หวังเทียนจั๋ว เฟิงเหยาเมื่อเข้าไปภายในคฤหาสน์ตระกูลหลิงก็ได้พบกับลูกหลานตระกูลหลิงมากมายอยู่ในสภาพสะบักสะบอม
ตอนที่หลิงเทียนป้าฝืนยืนต้อนรับ หวังเทียนจั๋วก็ได้ถามด้วยน้ำเสียงเ็า
“เ้าเป็ใคร? ประมุขตระกูลหลิงอยู่ที่ไหน?”
“ข้านี่แหละประมุขตระกูลหลิง”
หลิงเทียนป้าที่กำลังฝืนกับอาการเืลมไหลเวียนไม่สะดวกอยู่ก็ได้กล่าวขึ้น
“วิถียุทธ์ขั้นเก้า ในูเาตระกูลหลิงไม่มียอดฝีมือระดับิญญาแท้อยู่เลยจริงๆ ด้วย แต่เ้าที่เป็ถึงประมุขทำไมมีสภาพสะบักสะบอมขนาดนี้?”
“คุณชายท่านนี้ ไม่ทราบว่าท่านคือ?”
หลิงเทียนป้าถามอย่างระมัดระวัง
“เขาคือคุณชายตระกูลหวังแห่งเขตพระราชฐาน หวังเทียนจั๋ว!”
หลิ่วิเฉิงที่อยู่ข้างๆ ก็พูดอย่างภาคภูมิใจ
“พวกเรามาที่ตระกูลหลิงเพื่อตามหาคนคนหนึ่ง หลงอวี้ เ้าเคยได้ยินไหม?”
“หลงอวี้!”
หลิงเทียนป้าตื่นตะลึง
พวกคนของตระกูลหลิงทั้งหลายถูกมหาพลังสยบฟ้าของหลงอวี้เล่นงานเสียจนสะบักสะบอมเช่นนี้แหละ จะไม่เคยได้ยินชื่อหลงอวี้ได้อย่างไร?
หลิงเทียนป้าตอนนี้รู้แค่ว่าหลงอวี้นั้นเป็สหายสนิทของหลิงหานที่รู้จักในลัทธิสยบฟ้า แต่ไม่รู้เื่อื่นๆ ของหลงอวี้เลย
พอได้ยินว่าหวังเทียนจั๋วจากตระกูลหวังนี่มาหาหลงอวี้ ความคิดเขาก็แล่นทันที
‘ดูเหมือนว่าจะมาหาเื่เ้าหลงอวี้นั่นเลย!’
หลิงเทียนป้าคิดในใจเช่นนั้น รีบตอบรับกลับไปทันที
“เคยได้ยิน ย่อมเคยได้ยินอยู่แล้ว เ้าหลงอวี้เป็โจรร้ายที่ชั่วช้าอำมหิตชัดๆ!”
หวังเทียนจั๋วและหลิ่วิเฉิงหันมาสบตากัน หลิ่วิเฉิงพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเอ่ยถามต่อ
“หลงอวี้เติบโตขึ้นที่ตระกูลหลิงของเ้าหรือเปล่า?”
หลังถามออกไป เฟิงเหยาที่อยู่ข้างๆ ก็รู้สึกประหลาดใจทันที
หลงอวี้เติบโตทีู่เาตระกูลหลิง?
จู่ๆ เฟิงเหยาก็นึกขึ้นได้ เกี่ยวกับชาติกำเนิดของหลงอวี้นั้น มันที่อยู่ในตระกูลเฟิงนานขนาดนั้น บิดาของนางเฟิงฉางเกอกลับไม่เคยพูดถึงเลยแม้แต่ครั้งเดียว เหมือนจะมีความลับอะไรบางอย่าง รู้แค่ว่าถูกตระกูลอะไรสักอย่างในเขตพระราชฐานขับไล่ จากนั้นก็ถูกเฟิงฉางเกอรับกลับมาดูแลที่ตระกูลเฟิง
หรือว่า ชาติกำเนิดของหลงอวี้จะมีความสำคัญใหญ่หลวง?
เฟิงเหยาที่ครุ่นคิดอยู่ข้างๆ ไม่ได้แสดงสีหน้า ตอนนี้นางแค่กำลังใช้งานหวังเทียนจั๋วเท่านั้น ย่อมไม่มีทางบอกข้อมูลอะไรให้อีกฝ่ายอยู่แล้ว
แม้เฟิงเหยาจะไม่สบอารมณ์กับหลงอวี้ แต่กับหวังเทียนจั๋ว เห็นได้ชัดว่านางไม่ชอบมันมากยิ่งกว่า!
“หลงอวี้อยู่ทีู่เาตระกูลหลิงข้า...”
หลิงเทียนป้ารู้สึกประหลาดใจ ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยได้ยินเื่ของเ้าหลงอวี้ แล้วเ้าหนูนั่นจะมาโตทีู่เาตระกูลหลิงได้อย่างไร?
แต่เขาคิดเพียงครู่เดียวเท่านั้นก็กลอกตาเล็กน้อยแล้วถามกลับ
“คุณชายท่านนี้ ท่านตามหาหลงอวี้ หรือว่าจะเป็สหายของเขา?”
“สหายกับผีสิ ข้าหามันเพราะจะขยี้มันต่างหาก!”
หลิวิเฉิงตอบกลับอย่างเ็า
“อ๋ออ๋อ”
หลิงเทียนป้ารู้สึกยินดี มันมาหาเื่เ้าหลงอวี้จริงๆ ด้วย!
“มันเป็คนของตระกูลหลิงเราจริงๆ แต่น่าเสียดายที่มันไปลัทธิสยบฟ้ามาพักหนึ่งแล้ว พอกลับมาก็เปลี่ยนไปไม่เห็นหัวใครในสายตาเลย ยโสโอหังจนน่าเจ็บใจ หากคุณชายท่านนี้ได้พบมัน ท่านต้องช่วยกำจัดมันเพื่อชำระมลทินให้ตระกูลหลิงเราด้วยนะ! เมื่อกี้นี้พวกเราก็ถูกมันทำร้ายจนาเ็นี่แหละ เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ!”
หลังพูดประโยคนี้ออกไป หลิงเทียนป้าก็โล่งใจขึ้นมา
ที่เขาพูดแบบนี้ก็เพราะว่าเขากลัวว่าพอหวังเทียนจั๋วรู้ว่าหลงอวี้เป็คนของลัทธิสยบฟ้าแล้วจะไม่กล้าลงมือ
พอตอนนี้เขาบอกว่าหลงอวี้เป็คนของตระกูลหลิงแล้ว แม้แต่ตัวเขาที่เป็ประมุขยังเอ่ยปากขอร้อง เมื่อถึงเวลาที่ลงมือได้ มันต้องลงมือบดขยี้เ้าหลงอวี้อย่างไม่ลังเลแน่นอน!
หลิงเทียนป้ารวมกับเหล่าลูกหลานตระกูลหลิงล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลงอวี้ หากเขาคิดจะกู้หน้าคืน ก็ได้แต่ต้องหยิบยืมมือคนอื่นเท่านั้น
หวังเทียนจั๋วคาดไม่ถึงอยู่แล้วว่าตัวเองได้กลายเป็ ‘ดาบ’ ที่หลิงเทียนป้า ‘ยืมใช้’ ตอนนี้เขาได้ยินคำพูดของหลิงเทียนป้า ก็พลันกระแทกเสียงเ็าออกมาทันที
“ไม่คิดเลยว่าไอ้หมอนั่นจะเป็วัวลืมตีนแบบนี้ ตอนนี้พวกมันอยู่ไหน? ดูจากสภาพของพวกเ้าแล้ว พวกมันน่าจะยังไปไหนได้ไม่ไกลสินะ”
“พวกมันน่าจะเข้าไปในูเาแล้ว เหมือนว่าจะไปชิงเศษชิ้นส่วนจันทรา”
หลิงเทียนป้าตอบกลับอย่างนอบน้อม
“พวกเราไป”
หวังเทียนจั๋วได้ข้อมูลแล้วก็รีบออกเดินทางต่อทันที
ทั้งห้าคนไปที่หน้าประตูของคฤหาสน์ตระกูลหลิง จากนั้นก็ขี่ม้าแล้วมุ่งหน้าไปทางแหล่งแร่อย่างรวดเร็ว
.......
หลงอวี้ หลิงหาน และหลิงอีเยว่ หลู่กวนิ เหยาเหยี่ยน ทั้งห้าคน ต่างควบม้าตะบึงเข้าใกล้แหล่งแร่ที่ปราณหยินเข้มข้นสุดขีดอย่างรวดเร็ว
แหล่งแร่ผืนนี้เป็เทือกเขาที่ทอดยาวออกแสนไกล มีเทือกเขาเล็กๆ งอกขึ้นมากมาย เพียงแต่มันกลับเป็เทือกเขาโล้นเลี่ยนเตียนโล่งไร้ต้นไม้ใดๆ เจริญเติบโต ดูแห้งแล้งสุดขีด
“จุดที่ปราณหยินเข้มข้นมากที่สุด ก็คือจุดที่เศษชิ้นส่วนเศษชิ้นส่วนจันทราจะถือกำเนิด”
หลิงหานนำทางไปพลางอธิบาย
“ตอนที่คนงานขุดแร่ของูเาตระกูลหลิงบังเอิญมาเจอจุดที่ปราณหยินเข้มข้นสุดขีดนั้น ข่าวลือที่ว่าเศษชิ้นส่วนจันทรากำลังจะปรากฏขึ้นถูกแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว”
หลังจากเข้าใกล้แหล่งแร่ ม้าที่ทั้งห้าคนขี่อยู่ก็หยุดลงกับที่ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่กล้าไปต่อ พวกเขาจึงได้แต่ลงจากหลังม้าแล้วใช้วิธีเดินเท้าแทน
ปราณหยินที่แผ่กระจายอยู่ภายในูเาเป็พิษต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า เหล่าคนงานที่ทำงานขุดแร่ตลอดเวลาจะมีชีวิตความเป็อยู่ย่ำแย่แค่ไหน
ในบรรดาทั้งห้าคน หลิงอีเยว่ที่ระดับพลังต่ำสุดพอััโดนปราณหยินแล้วก็รู้สึกไม่ค่อยสบายขึ้นมาทันที
ยังดีที่หลิงหานฝึกวิชาปราณขาวไพศาล ใช้ปราณขาวไพศาลมาอัดแน่นเป็ม่านพลังสายหนึ่งเพื่อสกัดปราณหยินให้กับหลิงอีเยว่โดยเฉพาะ ทำให้นางรู้สึกดีขึ้นไม่น้อย
“ไปเถิด ตามข้ามา ใน่หลายวันที่ผ่านมาข้าได้หาเส้นทางที่ไปถึงจุดหมายได้เร็วที่สุดเจอเส้นหนึ่งแล้ว”
หลิงหานพูดไปพลาง ก้าวเดินมุ่งหน้าเข้าไปยังจุดที่เศษชิ้นส่วนกำลังจะปรากฏ
ระหว่างยอดเขาเล็กๆ หลายแห่งที่ทอดยาวเชื่อมถึงกันนั้น เส้นทางเดินค่อนข้างซับซ้อนมากๆ เช่นกัน แม้จะไม่มีต้นไม้ใบหญ้าบดบัง แต่ยอดเขาที่งอกขึ้นมามันบดบังการมองเห็นของผู้คนไว้ ไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ไกลออกไปหลายลี้ได้
มีแค่หลิงหานที่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เท่านั้นถึงจะสามารถเดินทางผ่านยอดเขาเล็กๆ เหล่านี้ไปได้อย่างรวดเร็ว
หลังเวลาผ่านไปราวๆ หนึ่งก้านธูปมอดดับแล้ว ทั้งห้าคนก็ได้เข้าไปถึงในส่วนลึกของยอดเขาเล็กๆ ทั้งหลายแล้ว พอกวาดตามองไปก็พบว่ารอบๆ ตัวมีแต่ยอดเขาที่งอกขึ้นมาเท่านั้น บางครั้งก็จะมองเห็นเศษหินกองโตกองอยู่ และมีปราณหยินแทรกซึม!
“ปกติแล้วตอนที่คนขุดเหมืองขุดหาแร่นั้นล้วนต้องขุดหาจากใต้พื้น แต่พวกเราที่จะตามหาเศษชิ้นส่วนนั้นไม่ต้องใช้เส้นทางใต้ดินแล้ว”
หลิงหานอธิบาย จากนั้นก็ขมวดคิ้ว
“ใกล้ๆ นี้เหมือนจะมีคน”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! สมกับเป็อดีตนายน้อยแห่งตระกูลหลิงจริงๆ คุ้นเคยกับพื้นที่ ทั้งยังประสาทััไวไม่เบาเลยทีเดียว!”
เสียงพูดอันแสนโอหังดังขึ้นจากทางด้านหลังเนินเขาเล็กๆ แห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กัน!
ต่อจากนั้นก็มีเงาร่างในชุดสีแดงเพลิงสองสายก้าวเท้าออกมาก่อนจะเดินเข้ามาหาทั้งห้าคน!
หลงอวี้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อครู่นี้เขาย่อมต้องรู้สึกตัวได้ว่ามีคนแอบสะกดรอยตามมาใกล้ๆ แต่ก็เป็เพราะอีกฝ่ายมันปล่อยจิตสังหารออกมาเขาถึงััจิตสังหารของพวกมันได้
หลิงหานน่าจะไม่ได้ััไวต่อจิตสังหารมากขนาดนั้น แล้วรู้ตัวได้อย่างไรว่าใกล้ๆ นี้มีคน?
หลงอวี้แอบมองดูเหยาเหยี่ยนที่อยู่ข้างๆ ก็พบว่าแม้แต่มันก็ยังขมวดคิ้วด้วยท่าทางประหลาดใจ
เห็นได้ชัดเลยว่าแม้จะสร้างิญญาแท้ได้แล้ว แต่เหยาเหยี่ยนก็ยังไม่รู้สึกตัวว่ามีคนสะกดรอยตามมา!
‘ข้าััได้จากจิตสังหาร แต่หลิงหานนั้นน่าจะเป็เพราะััได้ถึงความเคลื่อนไหวของปราณหยินที่อยู่รอบๆ พึ่งพาความคุ้นชินต่อปราณหยินถึงได้ััถึงตัวตนของสองคนนั้นได้ล่ะมั้ง!’
หลงอวี้แอบคาดเดาในใจ จากนั้นก็ประเมินเ้าสองคนนั้นที่กำลังเดินเข้ามา
สองคนนั้นล้วนสวมชุดสีแดงเพลิงที่มีตัวอักษรคำว่า ‘อัคคี’ ตัวโตๆ ปักอยู่บนเสื้อเป็การประกาศฐานะของพวกมันอย่างชัดเจน
“ลูกศิษย์ของตำหนักซ่อนอัคคี!”
พวกหลงอวี้พากันตื่นตะลึง
และที่สำคัญที่สุดก็คือทั้งสองคนนั้นล้วนเป็ยอดฝีมือระดับิญญาแท้ทั้งสิ้น คนหนึ่งขั้นที่หนึ่ง ส่วนอีกคนขั้นที่สองเลยทีเดียว!
เื่นี้ทำให้พวกหลงอวี้เกิดความรู้สึกกังวลขึ้นมา
ยอดฝีมือระดับนั้นมันไม่ใช่ตัวตนที่พวกเขาห้าคนจะต่อกรด้วยได้!
“เป็แค่พวกกระจอกอ่อนแอแต่กลับคิดจะไปแย่งชิงเศษชิ้นส่วนจันทรากันด้วยอย่างนั้นหรือ ฝันลมๆ แล้งๆ ชัดๆ”
คนที่เป็ยอดฝีมือระดับิญญาแท้ขั้นสองนั้นมีรูปร่างผอมแห้ง ดวงตามีขนาดเล็กสุดขีด บนใบหน้าประดับด้วยสีหน้ายียวน
“ข้ามีนามว่า ‘หั่วฝู่’ มาจากตำหนักซ่อนอัคคี นายน้อยตระกูลหลิง เ้าสามารถทิ้งพวกกระจอกเหล่านี้ไปเสียแล้วนำทางข้าไปยังจุดที่เศษชิ้นส่วนจันทรากำลังจะปรากฏขึ้นแทนได้ไหม?”
“หั่วฝู่!”
เหยาเหยี่ยนหน้าถอดสีไปอย่างชัดเจน
“เ้าน่ะหรือหั่วฝู่ บุตรแห่งจ้าวตำหนักซ่อนอัคคี!”
“ไม่คิดเลยว่าจะมีคนรู้จักข้าด้วย นับเป็เกียรติของข้าจริงๆ”
ดวงตาเล็กๆ ของหั่วฝู่ประดับด้วยแววตาเย้ยหยัน
“ในเมื่อเคยได้ยินชื่อข้าแล้ว อย่างนั้นพวกเ้าก็ควรเป็ฝ่ายถอนตัวออกไปเองเสีย แล้วให้นายน้อยตระกูลหลิงมานำทางให้ข้าหั่วฝู่แทนนะ?”
“หั่วฝู่ พวกเราไม่ได้มีเจตนาจะล่วงเกินเ้า โปรดอย่าทำให้พวกเราลำบาก ปล่อยพวกเราไปเถิด!”
เหยาเหยี่ยนที่ได้ยินชื่อของหั่วฝู่ก็แสดงท่าทีอ่อนน้อมให้อีกฝ่ายทันที!
การกระทำเช่นนี้ทำให้พวกคนที่เหลือเกิดความรู้สึกดูถูกเ้าเหยาเหยี่ยนทันที ถึงแม้ว่าไอ้เ้าบ้านี่จะสร้างิญญาแท้ได้แล้ว แต่มันจะไม่ขี้ขลาดมากไปหน่อยหรือ
ทำตัวอ่อนปวกเปียกยอมให้ผู้อื่นรังแกแบบนี้!
“พวกเ้าไปเถิด ข้าไม่ทำอะไรพวกเ้าหรอก!”
หั่วฝู่มองดูผู้คนทั้งหลายด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
“ยังไม่รีบขอบคุณพี่ใหญ่หั่วฝู่กันอีก?”
เหยาเหยี่ยนเอ่ยถามพร้อมกับทำตัวเหิมเกริมขึ้นมาทันที แผดเสียงตะคอกใส่พวกหลงอวี้
“หรือว่า พวกเ้าอยากจะกลายเป็ิญญาใต้เปลวเพลิงของพี่ใหญ่หั่วฝู่กัน?”
“ถ้าเ้าจะไปก็ไปเองเถิดไม่มีใครขวางสักหน่อย”
หลงอวี้กพูดด้วยเสียงเ็า
พออยู่ต่อหน้าศัตรูที่แข็งแกร่ง เหยาเหยี่ยนถึงกับยอมเรียกอีกฝ่ายว่า พี่ใหญ่ เลย ช่างน่าขันให้ฟันร่วง!
“หึ ถ้าเ้าไม่ไปก็รอตายได้เลย พี่ใหญ่หั่วฝู่ไม่ใช่คนใจดีขนาดนั้นหรอกนะ!”
เหยาเหยี่ยนพูดอย่างดูแคลน จากนั้นก็หันไปหาหลิงอีเยวี่ยที่อยู่ด้านหลัง
“ศิษย์น้องอีเยว่ พวกเราไปกันก่อนเถิด ไม่จำเป็ต้องสนใจคนอื่นหรอก ส่วนเื่พี่ชายของเ้า ข้าเชื่อว่าพี่ใหญ่หั่วฝู่ไม่ทำอะไรเขาหรอก!”
“ข้าจะอยู่กับพี่ชายของข้า”
หลิงอีเยว่ส่ายหน้า นางก็เองก็รู้สึกดูถูกเ้าเหยาเหยี่ยนถึงขีดสุดเช่นกัน
“ข้าเตือนพวกเ้าแล้วนะ พวกเ้าอยากตายก็เชิญ แต่ข้าไม่!”
เหยาเหยี่ยนกระแทกเสียงเ็า มองดูท่าทางของหลิงอีเยว่ด้วยความหงุดหงิดสุดขีด
แม้ว่าเขา้าจะหลิงอีเยว่ แต่ก็ไม่ถึงขั้นยอมเป็ปฏิปักษ์กับหั่วฝู่เพื่อหลิงอีเยว่เพียงคนเดียวอยู่แล้ว
เขาเคยได้ยินมาว่าเ้าหั่วฝู่นี่เป็คนที่โหดร้ายป่าเถื่อนสุดขีด หากตกอยู่ในเงื้อมมือของมันล่ะก็ จะต้องทรมานยิ่งกว่าความตายแน่นอน!
เพียงครู่เดียวเขาก็หันหลังเดินจากไปทันที ไม่มีทีท่าว่าจะอยู่ต่อ!
กลุ่มของพวกหลงอวี้ห้าคน พอเข้ามาเจอกับศัตรูกลุ่มแรกแล้วเ้าเหยาเหยี่ยนก็ถอยหนีไปทันทีโดยไม่แม้แต่จะสู้ ทั้งยังทิ้งผู้คนทั้งหมดไปด้วย!
“การไปคาดหวังว่าไอ้คนแบบนี้จะยอมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเรามันช่างเป็เื่ที่สูญเปล่าจริงๆ”
หลิงอีเยว่อดต่อว่าไม่ได้
หั่วฝู่ที่อยู่ตรงหน้าผู้คนเลียริมฝีปากตัวเอง
“พวกเ้านี่มันไม่รู้จักเจียมตัวจริงๆ ข้ากำลังคิดอยู่ว่า จะเผาพวกเ้าให้ตายทั้งเป็ดี หรือว่าจะใช้เปลวเพลิงะเิพวกเ้าเป็ชิ้นๆ ดี!”
พอได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายแล้ว หลิงอีเยว่ก็ตัวสั่นทันที
เ้าหั่วฝู่นี่มันโหดร้ายทารุณเหลือเกิน!
ไม่อยากจะคิดเลย หากหลิงหานนำทางพวกมันเพียงลำพังล่ะก็ จุดจบในท้ายที่สุดจะต้องเลวร้ายมากแน่
“เชิญเ้าเข้ามาลองดูได้เลย!”
หลงอวี้พูดประโยคนี้พร้อมเดินไปอยู่หน้าของพวกหลิงหาน ยืนขวางหน้าของหั่วฝู่เอาไว้!
บัดนี้ เหยาเหยี่ยนได้หนีไปแล้ว ผู้ที่สามารถต่อสู้กับยอดฝีมือระดับิญญาแท้ได้ เหลือแค่หลงอวี้เพียงคนเดียวเท่านั้น!
เขาย่อมไม่มีทางปล่อยให้อีกฝ่ายพาตัวหลิงหานไปแน่!
ความคิดของหลงอวี้วิ่งแล่นอย่างรวดเร็ว การฝืนปะทะตรงๆ ย่อมไม่ใช่เื่ดีแน่ ในสถานการณ์แบบนี้เขาทำได้แค่คอยถ่วงเวลาไว้ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ให้คนอื่นๆ หาโอกาสหนีเท่านั้นแล้ว!
