“อืม... ข้ามีนัดหมายกับท่านพี่ฉีอ๋อง แต่พูดออกมาไม่ได้ขอรับ” หลี่ลั่วพูดอย่างคลุมเครือ
มีความเกี่ยวพันกับฉีอ๋องหรือ? หลี่หยางซื่อได้ยินแล้วให้รู้สึกว่าไม่ธรรมดาสามัญแล้ว แต่หากเกี่ยวพันกับฉีอ๋องนางย่อมไม่อาจสอบถามได้ แม้หลี่ลั่วจะมีอายุเพียงห้าขวบ ทว่าในระยะเวลากว่าครึ่งเดือนที่อาศัยอยู่ร่วมกันหลี่หยางซื่อได้ทำความเข้าใจในตัวของหลี่ลั่ว เขาเป็เด็กที่มีความคิดเป็ของตนเองสูงมาก อุปนิสัยเช่นนี้สำหรับจวนโหวแล้วเป็เื่ที่ดียิ่งนัก และสำหรับตัวนางเองที่เป็มารดาใหญ่เขาก็ปฏิบัติต่อนางอย่างให้เกียรติ
“ต้องไปวันนี้ให้ได้ใช่หรือไม่?” หลี่หยางซื่อถามอีกครั้งหนึ่ง
“ขอรับ ยิ่งเร็วยิ่งดี” หลี่ลั่วตอบ
“ได้ ข้าจะให้พ่อบ้านจี้ไปเตรียมการให้ เ้าอยากให้ใครติดตามไปด้วยบ้างเล่า?” ในใจหลี่หยางซื่อนั้นอยากให้จัดคนที่ไว้ใจและพึ่งพาได้ไปสักหลายคนหน่อย หากเกิดเื่อันใดที่ไม่คาดฝันขึ้น ต่อให้นางมานั่งเสียใจภายหลังก็สายเกินไปเสียแล้ว
“ตัวข้าไม่อยู่ที่นี่ เรือนของข้ามีมารดาดูแลให้ ดังนั้นข้าจึงอยากพาซินหมัวมัวไปด้วย ที่หมู่บ้านยังไม่ได้จัดคนเอาไว้ขอรับ” หลี่ลั่วกล่าว “ซินเป่า หลี่ฉางเฉิง และหลี่ฉางสือจะติดตามข้าไปด้วย ส่วนสาวใช้มีผิงอันกับหยวนโม่ก็พอแล้ว ข้าจะนำพ่อครัวไปด้วย แล้วก็ยังมีท่านอาหลี่ที่จะไปด้วยกันกับข้าขอรับ”
เมื่อมีหลี่จงิไปด้วยหลี่หยางซื่อจึงวางใจลงได้ไม่น้อย อีกทั้งซินหมัวมัวและผิงอันต่างก็เป็คนของตนเอง เมื่อกลับมานางก็สามารถสอบถามเื่ราวได้ “เช่นนั้นก็ดี จวนโหวมีมารดาอยู่ ลั่วเกอเอ๋อร์ มารดารู้ว่าเ้าเป็คนฉลาดหลักแหลม เ้าก็รู้ ไม่ว่าจะเกิดเื่อันใดขึ้น มารดา เ้า หงเกอเอ๋อร์ หลินเจี่ยเอ๋อร์ แล้วยังมีจวนโหวแห่งนี้ มีเพียงพวกเราสี่คนเท่านั้นที่เป็ครอบครัวเดียวกัน”
“มารดาโปรดวางใจขอรับ คำพูดของมารดานั้นลูกจดจำเอาไว้แล้วขอรับ”
ความจริงแล้วนิสัยของหลี่ลั่วเป็คนเฉื่อยชา แต่เื่พิษตะกั่วในเืนั้นรอไม่ได้ เขาต้องได้รับการยืนยันจากห้องทดลองโดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็เื่ร้ายแรงต่อกู้จวิ้นเฉิน ต่อให้ถอนพิษได้ แต่ร่างกายก็ถูกทำร้ายจนไม่สามารถกลับไปแข็งแรงเหมือนเดิมได้อีกแล้ว
เนื่องจากในจวนมีแขก หากออกทางประตูใหญ่จะเป็การไม่เหมาะสมนัก หลี่ลั่วจึงออกจากจวนโหวด้วยประตูด้านข้าง สัมภาระและคนที่ติดตามไปด้วยรวมแล้วมีถึงห้าคันรถด้วยกัน
หลี่ลั่วและซินเป่านั่งรถม้าหนึ่งคัน หลี่จงิ หลี่ฉางเฉิง และหลี่ฉางสือล้วนขี่ม้า
ซินหมัวมัว ผิงอัน และหยวนโม่ นั่งรถม้าหนึ่งคัน
แม่ครัวหนึ่งคนและสาวใช้ทำงานแรงงานสี่คนนั่งรถม้าหนึ่งคัน
พ่อบ้านจี้และบ่าวชายสี่คนนั่งรถม้าหนึ่งคัน
ส่วนรถม้าอีกหนึ่งคันคือสัมภาระที่เหลือ
เมื่อยามที่หลี่ลั่วออกมานั้นเขาได้บอกกล่าวกับหลี่หงแล้ว แขกที่อยู่ในศาลาต้อนรับแขกนั้นหลี่หงจะเป็ผู้ดูแลให้ อีกประการหนึ่งคือ สำหรับเด็กน้อยวัยห้าขวบอย่างเขากับหนุ่มน้อยเ่าั้ก็ไร้ซึ่งหัวข้อที่จะสนทนากันอยู่แล้ว
ระยะทางจากจวนโหวไปจนถึงหมู่บ้านเขตชานเมืองทางตอนเหนือต้องนั่งรถม้าสองชั่วยาม เวลาสองชั่วยามก็คือสี่ชั่วโมง ระยะทางไม่ไกลและไม่ใกล้ หลี่ลั่วไม่ชอบการเดินทางด้วยรถม้าเลย ต่อให้รถม้าของจวนโหวจะประดับตกแต่งให้สะดวกสบายกว่านี้เขาก็ยังไม่ชอบอยู่ดี สะดุดหลุมบนถนนครั้งหนึ่ง ก้นก็กระแทกครั้งหนึ่ง ถึงจะไม่ถือว่าเจ็บแต่ก็ทำให้รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย
ในที่สุดเมื่อครบสองชั่วยามพวกเขาก็เดินทางมาถึงหมู่บ้าน ที่จริงแล้วหมู่บ้านชานเมืองทางตอนเหนือถือว่าเป็สถานที่ห่างไกลตัวเมือง ด้านข้างนอกจากที่นาแล้วก็เป็ชุมชน ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงต่างก็อาศัยทำงานในหมู่บ้านหรือทำนาเพื่อหาเลี้ยงชีพ
ด้วยเหตุที่พวกเขายังไม่ได้กินอาหารเที่ยง เมื่อมาถึงหมู่บ้านซินหมัวมัวจึงสั่งการให้แม่ครัวไปห้องครัวทำกับข้าว หยวนโม่และผิงอันไปทำความสะอาดห้องที่หันไปทางทิศใต้ให้เป็ห้องนอนของหลี่ลั่ว
“พ่อบ้านจี้ เ้าไปซื้อสิ่งของเล็กน้อยจากในชุมชนมาเถิด” หลี่ลั่วพูดอย่างอ่อนล้า “ไปซื้อสัตว์ปีกมาสักสิบตัว ไก่หรือเป็ดก็ได้ทั้งสิ้น และจ้างชายหนุ่มและหญิงสาวมาที่นี่อีกสี่คน เงินเดือนให้ตามที่ท่านเห็นว่าเหมาะสม ท่านเจรจาเองเถิด”
“ขอรับ”
“ลำบากเ้าแล้ว”
“บ่าวมิกล้าขอรับ” เขาไม่กล้าจริงๆ สำหรับเสี่ยวโหวเหฺยท่านนี้ เมื่อสั่งการแต่ละครั้งไม่มีสักครั้งที่จะไม่ชัดเจน มาจนถึงนาทีนี้พ่อบ้านจี้เพิ่งจะรู้จักเขาได้ลึกซึ้ง ไม่สิ เมื่อขณะที่หลี่หยางซื่อยินยอมให้เขาเดินทางมาที่นี่ในวันนี้ต่างหากเล่า ที่เขาได้รู้ซึ้งอย่างแท้จริง
แม่ครัวทำงานรวดเร็วยิ่ง นางทำบะหมี่ให้หลี่ลั่วก่อนหนึ่งชาม บะหมี่ไก่ตุ๋นเห็ดหอม ใส่ผักสด รสชาติไม่จัดนัก น้ำแกงมีรสชาติทั้งสดและหอมเป็พิเศษ
ผิงอันและหยวนโม่เก็บกวาดห้องพักอย่างชำนาญ เมื่อฝุ่นละอองในบ้านถูกเช็ดจนสะอาดเรียบร้อยพวกนางก็เปิดหน้าต่างเพื่อทำการระบายอากาศ รอให้หลี่ลั่วกินบะหมี่เรียบร้อยแล้วกลับไปถึง ด้านในก็ไม่มีมีฝุ่นหลงเหลืออยู่แม้แต่น้อย
“พวกเ้าไปกินข้าวกันก่อนเถิด อย่าได้หิ้วท้องหิวกันอยู่เลย” หลี่ลั่วเป็นายท่านที่เอาใจใส่ต่อคนของตนยิ่งนัก
“เ้าค่ะ”
หลังจากกินอาหารเสร็จจะนอนทันทีไม่ได้ ดังนั้นหลี่ลั่วจึงลูบท้องของตนที่เพิ่งกินอิ่ม เดินเล่นอย่างไม่รู้ทิศทางอยู่ในหมู่บ้าน บ้านเรือนในหมู่บ้านมีไม่มาก ที่มีมากคือพื้นที่ว่างเปล่า เดิมทีแล้วไม่ว่าจะเป็หมู่บ้านที่อยู่ชานเมืองหรือนอกชานเมืองก็มักจะไม่ได้มีไว้เพื่อให้คนอยู่อาศัยอยู่แล้ว แต่เป็สถานที่ที่เ้าของมีไว้มาเที่ยวเล่นพักผ่อนหย่อนใจ ดังนั้นจึงไม่ใช่เพียงแต่หมู่บ้านแห่งนี้ของหลี่ลั่วเท่านั้น หมู่บ้านแห่งอื่นก็เป็เช่นนี้เหมือนกัน ขณะที่หลี่ลั่วกำลังเดินเล่นอย่างไร้ทิศทาง เขาก็คิดออกแล้วว่าจะใช้ประโยชน์จากพื้นที่ว่างเหล่านี้ได้อย่างไร สมองของเขาคิดวางแผนการได้อย่างรวดเร็วฉับไว รอจนกระทั่งเขาเดินครบหนึ่งรอบ ก็เดินมาได้หนึ่งชั่วยามแล้ว เมื่อเขากลับไปถึงเรือนหน้า พ่อบ้านจี้ยังไม่กลับมา ส่วนข้ารับใช้ต่างกินข้าวกันเรียบร้อย จัดการเื่ที่พักของตนเองจนเสร็จแล้ว ซินหมัวมัวกำลังแบ่งงานให้สาวใช้ที่ทำงานแรงงานอยู่
“ซินหมัวมัว ท่านมีคู่ชีวิตหรือไม่ขอรับ” จู่ๆ หลี่ลั่วก็พลันถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน