เสิ่นว่านซื่อยืนอยู่ข้างๆ ยังคงมองด้วยสีหน้าสับสน
“เหตุใดข้าต้องบอกเ้า”
เสิ่นเสวียนหัวเราะเบาๆ แล้วกล่าว
“ข้าใช่หรือไม่ใช่เสิ่นเสวียนเกรงว่าจะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเ้า ตอนนี้น่าจะถึงเวลาคุยเื่ปัญหาของเ้าแล้วหรือเปล่า”
เสิ่นเสวียนถามเสิ่นเหวินเทากลับไป
“เ้ากินบนเรือนขี้บนหลังคา สมรู้ร่วมคิดกับคนนอกหวังทำลายตระกูลเสิ่น มีจุดประสงค์อะไร”
“ข้า! ข้าไม่มี!”
เสิ่นเหวินเทาได้ยินคำถามของเสิ่นเสวียนจึงรีบปฏิเสธออกไป
“นี่คืออะไร”
เสิ่นเสวียนแบมือออก คลื่นพลังมิติสั่นะเือยู่เหนือฝ่ามือ ผลึกไอพลังต่อสู้ก้อนหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของเขา ทันทีที่ก้อนผลึกปรากฏขึ้น ไอพลังที่แผ่กระจายออกมาพลันหลอมรวมเข้ากับไอพลังของเสิ่นเหวินเทาอย่างสมบูรณ์
“นี่คือก้อนพลังของเ้าที่พบรอบๆ ค่ายกลป้องกันตระกูล ข้าเก็บไว้ให้เ้าโดยเฉพาะเลยนะ ประหลาดใจหรือไม่”
“เ้า!!!”
เสิ่นเหวินเทาไม่รู้จะกล่าวอะไรแล้ว
“เ้าใส่ร้ายข้า เ้าสามารถเอาพลังของข้าไปได้ทุกเมื่อเพื่อใส่ร้ายข้า”
“ได้ ใส่ร้ายใช่ไหม! เช่นนั้นนี่คืออะไร”
เสิ่นเสวียนกล่าวจบ ไอพลังรุนแรงแผ่กระจายออกมาจากฝ่ามือของเขาโจมตีเข้าใส่หน้าอกของเสิ่นเหวินเทา พลังนี้ไม่ได้ทำให้เสิ่นเหวินเทาาเ็ แต่ทำให้เสื้อของเสิ่นเหวินเทาฉีกขาด
เสิ่นเหวินเทาถอยหลังไปสองก้าวจึงทรงตัวได้ เสื้อผ้าที่ฉีกออกทำให้มองเห็นว่าที่หน้าอกของเขามีรอยสีฟ้าอ่อนประทับอยู่
รอยประทับนี้เกิดขึ้นจากการชักนำไอิญญาเข้าไปในร่าง ยากที่จะขับออกได้หมดใน่เวลาสั้นๆ และไอิญญานี้ยังเกิดขึ้นจากพลังของงูหน้าผีอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ตอนที่เสิ่นเสวียนใช้ค่ายกลป้องกันตระกูลกักขังเหลยต้งจากสำนักตี้หยิน เสิ่นเหวินเทาซ่อนตัวลอบทำร้ายเสิ่นเสวียนจนเกือบทำให้พลังของเสิ่นเสวียนสลายหายไป และเกือบทำให้เหลยต้งหนีไปได้ ใน่เวลานั้นเสิ่นเสวียนแสดงพลังโจมตีใส่หน้าอกของเสิ่นเหวินเทา ทำให้เขาใหนีมา
แต่เสิ่นเสวียนใช้พลังทั้งหมดจัดการกับเหลยต้งอยู่ จึงไม่ได้ไล่ตามเสิ่นเหวินเทาไป ทำได้เพียงแสดงพลังปกคลุมบริเวณเพื่อขังเสิ่นเหวินเทาเอาไว้เท่านั้น
นี่คือเหตุผลว่าทำไมเสิ่นเหวินเทาถึงซ่อนตัวอยู่ที่นี่ ไม่ได้หนีออกไป
“คนที่กล้าลอบทำร้ายข้ามีอยู่ไม่มาก แต่ที่รอดชีวิตกลับมีน้อยกว่านั้นมาก”
เสิ่นเหวินเทาก้มหน้ามองหน้าอกตนเอง เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีรอยประทับนี้อยู่ด้วย ตอนนี้แม้แต่คำโกหกก็คิดไม่ออกแล้ว
เสิ่นว่านซื่อมองเหตุการณ์ตรงหน้าพลางอ้าปากค้าง เื่ราวระหว่างเสิ่นเสวียนและเสิ่นเหวินเทาไม่ใช่สิ่งที่เขาจะเข้าใจได้ในตอนนี้ แต่ก็มีเื่หนึ่งที่เขาเข้าใจแล้ว
นั่นคือเสิ่นเหวินเทาลอบทำร้ายเสิ่นเสวียนขณะที่เสิ่นเสวียนใช้ค่ายกลป้องกันตระกูล จนเกือบทำให้เสิ่นเสวียนเพลี่ยงพล้ำ
การกระทำเช่นนี้สมควรได้รับโทษ
“ท่านผู้นำ ข้าผิดไปแล้ว โปรดเห็นแก่ที่ข้าบุกน้ำลุยไฟเพื่อตระกูลเสิ่นมาอย่างยาวนาน ไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด”
เมื่อรู้ว่ามิอาจโต้เถียงได้ เสิ่นเหวินเทาจึงคุกเข่าลงกับพื้นอ้อนวอนเสิ่นเสวียน เขาเชื่อว่าต่อให้เสิ่นเสวียนมีพลังแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้ล่วงรู้หลักสัจธรรมอย่างถ่องแท้ อีกฝ่ายแค่อยากเอาชนะเท่านั้น ตนมอบชัยชนะให้ไปก็สิ้นเื่แล้ว ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ภายหน้าก็ยังมีโอกาส
เขาไม่เชื่อว่าอ้อนวอนขนาดนี้แล้วเสิ่นเสวียนยังจะกล้าสังหารเขาอีก
เมื่อเห็นเสิ่นเหวินเทาคุกเข่าลงอ้อนวอน เสิ่นเสวียนจึงส่ายหัวอย่างรู้สึกเสียดาย
“หากเ้าอ้อนวอนข้าแต่แรก ข้าอาจไว้ชีวิตเ้า แต่สิ่งที่ข้าเกลียดที่สุดคือการสมรู้ร่วมคิดกับคนนอกและทำร้ายคนกันเอง น่าเสียดายยิ่งนัก”
เสิ่นเสวียนกล่าว ค่อยๆ ย่างเท้าเข้าไปหาเสิ่นเหวินเทา
แต่ละย่างก้าวแรงกดดันจะรุนแรงขึ้นหนึ่งส่วน กดทับลงไปบนร่างของเสิ่นเหวินเทาที่คุกเข่าอยู่บนพื้น
เสิ่นเหวินเทาสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที เขาอยากลุกขึ้นยืนแต่กลับพบว่าตนเองโดนพลังของอีกฝ่ายกดเอาไว้ มิอาจลุกขึ้นได้เลย
“ท่านผู้นำ ไว้ชีวิต...ข้าด้วย!”
เสิ่นเหวินเทาอดทนต่อแรงกดดันและอ้อนวอนเสิ่นเสวียนอีกครั้ง
เสิ่นเสวียนในตอนนี้มีพลังยุทธ์ถึงขั้นแก่นทองคำระดับต้นแล้ว เทียบกันแล้วเหนือกว่าขั้นแม่ทัพอย่างเสิ่นเหวินเทาถึงหนึ่งขั้นใหญ่ พลังที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างของเขาหาใช่สิ่งที่เสิ่นเหวินเทาจะรับไหว
เสิ่นเสวียนก้าวเดินต่อไป ทะลวงผ่านม่านพลังเข้าไปถึงตรงหน้าเสิ่นเหวินเทาที่คุกเข่าอยู่บนพื้น
แล้วเขาก็โน้มกายลงไป
“เ้ากลัวข้าอย่างนั้นหรือ”
“ท่านผู้นำ ไว้ชีวิต... ไว้ชีวิตข้าด้วย”
พลังของเขาโดนเสิ่นเสวียนกดทับไว้อย่างสมบูรณ์ เสิ่นเหวินเทารู้ดีว่าการอ้อนวอนเป็เพียงทางรอดเดียวของเขา ด้วยอำนาจของเสิ่นเสวียนในตระกูลเสิ่นแล้ว การที่อีกฝ่ายจะสังหารเขาไม่ใช่เื่ยากเลย
เสิ่นเสวียนกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของเสิ่นเหวินเทา
“เ้าพูดถูกแล้ว ข้าไม่ใช่เสิ่นเสวียน”
แม้เสียงจะเบามาก แต่เสิ่นเหวินเทากลับได้ยินชัดทุกถ้อยคำ
“เ้า!”
เสิ่นเหวินเทาที่กำลังอ้อนวอนได้ยินคำของเสิ่นเสวียนก็หยุดเสียงลงทันที เขาเงยหน้าขึ้นมองเสิ่นเสวียนด้วยแววตาหวาดกลัว
ก่อนหน้านี้เขาแค่สงสัยเท่านั้น คนไร้ความสามารถคนหนึ่งเหตุใดจึงมีพลังแข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่วัน เื่ที่เขาไม่เข้าใจกลับเข้าใจได้ทันทีหลังจากได้ยินคำตอบของเสิ่นเสวียน
ผู้ฝึกตนบางส่วนมีความสามารถในการยึดครองร่าง แต่เขาก็คิดไม่ออกเลยว่าทำไมต้องยึดครองร่างของเสิ่นเสวียน และทำไมตนเองถึงได้โง่ขนาดนั้น รู้อยู่ว่าเกิดเื่ผิดปกติขึ้นกลับยังท้าทายอีกฝ่าย
“ประหลาดใจมากหรือ”
“เ้าเป็ใครกันแน่”
“ข้าเป็ใครไม่สำคัญ ที่สำคัญคือเ้าไปได้อย่างสบายใจแล้ว”
หลังจากกล่าวจบ เสิ่นเสวียนยกมือตบลงเบาๆ ที่บ่าของเสิ่นเหวินเทา ในพริบตาที่ตบฝ่ามือลงไป เพลิงิญญาสายหนึ่งพลันลุกโชนขึ้นอย่างรวดเร็ว
เพลิงิญญาสีเขียวลุกลามไปทั่วทั้งร่างในพริบตาเดียว
“อ๊าก!!!”
เพลิงิญญาแผดเผาร่างทำให้เสิ่นเหวินเทาร้องโหยหวนด้วยความเ็ป มือสองข้างที่โดนเพลิงิญญาปกคลุมยกขึ้นกุมหัวตนเองเหมือนกำลังเ็ปอย่างแสนสาหัส
เพลิงพลังหยางแผดเผาร่างกาย เพลิงิญญาแผดเผาจิตใจ
เพลิงิญญาในตอนนี้กำลังแผดเผาจิติญญาของเขาอยู่ ทำให้จิติญญาของเขาสลายหายไปทีละน้อย
ยิ่งเพลิงิญญาลุกโชนมากเท่าไร สีหน้าเ็ปของเสิ่นเหวินเทาก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเท่านั้น แววตาของเขาค่อยๆ เหม่อลอย เพลิงิญญาแผดเผาไปถึงทะเลจิตสำนึกของเขาแล้ว หากทะเลจิตสำนึกโดนทำลาย เขาจะกลายเป็คนตายที่ยังมีชีวิตอยู่
“แม้เหลือแต่ิญญา ข้าก็จะไม่ปล่อยเ้าไป!”
เสิ่นเหวินเทารู้ดีว่าตนเองมิอาจรอดไปได้ จึงสบถคำสาปสุดท้ายออกมา แล้วจิติญญาของเขาก็ถูกแผดเผาไปจนหมดสิ้น ความเ็ปที่เขาได้รับก่อนหน้านี้ สองมือที่กุมหัวไว้ นิ้วมือจิกลึกลงไปในหนังหัว เป็ภาพที่สยดสยองอย่างที่สุด
“ข้าลืมบอกเ้าไป ในโลกิญญาก็มีคนของข้าอยู่”
เสิ่นเสวียนได้ยินคำสาปของอีกฝ่ายแล้วก็ยิ้มออกมา ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย
เขาไม่เคยยั้งมือให้ศัตรู
ร่างไร้ิญญาของเสิ่นเหวินเทาเริ่มมอดไหม้และค่อยๆ กลายเป็จุณด้วยเพลิงิญญาที่แผดเผา
เสิ่นว่านซื่อได้เห็นทุกอย่างทำให้เขาใมาก เขาไม่เสียดายที่เสิ่นเหวินเทาตาย แต่กำลังใว่าการฝึกตนทำให้แข็งแกร่งได้ขนาดนี้เลยหรือ
กลายเป็จุณในพริบตาเดียว
เสิ่นเสวียนเห็นเสิ่นเหวินเทากลายเป็เถ้าถ่านไปแล้ว เขาจึงลุกขึ้นแล้วหันมองเสิ่นว่านซื่อ
“รู้สึกอย่างไร”
“ใ!”
เสิ่นว่านซื่อตอบกลับทันที
“เขาตายยังน้อยไป หากเก็บคนชั่วอย่างเขาไว้ ไม่ช้าก็เร็วต้องนำพาความเดือดร้อนมาสู่ตระกูลอย่างแน่นอน หลังจากนี้ข้าไม่อยู่ เ้าต้องปกป้องตระกูลเสิ่นให้ดี”
เสิ่นเสวียนกล่าวกับเสิ่นว่านซื่อ นี่คือเหตุผลที่เขาให้เสิ่นว่านซื่อมากับเขาด้วย
“ท่านผู้นำโปรดวางใจ ว่านซื่อจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”
เสิ่นว่านซื่อกล่าวอย่างแข็งขัน มีใจภักดีต่อเสิ่นเสวียนอย่างเปี่ยมล้น
“ดี พวกเรากลับกันเถอะ ถึงเวลาที่ข้าต้องไปแล้ว”
เสิ่นเสวียนตบบ่าเสิ่นว่านซื่อ แล้วพวกเขาก็เดินออกไปพร้อมกัน