ตระกูลหวัง ในฐานะผู้ครองอาณาจักรซู่และมีอำนาจล้นฟ้า
ยิ่งไปกว่านั้น เป้าหมายของการลอบสังหารครั้งนี้คือยอดอัจฉริยะผู้มีพร์ระดับสูงสุดแห่งตระกูลหลิน ตระกูลหลินจึงจำเป็ต้องปกป้องยอดอัจฉริยะผู้นั้นอย่างเข้มงวด
ดังนั้นบรรดามือสังหารที่ตระกูลหวังส่งมาล้วนเป็ยอดฝีมือผู้เชี่ยวชาญด้านการลอบสังหาร ฝีมือเยี่ยมยุทธ์หาตัวจับยาก
ก่อนหน้านี้ พวกเขาได้รอคอยอยู่เบื้องนอกอย่างไร้ประโยชน์เป็เวลาหลายวัน รู้สึกถึงความโง่เขลาของตนเอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อยอดฝีมือเหล่านี้ของตระกูลหวังเคลื่อนไหว พวกเขาก็ได้แสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง
เมืองต้าเหยียนคือศูนย์กลางของตระกูลหลิน ภายในเต็มไปด้วยกลไกป้องกันและค่ายกลมากมาย สามารถต้านทานผู้บุกรุกได้เกือบสิบส่วนจากสิบ เหลือเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้นที่จะฝ่าผ่านได้
แต่ยอดฝีมือของตระกูลหวังสามารถฝ่าฟันผ่านกลไกป้องกันเ่าั้ได้อย่างง่ายดาย
ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วยาม บรรดามือสังหารของตระกูลหวังก็ได้แทรกซึมเข้าไปในเมืองต้าเหยียนเป็ที่เรียบร้อยแล้ว
และอีกไม่กี่ชั่วยามต่อมา ครึ่งหนึ่งของมือสังหารตระกูลหวังก็ได้แทรกซึมเข้าไปในเขตภายในของตระกูลหลินอย่างเงียบเชียบ
มือสังหารเหล่านี้ไม่ได้มีข้อมูลเกี่ยวกับตำหนักตระกูลหลินแต่อย่างใด แต่พวกเขาวางใจในสัญชาตญาณ ไหวพริบ และประสบการณ์อันยาวนาน เพื่อหลีกเลี่ยงสถานที่ที่บรรดาบรรพชนของตระกูลหลินกำลังบำเพ็ญเพียรอยู่
แท้จริงแล้ว ผลลัพธ์เช่นนี้ก็เกี่ยวข้องกับวิถีของทั้งสองตระกูลด้วย
คนส่วนใหญ่ในตระกูลหลินเชี่ยวชาญด้านการฝึกฝนร่างกาย วิถีการฝึกฝนของพวกเขามักเน้นไปที่ความตรงไปตรงมาและทรงพลัง
พวกเขามีความดื้อรั้น เด็ดขาด และเชี่ยวชาญในการต่อสู้แบบประชิดตัว เมื่อฝึกฝนจนถึงขีดสุด หมัดเดียวสามารถทำให้์ต้องยอมสยบ
ส่วนตระกูลหวังนั้น พวกเขามีความเ็า เ้าเล่ห์ และวิธีการของพวกเขานั้นเน้นการคำนวณมากกว่า
พวกเขาเชี่ยวชาญด้านการลอบสังหารและการพรางตัวอย่างยิ่ง การศึกษาเกี่ยวกับค่ายกลและวิธีการนอกรีตของพวกเขาอยู่ในระดับสูงสุดของอาณาจักรฉีซาน ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังไม่เกรงกลัวต่อการกระทำใดๆ
สำหรับสมาชิกตระกูลหวังที่แทรกซึมเข้าไปในตระกูลหลินเพื่อการลอบสังหารครั้งนี้ พวกเขาคือมือสังหารที่เก่งกาจที่สุดในตระกูล!
พวกเขาเหมือนกับผี และสามารถใช้ค่ายกลบางส่วนของตระกูลหลินเพื่อปกปิดร่างกายของตนเองได้
นอกจากบรรพชนของตระกูลหลินที่กำลังบ่มเพาะอยู่หรืออัจฉริยะอย่างหลินฮ่าวแล้ว แทบไม่มีใครจากตระกูลหลินที่สามารถค้นพบมือสังหารระดับสูงจากตระกูลหวังได้!
หวังเฉียนคุนก็เป็หนึ่งในมือสังหารระดับสูงของตระกูลหวังเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น ในฐานะผู้นำตระกูล ระดับการฝึกฝนและวิธีการของเขานั้นทรงพลังเป็พิเศษ
แท้จริงแล้ว ก่อนที่เขาจะได้เป็ผู้นำตระกูล หวังเฉียนคุนก็คือมือสังหารระดับสูงสุดของตระกูลหวังเมื่อร้อยปีก่อน
ในยามค่ำคืนอันมืดมิด หวังเฉียนคุนก็เหมือนกับหมอกควันสีดำ ล่องลอยอยู่ในอากาศไปกับสายลม
ไม่นาน เขาก็ปรากฏตัวอย่างช้าๆ อยู่เบื้องหน้าตำหนักที่ส่องสว่างไสว หวังเฉียนคุนหรี่ตาลง
นี่คือสถานที่ที่มีพลังปราณเข้มข้นที่สุดในตระกูลหลิน นี่หรือคือที่ที่เหล่าอัจฉริยะรุ่นใหม่ของตระกูลหลินอาศัยอยู่…?
หลังจากหลีกเลี่ยงสมาชิกตระกูลหลินที่กำลังลาดตระเวนอย่างระมัดระวัง หวังเฉียนคุนก็เปลี่ยนเป็เงาสีดำและแทรกซึมเข้าไปอย่างรวดเร็วผ่านช่องโหว่ของค่ายกล
ตำหนักต่างๆ ส่องสว่างไสว เด็กหลายร้อยคนที่มีอายุราวสิบสามหรือสิบสี่ปี กำลังนั่งบ่มเพาะอยู่ในตำหนัก ฟังคำสั่งสอนจากเหล่าผู้าุโ
หวังเฉียนคุนหยุดนิ่งอยู่บนคานหลังคาอย่างเงียบเชียบ เขาควบคุมลมหายใจและพลังปราณได้อย่างสมบูรณ์ ราวกับงูพิษที่กำลังสังเกตการณ์และเลือกเป้าหมาย
ด้วยััอันเฉียบแหลม หวังเฉียนคุนเลือกเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากฟังคำสอนเสร็จในคืนนั้น หวังเฉียนคุนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วตามร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งไป
เขาคือเด็กหนุ่มคนนึงที่ผู้าุโของตระกูลหลินยกย่องอย่างสูง กล่าวกันว่าเขาเป็อัจฉริยะผู้มีพร์ที่สุดในรอบร้อยปีของตระกูลหลิน แต่หลังจากสังเกตการณ์ตลอดทาง หวังเฉียนคุนก็เยาะเย้ย
อายุเพียงสิบสามปี แต่กลับมีพลังระดับกายาขั้นที่หกหรือ? สมควรได้รับการขนานนามว่าเป็อัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดในตระกูลหลินในรอบร้อยปีจริงหรือ? ปัญหาการฝึกฝนที่ชายชราของตระกูลหลินกล่าวถึงนั้นไม่ใช่พื้นฐานที่สุดหรือ? ต้องรู้ไว้ว่าบุตรชายของเขา หวังเถิงเฟย เข้าใจมันได้อย่างง่ายดายั้แ่อายุห้าขวบ!
“ข้าไม่คิดว่าเขาจะเป็คนนั้น ข้าจะไปดูคนอื่นๆ” หวังเฉียนคุนเยาะเย้ยแล้วเปลี่ยนเป็เงาสีดำที่พุ่งไปหาคนอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม หลังจากหวังเฉียนคุนค้นหาคนอื่นๆ เพื่อสังเกตการณ์ เขาก็รู้สึกขยะแขยงเป็อย่างยิ่ง!
พวกเขาเป็ขยะอะไรกัน? คนเหล่านี้ถือว่าเป็อัจฉริยะหนุ่มหรือ? พวกเขามีอายุมากกว่าสิบปี และส่วนใหญ่มีพลังอยู่ที่ขั้น6หรือ7ของระดับหลอมกายา? แน่นอน ถ้าเป็ตระกูลธรรมดา มันก็ถือว่าไม่เลว! แม้กระทั่งในกลุ่มใหญ่เช่นตระกูลหวังและตระกูลหลิน พวกเขาก็อาจถูกเรียกว่าอัจฉริยะ
อย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้ที่อยู่ในขั้น6หรือ7ของระดับหลอมกายา สมควรได้รับการขนานนามว่าเป็อัจฉริยะหนุ่มที่โดดเด่นที่สุดของตระกูลหลินหรือ? พวกเขายังไม่คู่ควรที่จะเปรียบเทียบกับบุตรชายของเขา หวังเถิงเฟย!
แน่นอนว่ามีอัจฉริยะระดับนี้มากมายในตระกูลหลิน แต่พวกเขาก็เป็เพียงขยะเมื่อเทียบกับบุตรชายของเขา หวังเถิงเฟย พวกเขาถูกกำหนดให้ไร้อำนาจและไม่สามารถต้านทานการโจมตีของบุตรชายเขาได้แม้แต่ครั้งเดียว!
หวังเฉียนคุนเยาะเย้ยแล้วขยายขอบเขตการค้นหาต่อไปเพื่อค้นหาที่อยู่ของบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลหลิน
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าหวังเฉียนคุนจะค้นหาอย่างไร เขาก็ไม่ผู้มีพร์สูงสุดจากตระกูลหลินเลย! พวกเขาทั้งหมดเป็คนธรรมดาและไม่เกี่ยวข้องกับอัจฉริยะเลย!
ไม่ใช่แค่หวังเฉียนคุนเท่านั้น แต่บรรดามือสังหารตระกูลหวังคนอื่นๆ ก็ตกตะลึงเช่นกัน! บุตรศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลหลินไม่ได้อยู่ที่นี่หรือ? เขาอยู่ที่ไหน?
รุ่นเยาว์ทั้งหมดของตระกูลหลินเข้าเรียน และไม่มีใครโดดเด่นเลย! ตระกูลหลินมีอัจฉริยะจริงๆ หรือ? บุตรศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลหลินอยู่ที่ไหน?
หวังเฉียนคุนและกลุ่มมือสังหารจากตระกูลหวังค้นหาบุตรศักดิ์สิทธิ์อย่างบ้าคลั่ง แต่พวกเขาไม่พบเบาะแสใดๆ!
พวกเขายังลักพาตัวและสอบสวนคนเ่าั้อย่างระมัดระวัง อัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดของคนรุ่นใหม่คือคนที่หวังเฉียนคุนเลือกเป็คนแรก! อย่างไรก็ตาม บุคคลนั้นไม่คู่ควรที่จะถูกเรียกว่าอัจฉริยะเลย!
“เขาอยู่ที่ไหน?”
ขณะที่หวังเฉียนคุนรู้สึกกังวล เรือบินลำหนึ่งก็บินลงมาจากระยะไกล
ในตระกูลหลิน ผู้าุโหลายคนรีบบินขึ้นฟ้าและเปิดค่ายกลป้องกันด้วยตนเองเพื่อต้อนรับการกลับมาของเรือลำนั้น!
“หลินเป่า! เ้ากล้าพาบุตรชายผู้ศักดิ์สิทธิ์ของเราไปยังแดนรกร้างโบราณจริงๆ!”
“ฮ่าๆๆ! อย่าไปสนใจมากนักเลย ดีแล้วที่บุตรศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลของข้ากลับมาอย่างปลอดภัย!”
บรรดาบรรพชนบางคนโกรธจัด บางคนหัวเราะลั่น ขณะที่บางคนแสดงสีหน้างุนงง
“โอ้? หลินเป่า แท่นบูชาโบราณ ที่เ้าลากมานั่นคืออะไร?”
“มันเป็เื่ยาว” หลินเป่ายิ้มอย่างขมขื่น
บนเรือเหาะ มีคนปรากฏตัวและสนทนากัน
เบื้องล่าง บรรดามือสังหารตระกูลหวังที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมต่างๆ ของตระกูลหลินต่างก็ตัวแข็ง! อัจฉริยะของตระกูลหลินอยู่บนเรือลำนั้นหรือ?!
