กูเฟยเยี่ยนยิ้มเ้าเล่ห์และดีอกดีใจพลางจ้องมองจวินจิ่วเฉินเหมือนกับเด็กน้อยที่กำลังจะแอบกินลูกอม
จวินจิ่วเฉินได้ยินที่นางพูดออกมาอย่างชัดเจนทุกคำ ทว่าไม่เคลื่อนไหวใดๆ
กูเฟยเยี่ยนไม่พักผ่อนดีๆ แล้วยังมาพูดมากไม่หยุดอีก
“นายก้อนน้ำแข็งเหม็น เ้าคือองค์ชายแปดจวินฮั่นหยิ่นใช่หรือไม่? เ้ามีความสัมพันธ์อันดีกับเฉิงอี้เฟยใช่หรือไม่? การที่เ้าปิดบังตัวตนแล้วแทรกมือเข้ามาในคดีนี้เป็เพราะ้าทำอะไรกัน? ”
“ปิดบังตัวตน…เ้ามีแผนการอื่นหรือ? ”
“เปิ่นกูเหนียงขอเตือนเ้าไว้หน่อยว่าหากเ้ากล้าวางแผนอะไรถึงจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย เปิ่นกูเหนียงจะไม่มีวันปล่อยเ้าไปแน่! ”
เมื่อนางพูดมาถึงตรงนี้นางก็ได้หันไปมองจวินจิ่วเฉินอีกครั้งด้วยั์ตาที่หรี่ลงอย่างช้าๆ เผยกลิ่นอายความอันตรายออกมา แต่ในวินาทีนี้เองจู่ๆ จวินจิ่วเฉินก็ลืมตาขึ้นมาสบตากับหญิงสาวตรงหน้า ถ้าพูดให้ถูกต้องก็คือ…สบประมาทนาง
บัดนี้กูเฟยเยี่ยนตกตะลึงมาก สีหน้าของหญิงสาวเกิดความแข็งทื่อโดยต้องใช้เวลาสักพักถึงจะได้สติกลับมา
“เ้า นี่เ้า…”
เดิมทีจวินจิ่วเฉิน้าพักผ่อนร่างกายระยะหนึ่ง รอให้หญิงสาวคนนี้เข้ามาถอดหน้ากาก เขาค่อยสกัดกั้นนางก็ไม่สาย ทว่านางพูดมากไม่หยุดเช่นนี้เขาจึงพักผ่อนไม่ได้เลย
“ให้ตายสิ! เ้าหลอกข้า เ้าไม่ได้สลบไสล! ” กูเฟยเยี่ยนรีบกรอกสติเข้าไปในหัวสมอง
ประสิทธิภาพของยาถอนพิษนั้นเห็นผลได้เร็วมากทว่าก็ไม่เร็วถึงขั้นนี้ เห็นได้ชัดว่าร่างกายของหมอนี่อ่อนแรงแต่สติเขายังดีอยู่ จึงมีความเป็ไปได้เพียงข้อเดียวว่าเขาเพียงแค่อ่อนแรงแต่ไม่ได้สลบไสลไม่ได้สติ!
ดีเหลือเกิน!
เมื่อสักครู่นี้นางกังวลมากแต่ไม่นึกเลยว่าเขาจะหลอกนางเช่นนี้!
“หลอกลวง! ”
กูเฟยเยี่ยนโมโหจนต้องกัดฟันลุกขึ้นยืนพลางก้าวเดินเข้าไปทีละก้าว นางไม่เชื่อว่าภายในระยะเวลาอันสั้นนี้เรี่ยวแรงของเขาจะฟื้นกลับมามากมาย นางจะดึงหน้ากากเขาออกในตอนนี้เลย!
แต่ใครจะไปทราบว่าจวินจิ่วเฉินจะลุกขึ้นนั่งพร้อมกับปัดละอองฝุ่นออกจากร่างกายอย่างเชื่องช้า ก่อนจะลูบเส้นผมสีดำอันยุ่งเหยิงให้เข้าที่ โดยที่การกระทำทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนไม่สนใจการเข้าใกล้ของนาง
กูเฟยเยี่ยนหยุดเดินกะทันหัน นางเกิดความตกตะลึงและคาดไม่ถึงเป็อย่างยิ่ง
ร่างกายของหมอนี่ไม่เพียงแค่ทนพิษได้ดีแล้ว แต่ยังดูดซึมประสิทธิภาพของยาได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย! ร่างกายแบบนี้มันจะไม่ดีเกินไปหน่อยหรือ?
หญิงสาวเสียใจมากเหลือเกิน หลังจากที่นำยาถอนพิษออกมาจากหวางเป่าติงเมื่อสักครู่นี้ นางไม่ควรใช้ยานี้กับเขาในทันที แต่ควรที่จะดูหน้าตาเขาก่อนแล้วค่อยให้เขาทานยา! ์ทราบดีว่าเมื่อสักครู่นี้นางรีบร้อนอะไรกัน?
กูเฟยเยี่ยนกระทืบเท้าด้วยความโกรธ ใบหน้าบูดบึ้งเอ่ยพึมพำออกมา “คนหลอกลวง…”
จวินจิ่วเฉินก้มหน้าก้มตาจัดระเบียบเสื้อผ้า เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา แต่น่าเสียดายที่กูเฟยเยี่ยนมองไม่เห็น หลังจากที่เขาจัดเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็หันไปมองนางราวกับลังเลเล็กน้อย ทว่าก็ยังเอ่ยพูดออกมา “เมื่อครู่นี้ที่เ้ารีบร้อนเป็เพราะ…เพราะกลัวว่าข้าจะตายหรือ? ”
กูเฟยเยี่ยนไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเมื่อสักครู่นี้ตนเองรีบร้อนไปทำไม!
นางคิดว่าจะต้องเป็เพราะจรรยาบรรณแพทย์และสัญชาตญาณแพทย์ของตนเองที่ยอดเยี่ยมมากเกินไปแน่ๆ
นางนั่งขัดสมาธิลงด้านข้างด้วยความไม่พอใจ สายตาเหม่อมองไปทางปากถ้ำพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง “ถ้าเ้าตายไปเปิ่นกูเหนียงจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร?” จวินจิ่วเฉินตอบกลับมาเพียงแค่ “อืม” แล้วก็เงียบไป
ทว่ากูเฟยเยี่ยนมองเขาด้วยความจริงจังพลันโยนคำถามไปให้เขา “นายก้อนน้ำแข็งเหม็น เ้าโดนจิ้งจอกเฒ่าวางยาพิษใช่หรือไม่? เขาบอกว่าเขาเกือบจะตายในเงื้อมดาบของเ้า เ้าคงจะไม่ได้ไล่ตามทางมาจนถึงที่นี่หรอกใช่ไหม? เ้าไปได้เม็ดยาตัวนั้นมาจากที่ใดกัน? เ้าจับจ้องเื่นี้มาโดยตลอด เ้า้าทำอะไรกันแน่? หากเ้าไม่บอกข้า เมื่อข้ากลับไปแล้วจะไปบอกเฉิงอี้เฟย! ”
จวินจิ่วเฉินไม่ได้ตอบคำถามนางแต่ย้อนถามกลับไป “เ้าหลบหนีออกมาได้อย่างไร? ไป๋หลี่ิชวนไม่…ไม่ได้ทำร้ายเ้าใช่หรือไม่? ”
“ไป๋หลี่ิชวน! องค์ชายสามแห่งว่านจิ้น? ”
แค่เพียงครู่เดียวกูเฟยเยี่ยนก็เข้าใจได้ทันที นางคาดเดามาโดยตลอดว่าถ้าจิ้งจอกเฒ่าไม่ใช่คนของว่านจิ้นก็ต้องเป็คนของไป๋ฉู่ ทว่าหาได้นึกไปถึงราชวงศ์เลย
นางทราบเื่ราวของไป๋หลี่ิชวน หมอนั่นขึ้นชื่อว่าเป็บุตรชายที่ไม่เอาไหนของราชวงศ์ไป๋หลี่ และขึ้นชื่อว่าเป็บุตรชายที่ไม่เอาไหนที่สุดในดินแดนเสวียนคง! มีข่าวลือมาว่าเขามั่วโลกีย์และถลุงเงินโดยไม่มีที่สิ้นสุด ชายารองในนามก็มีมากกว่าบิดาของเขาที่เป็ถึงฮ่องเต้เสียอีก
นางควรคิดได้ั้แ่แรกแล้ว!
ดูเหมือนจวินจิ่วเฉินจะรีบร้อนเล็กน้อยเพราะเขาเอ่ยถามอีกครั้ง “ทำไม? ถูกรังแกหรือ? ”
ทันใดนั้นกูเฟยเยี่ยนก็หัวเราะออกมาดังลั่นเพราะนึกถึงเหตุการณ์ของพิษหยินหยาง นางอยากจะหัวเราะแล้วดีใจไปกับเื่นี้จริงๆ
“การที่จะรังแกเปิ่นกูเหนียงได้มันไม่ง่ายขนาดนั้น หึๆ เขายังอยู่ภายในหุบเขา ออกมาไม่ได้ และ…และจะตายอย่างอนาถมาก! ”
จวินจิ่วเฉินไม่เข้าใจ “หมายความว่าอย่างไร? ”
กูเฟยเยี่ยนหรี่ตาลงพลางหัวเราะอย่างลับๆล่อๆ “์รับรู้ เขารับรู้ ข้ารับรู้ แต่ไม่บอกเ้าหรอก! ”
แม้ว่าจวินจิ่วเฉินจะสงสัยแต่เมื่อเห็นนางยิ้มแย้มถึงเพียงนี้ เขาจึงทราบว่านางไม่ได้ถูกเอารัดเอาเปรียบอะไร ชายหนุ่มลอบถอนหายใจออกมา ไม่ได้ถามต่อ แต่ลุกขึ้นเดินไปทางปากถ้ำ “ไปกันเถอะ ข้าจะส่งเ้าออกไปจากเขา”
ดวงตาของกูเฟยเยี่ยนทอประกายความสงสัย นางไม่ได้เดินตามขึ้นไปแต่ะโออกมาโดยไม่ได้คาดคิดมาก่อน “องค์ชายแปด! ”
จวินจิ่วเฉินไม่ได้หยุดลง เมื่อเขาเดินไปถึงปากถ้ำก็ได้เอ่ยออกมา “ดูท่าว่าเ้าอยากที่จะอยู่ต่อ”
การหยั่งเชิงของกูเฟยเยี่ยนล้มเหลว นางมองไม่ออกว่าปฏิกิริยาตอบสนองของเขาคือการหลบหลีกหรือไม่เห็นด้วย
นาง้าอยู่ที่นี่คนเดียวซะที่ไหน นางจึงรีบตามไปพร้อมกับเจตนาหยั่งเชิง “องค์ชายแปด อย่ามามีแผนร้ายอะไรกับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยนะ มิฉะนั้นแล้ว…เ้าจะเสียใจในภายหลังแน่! ”
จวินจิ่วเฉินหันกลับมามองราวกับอยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ได้พูด เขาเพียงแค่ยื่นมือไปหานาง
กูเฟยเยี่ยนไม่ค่อยพอใจนักจึงไม่ขยับเขยื้อน เขาจึงโอบเอวของนางเข้ามาที่ตัวพลันทะยานลงจากหน้าผา
กูเฟยเยี่ยนทำหน้าบูดบึ้ง หญิงสาวแอบคิดว่าตนเองจะต้องเรียนรู้ศิลปะป้องกันตัวบางอย่างเอาไว้ด้วย จะได้ไม่ต้องถูกเอารัดเอาเปรียบตลอด!
ทั้งสองคนต่างก็ปิดปากเงียบ ในขณะที่ใกล้จะถึงพื้นดิน จวินจิ่วเฉินก็เอ่ยออกมาว่า “กูเฟยเยี่ยน เ้าปกป้องจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยขนาดนี้ไปทำไม? กูเฟยเยี่ยนตอบกลับมาโดยไม่คิดแม้แต่น้อย “เป็เพราะว่าข้าชอบเขา! ”
จวินจิ่วเฉินตกตะลึงและพูดอะไรไม่ออก เขาถึงกับโอบกอดนางแรงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
กูเฟยเยี่ยนรับรู้ได้ทันที นางพยายามดิ้นรนพลางเอ่ยด้วยความโกรธเคือง “เ้าล้ำเส้นเกินไปแล้วนะ! ”
ทันทีที่ถึงพื้นกูเฟยเยี่ยนก็ผลักเขาออกอย่างแรงด้วยแววตารังเกียจ นางลอบคิดว่าถ้าจิ้งจอกเฒ่าถูกจับได้แล้ว สิ่งต่อไปที่นางต้องทำก็คือคิดหาวิธีในการเตือนจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยถึงการมีอยู่ของชายผู้นี้!
จวินจิ่วเฉินไม่ได้ทำให้นางลำบากใจอีกต่อไป “เดินตามแม่น้ำสายนี้ไปก็จะสามารถออกจากลำธารลึกนี้ได้ ทหารของเฉิงอี้เฟยอยู่ด้านนอก
หลังจากที่เขาพูดจบก็หันหลังเดินจากไป
ในขณะที่เขาอยู่ภายในถ้ำก็ได้ส่งสัญญาณลับไปบอกหมางจ้งว่าเขาช่วยชีวิตนางได้แล้ว บัดนี้ทหารของเฉิงอี้เฟยน่าจะใกล้ล้อมรอบเข้ามาแล้ว
กูเฟยเยี่ยนคิดไม่ถึงว่าชายผู้นี้จะปล่อยนางไปอย่างง่ายดาย นางกำลังจะเดินจากไปแต่จวินจิ่วเฉินได้หันกลับมาถามว่า “กูเฟยเยี่ยน เ้าชอบอะไรในตัวจิ้งหวาง? ”
กูเฟยเยี่ยนประหลาดใจเล็กน้อยแต่ก็ตอบไปอย่างไม่ลังเล “ชอบทุกอย่างเลย! ข้าขอเตือนเ้าไว้ว่าอย่ามาคิดวางแผนอะไรต่อเตี้ยนเซี่ยของข้านะ! ”
จวินจิ่วเฉินไม่ได้ถามต่อ เขาหันหลังก้าวพลางก้าวเดินไปออกไป มุมปากปรากฏถึงรอยยิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่ทราบว่ายามนี้ตนเองยิ้มแย้มด้วยความดีใจมากเพียงใด
กูเฟยเยี่ยนก็หันไปอีกทางแล้วเดินออกไป นางถอนหายใจออกมาพลางบ่นพึมพำ “น่าเสียดายที่ระยะเวลาสามเดือนใกล้จะมาถึงแล้ว…”
หญิงสาวนึกไปถึงคำพูดของเซี่ยเสี่ยวหม่าน หากว่าคุณหนูสามตระกูลหานเป็พระชายาเอกของจิ้งหวางจริงๆ นางจะอยู่ที่จิ้งหวางฝู่ต่อทำไม? ไม่ได้รับการปกป้องแล้วยังต้องพบเจอปัญหาอีก นางไปที่หุบเขาเสินหนงดีกว่า สะดวกต่อการตามหาความลับของปิงไห่อีกด้วย
นางชื่นชอบจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยก็จริง แต่ก็แค่เคารพนับถือเท่านั้น หลังจากที่ปกป้องเพื่อตอบแทนบุญคุณแล้วนางก็ต้องพิจารณาเื่ของตัวเอง…