"ท่านตา ท่านลุง ข้ามาแล้ว"
เฉียวเยว่ะโโลดเต้น เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
อาจารย์ฉีได้ยินเสียงก็รีบออกมาทันที "ไกวเยว่ มา มา รีบเข้ามา
สายตาชำเลืองไปที่ขาของอิ้งเยว่พลางเอ่ยถาม "เป็อย่างไร ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"
มุมปากของอิ้งเยว่โค้งขึ้น "ท่านตาโปรดวางใจ ดีขึ้นมากแล้วเ้าค่ะ"
เฉียวเยว่มองซ้ายมองขวาแล้วถามว่า "ท่านลุงเล่า?"
อาจารย์ฉีอมยิ้ม "เขายังอยู่ห้องหนังสือ ทำโคมไฟน้อยๆ ให้กับพวกเ้า ข้าส่งคนไปตามเขาแล้ว"
เฉียวเยว่ประกบฝ่ามือเข้าหากันอย่างมีความสุข "ช่างดียิ่ง ท่านลุงเก่งเพียงนั้น จะต้องทำออกมาได้ดีมากแน่นอน อ้อ จริงสิ ท่านตาเ้าคะ พู่กันที่ท่านสอนให้ข้าทำคราก่อน ข้าฝากท่านย่ามอบให้พี่จ้านแล้ว เขาชอบมากเลย"
นางปรบมือด้วยความดีใจ "ข้าเบิกบานใจจริงๆ"
อาจารย์ฉีพยักหน้า "เฉียวเยว่ของพวกเราเป็นักประดิษฐ์น้อย ไม่ว่าสิ่งใดล้วนทำได้ ยอดเยี่ยมที่สุด"
"เด็กคนนี้ยุ่งวุ่นวายอยู่ในบ้านทั้งวัน ไม่รู้ว่าทำอะไรบ้าง ล้วนแต่เป็เื่ไร้แก่นสารทั้งสิ้น"
แต่อาจารย์ฉีไม่เห็นด้วยกับจุดนี้ เขาเอ่ยปากอย่างหนักแน่น "ถึงว่าเ้าสอนเด็กไม่เป็ นี่จะเป็เื่ไร้สาระได้อย่างไร เด็กๆ ที่มีความสามารถในการลงมือทำสิ่งต่างๆ นับว่าเป็เื่ดี เด็กเช่นนี้จะเฉลียวฉลาดกว่าเด็กทั่วไป"
พูดถึงเื่การศึกษาของเด็ก อาจารย์ฉีย่อมมีความมั่นใจเหนือกว่าผู้อื่น "บางครั้งบางครา พวกเ้าก็ไม่อาจใช้ความคิดของตนเองไปชี้วัดตัดสิน บางทีสิ่งที่เ้ามองว่าไร้คุณค่า อาจมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อพัฒนาการของเด็กๆ"
เฉียวเยว่พยักหน้า "ได้ยินหรือไม่ ข้าไม่ได้ทำสิ่งใดสุ่มสี่สุ่มห้า ท่านตาสามารถเป็พยานได้ ท่านตาเ้าคะ ท่านจูงข้าไปหาท่านลุงได้หรือไม่ ข้าคิดถึงท่านลุง"
"เฉียวเยว่คิดถึงลุงหรือ?"
ฉีจือโจวเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เขาไม่ค่อยยิ้ม แต่เมื่อยิ้มเช่นนี้ก็ชวนให้คนหัวใจละลาย
ในมือของเขาถือโคมไฟสามดวง "ดูสิ ชอบหรือไม่?"
ปลาทองน้อยสามตัวที่มีสีสันแตกต่างกัน
อาจารย์ฉีเอ่ยขึ้นว่า "ฝีมือท่านลุงของเ้ายังใช้ไม่ได้ ทำมาสามดวง ออกมาเหมือนกันทุกอย่าง แต่พวกเ้าอย่ารังเกียจเขาล่ะ เขาก็มีระดับเท่านี้"
เฉียวเยว่เอ่ยปากขึ้นก่อน นางเท้าคางมองปลาทองน้อยสามตัวอย่างพิจารณา ก่อนจะยิ้มตาหยี "แต่ข้าคิดว่ามันน่ารักดี อีกอย่างพวกเราสามพี่น้อง ถือปลาทองน้อยเหมือนกันถึงจะดี ทุกคนเห็นแล้วก็จะรู้ว่าพวกเราเป็ครอบครัวเดียวกัน"
"ดูให้ดีๆ ฉีอัน เ้ามาเลือกก่อนดีหรือไม่?" เฉียวเยว่เงยหน้าดวงน้อย พลางหัวเราะคิกคัก
สามสี มีสีฟ้า สีชมพูอ่อน และสีแดงดอกท้อ
ฉีจือโจวตั้งใจทำโคมสีฟ้าให้ฉีอัน แต่เขากลับเลือกสีแดงดอกท้อ "ข้าเอาอันนี้ ของข้าเป็ปลาทองน้อย"
เฉียวเยว่ดึงอาภรณ์ตัวน้อยของตนเอง เอ่ยเสียงใสกังวาน "เช่นนั้นข้าเอาสีฟ้า ข้าสวมเสื้อคลุมกันลมสีแดง ตัดกับสีฟ้าพอดี ยิ่งโดดเด่นสะดุดตา"
ฉีอันมองเฉียวเยว่ ทั้งสองสบตาแล้วแปะมือกัน "เย่!"
ฉีอันพยักหน้า "ข้าสวมเสื้อคลุมกันลมสีฟ้า ดังนั้นข้าเลือกสีแดงดอกท้อก็เพื่อให้สีดูตัดกัน มิเช่นนั้นสีจะกลมกลืนกันเกินไป"
ฉีจือโจวมุมปากกระตุก "เด็กเดี๋ยวนี้ พิถีพิถันถึงเพียงนี้เชียว?"
ตอนนั้นพวกเขายังไม่คิดซับซ้อนขนาดนี้เลย
"เด็กสองคนนี้รวมตัวกันเมื่อไรสามารถรื้อหลังคาบ้านได้ทั้งหลัง" ซูซานหลางส่ายหน้าอย่างอิดหนาระอาใจ "ทุกวันนี้แค่เห็นพวกเขาข้าก็หมดแรงแล้ว"
เฉียวเยว่หัวเราะ "บางทีท่านอาจจะแอบนึกสนุกอยู่ในใจก็ได้ ทำเป็พูดเหมือนไม่ยินยอมพร้อมใจ"
เฉียวเยว่ไม่เชื่อหรอก
นางทำปากยื่น กล่าวเสียงดังกังวาน "ท่านลุงเ้าคะ ท่านจะพาพวกเราไปเที่ยวเทศกาลโคมไฟใช่หรือไม่?"
ฉีจือโจวอมยิ้ม "ใช่"
เฉียวเยว่ปรบมือ "เทศกาลโคมไฟมีผู้คนมากมาย ต้องมีโจรลักพาตัวเยอะมากแน่ๆ ข้ายังเป็เด็ก ต้องถูกคนชั่วหมายตาแน่นอน ท่านลุงอุ้มข้าได้หรือไม่ แล้วให้ท่านพ่ออุ้มฉีอัน"
ฉีจือโจวทำสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม "เด็กเดี๋ยวนี้เฉลียวฉลาดจริงๆ"
เฉียวเยว่โบกมือ "ที่ไหนกันเล่า ข้าเพียงระมัดระวังตัวเป็พิเศษ เทศกาลใหญ่เช่นนี้ต้องมีคนไม่ดีมากมายเป็แน่ ท่านลุงต้องปกป้องข้านะเ้าคะ"
"เป็ไปได้แปดส่วนว่านางได้ยินมาจากหลันหมัวมัว แต่จะว่าไป เทศกาลโคมไฟของทุกปีล้วนเกิดเหตุวุ่นวายสารพัดเื่ ไม่เด็กหายก็หญิงสาวถูกลักพาตัว ไม่ปลอดภัยจริงๆ”
นางไม่กล้านึกเลยว่าหากบุตรของตนเองหายไป นางจะเป็อย่างไร
"พวกเ้าวางใจได้เลย ปีนี้จะไม่เหมือนที่ผ่านมา ต่อให้มีคนหาย ก็พาออกนอกเมืองไม่ได้ ปีก่อนๆ เกิดเื่เช่นนี้ขึ้นมากมาย แต่ปีนี้มีการตรึงกำลังป้องกันเพิ่มขึ้น กรมอาญาก็เข้าร่วมด้วย"
เฉียวเยว่ปรบมือ นางกอดขาของฉีจือโจว "ท่านลุงของข้าเก่งกาจที่สุด มีท่านลุงอยู่ ต้องปลอดภัยแน่นอน"
เด็กน้อยเฉลียวฉลาดน่ารัก ไม่น่าแปลกใจที่คนเหล่านี้จะชอบนาง
นางประจบสอพลอคนเก่งจริงๆ
ซูซานหลางถอนหายใจ "เมื่อไรเฉียวเยว่ของพวกเราจะดีต่อข้าเช่นนี้บ้าง"
เฉียวเยว่ยิ้มแก้มปริ "ข้าชอบท่านพ่อมากเสมอมา ท่านพ่องามสง่าดุจต้นไม้หยกล้อลม ความสามารถเปี่ยมล้น ท่านลุงองอาจกล้าหาญ ไม่เหมือนกันเสียหน่อย"
เห็นนางรู้จักพูด มุมปากของซูซานหลางก็โค้งขึ้นโดยไม่รู้ตัว
อาจารย์ฉีพลันนึกบางสิ่งขึ้นได้ ก็อมยิ้ม "เฉียวเยว่ พวกเ้ามานี่ มากันทั้งหมดสามพี่น้อง"
เขาพาเด็กๆ มายังห้องพักของเฉียวเยว่ตอนที่มาอยู่ที่นี่ เมื่อผลักประตูเข้าไป เฉียวเยว่ก็ตกตะลึง มีกล่องใหญ่น้อยเต็มห้องไปหมด แต่ละกล่องล้วนคาดด้วยแถบผ้าสีสันผูกเป็เงื่อนผีเสื้อสวยงาม้า
กล่องในห้องนี้ไม่ได้มีเพียงยี่สิบสามสิบกล่อง แต่เป็ร้อยกล่องขึ้นไป เฉียวเยว่มองอาจารย์ฉีอย่างเหลือเชื่อ "ท่านตา ของเหล่านี้... ของเหล่านี้ให้พวกเราทั้งหมดเลยหรือ?"
ไม่เพียงแต่เด็กน้อยอย่างเฉียวเยว่กับฉีอัน แม้แต่อิ้งเยว่ก็ยังมองตาค้างเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
อาจารย์ฉีส่ายหน้า
เฉียวเยว่หน้าม่อยลงมา "อ๋า? มิได้ให้พวกเราหรอกหรือ?"
อาจารย์ฉียิ้มเล็กน้อย "ทั้งใช่ และไม่ใช่"
เห็นเด็กน้อยสามคนต่างจ้องมองตนเองตาแป๋ว ก็เอ่ยว่า "่เทศกาลโคมไฟพวกเ้าออกไปทายปริศนา ถึงเวลานั้นตาจะนับจำนวนให้ ทายถูกหนึ่งข้อ ก็เอาของขวัญกลับไปได้หนึ่งชิ้น กล่องของขวัญเหล่านี้มีทั้งกล่องเปล่า และกล่องที่มีของขวัญ ทุกสิ่งล้วนขึ้นอยู่กับชะตาฟ้าลิขิต ไม่แน่ว่าข้างในอาจเป็ก้อนหินก็ได้ ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สุดแล้วแต่พวกเ้าจะเลือกอย่างไร"
เฉียวเยว่ดีดนิ้วเป๊าะ กล่าวอย่างจริงจัง "พวกเราต้องเตรียมตัวล่วงหน้าทายปริศนาให้ถูกต้อง”
อาจารย์ฉีพยักหน้า "มีความมั่นใจหรือไม่?"
เฉียวเยว่กับฉีอันะโพร้อมกัน "มีขอรับ/เ้าค่ะ"
เสียงของพวกเขาดังมาก
อิ้งเยว่หัวเราะเบาๆ "ข้าขอสละสิทธิ์ดีกว่า ข้าโตกว่าพวกเขาเยอะ หากเข้าร่วมกับพวกเขา มิกลายเป็รังแกผู้อื่นหรอกหรือ"
อาจารย์ฉีส่ายหน้า "เ้าต้องเข้าร่วม เพียงแต่เ้าต้องตอบถูกสามข้อถึงได้เลือกหนึ่งชิ้น"
อิ้งเยว่เอียงคอ
"อิ้งเยว่คงมิได้ดูแคลนน้องชายน้องสาวของเ้ากระมัง นอกจากนี้เ้าต้องตอบถูกสามข้อถึงจะเลือกได้หนึ่งชิ้น ไม่แน่ว่าอาจจะเจอของแข็งเข้าก็เป็ได้" อาจารย์ฉีทอยิ้ม
จิติญญาแห่งการต่อสู้ของอิ้งเยว่ถูกจุดประกายขึ้นมา "เ้าค่ะ"
เฉียวเยว่มองของขวัญเ่าั้ตาปรอย พลางถอนหายใจ "มิน่าเล่าหลายวันที่ผ่านมาท่านตากับท่านลุงถึงแทบไม่มาหาข้าเลย ที่แท้ก็ยุ่งกับของเหล่านี้อยู่นี่เอง"
ในใจของนางเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง นอกจากเด็กอย่างพวกเขาสามคน แม้แต่ซูซานหลางกับไท่ไท่สามล้วนตะลึงพรึงเพริด คาดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าพวกเขาใจมีใจทำเพื่อเด็กๆ ถึงเพียงนี้
ไท่ไท่สามขอบตาเริ่มแดง "ท่านพ่อ พี่ใหญ่ พวกท่าน พวกท่าน..."
แต่ไม่รู้ว่าพูดอะไรถึงจะดี
"ไม่ทำเพื่อเด็กๆ จะให้ทำเพื่อพวกเ้าสองสามีภรรยาหรืออย่างไร อย่าซาบซึ้งเกินไป ไม่เกี่ยวกับพวกเ้าสองคน" ฉีจือโจวท่าทางเฉยเมย
แต่แม้จะกล่าวเช่นนี้ไท่ไท่สามก็ยังคงกล่าวว่า "ก็ข้าซึ้งใจนี่!"
ในบ้านของตนเอง ต่อหน้าบิดาและพี่ชาย นางคล้ายกลับมาเป็สาวน้อยที่ได้รับการพะเน้าพะนอเอาใจในวันวานอีกหน
นางบีบดวงหน้าน้อยของเฉียวเยว่ เอ่ยว่า "ดังนั้นพวกเ้าต้องกลับไปเตรียมตัวให้ดี แม่หวังว่าพวกเ้าจะขนของขวัญทั้งหมดกลับไปอยู่นะ"
เฉียวเยว่หัวเราะอย่างร่าเริง
ซูซานหลางรีบกล่าวเสริม "เด็กๆ พวกเ้ามีความมั่นใจกันหรือไม่"
เด็กทั้งสามต่างตอบเสียงดัง "มีขอรับ/เ้าค่ะ"
แก้วหูแทบะเิ
อาจารย์ฉีถอนหายใจ "เหตุใดรู้สึกเหมือนจะมาขนของบ้านข้าจนเกลี้ยงอย่างไรอย่างนั้น"
เฉียวเยว่หัวเราะร่า "พวกเราสามคนร่วมแรงร่วมใจ ขนไปให้หมดดีหรือไม่?"
ฉีอัน "ดี!"
ยามนี้อิ้งเยว่ค่อยดูมีความเป็เด็กเพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่พูดกันตามความจริงแล้ว นางก็อายุเพียงสิบเอ็ดปีเท่านั้น
"ดี!" นางก็ตอบอย่างฉาดฉาน
"เอาล่ะ ดูของขวัญเสร็จแล้ว แต่ของเหล่านี้ยังไม่ใช่ของพวกเ้า ไปเถอะ ไปห้องโถงใหญ่กัน"
ฉีอัน "ท่านตาขอรับ ให้ข้าดูอีกรอบได้หรือไม่ ขอข้าดูให้เต็มตาอีกสักครา"
เฉียวเยว่พยักหน้า "มองเป็รอบสุดท้าย นี่คือขวัญกำลังใจของพวกเรา"
พวกผู้ใหญ่พากันหัวเราะ
เมื่อมาถึงห้องโถงด้านหน้า เฉียวเยว่ก็ยังคงตื่นเต้นอยู่
"พวกท่านฟังข้า พวกท่านฟังข้า ข้าคิดว่า..." เสียงของนางเจื้อยแจ้วไม่จบไม่สิ้น
หลังกลับถึงจวนโหว เฉียวเยว่กับฉีอันก็ยังลากฮูหยินผู้เฒ่ามาคุยไม่รู้จักจบจักสิ้น เ้าหนึ่งคำข้าหนึ่งคำแข่งกันพูดจนฟังไม่ได้ศัพท์ เสียงดังขรมจนห้องแทบะเิ
ท้ายที่สุดซูซานหลางก็ต้องเกลี้ยกล่อมเด็กน้อยสองคนให้หยุดพูด แล้วเล่าเื่ราวทั้งหมดเสียเอง
พอเล่ามาถึงเื่นี้ แม้แต่ฮูหยินผู้เฒ่าก็ยังตกตะลึง "พวกเขาเตรียมของขวัญเต็มห้องเป็ร้อยชิ้นเลยรึ?"
ซูซานหลางพยักหน้า "ใช่ขอรับ มีทั้งชิ้นใหญ่ชิ้นเล็กมากมาย แต่ในจำนวนนั้นมีทั้งของขวัญจริง และของปลอม สุดแล้วแต่ว่าเด็กๆ จะเลือกอย่างไรขอรับ"
ฮูหยินผู้เฒ่าอมยิ้มกล่าวกับท่านโหวผู้เฒ่า "ไม่ธรรมดาจริงๆ"
ท่านโหวผู้เฒ่าชื่นชมเลื่อมใสพ่อตาของบุตรชายผู้นี้เสมอ เอ่ยขึ้นว่า "เขาสอนเด็กได้ดีที่สุด จุดนี้แม้แต่อดีตฮ่องเต้ก็ยังชมไม่ขาดปาก"
เฉียวเยว่ยกชายกระโปรงหมุนเป็วงกลม "ท่านปู่ ท่านย่าเ้าคะ เทศกาลโคมไฟปีนี้ พวกท่านก็ไปด้วยกันดีหรือไม่?"
ท่านโหวผู้เฒ่าอมยิ้ม "ปู่ไม่ชอบสถานที่แบบนั้น ไกวเยว่ไปเที่ยวเถิด เ้าไปแล้วกลับมาเล่าให้ปู่ฟังดีหรือไม่"
เฉียวเยว่ยังคงรบเร้า "แต่ข้าเล่าจะเหมือนกับประสบการณ์จริงได้อย่างไร ควรไปเห็นด้วยตาของตนเองดีกว่า"
ท่านโหวผู้เฒ่าเห็นความน่ารัก ก็อดที่จะเอื้อมมือไปลูบศีรษะของนางไม่ได้ "แต่ปู่เล่นของเ่าั้ไม่เป็ เ้าว่าอายุมากอย่างปู่ หากตอบไม่ได้เลยสักข้อ จะอับอายเพียงใด"
เฉียวเยว่ตรึกตรองอ่างละเอียด ก็พยักหน้า "ก็จริง น่าจะเก้อเขินมาก”
ซูซานหลางถลึงตาใส่นาง "ซูเฉียวเยว่ เ้าพูดเหลวไหลอันใด"
เฉียวเยว่ทำตาปริบๆ "ข้าล้วนพูดความจริง"
ท่านโหวผู้เฒ่าพยักหน้า "ไกวเยว่ของเราเป็เด็กดี ไม่พูดปด ไกวเยว่ไปเที่ยวเล่นเถิด ขนของในห้องของตาเฒ่าผู้นั้นมาให้เกลี้ยงเลย"
"ขอรับรองว่าจะปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จเ้าค่ะ" เฉียวเยว่ตอบเสียงดังกังวาน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้