยวนี้เลยรึ"
พ่อบ้านหลินรู้ว่าตัวเองเข้าใจผิดไป ก็ลูบพวงแก้มอย่างเก้อกระดาก หัวเราะแหะๆ เอ่ยคล้อยตาม "ท่านอ๋องกล่าวได้ถูกต้อง เช่นนั้นท่านอ๋องจะไปที่ใดขอรับ"
"หน้าข้าเป็แบบนี้ย่อมออกไปข้างนอกไม่สะดวก ข้าคิดถึงเสียวเสี่ยว อยากไปดูมันสักหน่อย วันนี้ท่าทางของมันเป็อย่างไรบ้าง" เฉินิพูดพลางเดินออกไปด้านนอก "่ก่อนมันก็ไม่สบาย เปิ่นหวางจึงต้องขังมันไว้ ตอนนี้คงดีขึ้นแล้วกระมัง"
เสียวเสี่ยวเป็หมาป่าตัวหนึ่งของเฉินิ เป็สุนัขที่พระบิดาพระราชทานให้ตอนที่เขายังเด็ก บัดนี้พระบิดาตแล้ว มันจึงเป็สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ให้ระลึกถึง
อีกด้านหนึ่ง ถังชิงหรูนั่งรถม้าของจวนอ๋องกลับถึงบ้าน พอมาถึง เห็นประตูใหญ่เปิดอยู่ ด้านในถูกรื้อค้นระเกะระกะ นางมองพิจารณาไปโดยรอบอย่างหวาดระแวงก็พบร่องรอยการงัดแงะและรื้อค้นอีกหลายแห่ง
"จิ่นเอ๋อร์... หวนเอ๋อร์..." ถังชิงหรูร้องเรียกสาวใช้ทั้งสองคน
หวนเอ๋อร์ร้องไห้ตาแดงก่ำเดินออกมาจากในห้อง พอเห็นถังชิงหรูก็รีบวิ่งเข้ามาคุกเข่าที่พื้นเอ่ยด้วยความร้อนใจ "แม่นาง หวนเอ๋อร์ผิดไปแล้ว"
ถังชิงหรูไม่อยู่แค่คืนเดียว ไม่นึกว่าเรือนดีๆ ของนางจะกลายเป็เช่นนี้ไปได้ พืชผักและสมุนไพรที่เพียรปลูกมาด้วยความยากลำบากถูกทำลายเสียหายไปเจ็ดแปดส่วน
"เกิดอะไรขึ้นกันแน่ จวนของพวกเราถูกโจรปล้นรึ" ถังชิงหรูมุ่นคิ้วขมวด
"เรียนแม่นาง บิดามารดาและพี่ชายของจิ่นเอ๋อร์มาก่อความวุ่นวายที่นี่ ทำลายข้าวของในจวนของเราจนกลายเป็แบบนี้ พวกเขาเอาเงินตำลึงมา บอกว่าจะไถ่ตัวพี่จิ่นเอ๋อร์กลับไป แม่นางไม่อยู่ บ่าวย่อมจะพูดคุยกับพวกเขาด้วยเหตุผล แต่พวกเขามิเพียงแต่พาคนไป ยังทำลายข้าวของจนเป็อย่างนี้เ้าค่ะ"
ถังชิงหรูแววตาเย็นเยียบ แค่นเสียงเยาะ "ช่างเหิมเกริมไม่รู้จักเกรงกฎหมายไม่กลัวฟ้าดิน ใครให้ความกล้ากับพวกเขามาก่อความวุ่นวายที่นี่ จิ่นเอ๋อร์เป็สาวใช้ของข้า ข้าไม่ยอมให้นางไปเสียอย่าง พวกเขายังจะชิงคนไปให้ได้งั้นหรือ ต่อให้เป็เด็กและสตรีที่โง่เขลาเบาปัญญา ยังควรรู้จักขอบเขตบ้างถึงจะถูกต้อง"
"พวกเขาเพิ่งไปไม่นาน พี่จิ่นเอ๋อร์ถูกพวกเขาผลักจนหกล้มศีรษะกระแทกก้อนหิน บ่าวคิดไว้ว่าหากแม่นางยังไม่กลับมา จะไปเชิญท่านหมอมาดูอาการเ้าค่ะ" หวนเอ๋อร์ปาดน้ำตา พลางเอ่ยวาจา "ตอนนี้แม่นางกลับมาแล้ว บ่าวไม่ต้องออกไปเชิญคนอื่นอีก แม่นางรีบไปดูพี่จิ่นเอ๋อร์เถิดเ้าค่ะ"
ถังชิงหรูตามหวนเอ๋อร์เข้าไปในห้องของพวกนาง ยามนี้จิ่นเอ๋อร์นอนอยู่บนเตียง ศีรษะมีผ้าขาวพันอยู่ ดูท่าทางอ่อนแอยิ่งนัก
ถังชิงหรูตรวจชีพจรให้ก่อน เมื่อพบว่าไม่ร้ายแรง เพียงแต่เสียเืมาก จึงดูอ่อนแออยู่บ้าง ต้องบำรุงให้ดีอีกชั่วระยะเวลาหนึ่ง
"เ้าอยู่นี่ดูแลจิ่นเอ๋อร์ ข้าจะออกไปออกข้างนอก" ถังชิงหรูกล่าวเสียงเรียบ
"เ้าค่ะ" หวนเอ๋อร์รับคำ
"ถ้าคนเ่าั้มาก่อความวุ่นวายอีก ให้เหนี่ยวรั้งพวกเขาไว้ก่อน" ถังชิงหรูกล่าวเสียงเย็น "ข้าเห็นว่าพวกเขาเป็คนในครอบครัวของจิ่นเอ๋อร์ ถึงไม่อยากจะบีบให้ตายกันไปข้าง ไม่นึกว่าพวกเขาจะไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือ เมื่อเป็เช่นนี้ ก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ"
หวนเอ๋อร์เห็นสีหน้าของถังชิงหรูก็รู้สึกตระหนกอย่างบอกไม่ถูก ปรกติถังชิงหรูเป็คนอ่อนโยนกับผู้อื่นเสมอ มิเคยแสดงท่าทางเฉียบขาดเช่นนี้มาก่อน
หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม ถังชิงหรูก็มายังศาลาว่าการท้องถิ่น พลางตีกลองร้องทุกข์หน้าประตู ตึงๆ ๆ หลังจากนั้นก็มีเ้าหน้าที่จากด้านในเดินออกมา
เ้าหน้าที่ผู้นั้นเห็นถังชิงหรูแต่งกายเป็สตรี ก็จำไม่ได้ว่านางคือหมอเทวดาที่กำลังโด่งดัง จึงขมวดคิ้วเอ่ยถาม "เ้ามีเื่อันใด"
"ใต้เท้าผู้นี้ มีคนมาพยายามมาชิงตัวสาวใช้ของข้า ทั้งทำร้ายสาวใช้ของข้าจนได้รับาเ็อีกด้วย ข้าจะฟ้องเขา..." ถังชิงหรูหันกลับมามองเ้าหน้าที่ผู้นั้น พลางกล่าวเสียงเรียบ
เ้าหน้าที่พอได้ยินว่าเป็เื่เล็กน้อยก็รู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง แต่พอเห็นป้ายคำสั่งในมือของถังชิงหรู จากสีหน้ารำคาญก็กลายเป็ตื่นตระหนกเจือไปด้วยความยำเกรงทันที