สวี่ตี้งานยุ่งจนถึงเดือนเก้า ในที่สุดก็ทำอุปกรณ์พื้นฐานในสวนเสร็จแล้ว ต่อมาก็ยังมีเื่ที่ต้องจัดการอีกมาก ทว่าเวลาที่พวกเขากลับไปยังเหอซีก็ไม่สามารถยืดเวลาออกไปได้อีกแล้ว ่เวลาตอนนี้นอกจากทำงานแล้ว สวี่ตี้ก็ยังไปเลือกคนงานอายุมากคนหนึ่งจากบรรดาคนของฮูหยินผู้เฒ่า เช่น ลุงหลี่ที่มีความซื่อสัตย์สูงมาเป็หัวหน้าผู้ดูแลสวน ลุงหลี่คือลุงใหญ่ของหลี่เหยียนเลี่ยง เป็คนยุติธรรม คนในสวนต่างให้ความเคารพเขา
สวี่ตี้เขียนเื่ที่จะต้องทำอย่างละเอียดให้กับลุงหลี่ แล้วก็วิธีการปลูกมันแกว เื่ที่ต้องระวังเอาไว้ ส่วนการทำเส้นหมี่ สวี่ตี้ได้คิดเอาไว้ดีแล้ว กลับมาถึงเหอซีจะหามาคนเริ่มต้นทดลองทำดู ด้านนอกเมืองเหอซีปลูกมันแกวเอาไว้เยอะมาก คาดว่าคงจะเก็บเกี่ยวได้แล้ว หลังจากกลับไปจะได้เอามันแกวมาศึกษาการทำเส้นได้พอดี
เทศกาลฉงหยาง [1] เป็เทศกาลที่ยิ่งใหญ่มากพอสมควร
หลายคนในจวนนั่งอยู่บนรถม้าเดินทางไปทีู่เานอกเมืองเพื่อไปอยู่ที่มุมสูงจะได้มองได้ไกลมากขึ้น พกผลจูอวี๋ [2] ไปด้วย คนในจวนต่างก็มานั่งดื่มเหล้าเก๊กฮวย ชมดอกเก๊กฮวย พลางทานขนมฉงหยางไปด้วย
ั้แ่เช้าตรู่ในจวนก็เริ่มทำงาน ฮูหยินผู้เฒ่าอายุมากแล้วจึงไม่อยากจะออกจากจวน คนในจวนจึงตัดสินใจที่จะชมดอกเก๊กฮวยในจวน โหวเย่จึงทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อซื้อดอกเก๊กฮวยที่กำลังเบ่งบานงดงามมาห้าหกสี นำมาประดับประดาตามทางเดินในจวน และในสวนดอกไม้
สวี่ตี้เพิ่งกลับมาถึงเมื่อคืน หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วก็นอนอยู่ในเรือนของตนเอง ตอนเช้าตื่นขึ้นมาก็สวมเสื้อผ้าชุดใหม่ ทานข้าวเช้าเสร็จก็เดินทางไปที่เรือนของบิดามารดา แล้วรับน้องชายน้องสาวที่ทานอาหารเช้าเรียบร้อยไปที่เรือนของฮูหยินผู้เฒ่า
ในเรือนของฮูหยินผู้เฒ่า ด้านล่างแท่นด้านล่างระเบียงทางเดินต่างจัดดอกเก๊กฮวยสีต่างๆ เอาไว้ สีเหลืองมีจำนวนมากกว่า มองจากที่ไกลๆ แล้วราวกับเป็สีทองอร่าม
หลังจากสวี่ไป่เข้ามาในเรือนของฮูหยินผู้เฒ่าก็ปล่อยมือของสวี่ตี้ แล้ววิ่งผ่านโถงทางเดิน ผ่านระเบียงทางเดินรอบนอก ก่อนจะเริ่มวนอยู่รอบๆ ดอกเก๊กฮวยพวกนั้น สวี่ตี้ค่อยๆ เดินตามโถงทางเดินมาถึงเส้นทางพื้นอิฐที่เดินไปทางเรือนหลัง รอจนกระทั่งเดินมาถึงหน้าประตูเรือนหลักของฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว ก็หันไปะโทางสวี่ไป่ จนเด็กน้อยค่อยๆ เดินมาอยู่ข้างกายสวี่ตี้อย่างอิดออด “ท่างพี่ ดอกไม้จ๋วยจริงๆ ขอยับ”
สวี่ไป่อายุใกล้จะสองขวบแล้วคำศัพท์ที่จำได้ก็เยอะมากขึ้นเรื่อยๆ ของที่สามารถกินได้ก็เยอะขึ้นทุกวัน เพราะว่าความอยากกินล้วนๆ ทำให้ตัวเขาอวบอ้วนขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ทุกครั้งที่สวี่ตี้เห็นเขาก็จะหัวเราะเยาะหุ่นของเขา สวี่ไป่มักจะพูดอย่างนิ่งเฉยว่า เขายังอยู่ใน่กำลังโต คนกินได้เยอะต่างหากถึงอยู่ในเส้นทางาา
สวี่ตี้มองน้องชายตนเองคนนี้แล้วจูงมือเขา “เ้านี่ทำเป็ไม่เคยเห็นอะไรไปได้ ก็แค่ดอกเก๊กฮวยไม่ใช่หรือ คุ้มค่าให้เ้าตื่นใเช่นนี้เลยเชียว? มา ไปทักทายท่านทวดก่อน จากนั้นก็พูดคุยกับนาง อีกสองวันพวกเราก็จะไปแล้ว คงไม่ได้เจอกับท่านทวดอีกนาน”
สวี่ไป่ถาม “กลับเหอชีหยือ? เหอชีดี ออกไปเตี้ยวเล่งก็ได้”
สวี่ตี้กล่าว “แต่ว่าเหอซีไม่มีท่านทวดนี่ พวกเรากลับไปแล้วจะต้องคิดถึงท่านแน่ๆ”
สวี่ไป่กล่าว “พวกเยาพาท่างทวกไปจ้วยไม่ได้หยือ? ยดม้าของท่างแม่ดีขนากน้าน ท่างทวกนั่งปายเหอชีจ้วยก็ได้นี่”
สวี่ตี้กล่าว “ท่านทวดอายุมากแล้ว นั่งไปเส้นทางที่ไกลมากๆ ไม่ได้แล้ว เ้าก็อยู่พูดคุยกับท่านดีๆ อย่าลืมท่านทวดเด็ดขาดล่ะ”
สวี่ไป่กลอกตามองบนใส่สวี่ตี้ “หากเพียงครู่เดียวข้ายืมท่างทวกได้ ข้าก็ต้องมีฉมองเป็งหมูแย้ว”
สองพี่น้องพูดไปก็เดินเข้าที่พักของฮูหยินผู้เฒ่าไป สวี่จือเข้าไปแล้ว เห็นฮูหยินผู้เฒ่าวางของอยู่เต็มโต๊ะหลัวฮั่น แม้แต่โต๊ะกลมในห้องก็วางของเอาไว้ มีทั้งเครื่องประดับ ผ้าเนื้อดีมีหมดทุกอย่าง
สวี่ตี้กล่าวด้วยความใ “ท่านทวดขอรับ ท่านกำลังทำอะไรหรือขอรับ?”
ฮูหยินผู้เฒ่าหัวเราะก่อนจะตอบ “อีกสองวันพวกเ้าก็จะไปแล้วไม่ใช่หรือ ข้าก็หาของที่พวกเ้าสามารถใช้ได้มาให้พวกเ้าเอาไปใช้ที่เหอซีน่ะสิ”
สวี่ตี้กล่าว “ดูท่านสิ ทำเช่นนี้ไม่ได้นะขอรับ รีบเก็บเข้าไปเถิด อย่าให้พวกพี่น้องคนอื่นๆ เห็นเชียว จะคิดว่าพวกเราใช้ข้ออ้างมาเอาสมบัติของท่านไปนะขอรับ”
ฮูหยินผู้เฒ่าตำหนิ “พูดไร้สาระอันใด เหตุใดพวกเ้าจะต้องหาข้ออ้างมาเอาสมบัติของข้าด้วย? เ้าหาเงินมาให้ข้าไม่น้อย ข้าให้ของเ้านั้นก็สมควรแล้ว พวกเขาหากใครอิจฉา ก็หาเงินมาให้ข้าเยอะๆ สิ”
แม่นมเสิ่นก็พาสาวใช้ขนกล่องหลายใบเข้ามาจากด้านนอก “ฮูหยินผู้เฒ่าเ้าคะ ท่านดูของพวกนี้ล้วนเป็สิ่งที่ท่านกล่าวถึง ข้าหามาให้ท่านแล้วเ้าค่ะ”
ฮูหยินผู้เฒ่าฟังแล้วก็รีบวางของในมือลง “รีบเอาเข้ามาให้ข้าดูสิ”
สวี่ตี้เห็นในมือของสาวใช้ถือกล่องไม้หนานมู่มีลายสลักดอกไม้พันอยู่หลายใบ ดูแล้วไม่ได้หนักมาก มิรู้ว่าด้านในคืออะไร
เหล่าสาวใช้เอากล่องมาวางไว้บนโต๊ะหลัวฮั่น ฮูหยินผู้เฒ่าเปิดออกใบหนึ่ง ด้านในใส่หนังสือเอาไว้หลายเล่ม แค่ดูก็รู้ว่าเป็หนังสือที่มีมาหลายปีมาแล้ว
ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวกับสวี่ตี้ “เ้าดูสิ นี่คือสินเดิมที่ข้านำติดตัวมาตอนแต่งงาน ได้ยินมาว่าหนังสือพวกนี้ยังเป็หนังสือโบราณอีกด้วยนะ ครอบครัวมารดาของข้าเป็แม่ทัพ ครอบครัวสามีก็ไม่มีใครอ่านหนังสือ ของพวกนี้จึงถูกเก็บเอาไว้ที่ก้นหีบ หลังจากบิดาของเ้าสอบเตี่ยนซื่อเสร็จ ข้าก็อยากจะเอาออกมาให้บิดาของเ้า ผลสรุปเขาก็รีบร้อนไปที่เหอซี ข้าเองก็เก็บเื่นี้เอาไว้ ครั้งนี้เ้าสอบผ่านการสอบระดับเซียงซื่อแล้ว ข้าเองก็คิดว่าของพวกนี้จะต้องให้กับครอบครัวพวกเ้าถึงจะถูก ครอบครัวพวกเราน่ะ ตอนนี้ก็มีพวกเ้าสองคนพ่อลูกที่พึ่งการเรียนจนได้ดิบได้ดี”
สำหรับหนังสือโบราณ สวี่ตี้ไม่มีอะไรให้ค้นคว้า เพียงได้ยินมาว่าหนังสือโบราณนั้นมีค่ามาก หนังสือเล่มไหนโบราณอย่างไรสวี่ตี้เองก็ดูไม่ออกจริงๆ แต่ว่าดูจากหนังสือหลายเล่มของฮูหยินผู้เฒ่า ถึงกับใช้หีบไม้หนานมู่มาใส่แล้ว คาดว่าคงจะมีค่ามากจริงๆ
สวี่ตี้กล่าว “ท่านทวด ของพวกนี้ล้วนเป็ของก้นหีบของท่าน ข้ารู้สึกว่าท่านเก็บเอาไว้ดีๆ จะดีกว่านะขอรับ”
ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าว “ข้าจะเก็บเอาไว้ทำไม? ของพวกนี้รอข้าตายจากไปแล้วก็ไม่รู้จะไปอยู่ไหน ข้าอยากจะอาศัยในตอนที่ข้ายังมีสติดี เอาของพวกนี้ออกมา ควรให้ใครก็ให้ อีกเดี๋ยวข้าให้คนเอาไปส่งให้เ้า รอพวกเ้าพกไปที่เหอซีก็ถือว่าข้าให้ของที่ระลึกกับพวกเ้าก็แล้วกัน”
พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว สวี่ตี้เองก็เกรงใจไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีก กลับเป็สวี่ไป่ที่มองหีบพวกนี้ก็พุ่งเข้าไปดม “ท่างทวก หีบมีกลิ่นหอมขอยับ”
ฮูหยินผู้เฒ่าหัวเราะแล้วกล่าว “นี่คือหีบที่ทำจากไม้หนานมู่ ไม้หนานมู่ดมแล้วจะมีกลิ่นหอมๆ ไป่เกอ เ้ามานี่ หนังสือด้านในพวกนี้เ้ารู้จักตัวอักษรกี่ตัวกัน?”
สวี่ไป่ฟังแล้วร่างเล็กๆ ก็พลิกกลับ แล้วขึ้นไปบนตั่งหลัวฮั่นอย่างคล่องแคล่ว ยกมือหยิบหนังสือด้านในขึ้นมา กลับทำให้สวี่ตี้ใจแทบหล่น กลัวว่าเขาจะทำหน้าปกหนังสือขาด โชคดีที่ไม่มีเื่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ก่อนจะเห็นสวี่ไป่เอาหนังสือไปวางไว้บนโต๊ะที่วางอยู่บนตั่ง แล้วชี้ตัวหนังสือหลายตัวอ่านกับฮูหยินผู้เฒ่า ทั้งยังอ่านออกหมดด้วย
ฮูหยินผู้เฒ่าหัวเราะเหอะๆ “ข้าก็ว่าแล้วว่าไป่เกอของพวกเราเป็เด็กฉลาด เพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง ก็สามารถจำตัวหนังสือได้เยอะแล้ว”
สวี่ไป่เงยหน้ายิ้มได้ใจ เห็นสวี่ตี้รังเกียจอยู่นิดหน่อยแล้วมองมาทางตัวเองอย่างเหยียดหยาม ก็รู้ว่าเขาไม่ชอบท่าทางน่ารักของเขา จึงย่นจมูกใส่สวี่ตี้ ทำหน้าผีแล้วซบเข้าไปในอ้อมกอดของฮูหยินผู้เฒ่า แล้วคอยกวนให้ฮูหยินผู้เฒ่าเล่นด้วย
ตอนเที่ยงทั้งครอบครัวก็มาทานข้าวที่เรือนของฮูหยินผู้เฒ่า หนิงซื่อกล่าว “ตอนกลางคืนข้าอยากจะเชิญทุกท่านไปทานข้าวด้วยกัน น้องสะใภ้อีกเดี๋ยวก็จะพาพวกเด็กๆ กลับไปที่เหอซีแล้ว ก็ถือว่าเป็การส่งน้องสะใภ้อีกด้วย”
ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มแล้วกล่าว “นี่เป็เื่ที่ดีนะ พวกเ้าอย่ารังเกียจข้าเลยนะ ข้าเองก็จะไป”
หนิงซื่อยิ้มแล้วกล่าว “ดูท่านย่าพูดอันใดน่ะเ้าคะ การที่ท่านมาเป็เื่ที่ฝันยังไม่กล้าฝันเลยเ้าค่ะ”
จางจ้าวฉือยิ้มแล้วกล่าว “ขอบคุณพี่สะใภ้ใหญ่นะเ้าคะ ตอนกลางคืนข้าจะพาพวกลูกๆ ไปแน่นอนเ้าค่ะ”
หนิงซื่อควักกระเป๋าเงินของตัวเองออกมา แล้วจัดโต๊ะอาหารสองโต๊ะ เพราะว่าจะเลี้ยงส่งพวกจางจ้าวฉือ บนโต๊ะอาหารทุกคนต่างหยิบของขวัญที่เตรียมเอาไว้ให้พวกจางจ้าวฉือออกมา แม้แต่พี่สาวน้องสาวของสวี่จือก็เอาถุงเงิน ผ้าเช็ดหน้ามามอบให้เป็ของขวัญ
วันที่สิบเอ็ดเดือนเก้า ตอนเช้าตรู่ประตูด้านข้างของจวนโหวก็เปิดออก จางจ้าวฉือพาลูกสามคนไปทำความเคารพฮูหยินผู้เฒ่า โหวเย่มาส่งที่หน้าประตูใหญ่ สี่คนแม่ลูกก็พาแม่นมลู่ แล้วก็รถม้าคันใหญ่หลายสิบคัน โดยมีองครักษ์หลายสิบคนแล้วก็ทหารรับจ้างอีกหลายสิบคนคอยปกป้องอารักขาพร้อมเดินทางไปยังเหอซี
เพราะว่าหลังจากเข้าเดือนสิบแล้วอากาศจะยิ่งหนาวขึ้นเรื่อยๆ ตลอดทางไม่พูดถึงการทานอาหารและนอนพักด้านนอก เทียบไม่ได้กับตอนกลับเมืองหลวง เดินทางได้ยี่สิบกว่าวันก็ได้รับจดหมายของสวี่เหราที่ออกเดินทางจากเหอซีก่อนแล้ว รออยู่ที่พักข้างทางห่างจากเหอซียี่สิบกว่ากิโล
พอได้เห็นภรรยา สวี่เหราก็ดีใจมาก ก่อนจะอุ้มสวี่ไป่ขึ้นหัวเราะเหอะๆ ก่อนจะกล่าว “เด็กคนนี้ ไม่ได้เจอกันไม่นานก็ตัวโตขนาดนี้แล้วหรือ”
สวี่จือกับสวี่ตี้ทำความเคารพสวี่เหรา สวี่ไป่ก็เตะขาเล็กๆ ก่อนจะเอ่ย “ท่างพ่อ ท่างพ่อ ข้าเองก็จะทำความเคายพท่างขอยับ”
สวี่เหราได้ยินแล้วก็วางสวี่ไป่ลงบนพื้นแล้วพูดด้วยความประหลาดใจ “เ้าเองก็ทำความเคารพข้าได้แล้วรึ?”
สวี่ไป่เลียนแบบท่าทางของสวี่ตี้มาทำความเคารพให้สวี่เหรา เขาเห็นแล้วก็หัวเราะแล้วกล่าว “ไม่เลว ไม่เลว พัฒนาไปเยอะนะเนี่ย”
ทั้งครอบครัวพากันมานั่งบนรถม้าของจางจ้าวฉือ สวี่เหราอุ้มสวี่ไป่ไว้ในอ้อมกอด “ตลอดทางลำบากพวกเ้าแล้ว”
จางจ้าวฉือมองสวี่เหราแล้วหัวเราะฮี่ๆ สวี่ตี้รู้พ่อแม่ของตัวเองไม่เคยแยกกันมานานขนาดนี้ เคยมีอยู่ปีหนึ่ง จางจ้าวฉือเตรียมตัวจะไปทำงานที่แอฟริกาหนึ่งปี ผลสรุปเพราะว่าตอนตรวจร่างกายพบถุงน้ำขนาดเล็กในมดลูก ไม่สามารถไปได้จึงเข้าพักโรงพยาบาลเพื่อทำการผ่าตัด
สวี่เหรากล่าว “นี่เป็ครั้งแรกที่ข้าแยกกับพวกเ้านานขนาดนี้ โชคดีที่ตลอดทั้งปีงานเยอะมาก ทุกวันข้ายุ่งจนกลับบ้านมาหัวถึงหมอนก็หลับไปเลย ไม่มีแรงไปคิดถึงพวกเ้า ไม่เช่นนั้นข้าจะต้องกลับไปที่เมืองหลวงสักครั้งเป็แน่”
สวี่ตี้กล่าว “ท่านพูดมาเถิด พวกเราก็จะรับฟังขอรับ”
สวี่เหรากล่าว “เ้าไม่เชื่อว่าข้ายุ่งหรือว่าไม่เชื่อว่าข้าคิดถึงพวกเ้า?”
สวี่ตี้กล่าว “ท่านพูดอะไรมาข้าก็เชื่อทั้งหมด จริงๆ นะขอรับ ไม่เชื่อท่านแล้วข้าจะเชื่อใคร? ใช่แล้วท่านพ่อ ประชาชนเหอซีของพวกเราย้ายเข้าไปในเรือนใหม่หรือยังขอรับ?”
สวี่เหราพูดด้วยความดีใจมาก “แน่นอนสิ ฤดูใบไม้ร่วงปีก่อนก็ย้ายเข้าไปแล้ว ฉลองปีใหม่ก็ฉลองกันในบ้านหลังใหม่นะ แต่ว่าเรือนหลังสำนักงานของพวกเรายังสร้างไม่เสร็จ พวกเ้ากลับไปแล้วยังต้องไปพักที่จวนแม่ทัพก่อน”
สวี่ตี้ถาม “เช่นนั้นครอบครัวคู่หมั้นของข้าล่ะขอรับ?”
สวี่เหราตอบ “ครอบครัวคู่หมั้นของเ้าเดิมทีก็มีบ้านอยู่หลังหนึ่งในเมือง ตอนนี้ก็ซื้อมาหลังหนึ่ง จึงย้ายเข้าไปนานแล้ว พวกเขาพักอาศัยอยู่ในเหอซีแล้ว”
สวี่ตี้กล่าว “เช่นนั้นต่อไปท่านออกจากที่นี่แล้ว พวกเขาก็ต้องตามไปด้วยไม่ใช่หรือ? ถึงตอนนั้นจะขายบ้านได้หรือขอรับ?”
สวี่เหรากล่าว “ขายได้แน่นอนอยู่แล้วสิ บ้านของพวกเขามีสัญญาซื้อบ้าน นี่คือทรัพย์สินของเขา สามารถซื้อขายได้ตลอดเวลา”
สวี่ตี้กล่าว “เช่นนั้นก็ดี ข้าคิดดีแล้ว รอต่อไปก็จะช่วยซื้อสวนเล็กๆ ให้พวกเขา หากยอมซื้อบ้านที่เมืองหลวงก็จะซื้อที่นั่นไว้”
สวี่เหราหัวเราะแล้วกล่าว “เ้าคิดเอาไว้ไกลมากเลยนะ ยังไม่ได้แต่งงานเลย คิดถึงจะช่วยซื้อบ้านให้ครอบครัวภรรยาแล้วหรือ?”
สวี่ตี้กล่าว “แน่นอนสิ ท่านพ่อ ต่อไปข้าจะเดินทางสายขุนนาง ครอบครัวภรรยาก็ถือว่าเป็แนวหลังของข้า ข้าจะให้แนวหลังของข้าเดือดร้อนไม่ได้ ลุงของข้าคนนั้นท่านเองก็รู้ เขาสามารถเป็คนร่ำรวยได้ ข้าจะต้องจัดการให้ครอบครัวพวกเขามาปักรากฐานได้ถึงจะมุ่งหน้าพัฒนาได้อย่างวางใจ”
สวี่เหรากล่าว “หนทางข้างหน้าของเ้ายังอีกยาวไกล เพิ่งจะสอบติดเซียงซื่อ ยังไม่ได้เข้าร่วมการสอบระดับฮุ่ยซื่อเลย การสอบปีหน้าไม่เข้าร่วม ก็ต้องรอไปอีกสามปี หลังจากสามปีก็อายุสิบแปด ข้ายังรู้สึกว่ามันยังไวไปหน่อย ไม่เช่นนั้นรอเ้าอายุยี่สิบสองแล้วค่อยเข้าสอบแล้วกัน ถึงตอนนั้นถึงแม้จะสอบได้ก็ไม่สะดุดตามาก”
สวี่ตี้กล่าว “ข้าเองก็คิดเช่นนี้ แล้วก็พูดกับท่านปู่เช่นนี้เหมือนกันขอรับ เวลาหกปี ก่อนอื่นข้าก็จะอ่านหนังสืออยู่กับท่านที่เรือนสักสามสี่ปี สองปีสุดท้ายข้าก็จะไปที่เรียนที่สถาบันของท่านน้าเยวี่ยน เรียนหนังสือกับสามีท่านน้าอย่างจริงจังสักสองปี ก่อนจะตั้งสมาธิสักหน่อย แบบนี้มันดีต่อการสอบระดับฮุ่ยซื่อขอรับ”
สวี่เหรากล่าว “ปู่ของเ้าน่ะ ความจริงแล้วเป็คนที่สายตากว้างไกล ปัญหาหลายอย่างก็สามารถเข้าใจได้ด้วยตนเอง คำแนะนำที่เขาให้มาก็รับฟังไว้ถึงจะดี”
สวี่ตี้กล่าว “แน่นอนสิขอรับ หากท่านปู่ดูสถานการณ์ไม่เป็ จะส่งอาหารกับเสื้อผ้ามาให้พวกเราทางนี้มากมายได้หรือ? ถึงแม้เื่นี้จะไม่สามารถประกาศออกไปได้ แต่ฮ่องเต้กับเว่ยซื่อจื่อก็ต่างจดจำน้ำใจของท่านปู่ได้”
สวี่เหรากล่าว “ต่างพูดกันว่าพอแก่ตัวแล้วก็ยิ่งฉลาด ปู่ของเ้าน่ะ เป็คนที่ฉลาดมากจริงๆ”
พูดกันไปก็เดินทางมาถึงจวนแม่ทัพ สวี่เหราลงจากรถม้าก็อุ้มสวี่ไป่มายืนที่หน้าประตู เห็นรถม้าหลายสิบคันเคลื่อนตัวผ่านประตูด้านข้างที่เปิดอยู่เข้าไปด้านใน สวี่ไป่ถูกท่านพ่อของตนเองอุ้มมองไปยังท้องฟ้าที่กว้างไกล พื้นดินกว้างสุดลูกหูลูกตาก็รู้สึกสบายั้แ่หัวจรดเท้า
ใต้เท้าหลี่กับฮูหยินหลี่มารออยู่ที่จวนแม่ทัพก่อนแล้ว พอเห็นพวกจางจ้าวฉือกลับมาแล้วก็รีบเข้าไปต้อนรับ ฮูหยินหลี่กล่าว "จากกันไปตั้งปีกว่า ข้านี่คิดถึงพวกเ้ามากเลยนะ”
จางจ้าวฉือจูงมือฮูหยินหลี่ “ข้าเองก็คิดถึงพวกเ้า กว่าจะรอตี้เกอสอบเสร็จ พอคะแนนออกพวกเราถึงได้รับกลับมา”
ฮูหยินหลี่ยิ้มแล้วกล่าว “ข้ายังไม่ได้ยินดีกับจวี่เหรินของพวกเราเลย”
สวี่ตี้รีบคำนับ พลางพูดว่ามิกล้า ฮูหยินหลี่เป็คนที่ชอบพูดชอบยิ้ม กับลูกของตนเองก็มักจะพูดล้อเล่นด้วยบ่อยๆ ทั้งสองครอบครัวอยู่ด้วยกันมาหลายปี ฮูหยินหลี่ก็อยู่กับเด็กๆ สกุลสวี่มานานเข้าก็เริ่มที่จะพูดจาหยอกล้อเล่น
ฮูหยินหลี่หัวเราะแล้วเอ่ย “คืนนี้พวกเราจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับพวกเ้า คุณชายของพวกเราจองร้านอาหารสองโต๊ะให้ที่ร้านิเยว่ คืนนี้จะไปกัน พวกเรามาดื่มอุ่นเครื่องกันสักสองแก้ว กินอาหารสักมื้อ รอพวกเ้าเข้าพักเรียบร้อยแล้ว ข้าจะเชิญพวกเ้าไปกินอาหารที่เรือน”
เชิงอรรถ
[1] เทศกาลฉงหยาง เป็เทศกาลที่จัดขึ้นในวันที่ 9 เดือน 9 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน หรือเรียกว่า九九重阳 คำว่า 九九 จิ่วจิ่ว พ้องเสียงกับคำว่า 久久 ที่แปลว่ายืนยาว คำว่า 重阳 มาจากตำรา 易经 ซึ่งระบุว่า 阴คือ 6 阳 คือ 9 ดังนั้น重阳 คือ 99 ซึ่งคนจีนถือว่าเลข 9 คือเลขที่ใหญ่ที่สุด ถือว่าเป็เลขมงคลที่มีความหมายดีที่สุด อายุยืนยาวและสามีภรรายารักกันอยู่ด้วยกันนานจนแก่
[2] ผลจูอวี๋ เป็ผลที่มีคุณค่าทางยาสูงมาก เอามาใช้ดองยาเพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้