หวังหย่งมองร่างเกือบเปลือยของสาวใช้ที่บิดกายเร่าๆ ด้วยความพอใจ เขาชักนิ้วเรียวออกจากร่องรักที่เปียกชุ่มด้วยหยาดน้ำหวานแล้วแทรกเข้าไปในโพรงปากที่เผยออ้าส่งเสียงคราง ให้นางได้ลิ้มรสชาติน้ำรักของตนเอง นางทำตัวเป็นกน้อยเมื่อถูกป้อนสิ่งใดเข้าปากก็ดูดกลืนอย่างหิวโหย ขณะเดียวกันนั้นเอง หวังหย่งก็จับเรียวขางามให้แยกออกกว้างแล้วกดแท่งหยกเข้าร่องรักพรวดเดียวมิดด้าม!
“อ๊า!” จางลี่อ้าปากหวีดร้องเมื่อถูกกระทุ้งเข้าจนจุก “คุณชาย...ซี๊ดดด”
“เป็อย่างไร” เขาถามทั้งที่ขยับสะโพกโยกใส่อย่างเมามัน เขาก้มมองแท่งหยกของตนที่เข้าออกรัวเร็ว ไม่สนใจว่ากลีบเนื้อนุ่มจะบวมแดงเพราะแรงกระแทกกระทั้นไม่ปรานีของเขา
“เสียวเ้าค่ะ” จางลี่ถูกความเสียวซ่าครอบงำไปทั่วร่าง นางได้แต่นอนบิดกายไปมาปล่อยให้คุณชายเคลื่อนไหวตามใจจนกระทั่งร่างของนางเกร็งกระตุกด้วยถูกกระตุ้นให้ถึงจุดสุดยอด
“อือ...อ๊า กรี๊ดดดด”
“โอ้ว ข้าเสร็จแล้ว เสร็จ...อา”
เสียงครางยาวอย่างสุขสมพร้อมกับการดึงแท่งหยกออกมารีดพิษลงบนหน้าท้องของนาง เขามองนางหอบหายใจด้วยความพึ่งพอใจ ยื่นมือไปแตะแก้มนวลเบาๆ
“เด็กดี อย่าลืมทำความสะอาดห้องเรียบร้อยด้วย”
“จะ..เ้าค่ะ คุณชาย”
หวังหย่งแต่งกายเรียบร้อยแล้วจึงเดินตัวปลิวด้วยความโล่งกายสบายใจที่ได้ปลดปล่อย เมื่อเดินพ้นเรือนของตนออกมาด้านนอกที่ห้องโถงใหญ่ เขาต้องประหลาดใจที่เห็นบิดาเชื้อเชิญหญิงสาวผู้หนึ่งเข้ามาด้านใน
“หวังหย่งมาพอดี” หวังอี้ผู้เป็บิดายิ้มกว้าง แล้วแนะนำ “นี่บุตรชายคนโตของข้าเองชื่อหวังหย่ง”
“ข้าหวังหย่งยินดีที่ได้รู้จักแม่นาง...” หวังหย่งแสร้งทำเป็บัณฑิตผู้เรียบร้อย ทว่าในใจลอบชื่นชมความงามของหญิงสาวแปลกหน้าผู้นี้
“ข้าน้อยชิงหรูเ้าค่ะ” หญิงสาวย่อกายคารวะอย่างงดงาม ใบหน้าอ่อนหวานประดับรอยยิ้มเอียงอายราวบุปผาแรกแย้ม ไม่ว่าใครได้พบต้องหลงใหลจนมิอาจถอนสายตาได้
“รถม้าของข้าเสียกลางทาง โชคดีได้พบท่านเศรษฐีหวังผ่านมาพอดีจึงได้อาศัยติดตามมาที่นี่ ชิงหรูขอรบกวนทุกท่านแล้ว”
“พบผู้เดือดร้อนย่อมต้องช่วยเหลือ แม่นางชิงหรูอย่างได้เกรงใจไปเลย”
“แม่นางชิงหรูจะพักกับเราวันสองวัน รอจนคนที่บ้านส่งรถมารับแล้วจึงจะเดินทางต่อ” หวังอี้เอ่ยบอกลูกชาย “อย่างไรเ้าให้คนมาดูแลรับใช้แม่นางชิงหรูด้วย”
“ชิงหรูขอบคุณเศรษฐีหวังและคุณชายมากเ้าค่ะ” นางส่งยิ้มอ่อนหวาน
“ให้จางลี่มาคอยดูแลแม่นางชิงหรูก็แล้วกัน” หวังอี้เห็นสาวใช้ข้างกายบุตรชายเข้ามาพอดีจึงเรียกไว้ก่อน
“เ้าค่ะ” แม้เพิ่งเดินเข้ามาแต่เมื่อถูกเรียกใช้งาน ในฐานะบ่าวจึงไม่อาจแสดงความไม่พอใจใดๆได้ ยิ่งเห็นสายตาคุณชายหวังหย่งจ้องมองสตรีผู้นั้นแล้ว นางเผลอกำมือแน่นด้วยความริษยา
หญิงสาวแปลกหน้ามองสาวใช้แล้วคลี่ยิ้มด้วยความพอใจ
กลิ่นคาวใคร่คละเคล้ากลิ่นอายความริษยาแจ่มชัดถึงเพียงนี้ นางชอบเหลือเกิน
จางลี่เดินเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่และของใช้สำหรับ ‘แขก’ ของนายท่านใหญ่ ไม่รู้หญิงผู้นี้เป็ใครกันแน่ นายท่านถึงได้ให้ความสำคัญมากถึงเพียงนี้ หากจะกล่าวว่าเป็สตรีสูงศักดิ์แต่ไฉนจึงเดินทางเพียงลำพัง ไร้เงาบ่าวรับใช้ติดตามข้างกาย
“แม่นางชิงหรู บ่าวนำของใช้มาให้แล้วเ้าค่ะ”
จางลี่เรียกหญิงสาวที่ยืนเหม่ออยู่ริมหน้าต่างด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก ทว่าเมื่อแขกคนพิเศษของนายท่านใหญ่หันมาส่งยิ้มให้ จางลี่กลับเป็ฝ่ายตกตะลึงในความงามของสตรีผู้นี้ งดงามเสียจนนางรู้สึกริษยา
“ลำบากเ้าแล้ว” หญิงสาวเอ่ยอย่างเกรงใจ เดินมาดูข้าวของที่เศรษฐีหวังส่งมาให้
จางลี่อดไม่ได้มองนิ้วมือเรียวงามที่ลูบไล้เนื้อผ้า แม้เป็กิริยาเรียบง่ายกลับดึงดูดสายตายิ่งนัก มิน่าเล่า นายท่านจึงได้ใส่ใจสตรีผู้นี้ถึงเพียงนี้ พลันปลายนิ้วดุจหยกงามแตะถูกนิ้วมือของนางที่วางอยู่บนเสื้อผ้าพอดี จางลี่สะดุ้งได้สติแล้วรีบก้มหน้าลงอย่างเจียมตัวและซ่อนความริษยาไว้
“แม่นางกล่าวเกินแล้ว” จางลี่ได้สติรีบพูดขึ้น “บ่าวเป็เพียงหญิงรับใช้ นายท่านมอบหมายให้บ่าวดูแลแม่นาง บ่าวย่อมมิอาจละเลยหน้าที่ของตนเองได้”
“อย่างไรก็ต้องขอบใจเ้ามาก” หญิงสาวยื่นมือไปแตะหลังมือของจางลี่เบาๆ “หากไม่ได้พบเศรษฐีหวัง ข้าต้องลำบากเป็แน่ ข้าวของเครื่องใช้ของข้าอยู่ในรถม้าทั้งหมด นี่คงต้องรอซ่อมรถม้าเสร็จข้าจึงจะเดินทางต่อได้”
เมื่อเห็นว่าชิงหรูไม่มีท่าทีถือตัวเหนือผู้อื่น จางลี่จึงคลายความประหม่าลงแล้วยอมพูดคุยด้วยมากขึ้น
“ไม่ทราบว่าแม่นางชิงจะไปที่ใดหรือเ้าคะ”
“เมืองหลวง” นางตอบพร้อมรอยยิ้ม
“แม่นางจะไปเมืองหลวงหรือเ้าคะ”
“อืม” ชิงหรูพยักหน้ารับ ท่าทางไร้จริตมารยาแต่กลับดูงดงามน่ามอง “ได้ยินว่าดอกโบตั๋นที่เมืองหลวงแบ่งบานงดงามยิ่ง ข้าอยากเห็นด้วยตาตนเองสักครั้ง”
จางลี่ไม่เคยไปเมืองหลวง และไม่เคยออกจากเมืองแห่งนี้ ได้แต่ฟังเื่ราวต่างๆ จากคุณชายหวังหย่ง เพียงเผลอใจคิดถึงคุณชาย ใบหน้าของจางลี่ก็ฝาดสีเืขึ้นมา เพราะเหม่อลอยจึงไม่รู้ว่าตัวว่าชิงหรูกำลังจ้องมองนางอยู่
“ดูท่าทางเ้าสนิทสนมกับคุณชายหวังหย่งมาก”
“บ่าวเป็บ่าวรับใช้คุณชายมาั้แ่บ่าวยังเด็ก คุณชายให้ความเมตตากับบ่าวมาก” นางพยายามเก็บความรู้สึกในใจไม่แสดงออก
“น่าจะเป็เช่นที่เ้าพูดมา เศรษฐีหวังเองก็ชื่นชมบุตรชายมาก ระหว่างทางเล่าเื่ของคุณชายหวังหย่งให้ข้าฟังมากมาย ไม่ทราบว่าคุณชายหวังมีฮูหยินข้างกายหรือยัง”
เมื่อถูกถามเื่นี้ จางลี่ไม่ค่อยพอใจนัก แต่ยังฝืนแย้มยิ้มแล้วตอบ “คุณชายหวังปีนี้อายุสิบแปด ฉลาดปราดเปรื่อง คุณชายตั้งปฏิธานจะเข้าสอบจอหงวงให้สำเร็จจึงจะแต่งภรรยา นายท่านใหญ่เองก็สนับสนุนเต็มกำลัง เพียงแค่นายท่านมีบุตรชายเพียงคนเดียวซึ่งเกิดจากฮูหยินใหญ่ ในส่วนฮูหยินรองนั้นเคยตั้งครรภ์แต่กลับแท้งไปสองครั้ง อ๊ะ!”
จางลี่รีบยกมือปิดปากตนเอง ไม่คิดว่าจะเผลอปากมากเล่าเื่ของเ้านายให้ผู้อื่นรับรู้เช่นนี้
“เื่เป็เช่นนี้เอง” หญิงสาวพยักหน้ารับอีกครั้ง “ข้ารบกวนเ้าให้ช่วยเตรียมน้ำอุ่นให้ทีเถิด เดินทางมาไกล อยากอาบน้ำชำระร่างกายเสียหน่อย”
“ได้เ้าค่ะ บ่าวจะรีบจัดการให้ ประเดี๋ยวบ่าวจะเตรียมของว่างมาส่ง ส่วนมื้อเย็นนั้น นายท่านเรียนเชิญแม่นางชิงให้กินอาหารร่วมกัน”
“อืม ชิงหรูรับคำในลำคอ จางลี่เรียกบ่าวคนอื่นมาช่วยเตรียมน้ำร้อนให้แขกของนายท่าน เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว จางลี่จึงเข้ามาช่วยชิงหรูผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า เรือนร่างเปลือยเปล่าก้าวลงในอ่างอาบน้ำ จางลี่ลอบมองใจเต้นแรงอย่างไม่รู้ตัว เรือนร่างของสตรีผู้นี้แสนเย้ายวน ทรวงอกมิได้ใหญ่โตนักแต่กลับพอเหมาะพอดีกับเรือนร่างรับกับเอวคอดกิ่วและสะโพกกลมกลึง ผิวกายเนียนละเอียดขาวผ่องราวกับหิมะ มิน่าเล่า ทั้งคุณชายและนายท่านจึงได้จ้องนางตาเป็มันเชียว
ถ้าข้างดงามได้สักครึ่งของนาง ไม่สิ แค่เศษเสี้ยวเดียวของนาง คุณชายหวังคงไม่เหลือสายตาไว้เหลือบแลผู้ใดเป็แน่
“จางลี่”
“เ้าคะ” จางลี่สะดุ้งสุดตัว
“เ้าออกไปก่อนเถิด ข้าอยากแช่น้ำสักครู่ หากมีอะไร ข้าจะเรียกเ้าเอง”
“เ้าค่ะ”
หญิงสาวโปรยยิ้มหวานมองจางลี่ที่รีบออกไปอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มอ่อนหวานจึงแปรเปลี่ยนเป็รอยยิ้มเ้าเล่ห์และแววตาดุร้าย ครู่หนึ่งอีกาตัวหนึ่งบินเข้ามาในห้องเพียงพริบตาจากอีกาสีดำสนิทกลายเป็ร่างบุรุษสวมอาภรณ์สีดำ เขาคุกเข่าเบื้องหน้าหญิงสาวที่เอนหลังพิงขอบอ่างอย่างสบายอารมณ์
“มาแล้วหรือกวงิ”
“ขอรับท่านประมุข”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้