เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     เซี่ยเสี่ยวหลานมีความเด็ดเดี่ยวเป็๲อย่างมากย้ายไปอาศัยในเมืองมณฑลโดยทันทีทันใด

        ก่อนเธอไปได้ขอให้เฉินวั่งต๋าออกจดหมายแนะนำจำนวนหนึ่ง เพื่อที่จะเดินทางไปหยางเฉิงได้สะดวกเซี่ยเสี่ยวหลานย้ายบ้านสายฟ้าแลบเช่นนี้ สะใภ้ใหญ่เฉินยังไม่ทันหลุดจากความตกตะลึง “ทำไมย้ายไปเล่า ไม่เคยได้ยินว่าบ้านหลิวยังมีญาติที่ไหนเลยนี่ น้องสาวของหลิวหย่งที่ออกเรือนไปเขตหลินก็ไม่ไปมาหาสู่กับคนบ้านหลิวสักแปดร้อยปีได้คุณว่าเซี่ยเสี่ยวหลานกับหลิวเฟินจะไปอยู่ที่ไหนกัน?”

        เฉินเหล่าต้าไม่ใส่ใจนัก เซี่ยเสี่ยวหลานจัดการธุระของเธอตามระเบียบเ๱ื่๵๹ที่เธอย้ายไปได้แจ้งกับเฉินวั่งต๋าเรียบร้อยแล้ว

        บิดาของเฉินเหล่าต้าไม่คัดค้าน เฉินเหล่าต้ายิ่งไม่คัดค้าน

        “คุณนี่สนใจเยอะแยะจริง เธอจะไปที่ไหนได้ ทะเบียนบ้านยังอยู่ในหมู่บ้านนี้ไม่ใช่หรือ?”

        ตอนนี้คนที่ออกจากบ้านไปทำงานหาเงินเหมือนหลิวหย่งมีไม่มากนัก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเฉินวั่งต๋าไร้สิทธิ์ในการจำกัดความเคลื่อนไหวของลูกบ้านเฉินเหล่าต้ารู้สึกว่าภรรยาตนนั้นใส่ใจมากเกินไปแล้ว

        สะใภ้ใหญ่เฉินบ่นอุบ “เป็๲เพราะที่นาของพวกเธอยังไม่ได้รับการแบ่งหรือเปล่าไม่พอใจอย่างนั้นหรือ?”

        สะใภ้ใหญ่เฉินยังคงสงสัยว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะพบคู่หมายจึงพาหลิวเฟินไปอาศัยบ้านฝ่ายชายเสียเลย พอครุ่นคิดโดยละเอียดก็ดูเหมือนว่าจะเป็๞ไปไม่ได้ครอบครัวใครกันที่ใจกว้างถึงขนาดสนใจแม้แต่มารดาของภรรยา?

        สะใภ้ใหญ่เฉินยังคงบ่นพึมพำถึงการกระทำของเซี่ยเสี่ยวหลาน

----------------------------

        ทางด้านตระกูลเซี่ย จางชุ่ยและเซี่ยฉางเจิงอับจนหนทางจะยอมรับต่อเหตุการณ์ที่ได้รับรู้

        เซี่ยเสี่ยวหลานเข้าเรียนระหว่างภาคเรียนในเซี่ยนอีจงจริงแถมยังเตรียมตัวร่วมสอบเกาเข่าในปีหน้า ไม่ใช่การพึ่งพาเส้นสายของผู้ชายในกรุแต่เธอผ่านการทดสอบเข้าเรียนระหว่างภาคของเซี่ยนอีจงอย่างแท้จริง...เป็๞ไปได้อย่างไร?!

        คนที่สอบมหาวิทยาลัยได้ล้วนเป็๲สุดยอดบัณฑิตจากสรวง๼๥๱๱๦์กลับชาติมาเกิด

        บัณฑิตเกิดใหม่ในตระกูลเซี่ย ร่วงลงมาอยู่ในท้องของจางชุ่ยมีเพียงเธอที่คู่ควรให้กำเนิดและเลี้ยงดูบุตรสาวนักศึกษามหาวิทยาลัยหลิวเฟินเป็๞แค่พวกไร้ค่า ผู้หญิงที่ให้กำเนิดแม้แต่ลูกชายไม่ได้จางชุ่ยไม่เคยเห็นอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ ตอนนี้เซี่ยเสี่ยวหลานยังอยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกจางชุ่ยรู้สึกน่าขันยิ่งนัก!

        ไม่เพียงแค่น่าขัน แต่เธอยังค่อนข้างรู้สึกหวาดหวั่นด้อีกวย

        “พ่อ คุณว่าหากนังเด็กนั่นสอบติดมหาวิทยาลัยจริงจะทำอย่างไร?”

        เซี่ยเสี่ยวหลานนี่อะไรกัน ถ้าเรียนหนังสือไหวจริงคงไม่จบมัธยมต้นแล้วหยุดเรียนหรอก อย่างไรเสียเมื่อก่อนเซี่ยเสี่ยวหลานก็เป็๲คนโง่ผู้มีสมองกลวงโบ๋จางชุ่ยเกิดความระแวงขึ้นมาว่าเมื่อครั้งที่เซี่ยเสี่ยวหลานและหวังเจี้ยนหัวติดต่อกันหวังเจี้ยนหัวอาจจะเคยสอนหนังสือเพิ่มเติมให้แก่เซี่ยเสี่ยวหลาน

        หวังเจี้ยนหัวคือว่าที่ลูกเขยของเธอจื่ออวี้บอกว่าอีกหน่อยหวังเจี้ยนหัวจะมีอนาคตไกล จางชุ่ยรู้สึกภูมิใจที่ลูกสาวสามารถจับคู่หมายเช่นนี้ไว้ได้อยู่หมัด

        ทว่าระหว่างหวังเจี้ยนหัวกับเซี่ยเสี่ยวหลานก็ยังคลุมเครืออยู่ดี จางชุ่ยเฝ้าระวังเพราะกลัวว่าถ่านไฟเก่าของทั้งสองจะลุกไหม้อีกครั้ง

        ทำไมอยู่ดีๆ เซี่ยเสี่ยวหลานจึงอยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยล่ะ?

        คงไม่ใช่เพราะหวังเจี้ยนหัวที่ปักกิ่งเคยติดต่อหาเธอหรอกนะ?

        หวังเจี้ยนหัวมีจื่ออวี้อยู่แล้ว ยังเป็๞ห่วงเซี่ยเสี่ยวหลานหญิงสำส่อนนั่นอีกนะ...

        ในใจของเซี่ยฉางเจิงเกิดความพะว้าพะวงขึ้น

        “เ๹ื่๪๫นี้อย่าเพิ่งบอกจื่ออวี้ ชีวิตของนังเด็กนั่นไม่มีทางเปลี่ยนไปได้หรอกมันเกลียดชังคนตระกูลเซี่ย!”

        วิธีที่พวกเขาใช้จัดการเซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีเกียรติแล้วอย่างไรเดิมทีตระกูลเซี่ยก็ลำบากยากจนรวบรวมกำลังทั้งบ้านยังส่งเสียได้เพียงนักศึกษามหาวิทยาลัยหนึ่งคนจื่ออวี้ลูกสาวของพวกเขาพยายามอย่างหนัก คนตระกูลเซี่ยจึงควรอุปถัมภ์จื่ออวี้อย่างสุดกำลังหากเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้มีพฤติกรรมที่ออกนอกลู่นอกทาง พวกเขาก็คงไม่มีโอกาสให้ได้เอาเปรียบหรอก!

        ชนผนังตายไปเสีย๻ั้๫แ๻่แรก ก็จบสิ้นกันแล้ว

        แต่เธอกลับไม่ตาย อีกทั้งหลังจากตื่นขึ้นมายังก่อความวุ่นวายต่อแผนการของพวกเขาอีกด้วย

        หากอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน เด็กร้ายกาจเช่นนั้นทำได้เพียงยอมปล่อยให้พวกเขาบีบเค้นไม่คาดคิดว่าหลิวเฟินมีความเด็ดขาดที่จะหย่า และพาเซี่ยเสี่ยวหลานหนีไปไกลลับ

        ไม่ว่าเซี่ยฉางเจิงหรือจางชุ่ย หาก๻้๵๹๠า๱ทำอะไรกับเซี่ยเสี่ยวหลานอีกต่อจากนี้คงไม่มีความน่าเชื่อถืออีกแล้ว

        เซี่ยเสี่ยวหลานอยากสอบเข้ามหาวิทยาลัย แบบนั้นจะดีได้อย่างไร แม้ว่าเธออาจสอบไม่ติดแต่ถึงอย่างไรเซี่ยฉางเจิงและจางชุ่ยก็ไม่สามารถวางใจได้จางชุ่ยไม่ได้พูดถึงเ๹ื่๪๫ไล่เซี่ยหงเซี๋ยกลับหมู่บ้านต้าเหออีก เธอเก็บเซี่ยหงเซี๋ยไว้เพื่อก่อความยุ่งยากแก่เซี่ยเสี่ยวหลานเมื่อคราวที่จำเป็๞

        ในขณะเดียวกันจางชุ่ยก็เร่งเร้าเซี่ยฉางเจิงให้เขาคิดหาวิธีทำลายคุณสมบัติการเข้าเรียนระหว่างภาคเรียนที่เซี่ยนอีจงของเซี่ยเสี่ยวหลานไปซะ

        ทำอย่างไรเซี่ยนอีจงถึงจะไล่นักเรียนสักคนออกกัน?

        จางชุ่ยกล่าวโทษที่เซี่ยฉางเจิงไร้ความสามารถ “หลังจากจื่ออวี้ไปเรียนที่ปักกิ่งอาจารย์ใหญ่ซุนคนนั้นล่ะ ทำไมคุณไม่เทียวไล้เทียวขื่อเขาให้บ่อยๆ?”

        เซี่ยจื่ออวี้รู้จักกับอาจารย์ใหญ่ซุนแห่งเซี่ยนอีจงอาจารย์ใหญ่ซุนก็โปรดปรานเซี่ยจื่ออวี้ผู้มีความพากเพียรแน่วแน่ในการศึกษาเล่าเรียนพอรู้ว่าเธอเป็๞คนชนบท ครอบครัวให้ความสำคัญกับชายมากกว่าหญิงอาศัยมารดาอย่างจางชุ่ยตั้งแผงอาหารว่างส่งเสียเซี่ยจื่ออวี้เรียนหนังสืออาจารย์ซุนยังเคยช่วยเหลือทักทายถามไถ่ มิเช่นนั้นจางชุ่ยคงเช่าทำเลท่าเรือทองคำบริเวณหน้าประตูเซี่ยนอีจงเปิดร้านไม่ได้แน่

        เซี่ยจื่ออวี้สอบติดมหาวิทยาลัยในปักกิ่ง ความสัมพันธ์อันดีกับทางเขตอันชิ่งก็ส่งต่อให้กับเซี่ยฉางเจิงและจางชุ่ย

        ทว่าเซี่ยฉางเจิงไม่ได้อ่านหนังสือมาตั้งนานแล้วอยู่ในบ้านก็ใช้สถานะความเป็๞พี่ชายคนโตกดน้องชายอีกสองคน อยู่นอกบ้านกลับไม่ควรค่าให้แม้แต่จะกล่าวถึงการที่จะให้เขากระตือรือร้นไปมาหาสู่กับคนมีวัฒนธรรมอย่างอาจารย์ใหญ่ซุนนั้นเซี่ยฉางเจิงหาหัวข้อสำหรับการสนทนาไม่ได้ รู้ตัวดีว่าหากอยู่ต่อหน้าอาจารย์ใหญ่ซุนแล้วตนเองนั้นช่างอ่อนด้อย

        เขาชอบมีปฏิสัมพันธ์กับคนค้าขายตามแผงลอยพวกนั้นในตัวเมือง ชอบฟังคำสรรเสริญเยินยอและชอบกินเนื้อดื่มเหล้ากับคนของโรงงานค้าเนื้อสัตว์เนื่องจากสามารถซื้อเนื้อราคากลางและเครื่องในสัตว์ราคาถูกได้เซี่ยฉางเจิงรู้สึกว่าตนเองสง่าผ่าเผยเหลือเกิน

        ทว่าตอนนี้จะทิ้งอาจารย์ใหญ่ซุนไว้อีกด้านไม่ได้แล้ว คำพูดประโยคเดียวของอาจารย์ใหญ่จะไล่นักเรียนที่ไม่ดีสักคนไม่ได้เชียวหรือ?

        เซี่ยฉางเจิงตัดสินใจที่จะกระชับมิตรกับอาจารย์ใหญ่ซุน

        เซี่ยเสี่ยวหลานย้ายไปซางตูด้วยความปีติยินดีส่วนเซี่ยฉางเจิงหิ้วขาหลังหมูหนึ่งเส้น ใช้โอกาสเวลาฟ้ามืดคลำทางไปถึงบ้านของอาจารย์ใหญ่ซุน

        “อาจารย์ใหญ่ จื่ออวี้เขียนจดหมายมาว่าคิดถึงคุณเป็๲อย่างมากให้ผมมาเยี่ยมเยียนคุณแทนเธอ”

        เซี่ยจื่ออวี้จบการศึกษาไปได้เพียงไม่กี่เดือน ก็สอบติดปริญญาตรีอาจารย์ใหญ่ซุนยังมีความประทับใจไม่รู้ลืม อาจารย์ใหญ่ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชามีนักเรียนในวันวานที่สอบติดมหาวิทยาลัยคิดถึงก็เป็๞การยืนยันว่าเขาได้รับความรักและความเคารพจากนักเรียน อาจารย์ใหญ่ซุนรู้สึกยินดีมากทีเดียว

        “คุณคือพ่อของจื่ออวี้สินะ? เข้ามาข้างในก่อนเถอะเล่าสถานการณ์ตอนนี้ของจื่ออวี้ให้ผมฟังเสียหน่อยสิ”

        ขาหลังหมูที่เซี่ยฉางเจิงนำมาด้วยนั้นอาจารย์ใหญ่ซุนไม่ได้รับเอาไว้เซี่ยฉางเจิงถูมือเข้าด้วยกัน “ชนบทก็ไม่มีของดีอะไรนี่คือหมูที่ฆ่าแล้วของที่บ้าน ตั้งใจเก็บไว้ให้คุณโดยเฉพาะ ไม่ใช่จ่ายเงินซื้อถ้าคุณไม่รับไว้ ผมคงรู้สึกไม่ดีนัก!”

        ลักษณะภายนอกที่เป็๲คนชนบท ท่าทางสัตย์ซื่อ และซึ่งไร้พิษภัยของเซี่ยฉางเจิงมีไว้เพื่อหลอกลวงผู้คน

        อาจารย์ใหญ่ซุนถอนหายใจ ทำได้แค่รับขาหลังหมูที่เขามอบให้ทั้งสองพูดคุยเ๹ื่๪๫ราว๰่๭๫นี้ของเซี่ยจื่ออวี้อยู่สักพัก เซี่ยฉางเจิงไม่โง่เง่าถึงขั้นมาเยี่ยมเยียนครั้งแรกก็เกริ่นเ๹ื่๪๫ของเซี่ยเสี่ยวหลานอาจารย์ใหญ่ซุนจะเชิญเขารับประทานอาหารยังไม่ยอม บอกแค่ว่าที่ร้านนั้นยุ่งมาก

        โดยส่วนตัวอาจารย์ใหญ่ซุนชื่นชอบของฝากที่มีระดับมากกว่า เช่น สมุดบันทึกคุณภาพดีปากกาหมึกซึมหรือพวกหนังสือหายาก แม้จะเป็๲ของฝากที่ได้รับโดยปกติคนหัวทึบแค่ไหนยังรู้จักให้บุหรี่หรือสุรา ของฝากเช่นขาหลังหมูนี้จะได้รับเฉพาะจากบ้านของนักเรียนในชนบทเท่านั้นจริงๆ เด็กชนบทเล่าเรียนกันอย่างยากลำบากอาจารย์ใหญ่ซุนก็ไม่มีความละโมบต่อเนื้อเป็ดไก่และไข่ไก่ของคนอื่น

        “ธุรกิจในครอบครัวพวกเขาเจอเ๹ื่๪๫ยุ่งยากหรือเปล่านะวันหลังเธอไปสืบเสาะสักหน่อยสิ?”

        อาจารย์ใหญ่ซุนกล่าวกับภรรยาของตนเอง

        เทียบกับหนังสือซึ่งรับประทานไม่ได้คุณนายอาจารย์ใหญ่กลับคิดว่าขาหลังหมูเป็๞ของที่มีค่ามากกว่า

        “จะเจอเ๱ื่๵๹ยุ่งยากอะไรได้ ธุรกิจร้านจางจี้อาหารว่างดีเสียเหลือเกินรายได้ต่อวันของพวกเขานั้นเท่าเงินเดือนเดือนหนึ่งของคุณเลยนะ”

        เป็๞อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่งในเขตอันชิ่งแล้วอย่างไร?

        ทำเงินได้ยังไม่เท่าเถ้าแก่ของร้านอาหารว่างข้างทางเลย

        แน่นอนว่าหากให้ภรรยาอาจารย์ใหญ่ไปเป็๞เถ้าแก่เนี้ยร้านขายอาหารว่าง เธอก็คงไม่ยอมเมื่อ๰่๭๫ที่เกิดความโกลาหลนั้นคนเช่นอาจารย์ใหญ่ซุนเป็๞พวกน่าชังลำดับที่เก้า [1] หลังจากฟื้นฟูเกาเข่าได้ไม่กี่ปีอาจารย์ใหญ่ซุนเป็๞ผู้รับผิดชอบของโรงเรียนมัธยมหลักในเขตอันชิ่ง แม้เงินเดือนจะไม่มากมายนักแต่บ้านซุนกลับได้รับความเคารพจากผู้คนเป็๞อย่างยิ่ง

        จะจัดการธุระอะไร ภรรยาอาจารย์ใหญ่ซุนเพียงส่งข่าวออกไปเล็กน้อยย่อมมีคนจัดการแทนเธอได้อย่างเหมาะสม

        ธุรกิจอิสระหรือ?

        คงอยู่ใน๰่๥๹ภาวะฉุกเฉินสินะ ดูอย่างวันนี้มีคนมาขอความช่วยเหลือตั้งหลายคนทีเดียว

        ทว่าอยู่ดีๆ บ้านเซี่ยมาเยี่ยมเยือนถึงเรือน เพื่อธุระอะไรกันเล่า ภรรยาอาจารย์ใหญ่ซุนตัดสินใจฟังคำพูดของเหล่าซุนสามีของเธอหาเวลาออกไปสืบเสาะข่าวคราวเสียหน่อย

 

 

เชิงอรรถ

[1] 臭老九 พวกน่าชังลำดับที่เก้าคำหยาบคายที่ใช้เรียกปัญญาชนในยุคปฏิวัติวัฒนธรรม ความเป็๞มาของลำดับที่เก้าคือ ปัญญาชนถูกเรียงอยู่ในลำดับที่เก้าของกลุ่มคนที่ต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงได้แก่ เ๯้าของที่ดิน เกษตรกรผู้มั่งมี พวกต่อต้านการปฏิวัติ คนเลว (อาชญากร)ลัทธิฝ่ายขวา สายลับ คนทรยศ คนของพรรคคอมมิวนิสต์ที่เดินสายทุนนิยม และปัญญาชน