“ท่านอ๋อง พี่สาวข้า...พี่สาวข้า...” ทันทีที่ฟื้นขึ้นหลินจงอวี้รีบคว้าเข้าที่กางเกงของหลงเทียนอวี้ ก่อนจะส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ
“เ้ามองเห็นหรือไม่ว่าผู้ใดพาตัวนางไป?” คิ้วของหลงเทียนอวี้ขมวดเข้าหากันภายในห้องมีอากาศถ่ายเท ทว่ายังคงหลงเหลือกลิ่นของหมีเซียงดูท่าเถาฮวาอู๋จะเตรียมการมาเป็อย่างดี
เหยียบจมูกเขาถึงถิ่น บังอาจนัก!
“ไม่เห็นพ่ะย่ะค่ะข้าจำได้เพียงแค่ว่าตนเองกำลังนั่งพูดคุยกับพี่สาวอยู่ คุยไปคุยมา อยู่ๆ ข้าก็รู้สึกเวียนหัวจากนั้นพอข้าตื่นขึ้นมาอีกครั้ง พี่สาวก็หายตัวไปแล้ว”
หลินจงอวี้ตีอกชกหัว เหตุใดคนกลุ่มนั้นจึงไม่ลักพาตัวเขาไปด้วย
พี่สาวจะหวาดกลัวหรือไม่?
“หลินขุย รีบพาองครักษ์ไปตรวจสอบที่ท่าเรือใหญ่พ่อบ้านเติ้งไปหาเบาะแสเพิ่มเติม หากไม่มีคนสอดแนมพวกเขาไม่มีทางเข้ามาถึงตำหนักฝ่ายในได้อย่างแน่นอน”
“พ่ะย่ะค่ะ!”
เหลือบมองเตียงว่างเปล่าที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อยอีกทั้งยังมีปิ่นปักผมทิ้งเอาไว้
หลงเทียนอวี้หยิบขึ้นมา ทว่าเขากลับได้เห็นคราบเืจางๆ บนปิ่นอันนั้น
หรือหลินเมิ้งหยาจะไม่ได้ถูกวางยาจนสลบ?
หลินเมิ้งหยาที่ถูกชิงหลวนและฮั่วเฟิงพามายังคุกนั่งอยู่ข้างหน้าต่างด้วยท่าทางเบื่อหน่าย
หากนางทายไม่ผิด ที่นี่คือใต้ท้องเรือ
นางเคาะหน้าต่างใสแจ๋ว วัสดุน่าจะทำมาจากคริสตัล
ด้านนอกของคริสตัลมืดสนิท บางครั้งบางทีก็มีแสงสว่างผ่านให้เห็นหลินเมิ้งหยาตั้งใจมอง ที่นี่...คือโลกใต้น้ำ
์โปรด ทั้งที่ไม่มีวิทยาการสมัยใหม่แต่คนเหล่านี้ทำได้อย่างไรกัน?
ก่อนนั้นทุกคนต่างพากันคาดเดาว่าเถาฮวาอู๋น่าจะอยู่ที่ท่าเรือขนาดใหญ่
แต่ใครจะรู้เล่าว่ารังที่แท้จริงของเถาฮวาอู๋จะหลบซ่อนอยู่ใต้น้ำ
ตอนนี้ความหวังในการหลบหนีเริ่มริบหรี่ลง
“เ้าเด็กน้อย เมื่อเข้ามาที่นี่แล้ว อย่าคิดเลยว่าจะได้กลับออกไป”อยู่ๆ ประตูที่ถูกปิดสนิทก็เปิดออกชิงหูที่มีท่าทางเกียจคร้านปรากฏขึ้นที่หน้าประตู
“เหตุใดข้าต้องหนีด้วยเล่า? ไม่ว่าช้าหรือเร็ว เ้าก็ต้องส่งข้ากลับไปอยู่ดี”
ไร้ซึ่งความหวาดหวั่นหลินเมิ้งหยายังคงนั่งด้วยท่าทางผ่อนคลายอยู่ข้างหน้าต่างและจับจ้องมาที่ชิงหู
“ข้าตกลงตามเงื่อนไขของเ้าที่ว่าจะปกป้องดูแลเ้าเป็เวลาสามปีส่วนเงื่อนไขของข้าคือเ้าจะต้องทำการถอนพิษให้กับข้า” ชิงหูเดินเข้ามาจากนั้นนั่งลงบนเก้าอี้ภายในห้อง
เมื่อเทียบกับเมื่อครู่ ท่าทางเหลาะแหละลดน้อยลงแต่ความอ้างว้างกลับเพิ่มมากขึ้น
“แน่นอนอยู่แล้ว แต่ข้าประหลาดใจเหลือเกินตกลงว่าใครกันแน่ที่เลี้ยงดูนักฆ่าเช่นเ้าเอาไว้”
กลิ่นกายแปลกประหลาดของชิงหูสามารถทำให้คนดมแข็งแรงขึ้นภายใน่ระยะเวลาอันสั้นแต่ข้อเสียของมันคือการเสพติด อีกทั้งยังต้องทุกข์ทรมานแทบทุกเดือน
“ข้า...ถูกรับเลี้ยงเอาไว้ พ่อของข้าคือนายใหญ่ของเถาฮวาอู๋”
ภายในห้อง แสงไฟริบหรี่ มิรู้ว่าเพราะเหตุใดใบหน้าเรียวเล็กของชิงหูจึงปรากฏร่องรอยแห่งความเศร้าหมอง
หลินเมิ้งหยาหันหน้าไปพลางเอ่ยเสียงเรียบ“อย่าแสร้งทำตัวน่าสงสารต่อหน้าข้าเลย มันไม่มีประโยชน์”
หลังจากได้ยินประโยคนี้ ชิงหูะเิเสียงหัวเราะออกมาจากนั้นกลับมามีท่าทางเย้ายวนดังเดิม
“ใจแข็งดั่งหิน เหตุใดเหยียจึงตกอยู่ในกำมือเ้ากันนะ?”
“สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อต้องเจรจากับคนอย่างพวกเ้าก็คือระวังอย่าให้ถูกหลอกเอาได้อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของเ้า คิดจะทำตัวน่าสงสารแล้วหลอกเอายาถอนพิษจากข้า...ฝันไปเถอะ!”
ชิงหูผู้นี้เ้าเล่ห์มากจนเกินไปโชคดีที่หลินเมิ้งหยามีจุดเด่นในเื่หลักการทางการพูด
มิเช่นนั้นคงถูกเขาหลอกอย่างแน่นอน
“โอ้โหยว เ้าฉลาดเหมือนกันนี่ ไม่เหมือนกับท่านอ๋องคนนั้นของเ้าเขาส่งคนสำรวจท่าเรือน้อยใหญ่ละแวกนี้ไปจนหมดแล้ว แต่น่าเสียดายรังเถาฮวาอู๋ของเหยียอยู่ใกล้เพียงใต้เปลือกตาของเขาเท่านั้น”
หัวใจของหลินเมิ้งหยากระตุกระรัว เหตุใดจึงไม่เคยมีใครรู้จักรังของเถาฮวาอู๋เลยแม้แต่คนเดียว?
“วางใจเถิด เมื่ออาทิตย์ส่องแสง เหยียจะส่งตัวเ้ากลับไปเ้าเด็กน้อย อย่าได้คิดทำอะไรแผลงๆ มิเช่นนั้นแม้แต่ข้าก็ปกป้องเ้าเอาไว้ไม่ได้”
ชิงหูเคาะหน้าผากของหลินเมิ้งหยา ก่อนจะเดินออกจากห้องขังชั่วคราวของนางไป
แต่หวังเหลือเกินว่าหลงเทียนอวี้จะหารังเถาฮวาอู๋เจอ ทว่าฟังจากน้ำเสียงของชิงหูแล้ว ความเป็ไปได้กลับมีน้อยมาก
“ท่านอ๋อง ตรวจสอบทั้งหมดสิบแปดท่าแล้วแต่ไม่พบร่องรอยของการหายตัวไปเลยพ่ะย่ะค่ะ”
หลงเทียนอวี้ยืนอยู่บนท่าเรือ จ้องมองเรือลำเล็กลำน้อยแต่หากอ้างอิงจากคำสารภาพของผู้ว่าการแล้วละก็ไม่มีท่าเรือแห่งไหนเลยที่จะใหญ่อย่างที่เขาพูด
เกิดอะไรขึ้น? หรือพวกเขาจะหายไปจากท่าเรือโดยไร้ร่องรอยภายในคืนเดียว?
คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น จะต้องหาเถาฮวาอู๋ให้เจอมิใช่เพียงเพราะหลินเมิ้งหยาตกอยู่ในกำมือของพวกเขาสิ่งสำคัญที่สุดคือเขาไม่มีทางยอมให้ผู้ใดเข้ามากระตุกหนวดเสือถึงพระตำหนักได้ง่ายๆ
นี่มิใช่เพียงการทำร้ายหลินเมิ้งหยาได้อย่างง่ายดาย แต่ยังเป็การยั่วยุตัวเขาอีกด้วย
“พวกเ้าหาให้หมดทุกซอกทุกมุม อย่าละเลยแม้แต่ร่องรอยเท่าตัวมดหากพบเบาะแสของพระชายา จงรีบเข้ามารายงานข้าทันที”
“พ่ะย่ะค่ะ”
องครักษ์ประจำจวนหยู๋ออกค้นหาอีกครั้งอย่างเงียบเฉียบเขาไม่อาจออกค้นหาหลินเมิ้งหยาได้อย่างโจ่งแจ้ง
มิเช่นนั้น คนพวกนั้นจะต้องถือโอกาสนี้แพร่กระจายข่าวลือเสียๆ หายๆอย่างแน่นอน
คำพูดของคนคือภัยเงียบที่แท้จริง
ส่งคนโง่เขลามาเป็พระชายาของหลงเทียนอวี้ผู้นี้จากนั้นคิดว่าจะพานพบแต่ความผาสุก
ทว่าเมื่อเห็นว่าหลินเมิ้งหยากลับกลายเป็คนปกติธรรมดาทั่วไปพวกเขาจึงส่งคนมาจับตามองพระชายาของตนเอง เมื่อใดที่นางพลาดท่าเมื่อนั้นข่าวลือเสื่อมเสียชื่อเสียงคงมิวายแพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมือง
จิตใจโหดร้ายเกินมนุษย์
“ท่านอ๋องพระสนมเต๋อเฟยเหนียงเหนียง้าให้พระองค์เข้าเฝ้าเป็การด่วนพ่ะย่ะค่ะ”
ด้านหลังของหลงเทียนอวี้ พ่อบ้านเติ้งยืนคิ้วขมวดเข้าหากันแน่นสายตาจับจ้องมองทางผิวน้ำที่ยังคงสะท้อนแสง
“อืม ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”
เวลานี้แล้วแท้ๆ เหตุใดหมู่เฟย...
เมื่อหลงเทียนอวี้กลับไปถึงตำหนักหยาเสวียนของพระสนมเต๋อเฟยเขาได้เห็นเจียงเฉิงยืนอยู่ข้างกายของพระสนมเต๋อเฟยแล้ว
เพราะเหตุนี้หมู่เฟยจึงรีบร้อนตามหาเขาที่แท้เ้าเด็กคนนี้ปากยื่นปากยาวเล่าเื่ให้หมู่เฟยฟังแล้วสินะ
“หมู่เฟย ท่านตามหาข้าเพราะมีเื่อันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
คิ้วของพระสนมเต๋อเฟยขมวดเข้าหากันเล็กน้อย สายตามองทางเจียงเฉิงก่อนจะหันไปมองทางใบหน้าเ็าดุจหิมะของลูกชาย นางมิรู้ว่าควรพูดเช่นไร
“หยาเอ๋อร์ล่ะ? เหตุใดจึงไม่มากับเ้าด้วย?”
หลงเทียนอวี้หลุบตาต่ำ รีบเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าพระสนมเต๋อเฟยแล้วตอบ“พระชายาบรรทมแล้วพ่ะย่ะค่ะ ไม่ทราบว่าหมู่เฟยมีเื่อะไรจะรับสั่งอย่างนั้นหรือ?”
“ยังจะหลอกข้าอีกอย่างนั้นหรือ? จิ้งเยว่ไปสืบข่าวมาแล้วพระชายาองค์นั้นของเ้าหายตัวไป เ้าจะปิดบังข้าไปจนถึงเมื่อไร!”
มือที่นิ้วสวมใส่ปลอกนิ้วสีทองฟาดลงบนโต๊ะ
เด็กคนนี้มีนิสัยดื้อรั้นมาั้แ่เด็ก
คิดไม่ถึงเลยว่าเกิดเื่ใหญ่โตที่ตำหนักมากถึงขนาดนี้แล้วแต่เขากลับไม่คิดจะเข้ามาปรึกษานางเลยแม้แต่น้อย
“หมู่เฟยอย่าขุ่นเคืองพระทัยเลย เื่นี้ใหญ่หลวงนักหากหมู่เฟยรู้เข้าจะต้องเป็ห่วงจนกินไม่ได้นอนไม่หลับหากเป็เช่นนั้นเอ๋อร์เฉินคงมิอาจทนมองได้”
เมื่อได้ยินลูกชายพูดเช่นนี้ความโกรธเกรี้ยวของพระสนมเต๋อเฟยจึงคลายลงเล็กน้อย
แต่เมื่อได้เห็นสัญญาณผ่านทางสายตาของเจียงเฉิงความเงียบบังเกิดขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่นางจะเอ่ยออกมาเบาๆ
“เปิ่นกงรู้ว่าเ้าเอ็นดูพระชายามาก แต่หากนางถูกลักพาตัวไปอย่างไรนางก็คงถูก...”
หลงเทียนอวี้เอ่ยขัดคำพูดของพระสนมเต๋อเฟยทันที
“หมู่เฟยโปรดวางใจ ไม่มีทางเกิดเื่เช่นนั้นขึ้นอย่างแน่นอน”
สายตาเ็าตกลงบนร่างของเจียงเฉิงจนคนถูกมองอดไม่ได้ที่จะหดตัวเล็กลง
สิ่งที่เขาเกลียดมากที่สุดคือพวกปากยื่นปากยาว
ดูเหมือนญาติผู้น้องคนนี้ควรจะมาเยือนที่นี่ให้น้อยลง
“อืม ควรจะเป็เช่นนั้น ถ้าไม่เช่นนั้น ต่อให้เ้าเกลียดข้าโกรธข้า แต่หมู่เฟยก็จะจัดการเื่นี้ จริงสิ หรูฉิน...”
“หมู่เฟย เอ๋อร์เฉินมิ้าให้หรูฉินมาที่นี่เื่ของเอ๋อร์เฉิน เอ๋อร์เฉินจะเป็ผู้จัดการเอง”
ปฏิเสธความปรารถนาดีของหมู่เฟยอย่างเด็ดขาด หลงเทียนอวี้ไม่ไว้หน้าเจียงเฉิงเลยแม้แต่น้อย
ครั้นสมัยยังเด็ก เสด็จพ่อและหมู่เฟยเคยพูดติดตลกว่าจะให้หรูฉินแต่งงานเป็พระชายาของตนเอง
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาเห็นหรูฉินเป็เพียงน้องสาวเท่านั้น
เจียงเฉิงคนนี้ ยุ่งวุ่นวายเกินไปแล้ว
“แต่อาใหญ่ของเ้าทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับหมู่เฟยมาตลอดหลายปี อีกทั้งเขายังรักและเอ็นดูหรูฉินมากมิเช่นนั้นคงไม่มาขอร้องหมู่เฟยถึงที่นี่”
พระสนมเต๋อเฟยอึดอัดใจเล็กน้อย นางมองดูหรูฉินเติบโตมาั้แ่ยังเล็กยังน้อย
ทั้งฉลาด สวยงามกิริยาวาจานอบน้อมอ่อนหวานดั่งหญิงผู้ดีมีสกุลทั่วไป
หากได้เป็ทองแผ่นเดียวกันคงจะดีไม่น้อย
แม้หยาเอ๋อร์จะดี แต่เจียงเฉิงกลับไม่คิดเห็นเช่นเดียวกับนางอีกทั้งยังเอ่ยว่าหยาเอ๋อร์ใจดำอำมหิต ไม่เหมาะที่จะเป็พระชายาอวี้
อีกทั้งตอนนี้หยาเอ๋อร์ยังถูกลักพาตัวไปอีก
หากเกิดเื่เลวร้ายอันใดขึ้น นางจะเป็ผู้ไปรับหรูฉินเข้ามาเป็สะใภ้ที่จวนอวี้แห่งนี้ด้วยตนเอง
“ท่านอาใหญ่มีพระคุณยิ่งนัก อวี้เอ๋อร์จะจดจำเอาไว้อย่างแน่นอนแต่หมู่เฟยอย่าลืม อวี้เอ๋อร์เพิ่งจะแต่งงานกับพระชายาได้ไม่นาน หากอยู่ๆ ก็ตกแต่งพระชายารองเข้ามาเกรงว่าจะเป็เื่ไม่เหมาะไม่ควรพ่ะย่ะค่ะ”
คิ้วของหลงเทียนอวี้ขมวดเข้าหากัน น้ำเสียงเ็าประดุจน้ำแข็ง
ตอนแรกฮองเฮานำชีวิตของหมู่เฟยมาต่อรองเพื่อบีบบังคับให้เขาแต่งงานกับหลินเมิ้งหยา
ตอนนี้หมู่เฟยนำบุญคุณของท่านอาใหญ่มาบังคับให้เขาแต่งงานกับหรูฉิน
การแต่งงานของเขาถูกใช้ประโยชน์เพียงครั้งเดียวก็มากเกินพอแล้ว
แม้ว่าหลงเทียนอวี้จะรู้ว่าชีวิตนี้จะไม่มีทางมีผู้หญิงคนใดสามารถเข้ามาอยู่ในใจของเขาได้ทว่าเขากลับต้องจำยอมแต่งงาน
“เื่นี้...ก็ได้ ถ้าเช่นนั้นจะปล่อยเ้าไปชั่วคราวก็แล้วกันเ้ารีบตามหาตัวพระชายาให้เจอ หลังจากพานางกลับมายังตำหนักแล้วเปิ่นกงมีเื่้าจะถามนาง”
“พ่ะย่ะค่ะ” เขาพยักหน้าลง คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น
“เฉิงเอ๋อร์ เ้าเองก็ไปกับพี่ชายเ้าเถิด เปิ่นกงจะเข้านอนแล้ว”
โบกมือแล้วไล่เจียงเฉิงออกจากตำหนักหยาเสวียนจิ่นเยว่และจิ้งเยว่ประคองข้าไปยังห้องบรรทมชั้นใน
“ท่านพี่ เหตุใดท่านจึงไม่แต่งงานกับหรูฉินเล่า? หรูฉินทั้งน่ารักและฉลาดเฉลียวดีกว่าผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นเป็ร้อยเท่าพันเท่า!”
เจียงเฉิงกู่ร้องออกมาด้วยความไม่พอใจ แต่ถึงอย่างนั้นกลับไม่กล้าพูดจาเกินงาม
สายตาเฉยชาไร้ความรู้สึกตกลงบนร่างของเจียงเฉิง หลงเทียนอวี้อ้าปากเอ่ยเสียงเรียบ
“ต่อจากนี้ไป ข้าไม่อนุญาตให้เ้าเข้ามาไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้นถ้ามิเช่นนั้น ข้าจะเป็คนโยนเ้าออกไปจากจวนแห่งนี้ด้วยตนเอง!”
น้ำเสียงเ็าเจือไว้ซึ่งความโเี้
เจียงเฉิงผู้กล้าหาญไม่กล้าแม้แต่จะสูดอากาศหายใจ
ตอนแรกคิดว่าท่านป้าจะช่วยพูดให้ท่านพี่แต่งงานกับหรูฉินได้แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะดวงซวยถึงเพียงนี้
เขาส่ายหน้าทว่าเขากลับทำได้เพียงเดินคอตกตามพี่ชายตนเองไปและไม่กล้าส่งเสียงใดๆ ออกมา