หลังจากที่ข้าหนีออกจากคอกหมูไม่นาน ก็มีพลังจิตทรงพลังและเต็มไปด้วยความโกรธแค้นกวาดผ่านมา ความแตกต่างของพลังบำเพ็ญที่ยิ่งใหญ่ทำให้หัวใจข้าเต้นรัวราวกับยืนเปลือยเปล่าตรงหน้าพวกเขา รอการตรวจสอบ ไม่เพียงแต่ถูกพวกเขาจ้องมอง แต่ยังรู้สึกเหมือนถูก 'มองทะลุปรุโปร่ง' ทั้งหวาดกลัว ทั้งอัปยศอดสู
ผู้นำซึ่งเป็ชายชราดวงตาแดงก่ำด้วยโทสะ คนทั้งกลุ่มเดินตรงไปยังคอกหมู แม้จะสังเกตเห็นว่ามีหนูตัวเล็กๆ อย่างข้าอยู่ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร แน่นอนว่าข้าเองก็วิ่งตรงไปยังเล้าไก่โดยไม่หยุดฝีเท้าเช่นกัน
ข้าพยายามอย่างหนักมาตลอดครึ่งปีก็เพื่อหลบหนีในเวลานี้
ชายชราผู้นั้นไม่ใช่ใครอื่น นอกจากท่านปู่ของเถียนหรูชิง เ้าสำนักอาทิตย์อัสดงเถียนจี้อวิ๋น และที่ตามมาคือบิดาของเถียนหรูชิง ผู้าุโสำนักอาทิตย์อัสดงเถียนหยางไท่ และลูกศิษย์อีกหลายคน
เถียนจี้อวิ๋นใช้พลังลมปราณจากฝ่ามือผลักประตูคอกหมูออก เสียงดังสนั่นหวั่นไหวมาพร้อมกับคำถามว่า “บอกมา! เอายาบำรุงจิตไปให้ตัวไหนกิน?”
เถียนจี้อวิ๋นใช้พลังจิตตรวจสอบและรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่เขาก็้าให้เถียนหรูชิงเป็คนสารภาพเอง เพื่อเป็การเตือนสตินาง
เถียนหรูชิงชี้ไปที่หมูตัวผู้ตัวหนึ่งอย่างหวาดกลัว เอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือว่า “มัน...ตัวนั้น...”
ใบมีดลมพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วทันทีที่เถียนหรูชิงชี้ไป ผ่าร่างหมูตัวผู้ตัวนั้นจากหน้าผากถึงก้นเป็สองส่วน เถียนหรูชิงที่เห็นเหตุการณ์ปิดปากกรีดร้องด้วยความใ
เถียนจี้อวิ๋นมองเถียนหรูชิงแล้วตวาดลั่น “ดูสิ! หมูตัวนั้นถูกเ้าเลี้ยงดูจนถึงหลอมปราณขั้นสองแล้ว! หากปล่อยไว้นานกว่านี้ วันหนึ่งเ้าอาจเลี้ยงมันจนกลายเป็ปีศาจที่แปลงร่างเป็มนุษย์เลยก็ได้!”
“เ้ารู้หรือไม่ว่าสมุนไพรบำรุงจิตมีค่าเพียงใด? สมุนไพรเพียงต้นเดียวต้องใช้สมุนไพรบำรุงจิตถึงห้าสิบก้อน แม่ของเ้าทุ่มเทอย่างหนักเพื่อสรรหาสมุนไพรมาต้มยาให้เ้าดื่มทุกวัน หวังว่าเ้าจะสร้างรากฐานได้ในเร็ววัน แล้วทำตามความคาดหวัง แต่สุดท้ายเป็อย่างไร? นี่คือวิธีตอบแทนแม่ของเ้างั้นหรือ?”
เถียนหรูชิงกุลีกุจอก้มลงคำนับกับพื้น จับเสื้อคลุมของเถียนจี้อวิ๋น แล้วร้องขอความเมตตา “ศิษย์ไม่กล้าแล้ว! ไม่กล้าแล้วจริงๆ เ้าค่ะ!”
“ฮึ่ม!” เถียนจี้อวิ๋นฮึดฮัดแล้วดีดนิ้วสั่งลูกศิษย์ข้างหลังว่า “มานี่ อีกไม่กี่วันก็จะขึ้นปีใหม่แล้ว เชือดหมูพวกนี้เซ่นไหว้บรรพบุรุษซะ แล้วค่อยเอาหมูชุดใหม่เข้ามา”
ลูกศิษย์ต่างรับคำ พวกเขารู้ดีว่าเถียนหรูชิงอาจไม่ได้ให้ยากับหมูตัวเดียวกันทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้หมูตัวอื่นที่กินยาเข้าไปรอดพ้นไปได้ การเชือดทั้งหมดจึงเป็วิธีที่ปลอดภัยที่สุด
“ใครเป็คนดูแลคอกหมู?” เถียนจี้อวิ๋นถามเสียงเย็น
ลูกศิษย์คนหนึ่งรีบเข้ามาคำนับ “เรียนท่านเ้าสำนัก เป็ศิษย์นอกนามว่าโหยวเฟิง อายุสิบสี่ปี ไม่ค่อยมีพร์นัก แต่มีนิสัยซื่อสัตย์สุจริตและภูมิหลังธรรมดาสามัญขอรับ”
เนื่องจากความผิดพลาดครั้งนี้ ปัญหาใหญ่ที่สุดตกอยู่ที่เถียนหรูชิง หากลงโทษโหยวเฟิงสถานหนัก แล้วปล่อยเถียนหรูชิงไปต่อหน้าลูกศิษย์คนอื่นๆ ย่อมไม่เป็การดี ดังนั้นเถียนจี้อวิ๋นจึงกุมขมับ ถอนหายใจกล่าวว่า “ให้โหยวเฟิงเข้ารับการทดสอบเข้าสำนัก หากผ่านก็เลื่อนขั้นเป็ศิษย์ในสำนัก ถ้าไม่ผ่านก็ให้เงินสองตำลึงทองแล้วส่งกลับบ้านไป”
ลูกศิษย์คนนั้นรีบโค้งคำนับ “ขอรับ!”
“หรูชิง เ้าต้องได้รับโทษขังคุกสามเดือน ภายในหกเดือนให้เ้าบำเพ็ญจนถึงระดับสร้างรากฐาน มิฉะนั้น...แม้ว่าบิดาของเ้าจะขอร้องอย่างไรก็ช่วยเ้าไม่ได้ เข้าใจหรือไม่?”
เถียนหรูชิงรีบพยักหน้าถี่ๆ “เ้าค่ะ! ศิษย์จะไม่ทำให้ท่านเ้าสำนักผิดหวัง!”
การขังคุกสามเดือนเป็โทษที่ไม่รุนแรงนัก ถือว่าให้อภัยมากแล้ว หากเป็ศิษย์คนอื่นคงถูกปลดพลังบำเพ็ญและถูกไล่ออกจากสำนักเป็เื่ปกติ หากไม่ได้ตัดแขนใครเพื่อเป็การเตือนสติ ก็ถือว่าเป็การลงโทษสถานเบา
เถียนจี้อวิ๋นหลับตาถอนหายใจ หลังจากสร้างกดดันแล้วก็เปลี่ยนกลยุทธ์เป็การปลอบโยน “พี่น้องลูกพี่ลูกน้องของเ้าหลายคนมีพร์มากกว่าเ้า ทว่าเ้ามีทรัพยากรในการบำเพ็ญดีกว่าพวกเขา ทั้งหมดเป็เพราะเ้าคือหลานสาวของข้า เ้าเข้าใจความหมายในคำพูดข้าใช่หรือไม่?”
“ขะ...เข้าใจ! ศิษย์เข้าใจเ้าค่ะ!”
“ทรัพยากรในการบำเพ็ญชั้นเยี่ยมเช่นนี้ถูกมอบให้เ้า หากเ้ายังไม่รู้จักใช้ให้เป็ประโยชน์ ก็อย่าโทษว่าเ้าสำนักไร้ความปรานี เข้าใจหรือไม่?” เถียนจี้อวิ๋นพูดคำสุดท้ายอย่างเหี้ยมเกรียม แล้วพาเหล่าลูกศิษย์กลับไป เถียนหยางไท่ก็รีบดึงตัวเถียนหรูชิงขึ้น พยุงบุตรสาวที่ก้มหน้าก้มตาเดินตามหลังเถียนจี้อวิ๋นไป
ข้ายังไม่ทันได้วิ่งเข้าไปในเล้าไก่ เหตุการณ์ก็จบลงแล้ว ข้าที่เพิ่งรอดพ้นจากหายนะ เวลานี้แค่อยากจะนอนลงกับพื้นแล้วะเิเสียงหัวเราะออกมาดังๆ
แต่เมื่อนึกถึงความยากลำบากในการออกจากเขาอาทิตย์อัสดง ความสุขจากความสำเร็จอันน้อยนิดก็มลายหายสิ้นไปในพริบตา เป้าหมายหลักต่อไปของข้าคือการหาทางออกจากค่ายกลปกปักูเา แล้วหาทำเลที่เหมาะๆ ค่อยๆ สร้างรากฐาน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้