ซูเฟยเฟยเช็ดคราบน้ำตาออกไปโดยไม่ต้องให้ใครบอก เมื่อเธอหันกลับมาก็กลับกลายเป็สีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่แยแส “ช่างเถอะ ไม่ต้องพูดเื่นี้แล้ว จริงๆแล้วนายก็ออกจากเก่งขนาดนี้ พวกนั้นมาเท่าไรนายก็จัดการได้หมดนั่นแหละ แต่นายที่แม้แต่รถก็ขับไม่เป็เนี่ย! บางทีฉันก็คิดนะว่านายเป็พวกต่างดาวหรือเปลา........ อย่าลืมล่ะ นายสามารถทำให้พ่อของให้จ่ายเงินสามร้อยล้านเพื่อขอให้นายมาปกป้องฉันได้ เพราะฉันนั้นความปลอดภัยของฉันต้องมาเป็อันดับหนึ่งก่อนทุกอย่างเสมอ เข้าใจไหม?”
“เข้าใจแล้วน่า.....” เย่เทียนเซี่ยนิ่งไปสักพักแล้วเขาก็เปลี่ยนเป็อ่อนโยนในทันที “ที่ที่มีฉันอยู่ไม่มีใครทำอะไรเธอได้หรอก เื่แบบนั้นน่ะเธอลืมไปได้เลย”
ดวงตาราวกับคริสตัลของซูเฟยเฟยสั่นไหวเล็กน้อย ความอบอุ่นแบบนี้ทำให้เธออยากจะพุ่งเข้าไปกอดเขาด้วยหัวใจที่เต้นรัว หญิงสาวก้มหน้าต่ำแล้วพูดออกมาเบาๆ “แล้วถ้าวันไหนที่นายมีความรัก แต่งงานแล้วก็มีลูก......นายจะยังปกป้องฉันได้อยู่เหรอ?”
เธออดคิดถึงห้องหรูหราที่เต็มไปด้วยสีม่วงอ่อนนั้นไม่ได้.......... ไหนจะยังท่าทางและสายตาของเย่เทียนเซี่ยในตอนนั้นที่ทำให้เธอหวาดกลัวนั่นอีก ่เวลานั้นเธอรับรู้ได้ถึงความเศร้าที่ฝังอยู่ลึกๆ......... แล้วยังมีความรู้สึกเ็ปที่เธอไม่รู้ว่ามันเกิดมาจากไหนอีก
ที่ตัวของเธอต้องพึ่งพาเขามากเกินไปก็เพื่อความรู้สึกปลอดภัย แล้วเธอก็ยังชอบเขามากๆด้วย...... หรือตัวเธอเองจะรู้สึกต่อเขาไปแล้วจริงๆโดยไม่รู้ตัวกันนะ.........
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำถามของเธอ เย่เทียนเซี่ยก็มีแค่ความเงียบเท่านั้น
ซูเฟยเฟยกลัวว่าจะได้ยินคำตอบที่เธอหวาดกลัวจึงได้รีบร้อนพูดออกมา “เอาเถอะๆ ไม่พูดถึงเื่นี้แล้ว........เทียนเซี่ย คนๆนั้นเขา...... เขาตายแล้วหรือเปล่า”
“น่าจะนะ” เย่เทียนเซี่ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ ด้วยพลังที่เขาเคยมี การเตะเมื่อกี้ก็น่าจะทำให้หมอนั่นปางตาย........ แต่พลังที่อยู่ในการเตะที่แม้แต่เขาก็ยังคิดไม่ถึงนี้กลับเพิ่มพูดขึ้นอย่างมาก........... คาดว่าต่อให้ไม่ตายก็ใกล้ตายแล้วล่ะ
“งั้น........จะทำยังไงดีล่ะ ถ้าตำรวจมา....... แล้วเขตนี้ก็มีการตรวจตราอยู่ทุกที่ด้วย จะต้องมีคนมาเห็นเข้าแน่ๆเลย” ซูเฟยเฟยพูดออกมาอย่างกังวล
“เธอวางใจเถอะ นักฆ่าคนนี้ไม่โง่ จุดตรวจสอบทั้งหมดที่สามารถมองเห็นที่นี่ได้น่าจะถูกพวกมันทำลายหรือไม่ก็ใช้วิธีการพิเศษอะไรบางอย่างปกปิดไว้แล้วล่ะ แม้กระทั่งคนตาย.......ก็คงจะมีคนมาเก็บกวาดเร็วๆนี้แหละ” เย่เทียนเซี่ยตอบกลับไปอย่างไม่สนใจ
เสียงของเขาเพิ่งจะจบลงไปรถสีแดงไวน์คันหนึ่งก็ขับเข้ามาด้วยความเร็วก่อนจะหยุดลงอย่างกะทันหันอยู่ตรงหน้าซูเฟยเฟยและเย่เทียนเซี่ย
ประตูถูกเปิดออกชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่มีเหงื่ออยู่เต็มหัวก็รีบลงมาจากรถ เขายืนอยู่ตรงหน้าซูเฟยเฟยแล้วพูดออกมาด้วยความเคารพ “คุณหนู รถของคุณหนูมาแล้วครับ”
ซูเฟยเฟยใช้มือลูบไล้ไปบนหนึ่งในบรรดารถของตนเองเบาๆ....... เธอพยักหน้า จากนั้นก็ชี้ไปที่นักฆ่าที่ไม่รู้ว่าเป็หรือตายแล้วพูดออกมา “ลุงเจ็ดจัดการคนๆนั้นให้เรียบร้อยด้วยนะคะ”
เมื่อชายวันกลางคนมาถึงที่แห่งนี้เขาก็มองเห็นว่าไกลออกไปไม่มากมีคนๆหนึ่งที่นอนอยู่บนพื้นราวกับคนตาย เขาไม่ได้แสดงความใเหมือนที่คนธรรมดาทั่วไปควรจะมีเมื่อมองเห็นฉากตรงหน้าแต่เขากลับรีบพยักหน้าอย่างว่องไว ขณะเดียวกันนั้นเขาก็ใช้ดวงตาของตัวเองมองไปที่เย่เทียนเซี่ยซึ่งมีสีหน้าสงบนิ่งวูบหนึ่ง เขารู้เกี่ยวกับฝีมือที่น่ากลัวของชายหนุ่มคนนี้จากปากของบอดีการ์ดชั้นยอดทั้งสองคนที่อยู่ข้างกายซูลั่วแล้ว และเพราะอย่างนี้ซูลั่วถึงได้วางใจให้ซูเฟยเฟยอยู่ที่นี่
“ขึ้นรถ ไปเถอะ!”
ซูเฟยเฟยโบกมือไปมาก่อนจะเปิดประตูรถแล้วขึ้นไปนั่งตรงตำแหน่งคนขับ เย่เทียนเซี่ยลังเลเล็กน้อยก่อนจะขึ้นไปนั่งข้างคนขับอย่างกระดากอาย......... เขาขับรถไม่เป็จริงๆ
รถยนต์คันสวยเคลื่อนออกไปไกลโดยไร้เสียง ชายวันกลางคนมองพวกเขาจากไปจบลับสายตา จากนั้นเขาก็หันหลับมาแล้วเดินไปทางนักฆ่าที่ไม่รู้ว่าเป็หรือตายพร้อมกับยกโทษศัพท์ขึ้นมา...........
“เธอ...........ปกติเธอขับรถแบบนี้เหรอ?” เสียงของเย่เทียนเซี่ยสั่นเล็กน้อย แม้ว่าจะเป็เย่เทียนเซี่ยแต่เมื่อได้นั่งรถของซูเฟยเฟยเป็ครั้งแรกก็ต้องใกลัวเช่นกัน
บนถนนใจกลางเมืองจิงหัวที่มีการจราจรอันแออัด ความเร็วที่ซูเฟยเฟยขับมาถึงที่หมาย............ตามที่เย่เทียนเซี่ยคิดไว้น่าจะไปถึง 170 เลยทีเดียว
ยัยบ้า...........ผู้หญิงคนนี้เป็บ้าไปแล้ว
ซูเฟยเฟยใช้มือหนึ่งวางบนพวงมาลัยแล้วขับฝ่าการจราจรอันแออัดกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าไปอย่างสบายๆราวกับเสือชีตาร์ที่ทะยานเข้าไปในฝูงวัวกระทิง และเมื่อเคลื่อนที่ไปได้ไม่นานก็มีรถไม่ต่ำกว่าสามคันต้องบีบแตรไล่ซูเฟยเฟยเพราะเธอดันไปปาดหน้าชาวบ้านจนแทบจะไปจูบกับรถคันข้างหน้า
“ใช่แล้ว ตอนที่ขับรถเมื่อก่อนมักจะถูกคนจ้อง ดังนั้นยิ่งไปไวยิ่งดี เพราะงั้นก็เลยชินที่จะขับเร็ว....ไปซักหน่อยนะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
เย่เทียนเซี่ยสูดลมหายใจเข้าลึก นี่จะขับรถหรือจะไปตายกันล่ะเนี่ย!
“แล้ว เธอจะไปไหนล่ะ”
“ไป........คาสิโน!!” ซูเฟยเฟยหยุดคิดได้ไม่ถึงวินาทีดวงตาของเธอก็เปล่งประกายแล้วพูดออกมา
“เธอชอบเล่นการพนันงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่หรอก แต่เป็เพราะฉันไม่เคยไปที่นั้นมาก่อนต่างหาก เพราะงั้นก็เลยอยากเห็นน่ะ” ซูเฟยเฟยพูดพร้อมกับหัวเราะคิดคัก ความสบายใจนี้เป็ผลมาจากที่ซูเฟยเฟยไม่ต้องอยู่ในเงามืดของความกลัวอีกต่อไป เนื่องจากเธอมีมีบอดี้การ์ดที่สุดยอดอยู่ข้างกาย ฉะนั้นวันนี้เธอจึงอยากจะไปในที่ที่เมื่อก่อนอยากไปแต่ไม่ได้ไป และคาสิโนก็เป็หนึ่งในนั้น ในอดีตสถานที่แบบนั้นเป็หนึ่งในที่ที่เธอไม่กล้าไป แต่ตอนนี้.............
“ที่นี่ไม่ใช่มาเก๊า แล้วจะเอาคาสิโนมาจากไหนล่ะ” เย่เทียนเซี่ยรับรู้ได้ว่ารถของพวกเขากำลังเลี้ยวซ้ายทีขวาที เขาใช้มือจับประตูรถไว้แน่น ผู้หญิงคนนี้ขับรถได้น่ากลัวมาก
“ฮ่าๆ ประสบการณ์สิบเก้าปีของฉันบอกว่าทั่วทั้งหัวเซี่ยนี่ไม่มีที่ไหนไม่เปิดคาสิโนหรอก บางทีแค่ไม่ให้คนนอกรู้ก็เท่านั้นเอง” พูดจบ มือหนึ่งของเธอก็กำพวงมาลัยอีกมือหนึ่งก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา การกระทำเ่าั้ทำให้เย่เทียนเซี่ยยิ่งใเข้าไปใหญ่
“ฮัลโหล.........ลู่ลู่ ตอนนั้นที่เธอบอกฉันว่าบ้านของเธอเปิดคาสิโนนี่มันอยู่...........อื้มๆ! ฉันอยากจะไปเที่ยวเล่นซักหน่อย......ฮ่าๆ ฉันรู้แล้ว ตอนนี้กำลังไป”
เมื่อวางโทรศัพท์แล้วซูเฟยเฟยก็หักพวกมาลัยจนเย่เทียนเซี่ยแทบตกจากเบาะที่นั่น
“ลู่ลู่ เพื่อนของเธองั้นเหรอ?” เย่เทียนเซ่ยรีบคว้าที่จับเพื่อยึดตัวไว้ก่อนจะถามออกมานิ่งๆ
“ก็นับว่าใช่อยู่นะ เรารู้จักกันที่โรงแรมนึงก่อนหน้านี้น่ะ พอคุยๆด้วยแล้วเธอเป็คุณหนูของกลุ่มการค้าหลี่จื้อ คาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในจิงหัวนี่ก็เป็กิจการที่บ้านของเธอเอง ครั้งก่อนเธอยังบอกว่าจะแนะนำพี่ชายหล่อๆให้ฉันด้วยนะ” ซูเฟยเฟยพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
“...............” เย่เทียนเซี่ย
ทางตะวันออกของจิงหัว
ที่แห่งนี้เป็เขตแดนแห่งความบันเทิงที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ด้านในมีทั้งสโมสรแข่งรถ สโมสรยิงปืน กอล์ฟคลับ สนามแข่งม้า สระว่ายน้ำ ร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ ซาวน่า และอย่างอื่นๆที่ควรจะมีอีกมากมาย พื้นที่อันคึกคักนี้เป็์ของคนมีเงินและมีชื่อเสียง และยังเป็สถานที่ที่คนมีเงินเท่านั้นถึงจะเข้ามาเที่ยวเล่นได้
ที่แห่งนี้มีรถรามากมายมารวมตัวกันอยู่ตลอดเวลา ทุกวันจะสามารถมองเห็นมหาเศรษฐีต่างๆเดินเข้าๆออกๆตึกสูงเหล่านี้ ข้างกายของพวกเขาล้วนมีเด็กสาวสองคนหรือมากกว่านั้นขนาบข้างอยู่ บางทียังได้เห็นดาราสักสองสามคนเลยด้วยซ้ำ สถานบันเทิงแห่งนี้ล้วนไม่เปิดเผย และยังมีกฎของสมาชิกที่เคร่งครัด และบัตรสมาชิกที่ต่ำที่สุดก็ยังมีราคามากถึงหนึ่งแสนเหรียญหัวเซี่ย และหากใครไม่มีบัตรสมาชิกก็ไม่สามารถเข้าไปได้
ที่แห่งเดียวที่ยกเว้นก็คือคาสิโนของที่แห่งนี้
คาสิโนหลี่จื้อของกลุ่มการค้าหลี่จื้ออยู่ใต้ดินแดนแห่งความบันเทิงเหล่านี้ และมันยังเป็คาสิโนใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในจิงหัวด้วย พื้นที่ของมันคิดเป็พันกว่าตารางเมตร แม้ว่าประตูคาสิโนจะมีพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ยืนเรียงกันสองแถวมองตรงไปด้านหน้า แต่เมื่อเย่เทียนเซี่ยและซูเฟยเฟยเดินเข้าไปพวกเขาก็ไม่ได้มองมายังเย่เทียนเซี่ยและซูเฟยเฟยเลยแม้แต่น้อย
พวกเขาลงลิฟต์ไปแต่ยังไม่ทันจะไปถึงห้องโถงของคาสิโนเสียงอันวุ่นวายจากการะโ เสียงกรีดร้อง เสียงเชียร์ เสียงคำราม และยังมีเสียงของเครื่องเล่นต่างๆที่กำลังหมุนอยู่ก็ดังเข้าหูของพวกเขาแล้ว ซูเฟยเฟยยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไร้สติแล้วขยับเข้าไปใกล้เย่เทียนเซี่ยมากขึ้น จากนั้นเธอก็แอบกัดริมฝีปากน้อยๆ ทันใดนั้นเธอก็ยื่นแขนออกไปกอดแขนของเขาก่อนจะพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ไม่เปลี่ยนสี “เร็วเข้าเถอะ.......ไปดูเร็วเข้าว่าคาสิโนมันเป็ยังไง”
ก้อนเนื้อนุ่มนิ่มอบอุ่นััเข้ากับแขนของเขาั้แ่เมื่อไรก็ไม่รู้ เย่เทียนเซี่ยยังไม่ทันจะได้มีปฏิกิริยาตอบกลับก็ถูกซูเฟยเฟยฉุดกระชากเข้าไปด้านในแล้ว
พูดกันตามจริงนี่ก็เป็ครั้งแรกที่เย่เทียนเซี่ยได้เข้ามาในคาสิโนเหมือนกัน เมื่อภาพห้องโถงคาสิโนปรากฏสู่สายตาเขาถึงได้รู้ว่าคาสิโนที่แท้จริงแล้วเป็อย่างไร
กลิ่นฉุนของบุหรี่พุ่งเข้ามา โต๊ะพนันมากมายนับไม่ถ้วนวางเรียงรายอยู่ภายใน บนโต๊ะทุกตัวจะเต็มไปด้วยชายหญิงมากหน้ากลายตาในชุดสีสันฉูดฉาด ใบบรรดาคนพวกนั้นมีบริกรที่แต่งตัวธรรมดาและบรรดาผู้เล่นที่แต่งตัวลากหลายปะปนกันไป แน่นอนว่ามีพนักงานรักษาความปลอกภัยยืนอยู่ตามจุดต่างๆไม่น้อยเลย
“ว๊าว!! นี่คือคาสิโนเหรอเนี่ย......... น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีก พวกเราไปเล่นกันเร็วเถอะ!” ซูเฟยเฟยลากแขนของเย่เทียนเซี่ยไปด้วยใบหน้าแดงเรือที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นแล้ววิ่งเข้าไปด้านใน พร์ของผู้หญิงส่วนใหญ่ล้วนเป็การชื่นชอบเื่ที่สนุกสนานคึกคัก เพียงแต่สภาพแวดล้อมในชีวิตของเธอได้ทำลายสิทธิต่างๆที่เป็ของเธอลงไปจนหมด และวันนี้ในที่สุดเธอก็ได้ปลดปล่อยอิสระของเธอเองโดยไม่ต้องกังวลสักที
เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งที่มีรูปร่าง หน้าตาและนิสัยสมบูรณ์แบบปรากฏตัวขึ้นมาจึงได้ดึงดูดสายตาตกตะลึงนับไม่ถ้วนเข้ามาทันที และท่ามกลางสายตาเ่าั้ยังแฝงความหมายต่างๆเอาไว้อีกด้วย แต่เมื่ออยู่ในสถานที่แบบนี้จึงไม่มีใครกล้าประมาทหรือแม้กระทั่งเมื่อออกไปแล้วก็เช่นกัน...........
“เธออยากเล่นอะไรล่ะ?” เย่เทียนเซี่ยถามหญิงสาวข้างตัวที่แสดงออกถึงความตื่นเต้นอย่างชัดเจน
“ไอ้นี่ต้องเล่นยังไงเหรอ” ซูเฟยเฟยยืนอยู่ตรงหน้าเครื่องที่มีรูปร่างคล้ายเสือก่อนจะถามออกมาอย่างมีความหวังและสงสัย
“.........ไม่รู้สิ ไม่เคยเล่นมาก่อน ดูเหมือนต้องไปแลกชิพมาก่อนนะ” เย่เทียนเซี่ยชี้ไปที่เคาน์เตอร์บริการที่หน้าประตู แม้ว่าเขาจะไม่เคยเข้าคาสิโนมาก่อน แต่กฎแบบนี้...........ใครๆก็น่าจะรู้นะ
ดังนั้นซูเฟยเฟยจึงลากเขาไปทางเคาน์เตอร์บริการ บางทีแม้แต่เธอเองก็คงไม่รู้สึกตัวว่าหลังจากออกจากบ้านมาแล้วเธอได้แสดงออกถึงการพึ่งพาเย่เทียนเซี่ยไปแล้วอย่างมากมาย แม้แต่การแลกชิพก็ไม่ทำด้วยตัวเองแต่กลับให้เย่เทียนเซี่ยเป็คนทำให้และเลือกที่จะยืนอยู่ข้างๆเขาแทน......... จิตใต้สำนึกของเธอไม่อยากห่างจากเขาแม้เพียงก้าวเดียว
หลังจากแลกชิพมาแล้วเป็จำนวนสองพันเหรียญหัวเซี่ยพวกเขาก็กลับไปยังเครื่องที่มีรูปร่างคล้ายเสืออีกครั้ง คนสองคนตกอยู่ภายใต้สายตาแปลกๆของผู้เล่นจำนวนมากอยู่นานจนในที่สุดก็รู้ว่าเ้าเครื่องนี่มันเล่นยังไง เมื่อเ้าเครื่องรูปเสือเริ่มขึ้นสายตาของซูเฟยเฟยก็เปล่งประกายขึ้นมา..........สิบนาทีต่อมาชิที่เธอแลกมาทั้งหมดก็หายวับไปไม่เหลือเลยซักอันเดียว
