ในสาบเสื้อของหลี่ซานมีเหรียญทองแดงที่ได้มาจากหยาดเหงื่อและแรงกายของเขา ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้ากลับจางหายไปหลังจากที่ได้ยินพนักงานบอกราคา
ข้าวของที่เมืองเยี่ยนแพงกว่าของในอำเภอฉางผิง ดังนั้นระหว่างทางกลับบ้านหลี่ซานจึงตั้งใจมาซื้อผ้าที่อำเภอฉางผิง นึกไม่ถึงว่าผ้าในอำเภอก็ยังแพงเช่นนี้
หลี่สือเดินตามหลังหลี่ซานออกมาจากร้านผ้า พลางกล่าวขึ้นว่า “พี่ใหญ่ พวกเราไม่ซื้อผ้าให้หรูอี้แล้วหรือ”
หลี่ซานตอบเสียงเบา “พวกเราไปซื้อผ้าที่ตำบลจินจีเถิด ผ้าที่นั่นถูกกว่าที่อำเภอ”
กลิ่นหอมหวานลอยโชยมาในอากาศ หลี่สือสูดเข้าจมูกไปเฮือกใหญ่ รีบชี้นิ้วไปยังร้านขนมที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งเป็ที่มาของกลิ่นหอมอบอวลนั้น แล้วกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “พี่ใหญ่ พวกเราซื้อขนมไหว้พระจันทร์กลับไปกินกันที่บ้านเถิด”
หญิงชราที่สวมชุดกระโปรงผ้าฝ้ายสีเขียวสภาพใหม่เดินออกมาจากร้านขนมที่ว่างเปล่าไร้ลูกค้าด้วยอาการโกรธเกรี้ยว ปากก็กล่าวว่า “ขนมไหว้พระจันทร์ของร้านพวกเ้าด้อยกว่าขนมไหว้พระจันทร์รสหวานตระกูลหลี่มาก แต่ยังขายแพงเช่นนี้ ฮึ... ข้าไม่ซื้อหรอก”
“ขนมไหว้พระจันทร์ร้านนี้ขายแพงยิ่งนัก พวกเราไปดูที่ร้านอื่นกันเถิด” หลี่ซานจำได้ว่า ด้านหน้ายังมีร้านขนมอยู่อีกจึงพาหลี่สือเดินต่อไป เพียงไม่นานก็เห็นร้านขนมตระกูลฉิน
ขนมไหว้พระจันทร์ของร้านนี้มีราคาถูก ลูกค้าที่มาซื้อของก็มากมายจนพนักงานยุ่งแทบไม่มีเวลา ผู้ดูแลแซ่ฉินจึงมาช่วยขายด้วยตนเอง
หลี่ซานปรายตามองไป พบว่าขนมไหว้พระจันทร์เหล่านี้ก็มีขายในตำบลจินจีเช่นกัน จากนั้นจึงนึกไปถึงเครื่องประดับในร้านขายเครื่องประดับอีกครั้ง ราคาต้องแพงกว่าเครื่องประดับที่ตำบลจินจีเป็แน่ ดังนั้นจึงไม่ยอมซื้อของใดๆ เขารีบเดินออกไปที่ตำบลจินจีทันที
หมู่บ้านหลี่อยู่ตรงกลางระหว่างอำเภอฉางผิงและตำบลจินจี เพื่อประหยัดเงิน หลี่ซานจึงเดินข้ามหมู่บ้านของตนไป ไม่ได้กลับไปที่หมู่บ้านหลี่
สองพี่น้องเดินค่อนข้างเร็ว พวกเขาเดินกันจนกระทั่งมาถึงตำบลจินจี จากนั้นก็ตรงไปที่ร้านผ้าและร้านขนม ซื้อของมาหลายอย่างแล้วตรงกลับบ้านไปโดยเร็ว
เมื่อเข้ามาที่หมู่บ้าน ชาวบ้านที่เห็นสองพี่น้องหลี่ซานก็เดินเข้ามาทักทายด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม
“หลี่ซานกับหลี่สือนี่ พวกเ้ากลับมาแล้ว เมื่อ่กลางวันข้าเห็นครอบครัวของพวกเ้าขับเกวียนไปที่ตำบลด้วย”
“อาหลี่กลับมาฉลองเทศกาลหรือ”
“สวัสดีขอรับอาหลี่ อาสือ”
“หลี่ซาน หลี่สือ มีเวลากลับมากินข้าวที่บ้านแล้ว”
ก่อนหน้านี้สองพี่น้องหลี่ซานก็เคยไปทำงานนอกหมู่บ้านหลายเดือน เมื่อกลับมาคนในหมู่บ้านที่มีความสัมพันธ์ดีต่อกันก็เข้ามาทักทายแต่ไม่เคยได้รับการต้อนรับมากมายเพียงนี้มาก่อน กระทั่งคนโง่อย่างหลี่สือก็ยังสังเกตเห็นถึงความแตกต่าง
หม่าซื่อกำลังเก็บผักอยู่ที่ลานบ้าน คิดจะนำขึ้นฉ่ายและผักกาดหอมไปผัดกับเนื้อหมูเป็กับข้าวของวันนี้
นี่เป็โชคที่ได้จากตระกูลหลี่ ซื่อโก่วจื่อและอู่โก่วจื่อไปทำงานกับบ้านหลี่หลายวัน วันนี้บ้านหลี่ก็มอบเนื้อหมูให้คนงานทั้งห้าคนละหนึ่งชั่งเพื่อไว้กินฉลองเทศกาล บ้านสวีมีคนงานสองคนจึงได้หมูมาสองชั่ง
หม่าซื่อเงยหน้าขึ้นเห็นบุรุษร่างสูงใหญ่สองคนเดินอยู่ที่ปากทางเข้าหมู่บ้าน นางยืดคอขึ้นมอง เมื่อเห็นชัดเจนแล้วจึงะโว่า “ซื่อโก่วจื่อ รีบไปบอกบ้านหลี่เร็วเข้าว่าอาหลี่กลับมาแล้ว”
ซื่อโก่วจื่อวิ่งทะยานออกมาจากห้องครัวดุจลูกธนูตรงไปยังบ้านหลี่ เมื่ออยู่ห่างไปสิบกว่าจั้งก็ะโเรียกหลี่อิงฮว๋าที่กำลังให้อาหารไก่อยู่ที่ลานบ้าน “อิงฮว๋า ท่านอาหลี่กลับมาฉลองเทศกาลกับพวกเ้าแล้ว!”
หลี่อิงฮว๋าดีใจยิ่งนัก รีบะโบอกจ้าวซื่อที่กำลังนั่งปักผ้าอยู่ที่ห้องโถงว่า “ท่านแม่ ท่านพ่อกับท่านอารองกลับมาแล้ว พวกเราไปต้อนรับพวกเขากันเถิด”
“ในที่สุดท่านพ่อกับท่านอารองของเ้าก็กลับมาแล้ว” จ้าวซื่อแทบจะหลั่งน้ำตาด้วยความยินดี รีบวางผ้าปักในมือลงแล้วลุกขึ้นประคองท้องเดินออกไปอย่างกระตือรือร้น
หลี่หรูอี้กำลังทอดลูกชิ้นหมูอยู่ที่ห้องครัว ในกระทะที่เต็มไปด้วยน้ำมันมีลูกชิ้นหมูยี่สิบกว่าลูกกลิ้งไปมา นางคอยมองลูกชิ้นแต่ละลูกที่เริ่มกลายเป็สีเหลืองทองอย่างตั้งใจ เพราะถ้าใช้ไฟแรงเกินไปก็จะไหม้ เมื่อเห็นว่าได้ที่แล้วจึงใช้ตะเกียบคีบลูกชิ้นออกมา
หลี่ฝูคังที่กำลังช่วยคุมไฟอยู่ด้านข้างรีบะโลงมาจากม้านั่งอย่างตื่นเต้น “น้องห้า ข้าจะไปต้อนรับท่านพ่อและท่านอารอง”
หลี่ซานเห็นบุตรชายทั้งสามมีใบหน้าสีชมพูระเรื่อดูมีสุขภาพดี อีกทั้งดวงตาก็เปล่งประกายสดใส ร่างกายสูงใหญ่กว่าเมื่อหลายเดือนก่อนมาก ดูท่าทางอาหารการกินในบ้านคงอุดมสมบูรณ์ดี เขากล่าวขึ้นว่า “เมื่อวานหวังเซี่ยจื้อไปบอกข้าว่า เ้ากับหรูอี้ถูกชวีหงทำร้าย ข้าเป็ห่วงมาก วันนี้ข้ากับอารองของเ้าจึงรีบนำเงินค่าแรงกลับมาบ้าน”
หลี่อิงฮว๋ากล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว “ชวีหงด่าท่านแม่ด้วยคำรุนแรงไม่น่าฟัง น้องห้าเลยตีนางไปขอรับ”
หลี่ซานใจเต้นตึกตัก รีบเอ่ยถามอย่างเป็ห่วงเป็ใย “แม่ของเ้ามิได้โกรธจนส่งผลกระทบกับครรภ์ใช่หรือไม่”
หลี่อิงฮว๋ารีบตอบ “ไม่ขอรับ ท่านแม่ไม่ตกหลุมพรางชวีหง”
หลี่สือแย้มยิ้ม “อิงฮว๋า เ้าคิดถึงข้าหรือไม่”
“คิดถึง พวกเราคิดถึงท่านและท่านพ่อทุกวัน วันละหลายครั้งเลยขอรับ” หลี่อิงฮว๋ามองไปยังใบหน้าของพ่อและอารองที่ตากแดดจนดำคล้ำ ริมฝีปากก็แห้งผาก เสื้อผ้าที่สวมใส่บนร่างก็ทั้งเก่าและขาด ไม่ต้องถามก็รู้ว่างานสร้างกำแพงเมืองยากลำบากเพียงใด ชั่วขณะนั้นเขารู้สึกขมขื่นในใจขึ้นมาจนอดที่จะกล่าวไม่ได้ว่า “บ้านเราทำการค้าหาเงินได้มากแล้ว ซื้อลามาได้สองตัว น้องห้าบอกว่า พวกท่านไม่ต้องออกไปทำงานข้างนอกอีกแล้วขอรับ”
“บ้านของพวกเรามีลาแล้ว ดีจริงๆ ข้าอยากขี่ลา” หลี่สือมองไปเห็นจ้าวซื่อยืนอยู่ตรงรั้วไม้ จึงวิ่งไปหาด้วยท่าทางดีใจ “พี่สะใภ้ ข้ากับพี่ใหญ่กลับมาแล้ว ท่านยังไม่คลอดหลานให้ข้าอีกหรือ”
จ้าวซื่อเอ่ยด้วยใบหน้าอ่อนโยน “น้องรอง อีกสองเดือนกว่าข้าจะคลอด”
ในที่สุดหลี่ซานก็ได้พบกับจ้าวซื่อ ผู้เป็ภรรยาที่เขาคิดถึงทุกวันคืน เขาแย้มยิ้มดีใจอย่างมีความสุข ภรรยาของเขามีผิวขาวละเอียด ใบหน้าเปล่งปลั่ง งดงามกว่าหลายเดือนก่อนมากนัก ไม่ต้องถามก็รู้ว่า มีผลมาจากชีวิตดีๆ ที่บ้าน “ซู่เหมย ข้าไม่อยู่บ้านหลายเดือนลำบากเ้าแล้ว”
“ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ลำบากเลยเ้าค่ะ งานน้อยใหญ่ในบ้านก็มีลูกๆ ทั้งห้าเป็คนทำ พวกเขาแต่ละคนดียิ่งนัก โดยเฉพาะหรูอี้…” น้ำตาของจ้าวซื่อไหลออกมา บุรุษเบื้องหน้าทำให้นางทั้งรักทั้งขุ่นเคืองจริงๆ นางเอื้อมมือออกไปตีแขนที่ล่ำสัน ของเขาก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงกล่าวโทษ “เหตุใดจึงไม่รีบกลับมา?”
“ข้า ข้าคิดว่างานสร้างกำแพงเมืองมั่นคงกว่าทำการค้า อยากหาเงินให้ได้สักหลายตำลึง” หลี่ซานกลัวจ้าวซื่อจะร้องไห้เป็ที่สุด หลายปีมานี้จ้าวซื่อร้องไห้น้อยมาก นึกไม่ถึงว่าวันนี้นางจะร้องไห้ออกมา ทำให้เขารู้สึกเศร้าใจยิ่งนัก นี่เป็ครั้งแรกที่เขาคิดว่าการไปลำบากทำงานหาเงินข้างนอกเป็เื่ที่ผิด
“ท่านแม่เห็นท่านพ่อกลับมาก็ดีใจจนร้องไห้เชียว” หลี่อิงฮว๋าหันไปเห็นเด็กๆ ในหมู่บ้านยืนอยู่ด้านหลัง จึงรีบประคองจ้าวซื่อกลับเข้าไปที่ห้องโถง แล้วนำถั่วลิสงทอดในชามที่วางอยู่บนโต๊ะแปดเซียนออกมาให้เด็กๆ ที่มามุงดูกินกัน จนกระทั่งพวกเขาพอใจและกลับไปแล้ว ก็เงยหน้าะโเสียงดังว่า “พี่ใหญ่ น้องสี่ ท่านพ่อกับอารองกลับมาแล้ว”
หลี่เจี้ยนอันและหลี่ิ่หานกำลังทำงานอยู่ที่ลานบ้าน เมื่อได้ยินเสียงก็รีบวิ่งออกมา
หลี่ซานรู้มานานแล้วว่า ที่บ้านมีการซ่อมแซมครั้งใหญ่และขุดบ่อน้ำแล้ว ตอนนี้เมื่อได้เห็นกับตา พบว่าบ้านของตนดูใหม่ขึ้น อีกทั้งบ่อน้ำในลานบ้านก็ดูเรียบร้อยดีจึงรู้สึกยินดียิ่งนัก ทำบ้านได้ดีจริงๆ ทว่านี่เป็บ้านที่ทำในยามที่เ้าบ้านอย่างเขาไม่อยู่จึงรู้สึกผิดอยู่บ้าง
เมื่อหลี่หรูอี้ทอดลูกชิ้นหมูเสร็จแล้วก็วางไว้ไม่ได้สนใจอีก นางรีบเดินออกมาพบท่านพ่อและท่านอารองเป็อันดับแรก เมื่อได้พบก็สังเกตเห็นว่า หลังของท่านพ่อคดงอลงไปมาก ท่านพ่อเพิ่งทำงานไม่กี่เดือนก็เหน็ดเหนื่อยจนดูแก่ชราลงไปหลายปีทีเดียว ในใจของนางรู้สึกโศกเศร้ายิ่งนัก ดวงตาคลอไปด้วยน้ำตา “ท่านพ่อ ท่านอารอง วันนี้พวกท่านกินข้าวกันแล้วหรือยังเ้าคะ?”
.............................
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้