บนยอดเขาฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ
ิเสวียนเก็บหมัดขวาของเขากลับมา พอเห็นแม่น้ำปั่นป่วนเขาก็พอจะััได้ว่าลมปราณของิอวี่ที่อยู่ใต้น้ำนั้นมีการเปลี่ยนแปลง มันเหมือนดำดิ่งลงไปใต้น้ำลึก
แสดงว่าการโจมตีของเขานั้นได้ผล
ิเสวียนยังััได้ว่าลมปราณของหญิงสาวทั้งห้าคนก็อ่อนลงตามไปด้วย แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ สีหน้าของเขาไม่ได้มีความเ็ปใจอะไรเลย หลังจากนั้นเขาก็เตรียมะโลงไปในแม่น้ำใหญ่นั้นทันที
แต่ทันใดนั้นเขาก็ชะงักอยู่ที่ริมแม่น้ำ สีหน้าท่าทางของเขาดูงงงวย
เพราะลมปราณของิอวี่กับหญิงสาวทั้งห้าคนจู่ๆ ก็หายไป ไม่ว่าิเสวียนจะใช้ดวงตาหยั่งรู้สำรวจค้นหาอย่างไรก็ไม่สามารถััถึงตัวตนของพวกเขาได้เลย!
“นี่มันอะไรกัน?”
ิเสวียนตาโต เขาเปิดดวงตาหยั่งรู้ทั้งหมดออก มันสามารถมองสำรวจไปไกลได้ถึงสิบลี้ ไม่ว่าจะเป็ก้นแม่น้ำหรือปลาตัวใหญ่ที่ดุร้ายเขาก็ััได้หมด แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่เจอลมปราณของิอวี่
หรือว่าโดนปลาจับกินไปแล้ว?
เป็ไปไม่ได้ หากเป็แบบนั้นลมปราณก็น่าจะค่อยๆ หายไปสิ ไม่มีทางหายไปโดยไร้ร่องรอยแบบนี้แน่?
ระหว่างที่ิเสวียนกำลังนึกคิด เสวียปู้หุ่ยที่อยู่ด้านหลัง รวมถึงเซิ่นเจิ่นโหวและองครักษ์หน้าพระที่นั่งอีกห้าคนก็ตามมาที่ริมน้ำ พวกเขาก็ไม่เจอลมปราณของิอวี่เช่นกัน ทำให้ทุกคนเริ่มเกิดความสงสัยขึ้นมา
“เขาจะต้องมีวิธีซ่อนลมปราณแน่ถึงทำให้เราหาตัวไม่เจอ แต่เมื่อครู่เจอะเิสายฟ้าของข้าไปถึงสองทีย่อมต้องาเ็สาหัสแน่ ต่อให้เขาอยากหนีอย่างไรก็หนีไม่พ้นแน่นอน”
ิเสวียนพูดเสียงเข้มว่า “ท่านแม่ทัพเซิน พาองครักษ์ทั้งห้าคนไปตรวจสอบดูทางทิศตะวันตกนะ ท่านแม่ทัพเสวีย ท่านไปสำรวจทางทิศตะวันออกกับข้า”
พูดจบิเสวียนก็ไม่รอช้า รีบมุดลงน้ำไปในทันที
ส่วนคนอื่นเมื่อได้รับคำสั่งก็ตอบรับและแยกออกเป็สองกลุ่มไปทำตามคำสั่งในทันที พวกเขาแยกกันออกไปตามหาทั้งสองทิศทางอย่างรวดเร็วและสำรวจไปรอบๆ โดยไม่ปล่อย่สำคัญไปเลยแม้แต่นิดเดียว แต่พวกเขากลับไม่รู้เลยว่าิอวี่กับผู้หญิงอีกห้าคนซ่อนตัวอยู่ด้านล่างนี้นี่แหละ
พวกเขาคิดว่าตัวเองเข้าใกล้ิอวี่ไปเรื่อยๆ แล้ว แต่กลับไม่รู้เลยว่าพวกเขากำลังตามหาย้อนหลังออกไปและเว้นระยะห่างจากิอวี่ไปเรื่อยๆ แล้ว!
ในพื้นที่ซอกหลืบใต้น้ำ
ิอวี่นอนแน่นิ่งอยู่ภายในพื้นที่ที่อับชื้น
เขาเหนื่อยมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็การใช้จมสู่ความฝันห้าครั้งติดกัน หรือว่าใช้กระบี่วายุสังหารที่แข็งแกร่งสังหารประมุขตำหนักโยวิ หรือว่าการวิ่งหนีอย่างบ้าคลั่ง การจับตัวผู้หญิงห้าคนเป็ตัวประกัน แล้วยังต้องพยายามเอาตัวรอด มันล้วนแต่ทำให้เขาเหนื่อยล้าอย่างมาก
ตอนที่ิอวี่คิดว่าเขาหนีเอาตัวรอดได้แล้ว ิเสวียนกลับเลือกซัดสายฟ้าลงมาสองสาย ต่อให้มีเฮยจีช่วยป้องกันให้กับเขาแต่มันก็ยังะเืจนเขาเวียนหัวและสลบไป
แต่ร่างกายของิอวี่กำลังฟื้นตัวกลับมาอย่างบ้าคลั่ง ไม่นานเท่าไรเขาก็ฟื้นขึ้นมา!
ในเวลานี้ ผู้หญิงทั้งห้าคนรวมเยี่ยซีล้วนแต่ได้รับาเ็ไม่น้อย ร่างกายของพวกนางสู้ิอวี่ไม่ได้ เวลาที่ฟื้นกลับมานั้นก็เลยช้ากว่ามาก
หลังผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยามิอวี่ก็ฟื้นขึ้นมา
สิ่งแรกที่เขารู้สึกหลังจากฟื้นขึ้นมาก็คือเขาปวดหัวมาก เพราะเขาใช้พลังจิตควบคุมมีดบินปี้ลั่ว ทำให้สติของเขาได้รับความกระทบกระเทือน
ท่ามกลางอาการสะลึมสะลือ ิอวี่รู้สึกว่าร่างกายของเขามีอะไรนุ่มๆ ทับอยู่ เหมือนว่าทั่วทั้งตัวของเขามันมีอะไรอ่อนนุ่มทับอยู่ทั้งตัว
ิอวี่ััโดนของอะไรบางอย่างที่เปียกชุ่ม ทั้งมันยังมีความร้อนแผ่ออกมาและยังมีกลิ่นหอมโชยเข้ามาในจมูกอีกด้วย
ถึงแม้จะอยู่ในที่มืดซึ่งิอวี่พยายามลืมตามองแล้วแต่ไม่เห็นอะไร แต่อย่างน้อยเขาก็มั่นใจมากว่ามันมีอยู่จริง ิอวี่รู้ว่าเขาน่าจะนอนอยู่ท่ามกลางหญิงสาวทั้งห้าคน
ของเปียกชุ่มที่เขาััโดนน่าจะเป็เสื้อผ้าที่เปียกน้ำของพวกนาง ความร้อนนั้นน่าจะมาจากอุณหภูมิบนร่างกาย ส่วนกลิ่นหอมก็น่าจะมาจากบนตัวของนางเช่นเดียวกัน
ถูกต้อง ตอนที่หลุดเข้ามาในซอกนี้ผู้หญิงทั้งห้าคนก็ตามเข้ามาด้วย เพราะตกมาในจุดเดียวกันก็เลยทับกันอยู่อย่างนี้
ิอวี่นอนทับอยู่บนเรือนร่างของผู้หญิงสามคน แล้วบนตัวเขายังมีผู้หญิงอีกสองคนนอนทับร่างเขาอีกที พูดได้เลยว่าตอนนี้ิอวี่นอนกองอยู่บนตัวของผู้หญิง ...
นี่มันเื่อะไรกันเนี่ย?
ิอวี่อยากจะออกมาจากตัวของหญิงสาวเหล่านี้ แต่ไม่ว่าเขาจะขยับอย่างไรมันก็ไม่ค่อยดีเลย พอขยับตัวร่างกายของเขาก็ชาไปหมด จะเคลื่อนไหวแต่ละทีก็ยากลำบาก
ความรู้สึกแบบนี้เหมือนนอนทับแขนตัวเอง หรือไม่ก็นั่งยองเป็เวลานานจนกดทับสองเท้า ทำให้แขนขานั้นชาจนไม่อาจควบคุมได้!
ในเวลานี้ิอวี่ถึงเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า เพราะแขนขาของเขานั้นถูกสายฟ้าของิเสวียนช็อตสองทีจึงทำให้ร่างกายของเขายังแข็งทื่อไม่ฟื้นตัวกลับมา
ส่วนหญิงสาวห้าคนที่อยู่้าด้านล่างของเขานั้นรูปร่างสมส่วน พลังจิติญญาของพวกนางไม่ได้แข็งแกร่งอย่างเขา พลังในร่างกายก็สู้เขาไม่ได้ ครึ่งชั่วยามไม่น่าพอจะให้พวกนางได้สติกลับมา
“นี่พวกเ้า ตื่น นี่ตื่นหน่อย!”
ิอวี่ะโเรียกอยู่หลายครั้ง แต่ก็พบว่าพวกนางไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย ิอวี่เลยจำใจต้องขยับร่างกายของตัวเอง แต่เขาก็พบว่าตนเองยังไม่มีแรงอยู่ดี
ตอนที่ไม่ขยับยังดีหน่อย แต่พอขยับก็เหมือนไปกระตุ้นให้พวกนางรู้สึก พวกนางเลยขยับเนื้อขยับตัวแบบไม่รู้ตัว
“โธ่เอ๊ย ... ”
ตอนนี้ิอวี่อยู่ตรงกลางของผู้หญิงห้าคนก็หมดคำพูดพอแล้ว แต่พอพวกนางขยับตัวก็ไม่รู้ว่านางจิ้งจอกตัวไหนเอาขาที่เรียบเนียนมาถูตรงอวัยวะที่อธิบายมากไม่ได้ แล้วยังถูไปถูมาอีก
เมื่อผ่านไปครู่หนึ่งผู้หญิงพวกนั้นก็หยุดขยับ ิอวี่ก็เลยพยายามขยับตัวอีกครั้ง แต่แรงของเขาในเวลานี้สู้เด็กสามขวบยังไม่ได้เลย เพราะมันจะกลายเป็ว่าเขากำลังจะพยายามเสียดสีพวกนางแทน ...
ก็ได้ ข้ายอมแพ้
ิอวี่รู้สึกว่าหากพยายามขยับร่างกายแบบนี้ต่อไป ยังไม่ทันออกจากกองผู้หญิงเหล่านี้ได้ก็คงถูกพวกนางเล่นงานจนย่ำแย่แน่
แต่จะให้นอนเฉยๆ แบบนี้มันก็ไม่ใช่เื่ ิอวี่ไม่เพียงััถึงความอ่อนนุ่มทั้งบนและล่าง แต่เขายังสามารถััได้ถึงลมหายใจของพวกนางอีกด้วย
อีกอย่าง ต่อให้เขาไม่ขยับก็ไม่รู้ว่านางจิ้งจอกตัวไหนเอาขามาพาดไว้บริเวณส่วนล่างของเขา มันทำให้เขารู้สึกแปลกๆ ด้วย ...
“นี่ เฮยจี เฮยจี ... ”
ิอวี่ส่งพลังจิตไปยังหยกโบราณ ในเวลานี้สิ่งเดียวที่เขานึกได้ก็คือเฮยจี ตอนนี้มีเพียงเฮยจีที่สามารถช่วยให้เขาออกจากหมู่มวลดอกไม้งามพวกนี้ได้
“อือ ... มีอะไรหรือ ... ” เฮยจีส่งเสียงอ่อนแรงออกมาจากหยกโบราณ
เมื่อครู่นางใช้พลังจิตร่างลายเส้นอักขระออกไปแล้วยังใช้ค่ายกลอำพรางอีก ตอนนี้จึงอ่อนแรงมาก หากไม่ใช่เพราะิอวี่ทักนางก็คงยังหลับอยู่เหมือนเดิม
ิอวี่เห็นเฮยจีตอบกลับมาก็รีบพูดว่า “เร็วเข้า ออกมาช่วยเอาตัวผู้หญิงพวกนี้ออกจากตัวของข้าที ตอนนี้ร่างกายของข้าชาไปหมด ขยับไม่ได้เลย”
เฮยจีได้ยินดังนั้นก็เลยััสิ่งที่อยู่ภายนอก ถึงแม้จะไม่มีแสงไฟเลย แต่นางก็ยังััได้ว่ามีผู้หญิงสามคนนอนอยู่ด้านล่างของตัวิอวี่ และมีอีกสองคนอยู่บนตัวของเขา
“ ... ิอวี่ นี่เ้า!”
ิอวี่ได้ยินเสียงของเฮยจีเหมือนจะโกรธนิดหน่อยก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ยังลังเลอะไรอยู่อีก?”
“ก่อนหน้านี้ข้าใช้พลังจิตมากเกินไป ตอนนี้จึงไม่สามารถแปลงเป็ร่างิญญาออกไปได้ เพราะฉะนั้นข้าช่วยเ้าไม่ได้หรอกนะ แล้วตอนนี้เ้าก็ดูมีความสุขดีออก นอนอยู่ท่ามกลางหญิงงามมากมายก็ดีจะตายไป เ้ามีความสุขมากเลยใช่ไหม”
น้ำเสียงของเฮยจีเหมือนจะโมโหเล็กน้อยแต่ิอวี่มองไม่เห็น ที่จริงเฮยจีที่อยู่ในหยกโบราณเวลานี้ก็มองใบหน้าไม่ออกอยู่แล้วว่ารู้สึกอย่างไร
เฮยจีเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็อะไรเหมือนกัน นางรู้สึกว่าเมื่อก่อนการแกล้งิอวี่มันสนุกมาก แต่พอเห็นิอวี่นอนอยู่ท่ามกลางหญิงสาวพวกนี้แล้วนางกลับรู้สึกค่อยไม่พอใจ
พูดให้ตรงอีกหน่อย ก็น่าจะเป็ไม่พอใจอย่างมาก
นางเบะปาก เฮยจีรู้สึกว่าเื่นี้ก็ไม่ใช่เื่ใหญ่อะไร ิอวี่ก็ไม่ได้เป็อะไรกับนางอยู่แล้ว หลักการเหตุผลพวกนี้นางเข้าใจดีทุกอย่าง แต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็รู้สึกไม่ดีเลย
“ก็ได้”
ิอวี่ไม่สามารถมองเห็นสีหน้าท่าทางของเฮยจีได้ แล้วก็ฟังไม่ออกด้วยว่าเหมือนนางจะไม่พอใจ เขาคิดแค่ว่าอีกครึ่งชั่วยามหลังจากที่เขาเริ่มมีแรงค่อยออกจากพันธนาการพวกนี้ก็แล้วกัน
ในเมื่อตอนนี้เขาไม่สามารถหลุดออกไปได้ ิอวี่ก็ไม่ไปสนใจเื่บนร่างกายของตัวเองอีก แต่เขาใช้พลังจิตในการสำรวจสิ่งแวดล้อมแทน
ิอวี่ปล่อยพลังจิตไปทั่วพื้นที่แคบๆ นี้ เขาพบว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็ทรงกลม มีความกว้างเจ็ดแปดเมตร ลึกไม่เกินสิบเมตร และตรงสิบเมตรนั้นก็เป็ค่ายกลอำพรางที่เฮยจีร่างเอาไว้ ซึ่งเขาไม่อาจมองทะลุออกไปได้
“เราถูกปิดตายอยู่ที่นี่อย่างนั้นหรือ?” ิอวี่ส่งเสียงเข้าไปในหยกโบราณอีกครั้ง
เฮยจีพูดขึ้นมาว่า “อือ ใช่ เ้าจะต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้ภายในห้าวัน ถึงเวลานั้นหากเ้ายังออกจากที่นี่ไม่ได้ก็จะต้องขาดอากาศตายอยู่ในนี้แน่นอน”
เดิมเฮยจีคิดจะบอกเื่นี้ทันทีที่ิอวี่ฟื้นขึ้นมาแต่นางเพิ่งจะได้พูดออกมาตอนนี้ ทั้งๆ ที่นางก็เป็ห่วงเขามากแต่เพราะว่าแอบงอนนิดหน่อยเลยพยายามแสดงว่าไม่มีอะไร
“อะไรนะ?”
ท่าทีของิอวี่เคร่งเครียดขึ้นมาทันที เริ่มแรกเขารู้สึกว่าเฮยจีกำลังแกล้งเขาอยู่ แต่ต่อมาเขาก็พบว่าเฮยจีไม่ได้โกหก
พื้นที่แห่งนี้มันแคบมาก ิอวี่รวมผู้หญิงอีกห้าคน หายใจได้แค่ห้าวันเท่านั้นอากาศก็น่าจะหมด หากถึงเวลายังออกไปไม่ได้ พวกเขาก็จะต้องขาดอากาศหายใจตายอยู่ในนี้
ิอวี่ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ทำไมข้าััอะไรนอกถ้ำไม่ได้เลยล่ะ?”
“ข้าร่ายลายเส้นอำพรางเอาไว้”
ิอวี่พยักหน้า เขารู้สึกขอบคุณเฮยจีมาก หากไม่ได้ลายเส้นอำพรางเกรงว่าพวกิเสวียนคงตามมากันแล้ว
“แต่ว่าเ้าก็อย่าเพิ่งได้ใจไป ก่อนหน้านี้ข้าสำรวจหินของถ้ำนี้แล้ว มันถล่มแล้วปิดล้อมที่นี่เอาไว้หมด โขดหินพวกนี้อยู่ใต้น้ำมานานมีความหนาแน่นสูงมาก ต่อให้เ้าใช้กระบี่หวงฉวนฟันก็ยากที่จะแตกตัวออกได้”
เฮยจีรีบพูดต่อว่า “ตอนที่พวกเ้ากระเด็นชนเข้ากับก้อนหินทำให้โขดหินส่วนที่บางหล่นลงมา แต่ว่ามันทับซ้อนกันเป็ชั้นๆ บวกกับระดับน้ำที่ลึกว่าพันเมตรกดทับลงมา ต่อให้เ้ามีพลังเทียบเท่าราชสีห์แปดพันตัวก็เกรงว่ายากที่จะผลักก้อนหินพวกนี้ออกได้”
ิอวี่ตอบกลับมา “ไม่จริงกระมัง”
ตามที่เฮยจีบอก หากบนยอดถ้ำมีแค่โขดหินปิดทาง ต่อให้ิอวี่ไม่ใช้กระบี่หวงฉวนฟันมันจนแหลกก็ยังพอผลักมันออกได้
แต่ว่า มันกลับมีหินหล่นลงมาทับซ้อนและมีน้ำทับอีก จึงยากที่เขาจะเปิดมันออก!
“ชิ ไม่เชื่อเ้าก็ลองดูก็ได้” เฮยจีไม่ได้พูดดีด้วยเลย
“ ... ข้าไม่ได้ไม่เชื่อเ้า เพียงแต่จะต้องทำอย่างไรถึงจะออกไปได้ล่ะ?”
ิอวี่ไม่รู้ว่าทำไมน้ำเสียงของเฮยจีถึงได้แข็งกับเขานัก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในเวลานี้ก็คือหนีออกจากสถานที่บ้าๆ แบบนี้!
หากคิดจะดูดซับพลังงานในหัวใจสิงโตเพลิงจินเหยียนที่นี่ ก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงทั้งห้าคนพอฟื้นขึ้นมาจะลงมือกับเขาไหม แต่เวลาแค่ห้าวันมันก็ไม่พอให้เขาได้ฝึกและดูดซับหรอก!
ถ้าอย่างนั้นทำอย่างไรถึงจะออกไปจากที่นี่ได้นะ?
ิอวี่หัวไว เขาเอ่ยปากถามขึ้นมาทันทีว่า “เฮยจี เ้าคิดว่าพลังของข้าบวกกับผู้หญิงห้าคนนี้มันพอที่จะะเิทางออกไปไหม”
เฮยจีส่ายหน้า “พลังของพวกนางเทียบเท่าราชสีห์สี่ห้าพันตัวเท่านั้น หากร่วมมือกันโจมตี แล้วพลังจะเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยก็จริง แต่ข้าประเมินแล้วว่าหินที่อยู่้านั่นมันน่าจะมีความหนาถึงสิบห้าเมตร พวกเ้าคิดจะทำลายมันยากมาก”
“ถ้าอย่างนั้นลายเส้นอักขระล่ะ? หากเ้าให้ไข่มุกอักขระพวกนางคนละเม็ด ขอแค่พวกนางใช้แหวนอักขระร่างคาถา ไม่แน่อาจจะทำลายมันลงได้!”
ิอวี่ใจกล้าเสนอไปแบบนี้ มันก็สมเหตุสมผลอยู่
“มันก็เป็ความคิดที่ไม่เลวเลย ยังจำคาถาค่ายกลกันไฟที่ข้าสอนเ้าไปก่อนหน้านี้ได้ไหม? กระบวนท่าที่สามมันเป็ลายเส้นประเภทการโจมตี มีชื่อว่าค่ายกลเพลิงอุกกาบาต! หากพวกนางร่ายมันออกมาพร้อมกันซึ่งน่าจะร้ายกาจกว่ากระบวนท่าของนางนิดหน่อย เมื่อรวมกันห้าทางก็น่าจะพอนะ”
“ค่ายกลเพลิงอุกกาบาต?”
ิอวี่เหมือนได้รับยาสงบใจ เขาพูดว่า “ยอดไปเลย ถ้าอย่างนั้นหลังจากเ้าฟื้นพลังิญญาแล้วก็รีบร่างค่ายกลเพลิงอุกกาบาตออกมาห้าอันเลยนะ หลังจากรวบรวมมันเข้าไปในไข่มุกอักขระแล้วก็สอนคาถากับสัญลักษณ์มือให้กับพวกนาง”
เฮยจียักไหล่แล้วพูดว่า “ไม่ได้ ข้าประเมินว่าอีกประมาณครึ่งชั่วยามข้าก็น่าจะแปลงร่างิญญาได้อีกครั้งแล้ว แต่เพราะเสียพลังงานไปมากเลยอยู่ได้แค่ครู่เดียวเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงเื่การร่างลายเส้นอักขระเลย กว่าพลังิญญาข้าจะกลับมาเต็มอีกครั้งก็น่าจะอีกประมาณห้าวัน”
“ดังนั้น ข้าจะมอบค่ายกลเพลิงอุกกาบาตนี้ให้กับเ้า เ้าจะทำสำเร็จไหมก็อยู่ที่ตัวเ้าเอง”
เฮยจีส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่จริงนางเองก็รู้ว่าิอวี่เป็แค่นักร่างอักขระเล็กๆ คนหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถทำภารกิจใหญ่หลวงแบบนี้ได้แน่ ถึงเวลานางก็คงต้องลองออกแรงมากกว่าที่เคยเพื่อให้เขาพ้นอันตราย