เว่ยเจียออกมาจากห้องน้ำ เห็นเสี่ยวถิงนอนอยู่บนเตียง แถมยังเว้นที่ไว้ให้เขาด้วย เขาโอบกอดเด็กน้อยไว้ด้วยรอยยิ้ม แล้วเริ่มเล่านิทานก่อนนอน
"กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ริมแม่น้ำแสนงดงามสายหนึ่ง ชายหนุ่มคนหนึ่งพายเรือส่งผู้คนข้ามฟากเป็อาชีพอาศัยอยู่ วันหนึ่ง มีกลุ่มคนแต่งกายหรูหรา เดินทางมาพร้อมกับเงินทองอัญมณีเต็มไปหมด ชายที่เดินนำหน้ามีใบหน้าที่งดงามที่สุดในโลก จนชายหนุ่มพายเรือถึงกับตะลึงงัน เขาคิดว่า นี่คงเป็เทพแห่งแม่น้ำในตำนานเป็แน่ แต่น่าเศร้าที่ชายรูปงามผู้นี้คือองค์ชาย รัชทายาทผู้กำลังจะเดินทางไปยังแคว้นเพื่อนบ้านเพื่อสู่ขอเ้าหญิง หนุ่มพายเรือรู้สึกผิดหวัง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้... องค์ชายกับเ้าหญิงต่างหากที่เหมาะสมกันดั่งกิ่งทองใบหยก เขาจึงเพียงแค่ยิ้ม แล้วต้อนรับองค์ชายขึ้นเรือด้วยความเคารพ และเริ่มต้นการเดินทางในครั้งนี้..."
เว่ยเจียเล่าด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ลมหายใจของเสี่ยวถิงก็เริ่มสม่ำเสมอขึ้นโดยที่เขาเล่าไปเพียงไม่กี่ประโยค เขาผ่อนแรงตบเบาๆ แล้วก้มลงมอง ก็พบว่าหลานชายหลับไปแล้วจริงๆ
—เขารู้ว่านิทานเื่นี้จืดชืดสำหรับเด็ก จึงจงใจหยิบเื่นี้มาเล่า—แน่นอนว่าเด็กๆ ชอบเื่ราวที่ครื้นเครงและโรแมนติก แต่ <บทเพลงของคนข้ามฟาก> ที่เป็การแอบรักข้างเดียวที่ไร้ผลเช่นนี้ ช่างน่าเบื่อหน่าย แต่เขาจำเป็ต้องกล่อมเด็กน้อยให้นอนหลับโดยเร็วที่สุด เพื่อที่จะได้เตรียมตัวให้พร้อม
เขาค่อยๆ ลุกขึ้น ห่มผ้าให้เสี่ยวถิง แล้วย่องออกจากห้องไปอย่างเงียบเชียบ
เขากลับไปยังห้องนอนที่แสนจะเรียบง่ายของตนเอง ที่มีเพียงโต๊ะและเตียง หลังจากล็อคประตูห้องแล้ว เขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็ชุดที่ใส่ซ้อมเต้นเป็ประจำ แล้วเปิดโน้ตบุ๊กเพื่อเข้าสู่แพลตฟอร์มไลฟ์สดอัลดัส
ทันทีที่เข้าสู่ระบบหลังบ้าน รูปภาพและข้อความสัพเพเหระมากมายก็ปรากฏขึ้น ไม่พ้นภาพของลับที่น่าขยะแขยง หรือไม่ก็คำพูดที่ส่อไปในทางเพศอย่างโจ่งแจ้ง เว่ยเจียลบข้อความเ่าั้ออกไปด้วยสีหน้าเฉยเมย ข้อความส่วนตัวลดลงทีละฉบับ ทว่าหัวใจของเขากลับถูกความรู้สึกอึดอัดเข้าครอบงำอย่างที่ไม่อาจบรรยายได้ กระทั่งทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังจะจมน้ำตาย
'การที่เขาโพสท่าเย้ายวนใจต่อหน้ากล้อง ไม่ใช่เพื่อเงินรางวัลจากพวกนั้นไม่ใช่หรือไง รับเงินรางวัลมาแล้วยังคิดรังเกียจเ้าของเงินเ่าั้อีก อย่าทำเป็สูงส่งไปหน่อยเลย เว่ยเจีย...'
เขาหัวเราะเยาะตัวเองในใจ แต่ข้างในกลับรู้สึกว่างเปล่า ขณะที่เขากำลังสาละวนอยู่กับการลบข้อความลามก โทรศัพท์มือถือก็สั่นเตือนว่ามีข้อความใหม่ส่งเข้ามา เขาหันไปมองก็พบว่าเป็ข้อความจากอาจารย์
'เว่ยเจีย เื่ที่เธอขอลาพักการเรียนเมื่อสองวันก่อน อาจารย์ว่าเธอใจร้อนเกินไป เธอเรียนอยู่ปีสามแล้ว การหยุดเรียนกลางคันอย่างนี้เป็เื่น่าเสียดาย อาจารย์เข้าใจเื่ทางบ้านของเธอ จะพยายามช่วยเธอเื่ขอทุนนะ ลองคิดดูอีกสักหน่อย ดีไหม?'
เว่ยเจียััได้ถึงความห่วงใยของอาจารย์แม้จะมองผ่านหน้าจอ กลับรู้สึกอบอุ่นในใจอย่างมาก แต่เขาก็ไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้น ทุนการศึกษาเเม้มีจำกัดสิทธิ์อยู่บ้าง เเละยิ่งไปกว่านั้นคือค่าชดเชยจากอุบัติเหตุที่ไม่รู้ว่าจะหมดลงตอนไหน หากเขายังเรียนต่อ แค่ทำงานพาร์ทไทม์หลังเลิกเรียนคงไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในตอนนี้
ตอนนั้น หน่วยงานสังคมสงเคราะห์แนะนำให้เขาส่งเสี่ยวถิงไปอยู่บ้านอุปถัมภ์ แต่ทุกคืนเสี่ยวถิงจะร้องไห้อยู่ในผ้าห่ม หากเขาส่งหลานชายไปอยู่ที่นั่นจริงๆ จะไม่ทำให้เสี่ยวถิงคิดว่าตนเองเป็เด็กที่ไม่มีใคร้าหรอกหรือ? พี่สาวเลี้ยงดูเขามาแบบนี้ เขาก็ควรดูแลหลานชายอย่างเดียวกัน
เขากำโทรศัพท์ไว้ในมือ กำลังคิดว่าจะตอบอาจารย์อย่างไร พลันมีข้อความใหม่เด้งเข้ามา คราวนี้เป็ข้อความจากรุ่นพี่หวงหนาน
'เสี่ยวเจีย กลับมาเถอะ ละครเื่<หวนกระแสธารา>ที่ไม่มีผีพรายที่นายแสดง จะทำให้เนื้อเื่ไม่สมบูรณ์ อีกสองอาทิตย์พวกเราจะ...'
เขายังไม่ทันจะได้อ่านข้อความจนจบ แผลที่ขาซ้ายที่เพิ่งหายดีเริ่มปวดแปลบขึ้นมาราวกับว่า์กำลังเยาะเย้ยเขา ความเ็ปเสียดแทงเข้าไปในกระดูก ทำให้เขาต้องกัดฟันกรามไว้แน่นเพื่อไม่ให้ร้องออกมา กระทั่งอาการปวดทุเลาลง เว่ยเจียก็โยนโทรศัพท์ลงบนเตียงด้วยความโกรธ แล้วยกมือขึ้นปิดหน้า
'เต้นรำบ้าบออะไรกัน ตอนนี้แค่ยืนนานๆ ก็เป็ปัญหาแล้ว...' เว่ยเจียคิดอย่างเ็ป เขายกเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย เหลือบมองไปยังเนื้อเยื่ออ่อนที่เพิ่งงอกใหม่ตรงเข่าซ้าย สีชมพูระเรื่อกว่าผิวขาวซีดของเขา กลับบ่งบอกถึงความล้มเหลวในชีวิตของเขาได้อย่างชัดเจน 'เขาได้กลายเป็ผีพรายที่ไม่สามารถปีนป่ายออกจากหุบเหวลึกได้จริงๆ สินะ เฮอะๆ'
เขาหัวเราะอย่างขมขื่น ในขณะนั้นเอง คอมพิวเตอร์ก็ส่งเสียงเตือนว่ามีข้อความใหม่ส่งเข้ามาในระบบหลังบ้าน เขายกมือปาดน้ำตา รู้สึกอึดอัดใจจนเริ่มจะโกรธขึ้นมา
ให้ตายเถอะ ใครมันส่งภาพของลับมาให้อีกแล้วเนี่ย!
เขาคิดอย่างฉุนเฉียว ตั้งใจจะกดลบทิ้ง แต่กลับเห็นว่าเป็ข้อความที่ส่งมาจากบัญชีทางการ
'เรียน คุณเว่ย
ทางผู้บริหารระดับสูงของบริษัท มีความสนใจอย่างยิ่งในรูปแบบการดำเนินงานแพลตฟอร์มของคุณ มีความประสงค์ที่จะพูดคุยรายละเอียดและทำสัญญากับคุณ หากคุณตกลง โปรดติดต่อเลขาเฉิง' พร้อมกับแนบเบอร์โทรศัพท์ไว้ด้วย
เว่ยเจียถึงกับงุนงง
'นี่มันอะไรกัน? มิจฉาชีพหรือเปล่า? เหล่าสตรีมเมอร์ที่โด่งดังกว่าเขามีตั้งเยอะแยะ ทำไมถึงมาติดต่อเขาได้?'
เว่ยเจียรู้สึกสับสน ตั้งใจจะลบข้อความนี้ทิ้ง แต่เมื่อเหลือบไปเห็นภาพลามกที่ส่งเข้ามามากมาย ในที่สุดเขาก็เข้าใจ
'อ๋า ฉันมีคุณค่าพอที่จะตั้งราคาให้ตัวเองแล้วสินะ...?'
หลังจากครุ่นคิดจนเข้าใจดีแล้ว เว่ยเจียไม่ได้โกรธ กลับรู้สึกสงสัย เขาไม่ได้หน้าตาดี ทั้งไม่เคยพูดคุยหรือมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าชม เอาแต่ถ่ายวิดีโอเต้นรำและยืดเส้นยืดสาย แม้จะยังได้รับภาพของลับอยู่บ้างก็ตาม... เขาก้มหน้าลง มองไปยังแผลที่ขาของตนเอง และมองไปยังข้อความของอาจารย์อีกครั้ง ครุ่นคิดอยู่หลายตลบ สุดท้ายก็ตัดสินใจโทรหาเบอร์นั้น
'ในเมื่อเลือกที่จะขาย ก็ขายให้คนที่มีระเบียบแบบแผนก็แล้วกัน จะได้ไม่เสียเปล่าที่ต้องทำในสิ่งที่ขัดกับใจ'
“ท่านประธานเจี่ยนครับ หอคอยทะเลจานนี้เป็อาหารที่ทางครัวของเราตั้งใจปรุงแต่งเป็พิเศษ คัดสรรปูและกุ้งล็อบสเตอร์ที่เกรดดีที่สุด ด้านล่างมีหม้อไฟไอร้อนระอุ เมื่อไอน้ำระเหยขึ้นไป จะทำให้ความอร่อยของอาหารทะเลชั้นบนหยดลงในน้ำซุป...”
ผู้จัดการร้านอาหารพร่ำพรรณนาไม่หยุด แต่เมื่อเห็นว่าลูกค้าประจำของตนดูเหมือนจะไม่ใส่ใจฟัง เอาแต่จดจ่ออยู่กับโทรศัพท์มือถือ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาพลันหมองลงในทันที
แม้คุณชายเจี่ยนจะมีสีหน้าไม่พอใจนัก เขาก็ทำได้เพียงแค่เอาอกเอาใจเขาด้วยความกระอักกระอ่วน ตั้งใจจะตักน้ำซุปให้คุณชายเจี่ยน แต่ชายหนุ่มกลับเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาคมกริบ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “ใครอนุญาตให้คุณแตะต้องอาหารของผม!”
ออร่าที่แข็งแกร่งของอังฟ่าระดับสูง ข่มชายกลางคนไว้ทันที เขารู้สึกชาไปทั้งหน้า ดึงมือกลับมาด้วยความอับอาย คิดว่าตนเองทำเกินหน้าที่ไปมาก ท่านประธานเจี่ยนที่อารมณ์ไม่ดี ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับชายคนนี้มากนัก จึงโบกมือไล่ให้เขาออกไป
ผู้จัดการร้านอาหารยิ้มแห้งๆ แล้วเดินออกไป หลังจากประตูปิดลง เจี่ยนซีเมิ่งที่แทบหายใจไม่ออกเพราะกลิ่นน้ำยาโกนหนวดราคาถูก ก็กลับมาหายใจได้เต็มปอดอีกครั้ง เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดจมูก แล้วหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบหมูต้มสูตรตงโป
ไม่รู้ว่าเป็เพราะกินยาบำรุงมากเกินไป หรือเป็เพราะอากาศในห้องไม่ถ่ายเท เขาถึงรู้สึกร้อนรุ่ม แม้กระทั่งหมูต้มสูตรตงโปที่มันเยิ้มละลายในปากก็ไม่อร่อยอย่างที่เคยเป็ ทำให้เขาต้องคายทิ้งด้วยความหงุดหงิด
ในเวลานั้น โทรศัพท์มือถือที่เขาเก็บไว้ตรงหน้าอกก็ดังขึ้น เมื่อหยิบออกมาดูก็พบว่าไป๋จิ่ง คู่หมั้นของเขาโทรมา
'พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือไงเนี่ย นังตัวดีนี่ถึงกับโทรมารายงานอย่างว่าง่าย?'
เจี่ยนซีเมิ่งคิดในใจอย่างเคลือบแคลง แต่ก็ยังกดรับสาย ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดคำว่า “ฮัลโหล” ออกไป เสียงครางที่ยั่วยวนกลับดังลอดออกมาจากปลายสาย
“ไป๋ไป๋ ฉันกับคุณเจี่ยน ใครเด็ดกว่ากัน?” เสียงผู้ชายแปลกหน้าที่กำลังหอบหายใจถาม
“อืม...นายเด็ดกว่า...อ๊ะ! ตรงนั้น...แรงอีกหน่อย...” เสียงครางหวานของไป๋จิ่งดังขึ้น ตามด้วยเสียงเตียงที่ดังเอี๊ยดอ๊าด และเสียงหอบหายใจอย่างตื่นเต้นของผู้ชายแปลกหน้า
"นังตัวดี!"
เจี่ยนซีเมิ่งสบถอย่างโกรธเกรี้ยว แล้วตัดสายทิ้ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้