“เซียวเฉิน ทิ้งผลหยางยาอายุยืนสีม่วงไว้ แล้วข้าจะละเว้นชีวิตเ้า ไม่เช่นนั้น วันนี้จะให้เ้าตายโดยไร้ที่ฝัง”
“ถุย อาศัยพวกเ้า?”
“มีความสามารถก็อย่าหนีสิ พวกเรามาสู้กันสักครั้ง”
“ข้าไม่ใช่คนโง่เสียหน่อย พวกเ้ามีคนมาก ข้ายังจะยืนนิ่งให้พวกเ้าทุบตีหรือ?”
คนกลุ่มนั้นวิ่งหน้าตั้งมาตลอด เ้าพูดทีข้าพูดที ไม่ลดราวาศอกให้กันสักนิด
โฮก!
ในเวลานี้เอง มีเสียงคำรามของสัตว์ดังขึ้น จากนั้นทุกคนก็รู้สึกได้ว่าด้านหลังมีคลื่นความร้อนและไอชั่วร้าย ทุกคนใ สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็ไม่น่าดู
แย่ละ สิงโตสองเศียรเปลวอัคคีกลับมาแล้ว
ทุกคนยิ่งเคียดแค้นเซียวเฉินมากขึ้น
เดิมทีนึกว่าล่อสิงโตสองเศียรเปลวอัคคีไปก็สามารถได้ผลหยางยาอายุยืนสีม่วงหกผลมาไว้ในมือ ตอนนี้กลับดียิ่ง ขโมยไก่ไม่สำเร็จยังเสียข้าวสารไปอีกกำมือ [1] สิงโตสองเศียรเปลวอัคคีกลับมาแล้ว ทุกคนก็ซวยไปตามๆ กัน
เซียวเฉินที่น่าตาย!
ในใจของทุกคนสาปแช่งเซียวเฉินนับหมื่นรอบ แต่เื่เร่งด่วนในตอนนี้กลับเป็การรีบหนีเอาชีวิตรอด
กระทั่งเสิ่นเล่ยก็มีสีหน้าหนักใจ จากนั้นสั่งการว่า “ทุกคนแยกกันหลบหนี ข้าจะไล่ตามเซียวเฉินเพื่อชิงผลหยางยาอายุยืนสีม่วงกลับมา ถึงตอนนั้นค่อยติดต่อพวกเ้า” เอ่ยจบก็หันกายไล่ตามไป ความเร็วนั้นว่องไวอย่างประหลาด พริบตาเดียวก็หายลับ ส่วนคนอื่นๆ ต่างเชื่อฟังคำสั่งของเสิ่นเล่ย หนีเอาชีวิตรอดสำคัญกว่า
ฟุ่บฟุ่บ!
ทุกคนหนีไปรอบด้าน สิงโตสองเศียรเปลวอัคคีกลับเหมือนไม่มีความคิดจะไล่ตามพวกเขา ทว่าไล่ตามไปทางเซียวเฉินแทน เพราะทิศทางนั้นมีกลิ่นของผลหยางยาอายุยืนสีม่วง!
โฮก!
สิงโตสองเศียรเปลวอัคคีร้องคำราม ใต้ฝ่าเท้ามีไฟลุก กลายเป็เงาตกค้างพุ่งทะยานไป สัตว์ปิศาจระดับเจ็ดเทียบได้กับผู้เข้มแข็งขั้นเสวียนฟ้า ความเร็วยิ่งไม่ใช่ความสามารถขั้นตานฟ้าจะเทียบได้
ไม่กี่อึดใจก็ไล่ตามเงาหลังของเซียวเฉินและเสิ่นเล่ยทัน
ด้านหลังของเซียวเฉินมีเสิ่นเล่ยที่ไล่ตามไม่ลดละ ส่วนด้านหลังของเสิ่นเล่ยก็มีสิงโตสองเศียรเปลวอัคคีที่ไล่ตามไม่เลิกรา
สองคนหนึ่งเดรัจฉานไม่รู้ว่าวิ่งไปไกลเพียงใด
เซียวเฉินก็จนใจ
“ข้าว่านะ เ้าอย่าไล่ตามข้ามาได้หรือไม่ ก็แค่ผลไม้ิญญาไม่กี่ผล รอกลับถึงสถานศึกษาแล้ว ข้าจะเอาแอปเปิลให้เ้าหนึ่งตะกร้าแล้วพวกเราหายกัน เป็อย่างไร?”
เสิ่นเล่ยสีหน้าเย็นเยียบ ไม่หวั่นไหว
“เซียวเฉิน เอาผลไม้ิญญามานะ”
เซียวเฉินหันหน้าไปมองดูแวบหนึ่งก็ใ เอ่ยว่า “ข้าว่านะพี่สาว เ้าไม่รู้สึกว่าด้านหลังมีตัวอะไรกำลังไล่ตามเ้าอยู่หรือ ดูสถานการณ์ก่อนได้หรือไม่!” เมื่อเสิ่นเล่ยหันหน้าไปมอง ก็เห็นด้านหลังของตนมีสิงโตสองเศียรเปลวอัคคีไล่ตามมาอย่างกระชั้นชิด ดวงตาทอแววดุร้าย
เสิ่นเล่ยพลันมองเซียวเฉิน ลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า “เซียวเฉิน พวกเราจัดการสิงโตสองเศียรเปลวอัคคีก่อนแล้วค่อยมาคิดบัญชีกัน เป็อย่างไร?”
เซียวเฉินไม่ทำแน่นอน นั่นคือสัตว์ปิศาจที่เทียบได้กับขั้นเสวียนฟ้าเชียวนะ เ้านึกว่าแตงกวาหรือ? อย่าว่าแต่พวกเราสองคนเลย ต่อให้มีพวกเราอีกสองคนก็ไม่พอให้ฆ่าแน่ เ้าอยากตายก็อย่าลากข้าไปด้วยสิ
แต่วิ่งหนีแบบนี้ก็มิใช่วิธีที่ดี
เซียวเฉินจงใจผ่อนฝีเท้าลง วิ่งเคียงข้างเสิ่นเล่ย แล้วหันมามองนาง
“เ้าอยู่ขั้นใด?”
เสิ่นเล่ยตอบอย่างเ็า “ขั้นตานฟ้าแปดชั้นฟ้าระดับสูงสุด!”
ขั้นตานฟ้าแปดชั้นฟ้าระดับสูงสุด เซียวเฉินพลันได้ความคิด มีหนทางแล้ว!
อย่างมากที่สุดเ้าเดรัจฉานนั่นก็แค่เพิ่งเข้าขั้นเสวียนฟ้าเท่านั้น ตนเองกับเสิ่นเล่ยอาจจะไม่แพ้!
“อีกสักครู่ข้าจะถ่วงมันไว้ ระดับพลังของเ้าสูงกว่าข้า ดังนั้น เ้าคอยช่วยอยู่ด้านข้างและหาโอกาสฆ่ามันเสีย ตกลงตามนี้” ว่าแล้ว เซียวเฉินก็ชะงักฝีเท้า ะเิแรงัเถื่อนยุคกำเนิดโลกทั้งหมดออกมา พลังมหาศาลหนักห้าพันชั่งมารวมอยู่ที่กำปั้นทั้งสองข้าง แววตาแน่วแน่ กระทืบเท้า โจมตีด้วยสองหมัดโดยไม่ออมรั้งยั้งมือ ผืนดินแตกทลาย พลังอันน่าสะพรึงเหวี่ยงสิงโตสองเศียรเปลวอัคคีลอยไปในพริบตา เซียวเฉินโจมตีต่อด้วยประทับเทพหงสา เปลวเพลิงพวยพุ่งเข่นฆ่าไป
ชี่ชี่!
ฉ่าฉ่า!
ความเคลื่อนไหวของเซียวเฉินไม่หยุดชะงัก เพราะจะให้มันหยุดพักหายใจไม่ได้ ไม่เช่นนั้นอาจจะถูกมันพลิกเกม
แล้วพวกเขาก็จะตกอยู่ในสภาพถูกกระทำ
เหวี่ยงสิงโตสองเศียรเปลวอัคคีลอยไปกระแทกพื้นอย่างหนักหน่วง กระทั่งหินยังะเืแตกเป็เสี่ยงๆ จากนั้นไม่รอให้รู้สึกตัว เคล็ดวิชาดุดันก็โจมตีลงบนร่างอีก ทำให้สิงโตสองเศียรเปลวอัคคีเดือดดาลทันใด ร้องโหยหวนอย่างเ็ป ส่วนเสิ่นเล่ยทางด้านข้างกลับตะลึงเพราะการจู่โจมของเซียวเฉิน
เขา เป็ขั้นตานฟ้าห้าชั้นฟ้าจริงๆ หรือ...
เซียวเฉินหันไปมองทางเสิ่นเล่ยแล้วคำราม “มัวคิดอะไรอยู่ เ้าคิดจะทำร้ายข้าให้ตายหรือ?”
หลังถูกเซียวเฉินคำรามใส่ เสิ่นเล่ยก็เงียบ ทว่าตั้งใจจับจ้องการต่อสู้ สังเกตบนร่างของสิงโตสองเศียรอย่างเต็มที่ กระบี่ยาวในมือหลุดจากฝัก ปราณกระบี่ดังสะท้อน แสงิญญาปกคลุมราวกับพร้อมโจมตีได้ทุกเมื่อ เซียวเฉินก็รู้สึกได้ถึงจุดนี้ การจู่โจมจึงค่อยๆ ช้าลงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตนเองาเ็
กิ๊ง!
“เซียวเฉิน ถอย” เสิ่นเล่ยกล่าว
เซียวเฉินโจมตีด้วยเคล็ดวิชาอีกครั้งก็เหินกายหนี ส่วนที่เหลือต้องดูเสิ่นเล่ยแล้ว
กระบี่ยาวของเสิ่นเล่ยมีพลังอัสนีปกคลุมในพริบตา กลิ่นอายน่าสะพรึงจนแม้แต่เซียวเฉินก็รู้สึกใจเต้นแรง
จากนั้นเสิ่นเล่ยก็ฟันหนึ่งกระบี่ ชักนำอัสนี์ประหนึ่งทัณฑ์แห่งเทพเ้า
ตูม!
“เคล็ดวิชากระบี่อัสนีเที่ยงแท้ จงผ่า”
อัสนีดั่งจะดับสูญโลกา ผ่ามาจากคมกระบี่ มีประกายสายฟ้าวิ่งพล่าน แสงเจิดจ้าแสบั์ตา สายฟ้าถั่งโถมรวมตัวกันเป็ัวิชชุขนาดั์ เศียรัยกสูง กู่ร้องขึ้นฟ้า เสียงแหลมเสียดหู ประดุจเ้าแห่งสรรพสัตว์ที่แท้จริง
เปรี้ยง!
สายฟ้าผ่าลงบนร่างของสิงโตสองเศียรเปลวอัคคีอย่างแรง เสียงตูมดังสนั่น
ฝุ่นธุลีปกคลุมหนาทึบกลืนกินสัตว์ปิศาจไว้ภายในนั้นทันที
สายตาคนทั้งสองต่างจับจ้อง
“ตายหรือไม่?” เซียวเฉินอดส่งเสียงถามไม่ได้ เสิ่นเล่ยส่ายศีรษะ
“ไม่รู้”
ฟุ่บ!
ในเวลานี้เอง เงาร่างสีโลหิตพุ่งออกมา กรงเล็บแหลมคมตรงเข้าตะปบใส่เสิ่นเล่ย ฉากนี้ทำให้เสิ่นเล่ยใ ถึงกับตะลึงจนไม่รู้สึกตัว เมื่อได้สติคืนมาก็สายไปเสียแล้ว เงาร่างสีโลหิตนั้นก็คือสิงโตสองเศียรเปลวอัคคีที่มีาแเต็มตัว กรงเล็บคมกริบอยู่ตรงเบื้องหน้าแล้ว มิอาจหลบเลี่ยงได้ เสิ่นเล่ยหน้าซีดเผือด มือทั้งสองข้างสั่นสะท้าน หลับตาลงช้าๆ รอคอยความตาย
แต่สิ่งที่ได้มากลับเป็ร่างถูกคนกอดไว้ในอ้อมอกและเสียงครางหนักๆ
เสิ่นเล่ยลืมตาขึ้น เห็นเซียวเฉินกอดตนเองไว้แล้วเหินออกไป แผ่นหลังชุ่มโลหิตสด มีรอยกรงเล็บหลายสายที่ลึกจนเห็นกระดูก โลหิตสดไหลเป็ทาง
“เซียวเฉิน เ้า...”
เซียวเฉินกอดนางไว้แล้วถลึงตาใส่อย่างแรง
“ถ้าอยากตายก็ไม่มีใครห้าม แต่อย่าลากข้าไปด้วย เวลาแบบนี้ยังเหม่อลอยอีก ข้ายอมเ้าจริงๆ เลย”
จากนั้น เซียวเฉินก็หันไปวางเสิ่นเล่ยลงบนพื้นแล้วทะยานออกไป
มือกุมกระบี่ยาวร่ายรำดุจอสรพิษ
ดุดันและทรงพลัง
เซียวเฉินรู้ว่าสิงโตสองเศียรเปลวอัคคีในเวลานี้ถือว่าอยู่ใน่สุดสายป่าน ไม่เช่นนั้นเขาคงได้แต่กอดเสิ่นเล่ยแล้ววิ่งหนีเอาชีวิตรอด
วิ้งวิ้ง!
ใบไม้ร่วงพันสารท ประกายวาบห่านป่าตื่น!
เซียวเฉินใช้คัมภีร์กระบี่ทัณฑ์์กระบวนท่าที่หนึ่งโจมตีใส่ดวงตาทั้งสองข้างของสัตว์ปิศาจอย่างสุดกำลัง
ชี่!
ประกายกระบี่วาบขึ้นเสียดแทงั์ตา เสิ่นเล่ยเห็นเพียงเบื้องหน้ามีแสงสีขาว รอจนรัศมีหายไป ไหล่ของเซียวเฉินมีเืออก ไม่ห่างออกไป กระบี่ยาวปักเข้าหัวของสิงโตสองเศียรเปลวอัคคี สัตว์ปิศาจตัวนั้นสิ้นชีพแล้ว
เซียวเฉินสังหารมัน
เสิ่นเล่ยไม่อยากจะเชื่อ เซียวเฉินที่อยู่ขั้นตานฟ้าห้าชั้นฟ้าถึงกับสังหารสิงโตสองเศียรเปลวอัคคี สัตว์ปิศาจระดับเจ็ดได้!
เซียวเฉินอ้าปากหอบแฮ่กๆ เมื่อฟื้นฟูแล้วก็ลุกขึ้นเดินมาข้างเสิ่นเล่ยช้าๆ เอ่ยว่า “ข้าช่วยชีวิตเ้า ไม่้าให้เ้าตอบแทน ขอแค่เ้าไม่ตามข้ามาอีก ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่เกรงใจ”
เสิ่นเล่ยอึ้งงัน มองเงาหลังของเซียวเฉินแล้วนึกอะไรขึ้นได้
“เซียวเฉิน มอบผลหยางยาอายุยืนสีม่วงมานะ”
เซียวเฉินแทบกระอักโลหิต “เ้ายังจะเอาอีกหรือ...”
---
[1] ขโมยไก่ไม่สำเร็จยังเสียข้าวสารไปอีกกำมือ คือ ทำเื่ราวที่วางแผนไว้ไม่สำเร็จ แถมยังเสียหายด้วย