เสียง “แกร่ก” ดังขึ้น ประตูห้องพักผู้ป่วยถูกเปิดออก ฉินซีที่นอนอยู่บนเตียงขยับและไอออกมาโดยอัตโนมัติ เป็หมอคนเดิมเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเรียบเฉย ความจริงแล้วหมอคนนี้มีนิสัยประหลาดอยู่ เขามักจะตำหนิความไม่รักตัวเองของฉินซีอยู่บ่อยๆ และบางครั้งก็ยังมาทำแผลให้เขาเอง นี่มันน่าเ็ปจนฉินซีอดทำหน้ายู่ไม่ได้
ดังนั้นเมื่อตอนนี้เขาได้ยินเสียงเปิดประตูดังขึ้น ก็คิดว่าเป็หมอคนนั้น
“ฉันมาเยี่ยมนายแล้ว” คนยังไม่ทันก้าวเข้ามา น้ำเสียงร่าเริงก็ดังเข้ามาก่อน
ฉินซีลอบถอนหายใจ ได้ยินเสียงนี้ก็รู้แล้วว่าเป็ใคร
ถังชาน!
หลังจากแยกกันที่รายการแล้ว ฉินซีก็ไม่ได้พบกับถังชานอยู่นานหลายวัน นิสัยของถังชานโผงผางเกินไป ไม่ว่าจะเป็คำพูดดีหรือร้ายก็พูดออกมาได้โดยไม่คิดอะไร คนแบบนี้แม้จะคบหาเป็เพื่อนได้ แต่กลับไม่สามารถสนิทชิดเชื้อได้นัก ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างฉินซีกับเขาจึงไม่ลึกไม่ตื้นเสมอมา
คิดไม่ถึงว่าถังชานจะมาเยี่ยมเขา! หรือผู้จัดการของถังชานจะไม่ได้บอกว่า ทางที่ดี่นี้ไม่ควรมายุ่งกับเขา เพื่อไม่ให้โดนลูกหลงจากเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น?
ในตอนที่ฉินซีกำลังไตร่ตรอง ถังชานก็ยกผลไม้ในมือเดินเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยแล้ว เขาวางผลไม้ลงบนโต๊ะข้างหัวเตียง ใบหน้าของเขาพลันกลายเป็ขุ่นเคืองขึ้นมา “ฉินซี นายได้ดูข่าวบ้างไหม?”
“ไม่ได้ดูหรอก แต่ก็พอเดาได้อยู่ มีข่าวเกี่ยวกับฉันอีกแล้วใช่ไหมล่ะ?” ตัวเอกของเื่อย่างฉินซีสงบนิ่งมาก
ถังชานหารีโมตโทรทัศน์ไปด้วยสีหน้าหงุดหงิด ก่อนเปิดโทรทัศน์ในห้องขึ้น “ฉินซี นายควรดูสักหน่อยนะ… พระเ้า… ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงอย่างเหลียนเหล่ยจะโหดร้ายได้ถึงขนาดนี้!”
เดิมทีฉินซีก็ไม่มีโอกาสจะปฏิเสธ เขาจึงมองถังชานเปิดโทรทัศน์และกดเปลี่ยนไปที่ช่องบันเทิง มันฉายรายการข่าวบันเทิงที่ได้เรตติ้งสูงรายการหนึ่งอยู่
ฉินซีเคยชินกับการถูกพิธีกรวิจารณ์ตัวเองมานานแล้ว ทว่าคิดไม่ถึงว่าข่าวที่ถูกฉายซ้ำในวันนี้จะไม่เหมือนอย่างที่ผ่านมา พิธีกรเปิด VCR หนึ่งขึ้น และใน VCR นี้ก็เป็การสัมภาษณ์เพื่อนร่วมชั้นของฉินซี! ในตอนที่ฉินซีเห็นใบหน้าของเพื่อนร่วมชั้นในวันวานบนจอ เขาก็ประหลาดใจขึ้นมาเล็กน้อย
คาดไม่ถึงว่าเหลียนเหล่ยจะเ้าเล่ห์ขนาดนี้!
“ปกติแล้ว ฉินซีก็เข้ากับเพื่อนในโรงเรียนไม่ค่อยได้น่ะครับ ความจริงเกรดของเขาก็ไม่ได้ดีนัก ส่วนเื่นิสัย... ถ้าพูดกันตามความจริงแล้วก็ธรรมดามาก แต่เขามีแฟนสาวสวยมาก เมื่อก่อนก็ชอบพาแฟนสาวมาอวดที่โรงเรียน อ้อ! ใช่แล้ว เขาเคยต่อยตีกับคนอื่นเพื่อแฟนสาวคนนี้ด้วยนะครับ...” นักเรียนชายหันหน้ามองกล้องขณะพูด พลางนึกย้อนความทรงจำกลับไป แม้แต่ฉินซีที่ดูวิดีโอสั้นนี้อยู่ก็เกือบจะเชื่อว่าตัวเองเป็คนแบบนั้น
เมื่อถังชานดูมาถึงตรงนี้ ก็อดหันหน้ากลับมาไม่ได้ จากนั้นก็ถามฉินซีขึ้นอย่างรีบร้อน “ฉินซี เมื่อก่อนนายเป็แบบนี้จริงเหรอ?”
ฉินซีเหยียดยิ้มด้วยความโมโหอย่างไม่ปิดบัง “การใส่ร้ายใครสักคนนั้น มันมีวิธีการมากมายจริงๆ”
ถังชานก้มหน้าลงด้วยความอึดอัด และรู้แล้วว่าตัวเองไม่ควรสงสัยในตัวฉินซี
“ถ้าแบบนั้น… นายจะทำยังไง? คงไม่ปล่อยให้เหลียนเหล่ยใส่ร้ายต่อไปแบบนี้เรื่อยๆ ใช่ไหม?”
ฉินซียึดรีโมตจากมือของถังชาน กดปิดโทรทัศน์ลงอย่างเยือกเย็น ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบ “ถ้าเธอใส่ร้ายฉันได้สำเร็จ ก็คงจะดิ้นรนภายใต้สถานการณ์ไร้นายทุนไม่ได้หรอก หลังจากนี้เพียงไม่กี่ปีเธอก็จะกลายเป็พวกดาราปลายแถวแล้ว”
ถังชานยิ้มออกมาด้วยความอึดอัด “เฮ้อ ฉินซี นายนี่ปากร้ายจริงๆ”
“ฉันไม่ได้ดูถูกเธอ แต่นายลองดูนิสัยและการกระทำของเธอสิ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าสติปัญญาของเธอต่ำแค่ไหน” ฉินซีเย้ยหยันอย่างไม่เกรงใจ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาส่งข้อความหาเกาจิ้ง
คนที่เขารู้จักไม่ได้มีมากนัก แต่บังเอิญว่าคนเพียงไม่กี่คนนั้นต่างก็สามารถใช้ประโยชน์ได้ แค่นี้มันก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ?
เกาจิ้งตอบกลับข้อความอย่างรวดเร็ว “ฉันรอให้นายบอกมาตั้งนานแล้ว เื่นี้จัดการได้ง่ายมาก ฉันจะติดต่อให้ คืนนี้เห็นผลแน่”
“ขอบคุณครับ ท่านประธานเกา”
ฉินซีเก็บโทรศัพท์ลง ถังชานเองก็ลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง จากนั้นก็ถามขึ้น “นายอยากทานอะไรไหม?”
ฉินซีกวาดสายตาไปยังผลไม้ในถุง “เอากีวี่ ขอบคุณมากนะ”
ถังชานปลอกกีวี่ให้เขาตามที่บอกแต่โดยดี รอจนกระทั่งฉินซีทานเสร็จ ถังชานก็เช็ดมือและออกจากโรงพยาบาลไป เห็นได้ชัดว่าความจริงแล้วถังชานยุ่งมาก เขาเพียงหาเวลาออกมาชั่วครู่เท่านั้น
ในปากของฉินซียังคงเคี้ยวกีวี่อยู่ เขายกหัวอิงหมอน และอดคิดขึ้นไม่ได้ว่าตอนนี้มีแต่เขาที่หลังจากถ่ายกระบี่เย้ยยุทธจักรจบแล้ว ก็หยุดนิ่งไม่ขยับไปไหน ถ้าเป็แบบนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่… เขาควรโต้กลับไปได้แล้ว!
…...
ภายในร้านกาแฟ มีชายคนหนึ่งแต่งตัวเรียบง่าย ชายเสื้อปล่อยหลุดลุ่ยเล็กน้อย สองนิ้วคีบบุหรี่ออกจากปาก ก่อนจะยกยิ้มขึ้น “วางใจเถอะ เื่นี้ให้ผมจัดการเอง ไม่มีปัญหาแน่ครับ”
“ถ้าแบบนั้นผมก็ขอบคุณแทนเขาด้วย” ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาหยิบแฟ้มที่วางอยู่ข้างโต๊ะขึ้นมา ก่อนจะตบลงที่บ่าของอีกฝ่ายสบายๆ จากนั้นก็ถือโอกาสนำซองจดหมายหนาๆ วางลงบนขาของชายคนนั้น
มือที่วางอยู่บนเข่าของชายคนนั้นจับเข้าที่ซองจดหมาย เขาคลี่ยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะมองส่งชายหนุ่มจากไป “ลาก่อนครับ คุณชายเกา”
รอจนร่างของเกาจิ้งหายไปจากร้านกาแฟ ชายคนนั้นก็ยิ้มตาหยีพร้อมนำโทรศัพท์มือถือออกมากดโทรออก
คนที่อยู่ในวงการสื่ออย่างพวกเขา หากจะทำเื่ที่คุณชายเกา้า ความจริงมันก็แสนง่ายดาย เมื่อคิดถึงตรงนี้ ชายคนนั้นก็อดตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้ ดูเหมือนว่าหลังจากผ่านเื่นี้ไป เขาก็น่าจะได้ ‘ผลงานที่น่าภาคภูมิใจ’ ในการควบคุมความเห็นสาธารณะและการชักจูงคนเพิ่มขึ้นอีก
เมื่อเกาจิ้งออกมา ก็รีบมาหาฉินซีที่โรงพยาบาลด้วยความตื่นเต้น เมื่อเขาเปิดปากพูดก็เอ่ยชมฉินซีทันที “นายนี่ฉลาดจริงๆ”
ฉินซีเองก็ไม่เกรงใจ เนื่องจากชัยชนะอยู่ตรงหน้า ดังนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจึงสดใสขึ้นมาไม่น้อย “แน่นอนอยู่แล้วครับ” ทั้งรอยยิ้มนี้ยังแฝงความทะนงตนไว้ด้วย
เกาจิ้งไม่ได้รู้สึกว่าฉินซีทะนงตนเกินไปแต่อย่างใด ไม่เพียงเท่านั้น เกาจิ้งยังรู้สึกภูมิใจขึ้นมาอย่างประหลาด เขาอดกลั้นความดีใจอันแปลกประหลาดนั่นไว้ ก่อนพูดกับฉินซี “ยากที่จะได้เจอเื่สนุกขนาดนี้ ฉันจะรอดูเป็เพื่อนนายเอง”
มุมปากของฉินซีโค้งเหยียดเป็รอยยิ้ม “ถ้าแบบนั้นท่านประธานจงก็จับตาดูให้ดีนะครับ”
ความจริงหลังจากนั้นไม่ถึงครึ่งชั่วโมง คำพูดของฉินซีก็ได้รับการยืนยัน แม้เกาจิ้งจะเคยได้ยินเื่การทำงานในวงการนี้มาบ้าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าจะสามารถสร้างกระแสขึ้นมาได้เร็วขนาดนี้! การปลุกระดมกระแสสังคมสามารถทำให้คนดังขึ้นมาได้ในชั่วข้ามคืน แต่ก็ทำให้คนตกลงมาจากยอดเมฆได้เช่นกัน จากนั้นก็จะเน่าเฟะจนไม่อาจทนได้...
่เวลาหกโมงเย็นของวัน เป็เวลาที่คนจำนวนไม่น้อยเพิ่งจะเลิกงาน และเดินขึ้นรถเมล์หรือรถไฟใต้ดิน พวกเขานำโทรศัพท์ออกมา ขณะที่กำลังจะเลื่อนดูข่าวบันเทิงใหม่ก็ได้เห็นหัวข่าวที่เหมือนๆ กันของเว็บไซต์ใหญ่ๆ หลายที่ และชื่อบนหัวข้อข่าวนี้ต่างก็สะดุดตาพวกเขาเป็อย่างมาก
“รูปหลุดของเหลียนเหล่ย! ที่แท้ชีวิตส่วนตัวของเทพสาวก็ยุ่งเหยิงเช่นนี้เอง!”
“ในบรรดาดาราสาวที่ถูกเลี้ยงดู ตอนนี้เหลียนเหล่ยนับว่าเป็ตัวท็อปของวงการ!”
“ต่อหน้าผู้คนทำตัวสดใสใจดี ลับหลังกลับใช้อำนาจกดขี่คนอื่น ขุดประวัติการถูกเลี้ยงของเทพสาวเหลียนเหล่ยมาเพื่อพวกคุณแล้ว!”
……
หากมีเพียงหัวข้อเหล่านี้ก็คงไม่มีอะไร เพียงแต่หลังจากคลิกเข้าไปก็จะเห็นรูปโป๊เปลือยที่ถูกเซนเซอร์ไว้ และในตอนนั้นนักตัดต่อรูปที่มีชื่อเสียงในเวยป๋อก็ได้ออกมาโพสต์ว่ารูปของเหลียนเหล่ยไม่ได้ถูกตัดต่อมาก่อนแน่นอน
ในเวลานั้นจะยังมีใครสนใจว่าฉินซีเคารพหรือไม่เคารพรุ่นพี่อยู่อีก ใครจะสนใจว่าฉินซีมีความสัมพันธ์กับเทพเ้าจงหรือไม่ ใครจะยังสนใจภาพฉาวที่ไม่ได้ชัดเจนอะไรของฉินซีอีกบ้าง! ทุกคนต่างก็ไปดูรูปโป๊กันหมดแล้ว เข้าใจไหม? รูปโป๊เชียวนะ! หลังจากเมื่อหลายปีก่อนที่มีรูปโป๊ถูกเปิดโปงออกมา ภายในวงการบันเทิงก็เงียบสงบมานานมากแล้ว คิดไม่ถึงว่าผ่านมาหลายปีจะยังมีดาราสาวถูกเปิดโปงแบบนี้อีก!
ในตอนนั้นยอดวิวของเว็บไซต์ใหญ่ๆ ต่างก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
เื่ราวเื้ัรูปโป๊เหล่านี้เองก็ถูกขุดออกมา
ชาวอินเทอร์เน็ตต่างก็ได้รู้กระจ่าง...
อ้อ ที่แท้ก่อนที่เหลียนเหล่ยจะเดบิวต์ ก็เคยอาศัยรูปลักษณ์งดงามไปยั่วสามีของคุณนายไฮโซมาก่อน!
อ้อ ที่แท้หลังจากเหลียนเหล่ยเดบิวต์และถูกตำหนิว่าเป็ไม้ประดับของกองถ่าย วันต่อมาเธอก็ไปขึ้นเตียงกับผู้กำกับ!
อ้อ ที่แท้ที่หลังๆ มา เหลียนเหล่ยก็ชอบรังแกคนหน้าใหม่แบบนี้ก็เป็เพราะไปเกาะคนรวยคนหนึ่งเข้า!
อ้อ ภายนอกของเหลียนเหล่ยดูเย้ายวนแบบนี้ แต่ที่จริงแล้วจิตใจของเธอก็ไม่เบาเช่นกัน!
อ้อ ที่แท้เดิมทีเธอก็ไม่ใช่ของดีอะไร...
ในตอนที่ทุกคนกำลังมุงดูสิ่งที่น่าสนใจ พวกเขาก็นึกถึงฉินซีที่ถูกเหลียนเหล่ยเล่นงานขึ้นมา หรือว่าคนหน้าใหม่คนนี้… ความจริงจะเป็เพียงผู้บริสุทธิ์ที่ถูกเหลียนเหล่ยรังแก? ขอเพียงมีคนตอบโต้ในรูปแบบนี้ จากนั้นก็ค่อยๆ มีคนออกมาโต้แย้งมากขึ้น
แฟนคลับของเหลียนเหล่ยต่างผิดหวังในตัวนางฟ้าของตัวเองไม่น้อย พวกเขาคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะชื่นชอบและสนับสนุนคนแบบนี้ ความรู้สึกราวกับถูกหลอกปกคลุมหัวใจของเหล่าแฟนคลับ บ้างก็ประกาศก้องว่าจะเปลี่ยนไปเป็แอนตี้แฟน ทั้งยังมีพวกแฟนคลับชายที่ไร้สติบอกว่าจะไปหาตัวเหลียนเหล่ย ส่วนพวกแฟนคลับที่ยังไม่ยอมตายใจก็ไปร้องขอให้เหลียนเหล่ยออกมาอธิบายใต้เวยป๋อ
ในตอนนั้นเหลียนเหล่ยทำอะไรอยู่น่ะเหรอ? เธอกำลังถ่ายโฆษณาน้ำหอมแบรนด์หนึ่งที่ต่างประเทศ โฆษณานี้เป็ของนักธุรกิจร่ำรวยที่หลงเซิ่งรู้จักคนหนึ่ง เขาจึงติดต่อมาหาเหลียนเหล่ยโดยตรง หรือก็คือเหลียนเหล่ยหักหลังหลงเซิ่งลับหลังเขา และในตอนนั้นเหลียนเหล่ยก็ยังภูมิใจในตัวเองที่ออกจากประเทศไปอย่างมีความสุข ส่วนจะเกิดเื่อะไรขึ้นในประเทศบ้าง เธอกลับไม่ได้รู้เลยสักนิด
แน่นอนว่าเื่ที่หลงเซิ่งโมโหจนใบหน้าบิดเบี้ยว เธอก็ไม่มีทางรู้
หลังจากนั้นบนอินเทอร์เน็ตก็แพร่วิดีโอที่โป๊เปลือยยิ่งกว่าเดิมของเหลียนเหล่ยออกมา แม้ว่าไม่นานจะถูกกำจัดไปแล้ว แต่ในสถานการณ์ที่เ้าของเื่ไม่ออกมาจัดการอะไร ข่าวเสียๆ ของเธอก็ยิ่งดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ ในตอนนั้นจงซิงอู๋ก็ก้าวออกมาอย่างดีใจ เขาเหยียบเหลียนเหล่ยลงใต้เท้าด้วยใบหน้าสง่างามและเยือกเย็น
จงซิงอู๋กล่าว “แน่นอนว่าในวงการบันเทิงไม่ควรมีพวกคนที่มุ่งทำลายภาพลักษณ์คนอื่นอยู่ จากเหตุการณ์นี้ใครเป็คนที่ถูกทำลายภาพลักษณ์นี้กันแน่ เกรงว่าคงต้องรบกวนให้ทุกคนใช้วิจารณญาณแยกแยะกันให้ดีด้วยนะครับ”
นี่ไม่ได้กำลังพูดถึงเหลียนเหล่ยแบบอ้อมๆ อยู่หรอกเหรอ?
พวกศิลปินน้อยใหญ่คนอื่นต่างก็คิดว่าตัวเองควรถือโอกาสทำตัวดีกับจงซิงอู๋เสียหน่อย ก่อนหน้านี้ที่เหลียนเหล่ยลอบจัดการฉินซีอยู่เื้ั คิดว่าทุกคนมองไม่ออกหรืออย่างไร? และที่เหลียนเหล่ยทำแบบนั้นก็ทำให้เทพเ้าจงไม่พอใจอย่างรุนแรง ตอนนี้ดูเหมือนว่าเหลียนเหล่ยคนนี้จะไม่มีโอกาสได้พลิกกลับมาแล้ว ดาราหลายๆ คนในวงการบันเทิงต่างก็ไม่โง่ พวกเขาจึงรีบออกตัวเหยียบย่ำเหลียนเหล่ยกันถ้วนหน้า
ในตอนที่เหลียนเหล่ยโอ้อวดว่ารับโฆษณาตัวใหม่มาในรายการ ฉินซีก็คำนวณเวลาที่เหลียนเหล่ยจะออกจากประเทศไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงยังไม่ลงมือ แต่เมื่อลงมือแล้ว เขาก็จะไม่ให้เหลียนเหล่ยได้โต้คืนเลยแม้แต่น้อย!
เมื่อเหลียนเหล่ยกลับมาจากต่างประเทศงั้นเหรอ หึ ทุกอย่างก็คงกลายเป็ฝุ่นไปแล้ว… ในตอนนั้นหลงเซิ่งจะยังปกป้องเธออยู่ไหม? ฉินซีไม่คิดว่าจะแบบนั้นแน่
ในขณะนั้น ภายในห้องพักผู้ป่วยของโรงพยาบาล เกาจิ้งได้เห็นเื่น่าเหลือเชื่อมาไม่น้อย เขาอดตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงของกระแสในอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วขนาดนี้ไม่ได้ เขาอ้าปากค้างอยู่นานกว่าจะพูดออกมาได้ “นาย… นี่นายโรคจิตหรือเปล่า? ที่แท้นายก็วางแผนเอาไว้หมดแล้ว!”