คาดไม่ถึงว่านางหลี่ผู้มีนิสัยดีจะเป็นักกิจกรรม
เฉิงชิงไม่รู้ว่ายามหารือเื่การแต่งงานของบุตรสาวคนเล็ก นางหลี่จะไม่ยอมให้เื่อื่นมารบกวนการแต่งงานของเฉิงหรง เฉิงชิงเองก็ถือว่าทำการก่อนไตร่ตรอง บัดนี้ความตื่นตระหนกของนางหลี่จึงไปลงที่การด่าว่านางหลิ่วที่ตรอกหยางหลิ่ว ให้นางหลิ่วยินยอมที่จะถอนหมั้นกับตระกูลฉี
เฉิงชิงคือคนรุ่นหลัง นางหลี่คือผู้าุโ นางหลิ่วไม่อาจสงสัยคำพูดที่เอ่ยออกมาจากปากของนางหลี่ ดังนั้นเื่ที่เฉิงชิงรู้สึกปวดหัวนางหลี่เอ่ยเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำสำเร็จแล้ว
เฉิงชิงคำนึงถึงความเป็แม่ลูกกับนางหลิ่ว แต่นางหลี่ไม่มีอะไรที่ต้องคำนึงถึง
หากกล่าวว่าเื่ของฉีเหยียนซงทำให้เฉิงชิงหงุดหงิด อันดับรายชื่อของสถานศึกษาก็ทำให้นางรู้สึกยินดี
อันดับการสอบของนาง จากอันดับที่หนึ่งร้อยเจ็ดทะยานเป็อันดับที่ห้าสิบสอง!
ห้องเรียนตัวอักษรติงมีศิษย์ทั้งหมดสองร้อยหกสิบเจ็ดคน นางทิ้งสองร้อยสิบห้าคนจากในนั้นไว้เื้ั เมื่อดูคะแนนการสอบเข้ารับราชการของสถานศึกษาในปีก่อนๆ นางเข้าใกล้คุณวุฒิซิ่วไฉมากแล้ว
นี่ไม่ใช่เพียงความขยันหมั่นเพียรของตัวนางเองเท่านั้น แต่เป็เพราะเมิ่งไหวจิ่นสอนได้ดีเกินไป เฉิงชิงสงสัยว่าแม้แต่ลาตัวหนึ่งเมื่ออยู่ในมือของเมิ่งไหวจิ่นก็สามารถถูกสอนจนฉลาดได้
เมิ่งไหว่จิ่นเข้าใจสี่ตำราห้าคัมภีร์จนกระจ่างแล้ว ดังนั้นเมื่อชี้แนะนางนิดหน่อยก็สามารถทำให้นางตื่นรู้ได้
หากการเรียนคือขั้นตอนการผ่านด่านอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมิ่งไหวจิ่นได้มอบสูตรการผ่านด่านอันแสนสำคัญมาให้นางแล้ว!
“เ้าอ้วน เ้ารู้สึกหรือไม่ว่าที่ศิษย์พี่เมิ่งเปิดสอนให้พวกเราเป็พิเศษ เป็การใช้คนไม่ถูกกับงาน?”
เ้าอ้วนชุยฉีกยิ้ม “ศิษย์พี่เมิ่งซ้อมมือกับพวกเราก่อน รอได้อยู่ในทะเบียนทองในปีหน้าแล้วได้เข้าสำนักฮั่นหลิน ข้าว่าแม้แต่สอนฮ่องเต้ยังทำได้เลย!”
สอนฮ่องเต้นี่ออกจะชมเกินไปแล้ว เมิ่งไหวจิ่นเข้าสำนักฮั่นหลินแล้วยังมีประสบการณ์ไม่พอ แต่การที่เ้าอ้วนชุยเยินยอเช่นนี้ เห็นได้ชัดเลยว่าเห็นด้วยกับคำพูดของเฉิงชิงอย่างจริงใจ
เงินหนึ่งพันตำลึงที่เขาจ่ายไปนั้นคุ้มค่ามาก อันดับในการสอบประจำเดือนครั้งนี้เขานำหน้าเฉิงชิง ได้อันดับที่ห้าสิบของห้องเรียนตัวอักษรติงพอดี คุณวุฒิ ‘ซิ่วไฉ’ กวักมือเรียกเขาแล้ว เ้าอ้วนชุยจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?
อันดับที่ห้าสิบย่อมไม่ใช่ขีดจำกัดของเขา ศิษย์พี่เมิ่งยังคงจะสอนพิเศษแก่เขาต่อ เ้าอ้วนชุยรู้สึกว่าตนเองยังมีศักยภาพอีกมาก
เื่ที่เมิ่งไหวจิ่นสอนพิเศษแก่เขาและเฉิงชิงแพร่งพรายออกไปแล้ว ไม่รู้ว่าคนมากน้อยเพียงใดที่วิ่งมาตีสนิท ้าที่จะเข้าร่วมกลุ่มเรียนพิเศษ เ้าอ้วนชุยรู้ว่าพลังงานของคนมีจำกัด ประสิทธิภาพของการที่เมิ่งไหวจิ่นสอนสองคนกับสอนหนึ่งกลุ่มย่อมแตกต่างกัน ให้ตายอย่างไรก็ไม่อาจเอ่ยถึงเหตุผลที่เมิ่งไหวจิ่นยอมช่วยสอนพิเศษแก่เขา
นี่คือความลับที่ต้องเก็บรักษาไว้!
แต่ไหนแต่ไรมาเ้าอ้วนชุยมีนิสัยปลิ้นปล้อน เื่นี้อยู่ตรงเส้นต่ำสุดที่เขาไม่อาจประนีประนอมได้ ล่วงเกินสหายเยอะไปก็ไม่มีความสุข
แม้แต่สหายร่วมห้องพักของเขาก็ยังหงุดหงิด รู้สึกว่าเ้าอ้วนชุยไม่สนิทถึงขั้นเป็สหาย เ้าอ้วนชุยใคร่ครวญอย่างไม่ลังเลที่จะย้ายไปเป็สหายร่วมห้องพักกับเฉิงชิง แต่ก็ถูกเฉิงชิงปฏิเสธ
“ข้าไม่ชินกับการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในห้องเดียวกัน อีกทั้งตอนกลางคืนเ้ายังนอนกรน ขนาดมีกำแพงกั้นข้ายังได้ยิน ไม่ต้องพูดถึงว่าเ้ามาอยู่ห้องเดียวกับข้าเลย!”
“แต่พวกเราเป็พี่น้องต่างขั้วกันนะ เอ่ยเื่พวกนี้ราวกับเป็คนนอก นี่ เ้าอย่าเพิ่งไปนะ…”
ตอนกลางวันคือพี่น้องต่างขั้ว ตอนกลางคืนเป็สัตว์ประหลาดดุร้ายแล้วอย่างไรเล่า?
เฉิงชิงวิ่งหนีเร็วกว่ากระต่าย เ้าอ้วนชุยทั้งะโทั้งเรียกอยู่ด้านหลัง
ด้านนอกกลุ่มคน อวี๋ซานยืนอยู่แต่ไกล มองมายังทั้งสองคนที่ทั้งพูดคุยทั้งหัวเราะวิ่งก่อกวนกัน สีหน้าไม่แปรเปลี่ยน
บุตรชายท่านเ้าเมืองผู้นี้ที่ชอบทำเื่ราวใหญ่โต ในระยะเวลาอันสั้นกลับผอมลงไม่น้อย สันกรามบนใบหน้าปรากฏชัด นิสัยก็มีความเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
เปลี่ยนเป็สงบเงียบ ไม่ก่อเื่แล้ว บางเวลายังเหม่อลอย
สหายร่วมเรียนที่สนิทล้อว่าไม่ใช่ว่าเขาเปิดใจ มีแม่นางน้อยในดวงใจแล้วหรอกนะ แต่อวี๋ซานกลับโกรธอย่างมาก
ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับความลำบากเื่อะไรมาสักอย่าง ท่าทีสงบคือการหลอกลวง ความจริงทุกคนก็พอเดาได้จึงไม่กล้าไปล่วงเกินเขา
ในที่ส่วนตัวก็คาดเดาไปกันต่างๆ นานา หากไม่ใช่ว่ามีคนในใจ อย่าบอกนะว่าที่บ้านมีเื่ไม่ดีเกิดขึ้น?
เฉิงกุยเองก็รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของอวี๋ซาน
แต่ไหนแต่ไรมาอวี๋ซานพุ่งเป้าไปที่เฉิงชิง ทั้งสองคนเป็ไม้เบื่อไม้เมากัน ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร ่นี้อวี๋ซานกลับหลีกห่างและหลบเลี่ยงเฉิงชิง ระหว่างทั้งสองคนเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เฉิงกุยควบคุมอารมณ์ของตนเองได้แล้ว ไม่ยอมให้เฉิงชิงส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของตนเองอีก จึงแนะนำสหายรัก
“อวี๋ซาน เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
อวี๋ซานยากที่จะเปิดปาก
เขาจะสามารถเอ่ยออกจากปากได้อย่างไร!
เฉิงชิงย่อมมีเจตนาร้ายต่อเขาเป็แน่ถึงสามารถกล่าวถ้อยคำเ่าั้ได้ แต่เขาก็ถูกเจตนาร้ายของเฉิงชิงเล่นงานเข้าให้แล้ว ถึงขนาดที่เพียงเหลือบเห็นเฉิงชิง ใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
อวี๋ซานถอนสายตากลับมา มองไปรอบๆ ก่อนเอ่ยเื่อื่น “ทั้งสถานศึกษาล้วนกล่าวกันว่าเมิ่งไหวจิ่นสอนพิเศษให้แก่เฉิงชิงและชุยเยี่ยน ทุกวันยามโหย่วเฉิงชิงก็จะไปยังเรือนของเมิ่งไหวจิ่น”
เฉิงกุยขมวดคิ้ว
“ศิษย์พี่เมิ่งไหวจิ่นยินยอมที่จะสอนพิเศษแก่พวกเขา นั่นก็เป็อิสระของพวกเขา สถานศึกษาไปยุ่งด้วยไม่ได้”
เป็เพราะครั้งนี้เฉิงชิงได้อันดับที่ห้าสิบสองของห้องเรียนตัวอักษรติง ทำให้อวี๋เสี่ยนไม่ยินดีหรือเปล่านะ?
เป็คนที่มีพัฒนาการรวดเร็วจริงๆ
ครั้งก่อนยังหลุดจากร้อยอันดับแรกอยู่เลย
หากหลุดจากร้อยอันดับแรกห้องเรียนตัวอักษรติง ปีหน้าก็ไม่ต้องคิดที่จะสอบผ่านซิ่วไฉแล้ว
ห้องเรียนตัวอักษรติงคือห้องเรียนขั้นพื้นฐานที่สุดของสถานศึกษา ต้องได้สิบอันดับแรกจากคนสองร้อยกว่าคน ปีหน้าจึงจะพอมีความหวัง
การได้สิบอันดับแรกของห้องเรียนถึงจะมีโอกาสสูงที่จะสอบผ่าน นอกเสียจากว่าระหว่างสอบเกิดอะไรผิดปกติ!
เฉิงชิงเพิ่งเข้ามายังสถานศึกษาได้แค่สี่เดือนสั้นๆ จากอันดับที่เก้าสิบเจ็ดไปถึงอันดับที่ห้าสิบสอง เมื่อดูจากสถานการณ์นี้แล้ว ปัญหาการสอบระดับอำเภอและระดับเมืองไม่หนักนัก หากโชคดีพอที่จะสอบผ่านระดับสำนักศึกษาอีก เฉิงชิงก็จะเป็บัณฑิตซิ่วไฉแล้ว ปีหน้าอีกฝ่ายเพิ่งจะอายุสิบสี่ปีเท่านั้นเอง ตัวเฉิงกุยสอบผ่านเป็บัณฑิตซิ่วไฉเมื่อตอนอายุสิบห้า ด้วยเหตุนี้จึงได้รับคำชมจากผู้คน
หากเฉิงชิงได้เป็บัณฑิตซิ่วไฉในปีหน้าก็จะกดหัวเขา เฉิงกุยกดทับความรู้สึกที่ไม่สบายใจเอาไว้
เขาและเฉิงชิงล้วนเป็บุตรหลานตระกูลเฉิง เหตุใดเมิ่งไหวจิ่นจึงมองแต่เฉิงชิงเล่า?
หากเมิ่งไหวจิ่นไม่ได้สอนพิเศษเป็การส่วนตัว เฉิงชิงคงไม่มีพัฒนาการเร็วขนาดนี้!
อวี๋ซานยิ้มตรงมุมปาก “เ้าคิดว่าข้าอิจฉาหรือ? ข้าแค่รู้สึกว่าเมิ่งไหวจิ่นคงไม่สอนพิเศษให้เฉิงชิงง่ายๆ ขนาดนั้นหรอก ชุยเยี่ยนเว้นวันหนึ่งถึงจะไปอีกครั้ง แต่เฉิงชิงกลับไปที่เรือนของเมิ่งไหวจิ่นทุกวัน ล้วนเป็การเรียนพิเศษ เหตุใดจึงหนังหน้าหนานัก!”
เพราะสนิทสนมกับเฉิงชิงมากกว่า ดังนั้นจำนวนครั้งการสอนจึงมากกว่า?
อวี๋ซานรู้สึกว่าไม่น่าจะเป็เช่นนั้น
ั้แ่เฉิงชิงกับชุยเยี่ยนเข้าสถานศึกษามา ลำดับก็ไม่ได้ต่างกันมาก หากเวลาที่เมิ่งไหวจิ่นสอนพิเศษเฉิงชิงมากกว่า การสอบครั้งนี้เฉิงชิงควรจะดีกว่าชุยเยี่ยน
ผลลัพธ์ของทั้งสองคนยังคนอยู่ในระดับเดียวกัน ไม่มีความแตกต่างมากเกินไป
เฉิงชิงโง่เกินไป หรือว่าตอนที่ชุยเยี่ยนไม่ไปเรือนของเมิ่งไหวจิ่น เมิ่งไหวจิ่นไม่ได้สอนพิเศษให้เฉิงชิง?
หมายความว่าเฉิงชิงและเมิ่งไหวจิ่นมีความลับ!
อวี๋ซานเก็บรอยยิ้ม เขาต้องรู้ให้ได้ว่าเฉิงชิงและเมิ่งไหวจิ่นมีความลับอะไร เฉิงชิงรูปลักษณ์ไม่น่ามอง แต่เมิ่งไหวจิ่นกลับงดงามสง่า หากระหว่างเขาสองคนมีคนหนึ่งเป็รักร่วมเพศ คนนั้นย่อมไม่ใช่เขา แต่เป็เฉิงชิง——
“ฮัดชิ้ว!”
สายลมฤดูใบไม้ร่วงพัดผ่าน ใบไม้เขียวขจีเปลี่ยนผลัดเป็สีเหลือง เฉิงชิงจามพลางวิ่งเข้าประตูทางเข้าสถานศึกษา
ซือเยี่ยนนำชาวนาผู้หนึ่งมาพบเขาจากตำบลอู่ซิน นางอยากรีบจัดการเื่นี้อย่างรวดเร็ว คืนนี้ไปเรือนเมิ่งไหวจิ่นทำบัญชีปลอมตามเดิม
ว่าไปแล้วก็แปลก หลายวันนี้รู้สึกว่ามีคนจับตามองนางตลอดเวลา
ในฐานะที่เป็บุตรสาวครอบครัวร่ำรวย เฉิงชิงได้รับการสอนเกี่ยวกับเื่นี้มาบ้าง เงินเยอะเกินไปก็กลัวถูกจับตัว แม้จะมีบอดี้การ์ด แต่ตัวเองก็ต้องตื่นตัวด้วย… ดังนั้นนางจึงกล่าวกับเมิ่งไหวจิ่นั้แ่ครั้งแรก เดิมเื่ที่นางทำอยู่ตอนนี้ก็ไม่ควรถูกเปิดเผย หากเกี่ยวกับจวนเยี่ยอ๋องล่ะ?
เมิ่งไหวจิ่นให้นางอย่าตื่นตูม ควรทำอะไรก็ทำตามนั้น เขาจะรับผิดชอบลากตัวคนที่จับตาออกมาเอง
เฉิงชิงปฏิบัติตามคำแนะนำนี้ เมิ่งไหวจิ่นผู้เป็บัณฑิตผู้หนึ่งจับคนได้ด้วย?
——หรือว่าเยี่ยอ๋องซื่อจื่อทิ้งคนไว้ในหนานอี๋ให้เมิ่งไหวจิ่น!
