อวิ๋นซีมองเซียงเอ๋อร์ที่คุกเข่าลงบนพื้นนางพูดเรียบๆ “ลุกขึ้นเถอะ และจงจำไว้ว่า วันหน้าย่อมมีบางเื่ที่ไม่ใช่ว่าพวกเ้าจะสามารถถามได้อีกทั้ง เื่ทั้งหมดในวันนี้ห้ามบอกท่านอ๋องเป็อันขาด เปิ่นเฟยรู้ดีว่าพวกเ้าล้วนซื่อสัตย์และภักดีต่อเขาแต่เขาเองก็เป็สามีของเปิ่นเฟยเช่นกัน ดังนั้น สิ่งที่พวกเ้าควรระลึกไว้ ไม่ว่าเปิ่นเฟยจะทำเื่ใดย่อมไม่มีทางทำร้ายเขาแน่”
ในกรณีที่เขาไม่ได้ทำร้ายตนเองตัวนางย่อมไม่มีทางทำร้ายจวินเหยียนอย่างแน่นอน ไม่ใช่ไม่เพียงไม่ทำแต่ยังจะพยายามช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่ แต่หากเมื่อไรที่เขาเกิดทำร้ายนางขึ้นมาก็อย่าหาว่านางไร้น้ำใจ
เซียงเอ๋อร์รีบลุกขึ้นก่อนที่พวกนางจะให้สัญญาว่าพวกตนจะไม่บอกเื่นี้แก่ท่านอ๋อง
อย่างไรเสียสาวใช้อย่างพวกนางก็มองออกว่าเื่ทั้งหมดที่พระชายากระทำไปในตอนนี้ล้วนเป็การปูทางให้ท่านอ๋องกลับไปเมืองหลวงเพราะทุกสิ่งที่คนทำเพื่อท่านอ๋องล้วนอยู่ในสายตาขององครักษ์ัโลหิต ซึ่งพวกนางจำต้องซาบซึ้งในน้ำใจของพระชายามากกว่าจะมาขายพระชายาได้อย่างไร
เมื่อกลับมาถึงจวนอ๋องพ่อบ้านก็ยืนรออยู่หน้าประตูจวนแล้ว “พระชายาพ่ะย่ะค่ะ ในที่สุดพระองค์ก็เสด็จกลับมาแล้วท่านอ๋องกำลังจะให้คนไปเชิญท่านกลับมาพอดี”
อวิ๋นซีมองพ่อบ้านที่ดูร้อนรนจนเหงื่อกาฬผุดเต็มหน้านางก้าวเดินเข้าจวนอ๋องพลางถามกลับไปด้วยท่าทีสงบนิ่ง “เกิดเื่อันใดขึ้น? ”
พ่อบ้านรีบตอบ“เซียวชุนเซิงพาบุตรสาวมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้สตรีแซ่เซียวพิษกำเริบแล้ว นางปวดท้องจนแทบทนไม่ไหวก่อนหน้านี้ท่านอ๋องได้ส่งคนไปที่โรงหมอของนายท่านอวิ๋นแล้ว ทว่า นายท่านอวิ๋นออกเดินทางไปจากหานโจวั้แ่เมื่อเช้านี้พวกเราจึงทำได้แค่ต้องรอให้พระชายาช่วยตรวจดูอาการให้อย่างไรเสียเซียวชุนเซิงผู้นี้ก็เป็คนที่ท่านอ๋องคิดอยากจะเก็บไว้ใช้งาน”
พ่อบ้านเฉียวติดตามอยู่ข้างกายจวินเหยียนมาหลายปีแน่นอนว่าคนย่อมต้องรู้บางเื่ที่คนอื่นไม่อาจรู้ได้ ทั้งยังรู้ด้วยว่า นายท่านของตนเห็นความสำคัญของเซียวชุนเซิงผู้นี้มากถึงอย่างไรคนคนนั้นก็มีวรยุทธ์แก่กล้า และชำนาญพิชัยา คนเช่นนี้มีไม่มากนัก
“ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ใด? ” อวิ๋นซีขมวดคิ้วถาม
“อยู่ที่ห้องฝั่งตะวันตกในเรือนชั้นหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ”
ตอนที่อวิ๋นซีไปถึงก็ได้ยินเสียงร้องอันน่าอนาถดังออกมาจากในห้องนางไม่แม้แต่จะคิดก็รีบพุ่งตัวเข้าไปด้านใน และได้เห็นชายอายุสี่สิบกว่าผู้หนึ่งกำลังกอดสตรีวัยเยาว์คนหนึ่งไว้ในอ้อมแขนขณะที่สตรีผู้นั้นก็เอาแต่ดีดดิ้นไม่หยุด “ท่านพ่อ เ็ป ข้าเ็ปเหลือเกิน ปล่อยข้าข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว”
เซียวชุนเซิงมองบุตรสาวตนชั่วขณะนั้นความเ็ปก็โลดขึ้นในอก “โหรวเอ๋อร์ เ้าอดทนอีกหน่อยเถิดหากว่าชายาหานอ๋องมาถึง เ้าจักต้องไม่เป็อันใดแน่”
เมื่ออวิ๋นซีได้ยินก็รีบก้าวเข้าไปหาจากนั้นจึงยกข้อมือของเซียวโหรวเอ๋อร์ขึ้นแล้วจับชีพจร เดิมทีเซียวชุนเซิงคิดจะไล่สตรีที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหันผู้นี้ให้ออกไปแต่พ่อบ้านกลับพูดขัดขึ้นมาก่อน “ท่านนี้ก็คือชายาหานอ๋องของเรา”
อวิ๋นซีไม่ได้สนใจเซียวชุนเซิงอีกต่อไปนางนำเข็มเงินเล่มหนึ่งออกมา แล้วฝังลงไปตามจุดเืลมต่างๆ บนร่างของสตรีนางนั้น ไม่นานคนที่ตอนแรกยังดีดดิ้นไม่หยุดพลันเข้าสู่ห้วงนิทราจากนั้นนางจึงพูดขึ้นเรียบๆ “อุ้มคนไปบนเตียง ข้าจะตรวจดูอาการนางเสียหน่อย”
เมื่อกล่าวจบ นางก็ไล่คนออกไปทั้งหมดจากนั้นจึงช่วยตรวจร่างกายให้เซียวโหรวเอ๋อร์รอบหนึ่ง และได้พบสิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือในร่างของเซียวโหรวเอ๋อร์มีพิษอยู่ถึงสองชนิด ซึ่งหนึ่งในนั้น นางรู้ว่าต้องเป็เ้าสี่ที่ทำไปเพื่อใส่ร้ายรัชทายาทแน่
ทว่าแล้วอีกชนิดหนึ่งเล่า?
เมื่อนางเปิดประตูออกไปก็พบว่าชายคนนั้นก็อยู่ที่นี่ด้วย เขายังคงสวมใส่อาภรณ์สีแดงที่ดูเย้ายวนเช่นเดิม ทันทีที่เห็นอวิ๋นซีเดินออกมาก็รีบส่งยิ้มให้พร้อมเดินปรี่เข้ามาข้างกายจากนั้นจึงเอื้อมมือไปโอบบ่านางไว้แล้วเอ่ยถาม “กลับมาแล้วก็ไม่รู้จักไปบอกเปิ่นหวางสักหน่อย”
เมื่ออวิ๋นซีได้ยินมุมปากก็กระตุกเล็กน้อย ยามนี้เป็เหตุการณ์เร่งด่วนที่มีผู้อื่นรอคอยการช่วยชีวิตอยู่แต่เขากลับอยากให้นางไปรายงานเื่การเดินทางของเช้าวันนี้กับเขาก่อน
“หม่อมฉันไม่เป็ไรทว่า ตอนนี้ยังมีเื่ให้ต้องทำอีกมาก รบกวนท่านอ๋องอย่าเพิ่งเข้ามาวุ่นวายจะได้หรือไม่เพคะ? ” บุรุษผู้นี้คิดอยากจะได้เซียวชุนเซิงมาเป็พวก แต่ยังทำเป็ต้อนรับผู้อื่นไม่ดีช่างเป็ความคิดที่ขัดแย้งเสียจริง
อวิ๋นซีปลอบจวินเหยียนที่ราวกับเด็กน้อยจากนั้นก็หันมองไปยังเซียวชุนเซิงที่กำลังรออยู่อีกด้าน ดูท่าคนจะอดรนทนไม่ไหวแล้ว“เ้า ก็คือผู้บัญชาการเซียวที่มาจากเมืองหลวง? ”
เมื่อเซียวชุนเซิงได้ยินก็รีบพยักหน้าตอบทันที“พ่ะย่ะค่ะ ขุนนางต่ำต้อยผู้ต้องโทษคารวะพระชายา ขอพระชายาทรงพระเจริญพันปีพันปีพันพันปี”
อวิ๋นซีแค่นเสียงเ็า“พันปีไม่กล้ารับ หลังจากที่ได้พบเจอกับบุตรเขยผู้นั้นของเ้าแล้วก็อย่าได้พูดถึงพันปีอีกเลยเพราะตัวข้าเกือบจะต้องตายไปั้แ่อายุยังน้อยด้วยซ้ำ สงสารก็แต่บุตรของข้า เขาเพิ่งจะมีอายุได้เดือนเดียวแต่ต้องมาจากไปอย่างกะทันหันเช่นนี้ ซ้ำร้ายตอนนี้เปิ่นเฟยยังต้องข่มใจมารักษาให้ภรรยาของศัตรู”
เซียวชุนเซิงไม่ใช่เด็กที่มาจากตระกูลใหญ่อันใดก่อนที่เขาจะกลายเป็แม่ทัพ ตระกูลเซียวนี้ก็เป็แค่ตระกูลหนึ่งที่แสนจะธรรมดายิ่งทว่า ในตอนหลังเมื่อเขาได้กลายมาแม่ทัพ และยังได้รับพระเมตตาจากฝ่าาตระกูลเซียวถึงได้ค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แต่หากให้เทียบสถานะใดๆ ก็ไม่ได้แตกต่างจากพวกตระกูลร่ำรวยทั่วไป
นอกจากนี้ เขายังมีผลงานอีกมากมายด้วยความที่เป็คนขยันขันแข็งมากทั้งยังต้องใช้ชีวิตเป็เดิมพันถึงจะเดินมายังจุดนี้ได้ ดังนั้น คนต้องรู้แน่ว่าเื่บางเื่มีได้ก็ย่อมต้องมีสูญเสีย เขาคุกเข่าลงบนพื้นโขกศีรษะโดยแรง “หากว่าพระชายาสามารถช่วยชีวิตเซียวโหรวเอ๋อร์ของกระหม่อมได้นับแต่นี้ไปขุนนางต่ำต้อยผู้ต้องโทษเยี่ยงกระหม่อมยินดีรับใช้สนองพระบัญชาเป็ม้าเป็สุนัขให้ท่านอ๋องและพระชายาพ่ะย่ะค่ะ”
อวิ๋นซีและจวินเหยียนมองกันและกันไปทีหนึ่งนางขบคิดเพียงครู่แล้วจึงพูดว่า “ข้าสูญเสียลูกไปคนหนึ่ง แต่กลับแลกได้เพียงความภักดีจากตาเฒ่าเช่นเ้า? การค้านี้ไม่ว่าจะมองอย่างไร ข้าก็ล้วนเป็ผู้เสียเปรียบกระมังผู้บัญชาการเซียว เ้าต้องรู้ก่อนว่า เด็กในครรภ์ข้านั้นเป็ถึงพระโอรสสายตรง หรือไม่ก็พระธิดาสายตรงของท่านอ๋อง”
เซียวชุนเซิงก้มหน้าลงจากนั้นก็ไม่รีรอดึงดาบสั้นออกมาอย่างรวดเร็ว เขาชูดาบสั้นขึ้นสูงโดยหวังจะแทงลงไปยังตำแหน่งของหัวใจตนทว่า ในตอนที่ดาบสั้นกำลังจะแทงเข้าไปนั่นเอง จู่ๆ จวินเหยียนก็ปัดดาบสั้นของเซียวชุนเซิงจนตกลงบนพื้นใบหน้าของชายหนุ่มดำคล้ำอย่างน่าหวาดกลัว “หากเ้าอยากตายนักก็พาบุตรสาวเ้าไปตายด้วยกันด้านนอกนู่น อย่ามาทำให้จวนของเปิ่นหวางต้องสิ่งสกปรก”
เซียวชุนเซิงหดหู่ไปทั้งร่างไม่เพียงภรรยารักของเขาจากไปเร็วจนทำให้ตนมีบุตรสาวคนนี้เพียงคนเดียว นับแต่เล็กนางจำต้องติดตามเขาอยู่ที่ด่านรอบนอกมาโดยตลอดจึงอาจเรียกได้ว่าคนต้องทนรับกับความยากลำบากมาไม่น้อย กระทั่งสองปีก่อน เขาถูกเรียกให้กลับไปเมืองหลวงเดิมทีวาดหวังไว้ว่า วันหน้าจะให้บุตรสาวได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่ใครเล่าจะรู้ วันหนึ่งบุตรสาวออกไปจุดธูปไหว้พระและบังเอิญเจอเข้ากับโจร สุดท้ายในตอนที่บุตรสาวตนเกือบจะเกิดเื่ไม่ดีขึ้นนั้น เป็โจวเวยที่สามารถเข้าช่วยบุตรสาวของตนไว้
อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นเขาไม่คิดอยากจะให้บุตรสาวตบแต่งออกไปให้โจวเวยด้วยเพราะรู้ดีว่านางมีคนที่ชอบพออยู่แล้ว เพียงแต่ด้วยเื่นี้ไม่รู้แพร่ออกไปได้อย่างไรชื่อเสียงของนางจึงถูกทำลายลง และเป็โจวเวยอีกเช่นเคยที่มาหาถึงจวนตระกูลเซียว และบอกกล่าวอย่างดิบดีว่าจะรับผิดชอบบุตรสาวให้ด้วยเหตุนี้ เซียวโหรวเอ๋อร์จึงต้องละทิ้งรักแท้ตน และแต่งให้โจวเวย
วันคืนผ่านไปไม่เลวทีเดียวเขาที่มีความคิดจะเลื่อนขั้นให้โจวเวย สุดท้ายกลับถูกเขยตนโน้มน้าวให้กลายมาเป็คนของรัชทายาทอย่างลับๆทำให้เขาคิดสงสัยไปว่า ตอนที่หานอ๋องถูกขับไล่มายังหานโจวทั้งๆที่เป็ผู้บริสุทธิ์ก็น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับหวงกุ้ยเฟย
ตอนนี้อาจเรียกได้ว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดโจวเวยเพิ่งทำร้ายชายาหานอ๋องจนนางต้องสูญเสียบุตรในครรภ์ไป ดังนั้นหากทั้งสองพระองค์จะไม่คิดช่วยบุตรสาวตนก็คงเป็เื่ปกติธรรมดาอย่างที่สุดแล้วกระมังเมื่อใคร่ครวญจนถี่ถ้วนดีแล้ว เขาก็ราวกับชราลงไปหลายปีในทันที ผู้บัญชาการเซียวฝืนร่างยืนขึ้นและคิดอยากจะเข้าไปอุ้มบุตรสาวออกไปจากที่นี่
อวิ๋นซีเห็นท่าทีของเขาชั่วขณะนั้นก็อดไม่ได้ให้รู้สึกสงสารจิตใจบิดามารดาทั่วหล้า แท้จริงแล้วเื่ในตอนนั้นเป็โจวเวยที่ช่วยเหลือโอวหยางเทียนหัวซึ่งหาได้เกี่ยวข้องอันใดกับตระกูลเซียวไม่
นางถอนใจเบาๆ“หยุดก่อน เปิ่นเฟยจะช่วยเซียวโหรวเอ๋อร์เอง เพียงแต่ ั้แ่นี้เป็ต้นไปชีวิตของเ้า เซียวชุนเซิงถือเป็ของหานอ๋อง”
เมื่อเซียวชุนเซิงได้ยินก็หันกายไปมองอวิ๋นซีด้วยความประหลาดใจ“พระชายา จริงหรือพ่ะย่ะค่ะ? ”
อวิ๋นซีพยักหน้า“อืม เปิ่นเฟยเป็คนพูดคำไหนคำนั้น”
เมื่อเซียวชุนเซิงได้ยินแล้วก็รีบคุกเข่าลงบนพื้นจากนั้นจึงโขกศีรษะให้จวินเหยียน “ั้แ่วันนี้เป็ต้นไป ชีวิตของข้า เซียวชุนเซิงผู้นี้จะเป็ของหานอ๋องต่อให้พระองค์จะให้กระหม่อมบุกน้ำลุยไฟ ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่ล่าถอย”