"การเเข่งขันผู้เข้าประลองสามารถใช้ได้ทั้งวรยุทธอีกทั้งบทเวทย์ระดับต่าง ๆ รวมไปถึงอสูรรับใช้ก็ได้เช่นกันสำหรับการลงเเข่งขันจะไม่จำกัดเวลาจนกว่าจะล้มคู่ต่อสู้ได้ อีกทั้งการลงประลองนั้นจะเป็การสุ่มรายชื่อ ผู้ชนะในเเต่ละรอบประลองอาจจะได้ลงประลองอีกหลายครั้งในขณะที่บางคนอาจจะได้ลงประลองเพียงเเค่หนึ่งหรือสองครั้งเพียงเท่านั้น เท่ากับว่านอกจากที่พวกเ้าจะต้องอาศัยฝีมือของตนเเล้วนั้นก็ต้องอาศัยโชคเช่นกันว่าวันนี้จะเป็วันของพวกเ้าหรือไม่?"
ผู้าุโที่ทำหน้าที่ดำเนินการประลองพูดถึงความพิเศษของกฎการลงประลองครั้งนี้ สิ้นเสียงกล่าวจบลงผู้คนต่าง ๆ ที่อยู่โดยรอบสนามประลองต่างส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่มสร้างความรู้สึกฮึกเหิมด้วยเพราะว่าตอนนี้ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยเเล้ว
"หากเป็การสุ่มรายชื่อ หากว่ามีผู้ชนะในการลงประลองเเต่ละครั้งเเต่ในทุกการสุ่มรายชื่อดันมีเเต่รายชื่อของเขาให้ลงเเข่งขันเเต่กลับอีกคนอาจจะมีรายชื่อในการประลองเพียงไม่กี่ครั้งหากเป็เช่นนี้จะไม่เป็การเสียเปรียบกันหรือขอรับ??" หนิงอ้ายถามขึ้น ด้วยเพราะเขาสังเกตว่ากฎการประลองที่มีการปรับเปลี่ยนนี้มีช่องโหว่ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว หากว่ามีมือที่มองไม่เห็นที่มีอำนาจสั่งการได้้าสกัดดาวรุ่งผู้เข้าเเข่งขันก็คงสามารถกระทำได้เช่นกัน
"มีความเป็ไปได้ไม่น้อย เเต่เ้าอย่าลืมว่าการจัดประลองโดยรวมทุก่อายุเเข่งขันกันโดยที่ไม่คำนึงถึงประสบการณ์รวมไปถึงการใช้บทเวทย์เพียงเเค่นี้ก็สามารถสร้างความได้เปรียบอย่างมากมายเเล้ว..."
"เเต่ถึงอย่างไรก็ตาม ทั้งนี้ในการประลองนั้นระดับพลังของบทเวทย์ที่ใช้ก็มีผลไม่น้อย ดังนั้นขึ้นอยู่กับทักษะความสามารถอีกด้วย และสัตว์อสูรรับใช้ก็เป็ตัวแปรที่สำคัญได้เช่นกัน แม้ว่าท้ายที่สุดเเล้วระดับพลังิญญาจะไม่เท่ากันเเต่ความแตกต่างของระดับบทเวทย์ที่ใช้ รวมไปถึงทักษะฝีมือและประสบการณ์ที่มีก็สามารถใช้เป็แต้มต่อที่สามารถพลิกกลับมาชนะได้..." ลู่ซีอธิบายให้หนิงอ้ายให้เข้าใจมากขึ้น อาจดูมีความเสียเปรียบในเื่ของ่อายุหรือระดับพลังิญญาในการประลองเเต่ปัจจัยอื่น ๆ ก็สามารถนำพลิกเเพลงสร้างโอกาสเพื่อคว้าชัยชนะของตนได้เช่นกัน
''ทุกอย่างขึ้นอยู่กับไหวพริบการควบคุมสติรวมไปถึงทักษะและระดับบทเวทย์นี่นำมาใช้สินะขอรับ" หนิงอ้ายพยักหน้า ด้วยเพราะว่าเขาได้เข้าใจในการประลองครั้งนี้มากขึ้นแล้ว...
การประลองระหว่างแคว้นในรอบแรกของผู้ฝึกตนราชทินนามขุนนางิญญาได้เริ่มต้นขึ้น โดยมีการสุ่มรายชื่อออกมาจากกล่องไม้สีขาวดังกล่าวเพื่อหาคู่ประลอง โดยที่จะมีการสุ่มรายชื่อมาทีละห้าคู่เนื่องจากว่าพื้นที่ของสนามประลองนั้นมีขนาดกว้างใหญ่เพียงพออีกทั้งยังเป็การประหยัดเวลาอีกด้วย โดยที่เกราะป้องกันระดับสูงถูกสร้างขึ้นโดยรอบของเเต่ละคู่เเข่งขันเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดในการประลองเวทย์ของเเต่ละคู่เเข่งขันในส่วนของโต๊ะพนันนั้นหลังจากประกาศผู้ลงเเข่งขันครบห้าคู่โต๊ะเดิมพันต่างคึกคักเป็อย่างมากด้วยเพราะมีผู้คนมากมายต่างเข้าไปวางเดิมพันนั่นเอง
หนิงอ้ายนั่งชมการเเข่งขันไปเรื่อย ๆ เพราะยังไม่มีรายชื่อของลู่ซีให้ลงการเเข่งขันประลองเสียที หนิงอ้ายเชื่อมั่นว่าลู่ซีจะต้องเข้าผ่านการประลองไปในรอบลึกอย่างแน่นอน เมื่อต้องนั่งรอเช่นนี้หนิงอ้ายหนิงอ้ายจึงใช้เนตรเเห่ง์สังเกตทักษะการต่อสู้ของเเต่ละคู่เเข่งขันว่าน่าสนใจ เพื่อที่ว่าเขาจะได้นำมาปรับใช้ได้ในการประลองโดยที่ตอนนี้เขานั้นไม่รู้สึกหิวหรือเบื่อหน่ายสักนิด..
เสียงโห่ร้องและเสียงเชียร์ดังกึกก้องไปทั่วสนามประลอง เมื่อมีการประกาศผลผู้แพ้ชนะของเเต่ละคู่เเข่งขัน หนิงอ้ายสังเกตว่าเสียงจะดังขึ้นเป็พิเศษตรงบริเวณที่มีการจัดโต๊ะพนันการเเข่งขันประลอง เป็เวลานับชั่วยามสำหรับการประลองผ่านไปแล้วหลายคู่จนในที่สุดก็มีประกาศชื่อเเข่งขันของลู่ซีขึ้นมาสักทีในที่สุด...
"คู่ต่อไปคุณชายลู่ซีแห่งแคว้นเต่าดำพบกับคุณชายกวงเหยาหานจากทางตระกูลกวงเเห่งแคว้นัเขียว ขอเชิญ ณ สนามประลองที่สาม!!" สิ้นเสียงของผู้าุโที่ดำเนินการประลองเอ่ยขึ้นเสียงโห่ร้อง เสียงเชียร์ดังขึ้นทั่วบริเวณในทันทีเนื่องจากว่าตระกูลกวงนับได้ว่าเป็อีกหนึ่งตระกูลที่มีชื่อเสียงเป็ที่รู้จักโดยทั่วไปของแคว้นัเขียว ผู้รับชมที่ชื่นชอบการเดิมพันต่างทุ่งตรงไปยังโต๊ะรับเดิมพันโดยทันที
"ถึงการประลองของเกอเเล้ว นึกว่าท่านจะไม่ได้ลงประลองเเล้วเสียอีก ข้าเป็กำลังใจให้นะขอรับ..." หนิงอ้ายเอ่ยขึ้นด้วยความยินดี อีกทั้งยังตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้เห็นฝีมือของลู่ซีแล้ว เด็กหนุ่มพยักหน้าและอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะลงไปยังสนามประลองที่อยู่ด้านล่างในทันที
ตระกูลหวัง
หวังจิ่งหลง เหมยฮวาและเยว่ซินรวมไปถึงจางปินกับหรันหรูต่างส่งเสียงเชียร์ สร้างความเเปลกใจแก่ผู้คนในบริเวณไม่น้อย ว่าเหตุใดทางตระกูลหวังถึงให้ความสนใจชาวยุทธที่มีนามว่าคุณชายลู่ซีผู้นี้ยิ่งนัก รวมไปถึงบุรุษในอาภรณ์สีเขียวที่สวมหมวกสานคลุมปิดใบหน้าที่นั่งอยู่ข้างกันว่าเป็ผู้ใด หรือมีความข้องเกี่ยวอย่างไรกับตระกูลหวังโดยที่ผู้คนต่างพากันคาดเดาไปต่าง ๆ อย่างสนุกปากเลยไม่น้อยทีเดียว
"ข้าจักวางเดิมพันหลานชายข้า!! เ้าจงนำเหรียญทองหนึ่งพันเหรียญไปวางเดิมพันเสีย..." หวังจิ่งหลงเอ่ยขึ้นกับบ่าวรับใช้คนสนิทของตน
"ขอรับนายท่าน..." เมื่อเตรียมเหรียญทองครบตามจำนวนเเล้วบ่าวรับใช้คนดังกล่าวจึงรีบไปจัดการให้นายของตนในทันที
"นี่เป็เพียงการประลองครั้งเเรก ท่านพ่อก็ลงเดิมพันมากมายเช่นนี้เลยหรือเ้าคะเห็นทีว่าข้าคงต้องเดิมพันเสียบ้างเเล้ว" เยว่ซินรู้สึกยินดีไม่น้อยที่บิดาของตนเอ็นดูบุตรบุญธรรมของตนคนนี้ อีกทั้งนางยังมอบถุงเงินให้บ่าวคนสนิทนำไปวางเดิมพันข้างลู่ซีเช่นกัน
ลู่ซีมุ่งตรงไปยังกลางสนามประลองเพื่อเผชิญหน้ากับคุณชายกวงเหยาหานจากตระกูลกวงที่มาจากแคว้นัเขียว แน่นอนว่าคุณชายกวงเหยาหานนั้นมีอายุมากกว่าลู่ซีประมาณหนึ่งถึงสองปีจึง มีรูปร่างที่สูงใหญ่กำยำกว่ามาก
"ตอนนี้คู่ประลองทั้งสองได้ลงสนามแล้ว คุณชายลู่ซี ราชทินนามขุนนางิญญาขั้นสูง ระดับพลังิญญา29 ิญญายุทธ์สายสนับสนุน ตัวแทนจากแคว้นเต่าดำ!!"
เฮ!!!!
"และคู่ประลองได้แก่คุณชายกวงเหยาหาน สุดยอดิญญายุทธ์สายป้องกันอันเลื่องชื่อ ราชทินนามขุนนางิญญาขั้นสูง ระดับพลังิญญาที่29 ตัวแทนจากแคว้นัเขียว!!!"
เฮ!!!!
"ขอคำชี้แนะด้วย!!!" ลู่ซีเอ่ยขึ้นพร้อมกับยกมือประสานโค้งตัวเล็กน้อยตามมารยาทของชาวยุทธภพ
"ข้าต้องขอคำแนะนำจากคุณชายลู่ซีด้วยเช่นกัน!!" กวงเหยาหานยกมือประสานพร้อมกับโค้งตัวเล็กน้อยตอบกลับไป เเต่สายตาที่มองลู่ซีกลับเต็มไปด้วยความเหยียดหยามอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเพราะคิดว่าตนนั้นมาจากตระกูลใหญ่ของแคว้นัเขียวจึงไม่จำเป็ต้องไว้หน้าผู้ใดทั้งสิ้น
"การประลอง เริ่มได้!!!" ทันทีที่สิ้นเสียงของกรรมการประจำสนามประลอง เหล่าผู้รับชมต่างส่งเสียงดังให้กับคู่ประลองในสนาม ทางฝั่งของคุณชายกวงเหยาหานที่ไม่อยากเสียเวลาไปกับการประลองครั้งนี้เท่าไหร่นัก เขาจึงเลือกจัดการชักกระบี่ออกมา หมาย้าจบการประลองด้วยความรวดเร็ว
ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!
กวงเหยาหานพุ่งทะยานเข้าโจมตีลู่ซีโดยทันทีด้วยเพลงกระบี่อันเป็เคล็ดวิชาลับของตระกูลกวงด้วยคิดว่าจะสามารถจบการประลองได้รวดเร็วที่สุด ทว่าลู่ซีตั้งสติพร้อมกับดึงกระบี่จากข้างตัวของตนเข้ามารับการโจมตีของกวงเหยาหานได้อย่างทันท่วงที แขนขาปะทะกันระรัว ก่อนที่จะพุ่งเข้าหาด้วยความเร็วสูง
พรึบ!
เพล้ง! เพล้ง!
กวงเหยาหานตวัดเพลงกระบี่เข้าฟาดลู่ซีด้วยความหนักหน่วงรุนแรง ลู่ซีนั้นได้ใช้ทั้งไหวพริบในการตั้งรับโจมตีกลับไปด้วยความรุนแรงไม่แพ้กันด้วยความเร็วที่ประสานไปกับเคล็ดวิชาย่างก้าวทะยานหมื่นลี้ ทำเอากวงเหยาหานนั้นอดที่จะแปลกใจไม่ได้ เพราะไม่คิดว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าจะสามารถรับเพลงกระบี่เคล็ดวิชาลับตระกูลของตนได้อย่างทันท่วงทีเช่นนี้
ลู่ซีสามารถจับทางการโจมตีรวมไปถึงท่วงท่าเพลงกระบี่ของกวงเหยาหานได้บ้างแล้ว แม้ว่าการโจมตีของกวงเหยาหานนั้นจะค่อนข้างดุดันหนักหน่วงรุนเเรงเพียงใด เเต่ว่าอย่างไรนั้นเคล็ดวิชากระบี่ของลู่ซีที่ได้รับการฝึกสอนเพิ่มเติมจากผู้าุโหวังฮุ่ย คือการโจมตีกลับที่สอดประสานไปกับเพลงกระบี่ของคู่ต่อสู้เพื่อหาจุดอ่อนของอีกฝ่าย
โดยที่เคล็ดวิชานี้เขาจำได้ว่าเป็เพียงสมบัติไม่กี่ชิ้นที่ติดตัวของตนนับตั้งเเต่จำความได้ เขาจึงมุ่งเน้นฝึกเคล็ดวิชากระบี่นี้เป็หลัก เมื่อจับทางของกวงเหยาหานได้จึงสามารถที่จะเข้าประชิดตัวโจมตีได้อย่างง่ายดาย ฝ่ามือของลู่ซีที่เต็มไปด้วยพลังิญญาของราชทินนามขุนนางิญญาขั้นสูงได้เข้าฟากที่กลางเเผ่นหลังของกวงเหยาหานด้วยความรุนแรงเป็ที่ตกตะลึงแก่ทุกสายตาที่อยู่โดยรอบสนามประลองเเห่งนี้
"อั้กกก!!!!! นี่มันอันใดกัน?" กวงเหยาหานกระอักเืออกมาคำโต เขาคิดว่าลู่ซีเป็เพียงชาวผู้ฝึกตนที่มีเื้ัธรรมดาตนจึงไม่ค่อยระวังตัวสักเท่าไหร่ ไม่คิดว่าลู่ซีจะสามารถโจมตได้เต็มกำลังเช่นนี้ บังอาจทำให้เขาขายหน้าเสียอย่างนั้นช่างไม่เจียมตนเสียจริง
ผู้คนที่ชมการประลองต่างส่งเสียงฮือฮาขึ้นมาอย่างมาก ด้วยเพราะบางคนที่มาจากแคว้นัเขียวนั้นต่างรู้จักตระกูลกวงเป็อย่างดีด้วยเพราะว่าเป็ตระกูลใหญ่ของแคว้น อีกทั้งคุณชายกวงเหยาหานได้ชื่อว่าเป็อันตพาลเเต่ก็นับได้ว่าเป็ผู้ที่มีฝีมือผู้หนึ่ง ไม่คิดว่าจะถูกคุณชายลู่ซีโจมตีประชิดตัวด้วยวรยุทธเช่นนี้ได้ ไม่รู้ว่าเป็เพราะคุณชายกวงเหยาหานท่านนี้ประมาทจนเกินไป หรือฝีมือของคุณชายลู่ซีนั้นไม่อาจที่จะประมาณได้เป็แน่
"ข้าคงประมาทเ้าเกินไป!!" กวงเหยาหานเช็ดเืที่มุมปากของตนก่อนที่จะเก็บกระบี่ พร้อมกับเรียกใช้พลังปราณธาตุของตนออกมา เขารู้ว่าการประลองนี้ไม่อาจประมาทได้อีกต่อไป เพราะอีกฝ่ายมีทักษะการต่อสู้ที่เยี่ยมยอดไม่น้อย
ด้วยความที่กวงเหยาหานนั้นเป็ทายาทของตระกูลกวงสายหลักของแคว้นัเขียว ถือได้ว่าเป็อีกคนที่มีพร์ไม่น้อยเลยทีเดียว ด้านหลังของกวงเหยาหานพลันปรากฏวงเเหวนซ้อนกันสามวงสีเขียวเข้มเเสดงถึงพลังิญญาระดับขุนนางขั้นสูง
ลู่ซีไม่ได้กังวลใจแต่อย่างใด กวงเหยาหานแม้จะมีอายุมากกว่าเขาก็จริง เเต่ดูเป็คนที่อารมณ์ร้อนที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนได้ สำหรับการประลองแล้วสิ่งนี้นับได้ว่าเป็ข้อเสียอย่างมาก ด้วยเพราะหากตัวคนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนได้ก็จะทำให้ไม่มีสมาธิหากเทียบกับตัวเขาเเล้วนั้นย่อมที่จะควบคุมสติอารมณ์ได้มากกว่า
ลู่ซีเก็บกระบี่ของตนไว้เช่นเดิมและทำการเรียกพลังิญญาของตนเข้ามาต่อสู้ ด้านหลังของลู่ซีปรากฏเป็วงเเหวนซ้อนกันสีเขียวเข้มซ้อนกันสามวงแหวน เเสดงให้เห็นว่าตัวของเขาในตอนนี้ก็มีระดับพลังิญญาขุนนางขั้นสูงเช่นเดียวกัน
อัญเชิญบทเวทย์โจมตีเพลิงโลกันตร์สังหาร!!!!
ตู้ม!
กวงเหยาหานร่ายบทเวทย์โจมตีตามพลังปราณธาตุไฟของตนในทันที
อัญเชิญบทเวทย์ป้องกันวายุสลาตันคลั่ง!!!!
ตู้ม!
ไม่คอยท่า ลู่ซีกางฝ่ามือออกพร้อมกับร่ายบทเวทย์เพื่อสร้างเกราะป้องกันการโจมตีของกวงเหยาหานทันที ด้วยความที่บทเวทย์ป้องกันนี้ได้ถูกหนิงอ้ายเขียนบทเวทย์ขึ้นมาใหม่ให้อยู่ในระดับสูง ดังนั้นนอกจากที่จะทำการป้องกันการโจมตีนี้ได้แล้วยังสะท้อนการโจมตีบางส่วนกลับไปด้วยเช่นกัน
การโจมตีของกวงเหยาหานปรากฏเป็ลูกเปลวไฟสีเเดงเพลิงที่มีความร้อนแรงด้วยอาณุภาพของบทเวทย์โจมตีระดับสูง ทว่าบทเวทย์ป้องกันของลู่ซีแม้จะเป็บทเวทย์ระดับสูงก็จริงแต่ก็แฝงไปด้วยอักขระเวทย์โบราณที่หนิงอ้ายเสริมเข้าไปดังนั้นเมื่อพลังเวทย์ทั้งสองสายมาปะทะกันนั้นพลันปรากฏเป็เปลวเพลิงขนาดใหญ่ที่พุ่งเข้าโจมตีอีกฝั่งโดยมีปราการดินสีเขียวน้ำตาลทองขนาดใหญ่ตั้งรับ ก่อให้เกิดเสียงดังสนั่นก่อนที่บทเวทย์โจมตีนั้นสูญสลายหายไป แต่บทเวทย์ป้องกันนั้นกลับสะท้อนการโจมตีกลับไปยังฝั่งตรงข้ามซึ่งทำเอากวงเหยาหานหลบการสะท้อนกลับแทบจะไม่ทันกันเลยทีเดียว
"ในตอนนี้คุณชายลู่ซีกับคุณชายกวงเหยาหาน คู่ประบองสนามที่สามได้เริ่มประลองเวทย์กันแล้ว ใครกันจะเป็ผู้ชนะในครั้งนี้!!!"
เฮ!!!!
ผู้คนที่รับชมการประลองในตอนนี้ต่างรู้สึกตื่นเต้นเป็อย่างมาก ด้วยความที่สี่คู่ที่เหลือนั้นต่างรู้ผลแพ้ชนะไปแล้วดังนั้นที่ตรงกลางสนามประลองจึงเหลือเพียงคู่ของลู่ซีกับกวงเหยาหานเพียงเท่านั้น
'มิคิดเลยว่าคุณชายลู่ซีจะสามารถตั้งรับการโจมตีของคุณชายกวงเหยาหานที่ได้เช่นนี้...'
'ช่างเสียดายนักที่ตอนนี้ทางโต๊ะรับไม่พนันไม่เปิดรับแล้ว ก่อนหน้านี้ข้าแทงลงฝั่งของคุณชายกวงเหยาหานไปไม่น้อยสงสัยตานี้ข้าคงถูกกินเรียบเป็แน่!!'
'นี่ขนาดเป็เพียงการประลองของราชทินนามขุนนางิญญาเท่านั้นยังดุเดือดเช่นนี้...ข้าคาดหวังรอชมการประลองของผู้ฝึกตนราชทินนามจักรพรรดิิญญาไม่ไหวเเล้ว คิดเหมือนกันกับข้าหรือไม่?'
เสียงของผู้คนโดยรอบสนามประลองดังขึ้นอย่างคึกคัก ทุกสายตาต่างจ้องมองไปยังจุดเดียวกันนั่นคือทางคู่ประลองที่ยังอยู่กลางสนามในตอนนี้ด้วยความตื่นเต้นด้วย เพราะว่าคุณชายทั้งสองต่างมีระดับพลังิญญาอยู่ในเขตขั้นเดียวกันนั่นคือระดับขุนนางิญญาขั้นกลาง ดังนั้นคงขึ้นอยู่กับระดับของบทเวทย์ที่ใช้รวมไปถึงสัตว์อสูรที่จะเป็ผู้ชี้กำหนดว่าใครจะเป็ผู้ชนะในครั้งนี้
"สายควบคุมสยบสายโจมตี กฏเกณฑ์เช่นนี้คุณชายกวงคงทราบดี การโจมตีของท่านเมื่อครู่ไม่เพียงพอที่จะเอาชนะข้าได้โดยง่าย!!'
ลู่ซียืนประจันหน้ากับกวงเหยาหานท่ามกลางทุกสายตาที่จดจ้องมายังทั้งคู่ในสนามประลองเพื่อรอดูว่าท้ายที่สุดเเล้วนั้นผู้ใดกันจะเป็ฝ่ายได้รับชัยชนะในครั้งนี้กัน ลู่ซีเอ่ยบทเวทย์โจมตีขึ้นพร้อมกับกางมือออกเพื่อส่งการโจมตีดังกล่าวไปยังกวงเหยาหานที่อยู่ตรงข้ามตนในทันที
อัญเชิญบทเวทย์โจมตีอัสนีลงทัณฑ์!!!!
ตู้ม!
้าของสนามประลองปรากฏเป็วายุสายฟ้าที่มีขนาดแตกต่างกันเข้าโจมตีไปยังบริเวณที่กวงเหยาหานยืนอยู่อย่างต่อเนื่อง ด้วยเพราะว่าบทเวทย์นี้นั้นถูกหนิงอ้ายเขียนขึ้นมาใหม่เพื่อยกระดับให้เป็บทเวทย์ระดับสูงเช่นกัน ดังนั้นอานุภาพของบทเวทย์นี้จึงค่อนข้างรุนแรง สร้างความใไม่น้อยผู้คนที่รับชมอยู่ในสนามประลอง แม้ว่าอาจมีความคุ้นเคยบทเวทย์โจมตีระดับสูงมาก่อนเเต่พวกเขานั้นยังไม่เคยบทเวทย์ที่มีอานุภาพรุนแรงเช่นนี้ คล้ายกับว่าเป็บทเวทย์ระดับเทวะเสียด้วยซ้ำ และหากว่าเป็บทเวทย์ระดับเทวะจริง ย่อมที่อดที่จะเเปลกใจไม่น้อยที่ผู้ฝึกตนระดับไม่สูงดั่งเช่นลู่ซีนั้นสามารถเรียกใช้บทเวทย์ระดับนี้ได้
กวงเหยาหานเมื่อเห็นบทเวทย์โจมตีดังกล่าวจึงรีบร่ายบทเวทย์ป้องกันระดับสูงตั้งรับเลยทันที พร้อมกับเรียกใช้สมบัติวิเศษระดับสูงออกมาถึงสองชิ้นจึงสามารถตั้งรับเพียงพอรับมือกับทัณฑ์อัสนีเหล่านี้ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ได้รับการโจมตีบางส่วนที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เช่นกัน
'เป็ไปได้ยังไงกัน? คุณชายลู่ซีผู้นี้ดูก็รู้ว่ามีพลังิญญาระดับขุนนางิญญาขั้นสูงเช่นเดียวกัน แล้วเหตุใดความรุนแรงของบทเวทย์โจมตีเมื่อครู่นั้นช่างร้ายการยิ่งนัก ขนาดที่ว่าใช้บทเวทย์ป้องกันระดับสูงพร้อมกับสมบัติวิเศษระดับนภาแล้วยังตั้งรับได้เพียงบางส่วนเท่านั้น เห็นทีว่าคงจะประมาทไปมากกว่านี้ไม่ได้เสียเเล้ว...' กวงเหยาหานคิดในใจก่อนที่ตนนั้นจะเรียกอสูรรับใช้ของตนออกมาช่วยในการประลองครั้งนี้ทันที
สิงโตมกรเพลิงจงปรากฏกายออกมา!!!!
โฮก!
ด้านหน้าของกวงเหยาหานปรากฏเป็อสูรรับใช้ร่างกายสูงใหญ่ที่คล้ายคลึงกับสิงโตครึ่งัไฟที่มีความสูงเกือบสามเมตร ไม่เพียงเท่านั้นยังมีเปลวไฟอยู่รอบตัวพร้อมกับคำรามขึ้นด้วยเสียงดังไปทั่วสนามประลองเเห่งนี้
'คุณชายกวงเหยาหานถึงกับเรียกอสูรรับใช้ออกมา เเสดงว่าการประลองครั้งนี้คงตึงมืออยู่ไม่น้อย...'
'ไม่น่าเชื่อว่าคุณชายกวงเหยาหานจะอสูรสิงโตเพลิงที่หาได้ยากยิ่ง สมเเล้วที่เป็คุณชายในตระกูลใหญ่ของแคว้นัเขียว…'
''นะ...นั่นมันอสูรมายาขั้นกลางใช่หรือไม่? ข้าชักหนักใจเเทนคุณชายลู่ซีเสียเเล้วตอนนี้…'
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้