วันนี้หลี่ชิงหลิงและหลิวจือโม่ไปขุดมันฝรั่ง กลัวว่าหากไม่ขุดมันกลับมาแล้วหิมะตกจะโดนแช่แข็งจนช้ำเสีย
นี่คือมันฝรั่งที่นางไปเจอมาด้วยความยากลำบาก หากโดนแช่แข็งทั้งหมดและไม่สามารถนำมาทำเป็เมล็ดพันธุ์ได้ นางคงร้องไห้ไม่ออก
ทันทีที่ทั้งสองคนขุดมันฝรั่งเสร็จ หลี่ชิงหลิงก็วิ่งหอบมาหา "พี่… พี่… พี่รู้จักเ้าของร้านฝูหมั่นโหลวหรือ?”
“รู้จัก ทำไมหรือ?”
"ลุงคนหนึ่งบอกว่าเขาเป็เ้าของฝูหมั่นโหลว บอกว่ามีธุระด่วน" เมื่อเห็นหลี่ชิงหลิงพยักหน้า หลี่ชิงเฟิงก็อยากจะร้องไห้ "คือ… คือ… ข้ากับจือเยี่ยนกลัวเขาโกหกเลยไม่ได้ให้เข้ามาในบ้าน” แย่แล้วสิ ทำให้เ้าของฝูหมั่นโหลวไม่พอใจจะกระทบอะไรพี่สาวไหมนะ
เมื่อเห็นใบหน้าของหลี่ชิงเฟิงที่คล้ายจะร้องไห้อยู่รอมร่อ หลี่ชิงหลิงก็ปลอบเขาด้วยรอยยิ้ม บอกว่าไม่เป็ไร
นางกับหลิวจือโม่ใส่มันฝรั่งทั้งหมดลงในตะกร้า สะพายกลับไป ทันทีที่พวกเขาถึงประตูบ้านหลิวก็เห็นเ้าของฝูหมั่นโหลว
หลี่ชิงหลิงเดินไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มก่อนกล่าวทักทาย "ท่านลุงเ้าของร้าน แขกที่หาตัวจับได้ยากนะเ้าคะ!" นางลูบหัวหลี่ชิงเฟิง "ขออภัย น้องชายข้าไม่รู้จักท่านลุงเลยไม่ได้ให้เข้าไป ยกโทษให้ด้วยนะเ้าคะ!”
เ้าของร้านยิ้มใจดี เหลือบมองหลี่ชิงหลิงและหัวเราะ "น้องชายเ้าฉลาดมาก รู้จักแอบวิ่งไปหาด้วย” เขายืนอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน ไม่เห็นหลี่ชิงเฟิงออกไป คงจะออกไปทางสวนหลังบ้าน
หลี่ชิงเฟิงหน้าแดง กล่าวขอโทษกับเ้าของร้านแล้วรีบวิ่งเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว
ถ้าเขารู้ว่าพี่สาวของเขารู้จักเ้าของร้านจริงๆ คงไม่ทิ้งเขาไว้ที่ประตู
หลี่ชิงหลิงหัวเราะ "ท่านลุงชมเกินไป รีบเข้ามานั่งเถอะ!" นางรอให้เ้าของร้านเข้าก่อนจึงตามเข้าไป
เ้าของร้านมองดูบ้าน จากนั้นมองหลิวจือโม่ "พวกเ้าอยู่ด้วยกันหรือ?” เขาสืบรู้สถานการณ์ของทั้งสองครอบครัวแล้ว แต่ไม่ชัดเจนในรายละเอียดนัก
เขาถามผู้คนตลอดทางมาหมู่บ้านหนิวโถว
หลี่ชิงหลิงส่ายหัว ชี้ไปที่บ้านข้างๆ "นั่นถึงจะเป็บ้านข้า นี่บ้านพี่จือโม่” พูดจบก็นึกถึงตอนที่คุยกับเ้าของร้านเป็ครั้งแรก นางรู้สึกอายเล็กน้อย "ท่านลุง พี่โม่กับข้าเป็คู่หมั้นกัน พ่อแม่เราเสียไปแล้ว ตอนไปขายสัตว์ให้ครั้งแรก ข้ากลัวจะโดนคนจับตามองเลยพูดไปแบบนั้น ขอโทษด้วย!” นางไม่คาดคิดด้วยซ้ำว่าเ้าของร้านจะมาหา ถ้ารู้ว่าจะมาคงบอกตรงๆ ั้แ่ที่เจอกันครั้งล่าสุด
แม้ว่าเ้าของร้านรู้เื่นี้แล้ว แต่เขาก็มีความสุขมากที่เห็นหลี่ชิงหลิงซื่อสัตย์
เขาหัวเราะเสียงดัง “ข้าเข้าใจ ข้าเข้าใจ” เมื่อไม่มีผู้ใหญ่ที่บ้าน ระวังไว้หน่อยเป็เื่ดี
เมื่อเห็นว่าเ้าของร้านไม่ได้คิดอะไรจริงๆ หลี่ชิงหลิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และขอให้หลิวจือโม่พาเ้าของร้านเข้าไปนั่งในบ้าน ส่วนนางไปต้มน้ำชงชา
เ้าของร้านนั่งลง หลิวจือโหรววิ่งออกจากห้องด้วยขาสั้นๆ ตามด้วยอาหวง
เ้าของร้านใ ผุดลุกขึ้นยืนกะทันหัน เขาตัวสั่นมองอาหวง "นี่... นี่..." เสือจริงๆ หรือ?
์ ไม่ได้คิดเลยว่าที่หลี่ชิงหลิงพูดจะเป็ความจริง นางมีเสืออยู่ที่บ้านจริงๆ
เขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย เด็กเหล่านี้กล้าหาญเกินไปแล้ว กล้าเลี้ยงแม้กระทั่งเสือ
"โหรวโหรว พาอาหวงกลับไป อย่าให้มันทำแขกใ” หลิวจือโม่ลูบหัวเล็กๆ ของหลิวจือโหรวอย่างช่วยไม่ได้
หลิวจือโหรวเอียงศีรษะมองเ้าของร้านแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเด็กๆ “อาหวงไม่กัดคน ไม่ต้องกลัว!" จากนั้นนางก็หันไปมองอาหวงและถาม “ใช่ไหม? อาหวง"
อาหวงส่งเสียงตอบรับ นับว่าเป็การตอบสนองต่อคำพูดของหลิวจือโหรว
หลิวจือโหรวเห็นดังนั้นก็มองเ้าของร้านอย่างภาคภูมิใจทันที "เห็นไหม บอกแล้วว่าอาหวงไม่กัดคน ไม่ต้องกลัวเลย” นางวิ่งไปลูบหัวอาหวง
เหงื่อเย็นบนหน้าผากของเ้าของร้านกำลังจะไหลลงมา อาหวงนั่งอยู่ข้างๆ โดยไม่แม้แต่จะมองมาที่เขา จึงตัดสินใจนั่งลงตัวสั่นเทาอีกครั้ง
"อาหวง กลับไปนอนที่ห้อง เชื่อฟังนะ" หลิวจือโม่เห็นเ้าของร้านยังกลัวจึงบอกอาหวง
อาหวงปรือเปลือกตามองหลิวจือโม่ เปลี่ยนทิศหันก้นมาเงียบๆ แต่ไม่กลับไป
มันต้องปกป้องพวกเขา จะกลับห้องไปได้ยังไง อาหวงไม่เห็นด้วยกับคำพูดของหลิวจือโม่
หลิวจือโม่ "..."
กลับกลายเป็เ้าของร้านที่เบิกตากว้างเมื่อเห็นความเฉลียวฉลาดของอาหวง "มัน... มันเข้าใจเ้าจริงๆ ใช่ไหม"
หลิวจือโม่หัวเราะเบาๆ "ตอนอายุหนึ่งเดือน แม่อาหวงโดนหมีกัดตาย เสี่ยวหลิงสงสารเลยเอากลับมาเลี้ยง" เขามองอาหวงอย่างอ่อนโยน "เราคิดว่ามันโตมากแล้ว อยากให้มันกลับคืนสู่ป่า คราวก่อนส่งมันกลับไป แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะแอบกลับมา ช่วยไม่ได้ คงไม่มีทางอื่นนอกจากเลี้ยงมันต่อไป" แต่หลังจากไปูเาซงมา มันก็รู้จักวิ่งไปหาอาหารทีู่เาซงด้วยตัวเอง เมื่อมันอิ่ม มันก็จะคาบเหยื่อกลับมาด้วย
“ยังไงก็ต้องระวังนะ อย่าให้มันไปโผล่ต่อหน้าชาวบ้าน ถึงอาหวงจะไม่ทำร้ายคนแต่ก็ยังน่ากลัว ชาวบ้านรับไม่ได้แน่”
"ขอบคุณสำหรับความห่วงใยขอรับ เราบอกเด็กๆ ที่บ้านแล้วว่าต้องไม่ให้ชาวบ้านรู้ว่าเรามีอาหวงอยู่ที่บ้าน มิฉะนั้นอาหวงจะตกอยู่ในอันตราย" หลิวจือโม่พยักหน้าให้เ้าของร้าน “โชคดีที่เราอาศัยอยู่ที่ตีนเขา ห่างจากชาวบ้านนิดหน่อย ไม่อย่างนั้นคงเลี้ยงไม่ไหว”
เ้าของร้านจริงจังมาก เขาพูดเกี่ยวกับอาหวงอีกเล็กน้อย จากนั้นจึงเปลี่ยนเื่
เมื่อหลี่ชิงหลิงชงชาเข้ามาก็เห็นหลิวจือโม่คุยกับเ้าของร้านอย่างมีความสุข
"คุยอะไรกัน? สนุกสนานเชียว" นางผลักชาไปตรงหน้าเ้าของร้าน "ท่านลุง ลองชาที่ข้าชงดู! ที่บ้านเราไม่มีชาอื่น มีแต่ชาดอกเก๊กฮวยที่ตากแห้งเอง หวังว่าจะไม่ถือสา”
เ้าของร้านยกถ้วยชาขึ้นจิบช้าๆ เขารู้สึกว่าชาดอกไม้นี้หอมหวานมาก กลิ่นหอมกระจายเต็มปาก รสชาติดีมาก
เขาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะถอนหายใจด้วยความชื่นชม "ชานี้ผ่านมือเสี่ยวหลิงแล้วไม่เหมือนใครจริงๆ รสชาติดีมาก ดีกว่าชาหลงจิ่งที่ข้าเคยดื่มอีก” นี่ไม่ใช่คำพูดมารยาท แต่เขาคิดว่าชานี้ดีจริงๆ
"ชาดอกเก๊กฮวยนี้จะเทียบกับชาหลงจิ่งได้อย่างไร ลุงยอข้าเล่นใช่ไหม!" นางแค่เติมน้ำจิติญญาลงไป ทำให้ชาเก๊กฮวยรสชาติดีขึ้น "ถ้าชอบ ตอนกลับก็เอาไปด้วยสิเ้าคะ!"
"ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอบคุณเสี่ยวหลิงแล้ว” เ้าของร้านก็ไม่เกรงใจ เขายกถ้วยชาขึ้นดื่มช้าๆ หลังจากดื่มไปหนึ่งถ้วย เขาก็ขอให้หลี่ชิงหลิงรินอีกถ้วยให้
หลังดื่มชาเก๊กฮวยไปสองถ้วยจึงวางถ้วยชาลง มองหลี่ชิงหลิงและพูดว่า "เสี่ยวหลิง วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือ" หลี่ชิงหลิงไม่ได้โกหกเลย กระต่ายนางแตกต่างจากกระต่ายอื่นจริงๆ เทียบกันแล้วรสชาติดีกว่าหน่อย
ลูกค้าที่เคยกินเนื้อกระต่ายที่ขายโดยหลี่ชิงหลิง กลับมากินซ้ำอีกจะบ่นว่าไม่อร่อยเหมือนเดิม แถมยังถามเขาว่าเขาเปลี่ยนพ่อครัวใช่หรือไม่
หากไม่เช่นนั้น เขาคงไม่มาหาและขอความช่วยเหลือจากหลี่ชิงหลิงด้วยตนเอง
หลี่ชิงหลิงนั่งข้างหลิวจือโม่ ถามเ้าของร้านว่านางช่วยอะไรได้บ้าง
ในใจนางเดาออกแล้วว่ามาหาทำไม แต่ต้องถามให้อีกฝ่ายพูดก่อน
"เสี่ยวหลิง ที่บ้านยังมีกระต่ายอีกไหม? ลูกค้าติดใจกระต่ายที่ขายไปรอบที่แล้ว รู้สึกว่าเนื้อกระต่ายตัวอื่นไม่อร่อย ข้านี่นะ..." เ้าของร้านทุกข์ใจจริงๆ!
“ท่านลุง ข้าขอโทษจริงๆ เ้าค่ะ กระต่ายที่บ้านขายไปหมดแล้ว ที่เหลือเป็กระต่ายตัวเมียที่ตั้งท้อง หรือไม่ก็กระต่ายตัวผู้ที่เลี้ยงไว้ผสมพันธุ์ ขายไม่ได้จริงๆ” ถ้าขายได้ก็คงเอาไปขายแล้ว ต้องให้เ้าของร้านมารับเองถึงหน้าบ้านเสียที่ไหน “ท่านลองมาดูเองก็จะรู้ว่าที่ข้าพูดจริงหรือไม่”
ด้วยความกลัวว่าเ้าของร้านจะไม่เชื่อ หลี่ชิงหลิงจึงพาเ้าของร้านไปดูที่สวนหลังบ้าน เ้าของร้านได้เห็นมันด้วยตาตัวเองจึงยอมแพ้โดยสิ้นเชิง
“กระต่ายตัวเมียจะออกลูกเมื่อไร?” เ้าของร้านชี้ไปที่กระต่ายตัวเมีย เขาหวังเป็อย่างยิ่งว่ากระต่ายตัวเมียเ่าั้จะรีบออกลูก รีบโต “เสี่ยวหลิง เลี้ยงเพิ่มอีกหน่อยสิ แค่นี้น้อยไปหน่อยนะ!” ถ้าทุกครั้งต้องรอนานขนาดนี้ เขาคงเศร้าแย่
“คงอีกครึ่งเดือน เลี้ยงให้โตอีกหนึ่งเดือน ท่านลุงทนรออีกเดือนครึ่งนะ!" หลี่ชิงหลิงรู้สึกหมดหนทางเล็กน้อยเช่นกัน กระต่ายของนางนับว่าโตเร็วแล้ว เร็วกว่านี้ก็เป็ปีศาจแล้ว “ข้าจะค่อยๆ เพิ่มจำนวนกระต่ายเพื่อไม่ให้ของขาดอีก”
เ้าของร้านตอบรับ พูดคุยกับหลี่ชิงหลิงสักพักก็ออกจากหมู่บ้านหนิวโถวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง
