ภายในบ้านพัก ตอนนี้ติงรุ่ยกำลังปรึกษากับเหล่าคนใต้อาณัติ ด้วยความเคร่งเครียด
“ท่านหัวหน้า การที่พวกเราจับตัวท่านถังจู่มาเช่นนี้ เป็ไปได้ไหมว่า...?” หนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชากล่าวอย่างกลัดกลุ้ม
“เ้ากังวลใจอย่างนั้นหรือ?” หญิงชราถามกลับเสียงเย็น
“ขอรับ! ข้าเกรงว่ากู่ไห่จะเข้ามาทำลายแผนการที่ท่านได้วางเอาไว้” ผู้ใต้บังคับบัญชาบอกด้วยความหวาดวิตก
“ฮึ่ม! เ้าคิดว่าผู้ฝึกตนระดับก่อ์ จะเก่งกาจถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? อย่าห่วงเลย ข้านี่แหละจะบดขยี้เขา ไม่ต่างจากมดตัวหนึ่ง” ติงรุ่ยเอ่ยอย่างเ็า
“ข้าเกรงว่ากู่ไห่จะตามไต้ซือหลิวเหนียนมาน่ะขอรับ”
หญิงชราหรี่ตาลงเล็กน้อย พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ก่อนพูด “เ้าพูดถูก ตาแก่หลิวเหนียนนั่น เป็ปัญหาใหญ่สำหรับเราจริงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กู่ไห่ส่งข่าวถึงตาเฒ่านั่น คืนนี้จงจับตาดูกู่ไห่ให้ดี!”
ทันใดนั้น เสียงอึกทึกครึกโครมก็ดังมาจากนอกห้อง เสียงเอะอะยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเสียงฝีเท้า ที่กำลังมุ่งตรงมายังบ้านพักของนาง
“เกิดอะไรขึ้น?” ติงรุ่ยถามด้วยใบหน้าเยียบเย็น ก่อนก้าวออกจากบ้านพัก พร้อมกลุ่มคนใต้อาณัติ
ทันทีที่พ้นชายคาบ้าน พวกเขาก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
ตูม!
ท้องนภาเกิดเสียงดังกึกก้อง ก่อนจะเกิดเมฆหมอกหนา ปกคลุมทั่วผืนฟ้า
“อะไรกัน?” ท่าทีของติงรุ่ยพลันเปลี่ยนไป
ขณะนั้นเอง ในจุดที่ห่างออกไป ก็ปรากฏร่างของผู้ใต้บังคับบัญชา กำลังวิ่งตรงมาหา
“ท่านหัวหน้าๆ หุบเขาโหยวหรานเกิดเื่ใหญ่ขึ้นแล้ว เสียงอึกทึกครึกโครมเมื่อครู่ ล้วนมาจากที่นั่น”
“เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดหมากจึงถูกแก้ไปมากมายถึงเพียงนี้?” หญิงชราถามด้วยความประหลาดใจ
“เป็กู่ไห่... กู่ไห่เป็คนแก้หมากเหล่านี้ขอรับ เขาประลองกับาาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ และาาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือ ภายในสองชั่วยามครึ่ง ทั้งสามสามารถแก้หมากได้คนละสองร้อยกระดานแล้วขอรับ” ผู้ใต้บังคับบัญชาตอบอย่างนอบน้อม
“หกร้อยกระดาน?” สีหน้าของติงรุ่ยเปลี่ยนไปทันที ที่ได้ยินเช่นนั้น
ก่อนหน้านี้ ตัวนางเองก็เคยลองแก้หมากเหล่านี้มาแล้ว แต่น่าเสียดายที่ตนมิได้มีความรู้ด้านหมากล้อมดีเท่าใดนัก แม้จะสามารถแก้ได้ ก็ใช้เวลาไปไม่น้อยสำหรับหมากกระดานเดียว
“ขอรับ! กู่ไห่เป็ฝ่ายชนะการประลองในครั้งนี้ จากนั้นก็มีชายที่ชื่อกวนจิ่วปรากฏตัวขึ้น เพื่อขอประลองหมากกับกู่ไห่ และพวกเขาทั้งสอง ก็ได้แก้หมากไปหนึ่งพันกระดานขอรับ” ชายคนนั้นพูดอย่างนบนอบ
“หนึ่งพันกระดาน?” เหล่าศิษย์สังกัดอัคคี ต่างเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
“ใช่แล้วขอรับ! อีกอย่าง เป็กู่ไห่ที่สามารถแก้หมากทั้งหมดนั่นได้ในคราเดียว ตอนนี้ทั่วทั้งหุบเขาโหยวหรานกำลังโกลาหล เพราะผู้คนพากันไชโยโห่ร้อง” ผู้ใต้บังคับบัญชากล่าว
ติงรุ่ยนิ่งงัน
“ก่อนที่กู่ไห่จะมาถึง เราใช้เวลานานนับเดือนในการแก้หมากหนึ่งร้อยกระดาน แต่เขากลับแก้หมากหนึ่งพันหกร้อยกระดาน ภายในวันเดียว?
ไม่! ก่อนหน้านั้น กู่ไห่ก็แก้หมากไปแล้วหนึ่งร้อยกระดาน ดังนั้นในเวลาอันสั้นนี้ เขาสามารถแก้หมากได้มากถึงหนึ่งพันเจ็ดร้อยกระดาน” หนึ่งในกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชากล่าว
ทุกคนอ้าปากค้าง เื่ที่ได้ยินนี้ ช่างเหลือเชื่อจริงๆ
“หกร้อยกระดาน... เหลือแค่หกร้อยกระดานเท่านั้น!”
“ท่านหัวหน้า คืนนี้พวกเรายังจะต้องลงมืออีกหรือไม่?” ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งถามขึ้น พลางขมวดคิ้วสงสัย
หญิงชราเงียบไปชั่วขณะ
“ไปดูกันเถอะ!” พูดจบ ติงรุ่ยก็นำคนของตนทะยานไปยังยอดเขาทันที
ยามนี้ บริเวณโดยรอบถูกปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก หากยืนอยู่บนยอดเขา ก็จะสามารถมองเห็นสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ภายในหุบเขาโหยวหรานได้อย่างชัดเจน แต่ผู้ที่อยู่ภายในหุบเขาจะมองไม่เห็นคน้า
...
ภายในหุบเขาโหยวหราน
าาหมากล้อมสังหารยังคงนั่งนิ่ง โดยมีหญิงชุดดำคอยประกบอยู่ด้านข้าง ส่วนศิษย์ของเขา ก็เอาแต่จ้องไปยังกลุ่มคนที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามด้วยความฉงน
กลุ่มผู้ฝึกตนที่กู่ไห่พาเข้ามานั้น ต่างก็ไม่อาจละสายตาจากเหตุการณ์ตรงหน้าได้ เพราะความเป็กันเองและให้เกียรติ ที่ชายหนุ่มมีต่อพวกเขา ทำให้ทุกคนรู้สึกนับถือและ้าที่จะช่วยเหลือเขา
ดวงตาของาาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ และาาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือ พลันเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง ในฝีมือเดินหมากของกู่ไห่
“ขอบคุณคุณชายกวนจิ่ว!” กู่ไห่สูดหายใจลึก พร้อมกับมองไปยังชายชุดขาว
คุณชายเก้าก็มองกลับไปยังอีกฝ่ายอยู่นาน ในใจยามนี้เกิดความสับสน เพราะ้าให้กู่ไห่มาเป็ผู้สืบทอดของตน แต่ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะไม่้ามันเสียอย่างนั้น
“ในเมื่อท่านไม่ยอมรับมรดกจากข้า เช่นนั้นก็ลืมมันไปเถอะ! อาการป่วยของข้าก็ถือว่าดีขึ้นมากแล้ว ส่วนท่านยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมากนัก ในอนาคต หวังว่าเราจะได้พูดคุยเื่นี้กันอีกครั้ง” คุณชายเก้ากล่าว พลางถอนหายใจ
“ไป!” เขาสั่ง
“ขอรับ!” กลุ่มคนใต้อาณัติตอบกลับอย่างนอบน้อม ก่อนหมุนตัว เดินตามหลังผู้เป็นายไป
“เอ่อ! คุณชายกวนจิ่วๆ ยังเหลือหมากอีกหกร้อยกระดาน ท่านโปรดอยู่ต่ออีกหน่อยเถอะ” ติงตงขอร้องอย่างร้อนรน พร้อมเดินไปเบื้องหน้าของอีกฝ่าย
แต่กวนจิ่วกลับไม่ยี่หระ ทำให้ชายชราถูกคนใต้อาณัติของคุณชายเก้าขวางไว้อย่างรวดเร็ว
ติงตงร้องเรียก “คุณชายกวนจิ่ว!”
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจ ก็นึกขุ่นเคือง คนเหล่านี้เป็ใครกัน?
ทันทีที่ชายหนุ่มชุดขาวลับตาไป าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ และาาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือ ก็ราวกับจะตระหนักได้ถึงความหมายในคำพูดของเขาทันที... มรดกของคุณชายเก้า ยังไม่ได้มอบให้กู่ไห่อย่างนั้นหรือ?
“ไป!” าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้สั่ง พร้อมหมุนตัว เดินออกไป
“ไป!” าาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือก็เช่นกัน
เมื่อเห็นเช่นนั้น กลุ่มคนใต้อาณัติของาาหมากล้อมทั้งสอง จึงรีบตามผู้เป็อาจารย์ไปทันที
“โอ้! าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ ท่านเพิ่งมาถึงไม่นาน ก็จะไปแล้วหรือ? าาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือก็เช่นกัน อย่าเพิ่งไปกันเลย โปรดเห็นแก่มิตรภาพระหว่างสำนักเถอะ” ติงตงพยายามยับยั้งสองาาหมากล้อมอย่างสุดความสามารถ
าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ มองอีกฝ่ายด้วยแววตาเยือกเย็น “ติงตงเ้ากล้ารั้งข้าอย่างนั้นหรือ? คิดว่าฐานะของข้า ต่ำต้อยกว่าตำแหน่งหัวหน้าสำนักติงหลงของเ้าหรืออย่างไร?”
“ไปให้พ้น อย่ามาขวางทางข้า!” าาหมากล้อมทะเลแห่งเหนือตวาด
บัดนี้ าาหมากล้อมทั้งสองต่างก็รู้สึกโกรธเคืองนัก ที่โดนรั้งตัวไว้เช่นนี้ จนทำให้ไม่อาจตามคุณชายเก้าได้ทัน
ติงตงตะลึงงัน
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? แต่เมื่อไม่อาจรั้งไว้ได้ ชายชราจึงค่อยๆ ขยับถอย เปิดทางให้สองาาหมากล้อมด้วยใจที่เศร้าหมอง
พวกเขาจะไปแล้วหรือ? แล้วกระดานหมากเหล่านี้ล่ะ? ติงตงเหลือบมองอีกสองคนที่ยังเหลืออยู่ ก็คือาาหมากล้อมสังหาร และกู่ไห่
ชายทั้งสองมิได้เดินหนีออกไป เหมือนสองาาหมากล้อม แต่กลับเอาแต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
หรือว่า... พวกเขาก็้าที่จะจากไปเช่นกัน? ติงตงไม่อาจคาดเดาความคิดของคนทั้งสองได้เลย
“ท่านกู่ ้าอะไรหรือไม่? ไม่ว่าจะเป็สิ่งใดในสำนักติงหลงนี้ หากมันทำให้ท่านกู่พึงพอใจ ข้าจะจัดหามาให้” ชายชราเดินมาเบื้องหน้ากู่ไห่ ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ
“วันนี้ผ่านเื่ราวมาไม่น้อย ข้าเหนื่อย อยากพักผ่อน” ชายหนุ่มเอ่ย
“แน่นอนๆ ที่นี่มีเรือนรับรองที่ดีที่สุด ท่านสามารถเลือกได้ตามใจชอบ” ติงตงกล่าวอย่างกระตือรือร้น
โชคดีนักที่อีกฝ่ายมิได้บอกว่าจะจากไป
กู่ไห่คลี่ยิ้มบางๆ ก่อนจะหันไปมองกลุ่มผู้ฝึกตนกว่าหนึ่งพันคน ที่ตนพาเข้ามา
“ท่านหัวหน้าสำนักติง นี่คือพวกเพื่อนๆ ที่ข้าพามาด้วย ท่านช่วยให้คนพาไปยังที่พัก และดูแลพวกเขาได้หรือไม่?” ชายหนุ่มยิ้ม
ชายชราอึ้งเล็กน้อย เดิมทีตั้งใจไว้ว่า จะให้ผู้ฝึกตนพันกว่าคนเหล่านี้ อยู่ในหุบเขาไปตามมีตามเกิด ไม่มีการเสนออะไรให้ทั้งสิ้น หากใครทนไม่ไหวก็ออกไป และไม่ให้กลับเข้ามาอีก
แต่ตอนนี้กู่ไห่ออกปากร้องขอ ทำให้เขาลำบากใจไม่น้อย
“หากไม่ได้ เช่นนั้นข้าจะพาเพื่อนๆ กลุ่มนี้ออกไปหาที่พัก” ชายหนุ่มส่ายศีรษะ และแสร้งทำเป็ว่าตนกำลังจะจากไป
“อย่า... อย่าเลย! ในเมื่อทุกท่านเป็เพื่อนของท่านกู่ เช่นนั้นก็จงอยู่ที่นี่กันตามสบายเถอะ” ติงตงกัดฟันพูดอย่างกล้ำกลืน
“ฮ่าๆๆๆ!”
“ขอบคุณท่านกู่!” เหล่าผู้ฝึกตนต่างพากันโห่ร้องด้วยความดีใจ
สำนักติงหลงมีหลายสิ่งที่น่าสนใจ ดังนั้น ผู้ฝึกตนเองเหล่านี้ก็ไม่อยากจะออกไปจากที่นี่เช่นกัน เมื่อเห็นท่าทีของศิษย์สำนักติงหลงในตอนแรกแล้ว ทุกคนต่างก็รู้สึกไม่พอใจ แต่เพราะกู่ไห่ จึงทำให้ได้รับการปรนนิบัติดูแลเป็อย่างดี พวกเขาจึงรู้สึกขอบคุณชายหนุ่มจริงๆ
กู่ไห่พยักหน้า ก่อนเลือกเรือนรับรองที่มีลานหน้าบ้าน
“ข้าจะอยู่หลังนั้น!”
“ข้าจะอยู่ที่นั่น อย่ามาแย่งข้านะ!”
“ข้าจะอยู่นี่!”
ตอนนี้ กลุ่มผู้ฝึกตนได้จับจองเรือนรับรองของตนจนครบ ติงตงรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย กับการรับมือคนเหล่านี้
“าาหมากล้อมสังหาร ก่อนหน้านี้ ข้าต้อนรับท่านได้ไม่ดีเท่าที่ควร หาก้าอะไรโปรดบอก อย่าได้เกรงใจ แล้วข้าจะรีบจัดหามาให้โดยเร็วที่สุด” ชายชรากล่าวกับชายอีกคน
“ข้าเองก็เหนื่อยแล้ว ้าพักผ่อน” าาหมากล้อมในชุดดำเอ่ย พลางส่ายหน้า
เขาลุกขึ้นยืนหลังตรง ก่อนจะโอบหญิงสาวไว้ในอ้อมแขน แล้วจึงพากลุ่มคนของตนตรงไปยังเรือนรับรองหลังเล็กๆ
“ฟู่!” ติงตงถอนหายใจเฮือกใหญ่
ยังดีที่กู่ไห่และาาหมากล้อมสังหารไม่คิดที่จะจากไป ไว้เขาค่อยไปอธิบายเื่ราวทั้งหมดให้เปี่ยวอี๋ฟังอีกครั้ง
“ไป! เรียกศิษย์สองพันคนมา คอยดูแลความเรียบร้อยที่หุบเขาโหยวหราน อย่าก่อเื่วุ่นวายให้แก่กู่ไห่ และาาหมากล้อมสังหารเด็ดขาด” ชายชราสั่งศิษย์สำนักติงหลงทันที
“ขอรับ!”
...
ไม่ไกลกันนัก บนยอดเขาสูง
ติงรุ่ยหรี่ตา พลางจ้องไปยังพื้นที่ภายในหุบเขาโหยวหรานอย่างครุ่นคิด
“ท่านหัวหน้า าาหมากล้อมสังหาร ถือว่ามีฝีมืออ่อนด้อยที่สุดในบรรดาสามาาหมากล้อม เวลานี้เราเหลือเพียงาาหมากล้อมสังหารและกู่ไห่ เช่นนี้แล้ว เรายังต้องลงมือในคืนนี้อีกอย่างนั้นหรือ?”
“นั่นสิขอรับ! กู่ไห่อาจจะพักที่นี่อีกสักระยะหนึ่ง เพื่อแก้หมากที่เหลือ”
“แต่พวกเราก็ไม่อาจหลบซ่อนไปได้ตลอด อีกไม่นานหลี่ฮ่าวหรานก็ต้องหาเราเจอ และพากองกำลังเฉินจีหยิงมาบุกที่นี่แน่”
“แต่กว่ากู่ไห่จะส่งจดหมายไปถึง ก็ต้องใช้เวลา”
“กู่ไห่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าพวกเราอยู่ที่นี่”
“ใช่แล้ว! ท่านหัวหน้า กู่ไห่ยังไม่รู้ว่าท่านอยู่ที่นี่ แล้วเหตุใดยังต้องกังวลเกี่ยวกับเขาอีก?”
ผู้ใต้บังคับบัญชากลุ่มหนึ่ง มองติงรุ่ยอย่างขอความเห็น
ยามนี้ ดวงตาของหญิงชราแสดงให้เห็นถึงความสับสน และไม่แน่ใจ จริงๆ อยากจัดการกู่ไห่เสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็้าให้เขาช่วยแก้หมาก จึงรู้สึกขัดแย้งในความคิด...
ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางเลือกอื่น คงต้องปล่อยอีกฝ่ายไปก่อน
“จับตาดูกู่ไห่เอาไว้อย่างใกล้ชิด หากมีการเคลื่อนไหวใดๆ เกิดขึ้นให้รีบแจ้งข้าทันที นอกจากนี้ พวกเ้าก็รีบไปซ่อนตัวเสีย อย่าให้กู่ไห่จำเราได้” ติงรุ่ยกล่าวเสียงต่ำ
“แปลว่าพวกเราไม่ต้องลงมือแล้วใช่หรือไม่ขอรับ?”
“ทันทีที่กู่ไห่แก้หมากอีกหกร้อยกระดานเสร็จ ให้ลงมือได้!” หญิงชราพูดเสียงเย็นเฉียบ
“ขอรับ!” ทุกคนรับคำสั่ง
“อีกทั้งจงป่าวประกาศออกไป ว่ารางวัลสำหรับการแก้หมากจะเพิ่มขึ้นเป็สิบเท่า นั่นคือ หากแก้หมากได้หนึ่งกระดาน จะได้รับหินิญญาระดับสูงหนึ่งร้อยก้อน” ติงรุ่ยกล่าว น้ำเสียงจริงจัง
“หืม? หินิญญาหนึ่งร้อยก่อน... ไม่มากเกินไปหรือขอรับ?” ทุกคนถามด้วยความแปลกใจ
“สิ่งที่ข้าขาดแคลนที่สุด ก็คือเวลา ข้าอยากซื้อเวลาด้วยหินิญญา... เร็วเข้า!” หญิงชราเร่งเสียงต่ำ
“ขอรับ!” ทุกคนตอบ
ข้อความนี้ ถูกแพร่กระจายออกไปทั่วบริเวณอย่างรวดเร็ว โดยศิษย์สำนักติงหลง
หากสามารถแก้หมากได้หนึ่งกระดาน ก็จะได้รับหินิญญาระดับสูงถึงหนึ่งร้อยก้อน? ข่าวที่ได้รับ ทำให้ผู้ฝึกตนที่เคยเข้าร่วมแก้หมากไปก่อนหน้านี้ ต่างพากันโกรธเคืองต่อกติกาใหม่ที่เพิ่งจะประกาศออกมา
เกิดอะไรขึ้น? สิบเท่าอย่างนั้นหรือ?
ทันใดนั้น ผู้ฝึกตนกลุ่มหนึ่งจึงพยายามอย่างหนัก ที่จะแก้หมากด้วยตัวเอง เพราะความมหาศาลของรางวัล จึงทำให้ทุกคนรู้สึกฮึกเหิม
และแน่นอน ย่อมมีผู้ฝึกตนบางคน ที่เริ่มคิดว่าสำนักนี้ช่างร่ำรวยนัก พวกเขาต่างมองศิษย์สำนักติงหลงด้วยสายตาเย็นะเื ไร้ซึ่งการเห็นใจเหมือนก่อน
เหล่าศิษย์ที่มายังหุบเขาโหยวหราน เพื่อตรวจสอบผู้ฝึกตน จึงพากันรู้สึกไม่สบายใจ
พวกเขามาตรวจสอบผู้ฝึกตน หรือเป็ตัวเองที่กำลังโดนตรวจสอบกันแน่? ผู้คนกลุ่มนั้นดูยากไร้นัก และสายตาทุกคู่ ก็มักจะแสดงอาการตื่นเต้นทุกครั้ง เมื่อมองดูกลุ่มศิษย์สำนักติงหลง ราวกับกำลังมองไปยังูเาเงินูเาทองเคลื่อนที่ อดไม่ได้ที่อยากจะััแตะต้อง
ชั่วขณะหนึ่ง บรรยากาศโดยรอบหุบเขาโหยวหราน พลันดูแปลกชอบกล
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้