ความสัมพันธ์ระหว่างหยางเฉินกับเฉียงเวยนั้นเป็ความลับและหากมีคนมาตามหาเขาถึงที่บาร์ของเฉียงเวยล่ะก็ คนผู้นั้นย่อมรู้จักพวกเขาทั้งสองเป็อย่างดีและนั่นก็ทำให้หยางเฉินสนใจขึ้นมาทันที
"ใคร?"
"ชาแนล" เฉียงเวยยิ้มอย่างเ้าเล่ห์
หยางเฉินพยายามอย่างมากที่จะนึกชื่อนี้และนั่นคือชื่อของโจวตงเฉิงไม่ใช่หรือไง
เหตุการณ์นองเืที่เกิดขึ้นใน่พันธมิตรตะวันตกนั้นต้องขอบคุณชาแนลที่มาช่วยคลี่คลายปัญหาไปได้มากไม่เช่นนั้นหยางเฉินอาจต้องรับมือกับฝ่ายของตกซิ่งกรุ๊ปด้วย
"เขามาทำอะไรล่ะ?"
เมื่อเห็นใบหน้าที่เคร่งขรึมของหยางเฉินเฉียงเวยก็หัวเราะขึ้นอย่างสนุกสนาน
“ฉันใมากเชียวแหละที่เห็นคุณชาแนลมาที่นี่เธอมาที่นี่เพื่ออยากเห็นหน้าของคุณเพียงแวบเดียวแต่พอเธอรู้ว่าคุณเดินทางไปฮ่องกง เธอก็เดินคอตกกลับไปทันทีเลยล่ะ”
โรสเห็นสีหน้าประหลาดของหยางเฉินแล้ว ก็อดส่งเสียงหัวเราะคิกคักไม่ได้
"ครั้งต่อไปถ้าเขามาอีก ช่วยบอกให้เขาไปหาผู้ชายคนอื่นที่มีรสนิยมเดียวกับเขาก็แล้วกันนะ" หยางเฉินกล่าวด้วยใบหน้าซีดเซียว
โรสแย้มรอยยิ้มขี้เล่น พลางกล่าวว่า
"คุณชาแนลเป็คนสวยมาก ขนาดฉันเป็ผู้หญิงยังรู้สึกอิจฉาเลย คุณเห็นเธอแล้วความ้าทางเพศไม่ทำงานเลยหรือไงคะ?"
หยางเฉินรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้จะนิสัยเสียมากเกินไปแล้วเขาจึงดึงสะโพกของเฉียงเวยมาแนบที่ต้นขา แล้วใช้ฝ่ามือตีไปที่บั้นท้ายของเธอ!
"อ๊าา!"
หลังจากตีครั้งที่สามรอยแดงก็ปรากฏบนบั้นท้ายของเฉียงเวย เธอสั่นสะโพกพร้อมกับครวญครางออกมา สีหน้าของเธอตอนนี้ดั่งใบไม้ในฤดูใบไม้ผลิ
"ไหนลองพูดอีกทีซิ!?" หยางเฉินถามด้วยใบหน้าขึงขัง
เฉียงเวยส่ายหัว ปากปิดสนิท แววตาของเธอปรากฏร่องรอยแห่งความสุขสม
หยางเฉินถอนหายใจเฮือกใหญ่ โจวตงเฉิงเล่นกับเขาแบบนี้ นั่นทำให้หยางเฉินไม่รู้จะรับมืออย่างไร!
หลังจากพักผ่อนจนเต็มอิ่มมาตลอดทั้งคืนหยางเฉินจึงกลับไปทำงานต่อหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเขาไม่ได้ฟังเื่ซุบซิบของสาวๆ เลยนั่นทำให้เขาอาจพลาดข่าวสารบางอย่างไป
หยางเฉินแบกถุงอาหารเช้าขนาดใหญ่เข้าไปในออฟฟิศ และสังเกตเห็นว่าวันนี้คนในออฟฟิศมีน้อยกว่าปกติเขาจึงเอ่ยถามจางไช่ว่าเกิดเื่อะไรขึ้น
จางไช่ตบโต๊ะเสียงดังก่อนเงยหน้ามาพูดกับหยางเฉินด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“หยางเฉินนายกลับมาได้สักทีนะรู้มั้ยว่าหลายวันมานี้พี่น้องของพวกเรามีชีวิตที่ยากลำบากกันขนาดไหนการประชุมที่ผ่านมาทำให้พวกเราต้องวิ่งวุ่นกันไปทั่ว เร็วๆ นี้บริษัทได้วางโครงการสำคัญพี่ิอวี้บอกว่าพวกเราต้องทำงานให้หนักขึ้นดังนั้นหลายวันมานี้พวกเราจึงยุ่งวุ่นวายกันมาก”
หยางเฉินทราบเื้ัของเื่นี้เป็อย่างดีภายในการร่วมมือกันกับบริษัทมู่หยุน และทางบริษัทยังคงเก็บเื่นี้เป็ความลับดังนั้นหญิงสาวที่น่าสงสารเหล่านี้ต้องทำงานหนักอย่างกะทันหัน
"โว้!!! อาหารเช้า!" จางไช่เห็นหยางเฉินถือถุงอาหารขนาดใหญ่มาก็ตาลุกวาวทันทีเธอรีบคว้าถุงอาหารมาหาของกินทันที
"คุณเหมือนอดอยากมาหลายวันเลยนะ"หยางเฉินหัวเราะ
จางไช่เคี้ยวอาหารไปพลางกล่าวว่า
"...อาหารที่นายนำมาให้พวกเรานั้นทำให้พวกเราลืมอาหารที่เคยกินไปเลยน่ะสิ"
หยางเฉินได้ยินดังนั้นก็รู้สึกพอใจอย่างมากเขาไม่คิดว่าสาวๆ จะชอบอาหารที่เขานำมามากขนาดนี้
หลังจากแจกจ่ายอาหารเช้าแล้วหยางเฉินก็กลับไปที่โต๊ะของตัวเอง เขาเห็นจ้าวหงเยี่ยนที่วันนี้สวมชุดกระโปรงสีชมพูสดใสและท่าทางที่ดูสดชื่น ดูเหมือนว่าเธอจะสะสางปัญหาในครอบครัวได้แล้ว
จ้าวหงเยี่ยนเห็นหยางเฉินเดินมาก็ยิ้มขึ้นอย่างอายๆ
"เป็ไง ทริปราบรื่นดีไหม"
"ก็เรียบร้อยดีแล้วปัญหาของคุณล่ะ ได้รับการแก้ไขหรือยัง?"
จ้าวหงเยี่ยนแย้มยิ้มขึ้นพร้อมพยักหน้าอย่างโเี้
"ฉันย้ายออกจากตระกูลหยูแล้วถึงแม้จะรู้สึกไม่ค่อยดีนัก แต่อย่างน้อยฉันก็สบายใจกว่า"
"ถ้าพวกเขานั้นมารบกวนคุณอีกโดยเฉพาะหยูฮุย คุณบอกผมได้เลย... แล้วตอนนี้พ่อของคุณเป็อย่างไรบ้าง"
"วางใจได้เลยตระกูลนั้นต่างหวาดกลัวอำนาจของบอสหลินกันถ้วนหน้า สำหรับพ่อของฉันคุณหมอบอกว่าเขาสามารถหาไตให้พ่อได้แล้ว และอีกไม่กี่วันพ่อก็จะพร้อมผ่าตัดคุณหมอยังบอกอีกว่าอัตราสำเร็จของการผ่าตัดนั้นสูงมากอีกด้วยเื่นี้ต้องขอบคุณบอสหลิน และนายเป็อย่างมาก”
"ใช่ต้องขอบคุณประธานหลินผมสิแทบไม่ได้ทำอะไรเลย"หยางเฉินยิ้ม
"ไม่เหมือนกัน ถ้าไม่ได้นายฉันก็คงไม่ได้มาไกลถึงเพียงนี้"จ้าวหงเยี่ยนยิ้มหวาน พลางกล่าวต่อว่า
"แล้วถ้าเป็เหมือนตอนนั้นเราจะไปได้ไกลถึงแค่ไหนกันนะ?"
หยางเฉินจับจมูกพลางกล่าวว่า
"คุณอย่ามายั่วผมซะให้ยากเลย"
"ฉันไม่ใช่ผู้หญิงสงวนเนื้อสงวนตัวพวกเราต่างมีอารมณ์ด้วยกันทั้งคู่ ฉันไปยั่วนายตอนไหนกัน" จ้าวหงเยี่ยนหัวเราะคิกคัก
หยางเฉินนึกถึงตอนที่เขาใช้มือรุกล้ำเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวหงเยี่ยนในตอนนั้นหญิงสาวที่เพิ่งหย่ามาหมาดๆ ตรงหน้าคนนี้ ทำให้หยางเฉินรู้สึกคึกคะนอง
ที่หยางเฉินเป็แบบนี้ไม่ใช่เพราะว่าเขาติดเซ็กแต่มันเป็ผลข้างเคียงจากโรคประหลาดที่เขาเป็แม้มันจะทำให้เขามีร่างกายที่ทรงพลังแต่ผลข้างเคียงของมันนั้นกลับทำให้เขาไม่สามารถควบคุมฮอร์โมนของตัวเองได้และมันทำให้เขาไม่สามารถต่อต้านการยั่วยวนของหญิงสาวได้ นอกจากนี้ยังมีเื่ความกดดันและความเครียดในสมองอีกด้วย
ในขณะที่กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยนั้นโทรศัพท์ของหยางเฉินก็ดังขึ้น มันเป็สายของหลี่จิงจิงนั่นเอง
"ว่าไง จิงจิง"
น้ำเสียงของหลี่จิงจิงดูผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัด
"พี่หยางทำไมหลายวันมานี้ฉันโทรหาพี่ไม่ติดเลย"
หยางเฉินรู้สึกประหลาดใจโทรศัพท์ที่เขาได้มาจากหลินรั่วซีนั้นไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแต่เมื่อตอนที่เขาเดินทางไปฮ่องกง สัญญาณก็เกิดไม่ดีขึ้นมา
หลี่จิงจิงพูดขึ้นตรงๆ
"ฉันจะบอกพี่หยางว่าฉันย้ายออกมาจากบ้านแล้วนะ..."
หยางเฉินไม่คิดว่าหลี่จิงจิงจะย้ายออกไปเร็วขนาดนี้เด็กสาวตัวเล็กๆ ในเมืองใหญ่ แม้ว่าเธอจะค่อนข้างคุ้นเคยกับที่นี่แล้วแต่หยางเฉินก็ยังอดห่วงเื่ความปลอดภัยของเธอไม่ได้ดังนั้นหยางเฉินจึงขอที่อยู่ใหม่ของหลี่จิงจิงในทันที
"จำครั้งสุดท้ายที่พี่หยางไปกับฉันได้มั้ยค่ะมันอยู่ใกล้ๆ กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านี่เอง มันเป็แฟลตเล็กๆ ค่าเช่าเดือนละหนึ่งพันหยวนแม้มันจะค่อนข้างแพง แต่โชคดีที่ที่นั่นมีรถประจำทางผ่านด้วยดังนั้นฉันจึงสามารถไปเยี่ยมเด็กๆ ได้ทุกเมื่อหลังจากกลับจากที่ทำงาน"
หยางเฉินรู้ว่าเงินเดือนของหลี่จิงจิงในตอนนี้ยังไม่มากนักดังนั้นค่าเช่าของห้องพักนี้จึงไม่ถูกเลย
"ฉันจะหาเวลาว่างออกไปหาก็แล้วกัน" หยางเฉินไม่กังวลเวลาที่จะต้องกลับบ้านโดยเฉพาะกับหญิงสาวที่เขาห่วงใยเสมือนเป็น้องสาวของตนเอง
"ฉันจะไปตรวจดูความปลอดภัยรอบๆที่พักใหม่ของเธอ นั่นเป็สิ่งที่สำคัญมาก" หยางเฉินกล่าวต่อ
หลี่จิงจิงเงียบไปครู่หนึ่งเห็นได้ชัดว่าเธอมีความสุขมาก
เมื่อวางโทรศัพท์แล้วหยางเฉินก็คิดว่าเขาควรจะช่วยเธอบางอย่างนั่นเพราะเขามีเงินจากการไปฮ่องกงถึงหนึ่งล้านหยวน จากการพนันกับหลี่มู่เฉิงแต่เขายังไม่มีเวลาไปนำเงินออกจากบัญชีเท่านั้น
"เด็กผู้หญิงอย่างงั้นหรือ?" เมื่อเห็นหยางเฉินคุยจบไปแล้วจ้าวหงเยี่ยนก็เอ่ยถามอย่างสนใจ
"เป็ลูกสาวของเพื่อนน่ะ" หยางเฉินกล่าว
"จริงเหรอ เป็สาวน้อยน่ารักที่คนแก่อย่างฉันไม่ควรรู้งั้นสินะ"จ้าวหงเยี่ยนเอ่ยเสียงเศร้า
หยางเฉินเดินไปข้างหน้าจ้าวหงเยี่ยน และหยิกที่พวงแก้มสวยของเธอเบาๆ
"หรือว่าสาวแก่อย่างคุณอยากให้ผมััพื้นที่เปียกชื้นนั่นล่ะ"
“ใครจะอยากให้คนลามกอย่างนายัักันไปเลย กลับไปนั่งที่ตัวเองได้แล้ว!"
หยางเฉินฝืนยิ้มออกมาผู้หญิงคนนี้ยังไงกันแน่ เดี๋ยวก็อยากให้ัั เดี๋ยวก็ไม่อยากเสียแล้ว
ครึ่งชั่วโมงต่อมาหยางเฉินขับรถตรงไปยังธนาคารในย่านธุรกิจที่การจราจรคับคั่ง
เขาเข้าไปในห้องโถงธนาคารซึ่งภายในมีคนไม่มากนัก
เมื่อรับบัตรคิวแล้วหยางเฉินก็นั่งลงที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง และทันใดนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นใครบางคนเข้าให้