“น่าชังนัก” บุรุษผู้นั้นมีสีหน้าเ็าเป็น้ำแข็ง เห็นพวกเซียวเฉินจากไปไกลแล้วก็อดด่าทอไม่ได้ แต่กลับไม่กล้าขัดขวาง เื่นี้ทำให้เขารู้สึกเสียหน้ามาก
แต่ไม่มีทางเลือก เพราะเซียวเฉินอยู่ขั้นเสวียนเต๋า!
อย่าว่าแต่เขาคนเดียวเลย ต่อให้ทุกคนรวมพลังกันก็ไม่แน่ว่าจะรั้งเซียวเฉินไว้ได้
คิดถึงตรงนี้ แววตาของเขาก็ลึกล้ำ
นึกทบทวนรายนามบุคคลที่มีชื่อเสียงขึ้นมาในระยะนี้ของแคว้นเยี่ยในห้วงสมองอย่างละเอียด แต่กลับไม่เคยได้ยินชื่อเฉินเซียว แม้แต่บนผังบุตร์แคว้นเยี่ยก็ไม่เคยปรากฏ เื่นี้ทำให้เขาสงสัย
“เฉินเซียวเป็ใครกันแน่?”
ไม่เพียงเขาเท่านั้น ทุกคนที่นั่นก็มีคำถามเช่นนี้
แต่หาคำตอบไม่ได้
อีกด้านหนึ่ง หลังจากเซียวเฉินนำฉู่หยวนและฉู่เยียนหรานจากไปแล้ว ก็บอกกับทั้งสองคนว่า “ข้าเข้าใจสถานการณ์ในตระกูลฉู่ตอนนี้ดี ดังนั้น ข้าจะนำเคล็ดวิชาขั้นฟ้าออกมาให้พวกเราฝึกด้วยกัน จากนั้น พวกเ้านำฉบับคัดลอกกลับตระกูลฉู่ ถือเป็น้ำใจเล็กน้อยจากข้า”
คำพูดของเซียวเฉินทำให้ฉู่หยวนใสุดขีด แม้เขาจะซาบซึ้งในสิ่งที่เซียวเฉินทำให้ แต่เขากลับปฏิเสธโดยไม่ลังเล เพราะของขวัญชิ้นนี้ล้ำค่าเกินไป เขาเป็สหายกับเซียวเฉินเพราะนิสัยเข้ากันได้ หากโลภในของขวัญที่เซียวเฉินมอบให้ เขากลัวว่าจะใช้คืนไม่ไหว
“สหาย ข้าไม่เอาสิ่งนี้ ข้ารู้ว่าเ้าเห็นข้าเป็สหาย แต่ของขวัญชิ้นนี้ล้ำค่าเกินไป หากข้ารับไว้เกรงว่าชั่วชีวิตนี้คงชดใช้ไม่หมด” ฉู่หยวนเอ่ยอย่างจริงจัง
พูดตามตรง ใครบ้างไม่หวั่นไหวกับเคล็ดวิชาขั้นฟ้า อย่าว่าแต่ฉู่หยวนเลย ต่อให้เป็ฮ่องเต้แห่งแคว้นเยี่ยก็หวั่นไหว ทว่าฉู่หยวนก็ยังปฏิเสธ เพราะเขาไม่อยากทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเซียวเฉินเปลี่ยนไป
เซียวเฉินยิ้ม เขาเข้าใจความคิดของฉู่หยวนแน่นอน
ดังนั้น เซียวเฉินจึงกล่าวว่า “เ้าเห็นข้าเป็สหาย?”
ฉู่หยวนเอ่ยอย่างไม่ลังเล “แน่นอน!”
เซียวเฉินกลอกตาใส่ “แล้วเ้าจะกระบิดกระบวนทำไม” ว่าแล้วก็เดินไปข้างกายฉู่เยียนหราน ลูบศีรษะนางแล้วยิ้มให้
“เยียนหราน พี่ชายเ้าเป็คนโง่ ไม่้าเคล็ดวิชาขั้นฟ้า ในเมื่อเขาไม่้าข้าก็ไม่ยินดีให้ ถึงเวลาข้าจะมอบให้เ้าโดยตรง เ้าอย่ามอบให้เขานะ ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ข้าไม่ให้เคล็ดวิชาขั้นฟ้าแก่ตระกูลฉู่ ข้าให้เ้า เป็ไปไม่ได้ที่พี่ใหญ่เฉินจะรั้งอยู่ที่แคว้นเยี่ยตลอดไป ดังนั้น นี่ถือเป็สินเดิมที่พี่ใหญ่เฉินมอบให้เ้า”
เซียวเฉินเอ่ยถึงตรงนี้ก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน “เยียนหรานรูปโฉมงดงาม ต่อไปต้องได้พบคนที่ชอบแน่นอน ถึงเวลานั้นไม่ว่าพี่ใหญ่เฉินจะอยู่ที่ใด เ้าต้องบอกพี่ใหญ่เฉินนะ ต่อให้หนทางยาวไกลและยากลำบากแค่ไหน พี่ใหญ่เฉินก็จะมาดื่มสุรามงคลของเ้า ดีหรือไม่?”
แม้คำพูดของเซียวเฉินจะมีแววล้อเล่น แต่กลับทำให้ฉู่เยียนหรานขอบตาแดงก่ำ พยักหน้าซ้ำๆ
“ขอบคุณพี่ใหญ่เฉิน”
ฉู่เยียนหรานไม่ใช่เด็กแล้ว แยกแยะออกว่าใครดีต่อนางจริงๆ ใครเสแสร้งกับนาง สหายของพี่ชายคนนี้ นับั้แ่เข้ามาที่ตระกูลฉู่ก็ดีกับนางเหมือนน้องสาวแท้ๆ พี่ใหญ่ไม่รอบคอบ แต่พี่ใหญ่เฉินกลับคิดอ่านวางแผนแทนนางและพี่ชายหมดทุกอย่าง ถึงขั้นทำเพื่อตระกูลฉู่ แต่กลับไม่เคยขอให้ตอบแทน
แม้นางไม่พูดแต่ในใจก็รู้กระจ่าง หยกหงสาและน้ำแห่งชีวิตบนตัวของนางล้วนเป็สิ่งที่พี่ใหญ่เฉินมอบให้ บัดนี้ เขารู้ว่าตระกูลฉู่มีภัย ถึงขั้นนำเคล็ดวิชาขั้นฟ้ามาแบ่งปันให้นางและพี่ชายโดยไม่เสียดาย แล้วยังทิ้งเคล็ดวิชาไว้ที่ตระกูลฉู่ด้วย
หากนี่คือคำพูดเสแสร้งจอมปลอม แล้วอะไรคือซื่อสัตย์? อะไรคือจริงใจ?
ฉู่เยียนหรานคิดถึงตรงนี้ก็น้ำตาคลอ
“พี่ใหญ่เฉิน ขอบคุณจริงๆ...ขอบคุณที่ห่วงใยข้าเหมือนน้องสาว และดีกับตระกูลฉู่ถึงเพียงนี้...”
เซียวเฉินเห็นฉู่เยียนหรานตาพร่าด้วยน้ำตาก็ยิ้ม “อย่าร้องไห้ ถ้าร้องอีกเดี๋ยวไม่สวยนะ”
ฉู่เยียนหรานผงกศีรษะซ้ำๆ หยาดน้ำตากลิ้งลงจากเบ้าตา
ฉู่หยวนที่อยู่ด้านข้างเห็นภาพนี้ก็ซาบซึ้งในใจ เขาอดมองเซียวเฉินอย่างนับถือไม่ได้ ขณะเดียวกันก็ยิ้ม เพราะเขาไม่ได้ดูคนผิด สหายผู้นี้คู่ควรให้เขาคบหาด้วยใจจริง
‘เฉินเซียว หากวันหน้าเ้ามีภัย ถึงข้าฉู่หยวนต้องตายก็ขอตายอยู่เบื้องหน้าเ้า เพราะเ้าเป็สหายที่ข้ายอมรับอย่างมั่นใจในชั่วชีวิตนี้’
ขณะที่คนทั้งสามสนทนายิ้มหัวเราะกัน จู่ๆ แผ่นดินก็สั่นะเืราวกับวันสิ้นโลก พวกเขามีสีหน้าแปรเปลี่ยนทันที แม้มีโชควาสนาในแคว้นกู่ แต่ก็มีภยันตรายเช่นกัน
เซียวเฉินมีสีหน้าหนักใจ “พบโชควาสนาแล้ว ในที่สุดตอนนี้ก็มีอันตรายมา...”
โฮก!
มีเสียงคำรามดังขึ้นไม่ไกลนัก
ฟ้าดินะเืทันที พวกเขาสามคนมีสีหน้าแปรเปลี่ยน แค่เสียงคำรามก็ทรงพลังขนาดนี้ จะเป็เ้าตัวที่น่ากลัวขนาดไหน?
จากนั้น ม่านตาของพวกเขาสามคนก็หดวูบ
เพราะมีร่างนักรบเดนตายที่ไม่รู้ว่าเสียชีวิตไปกี่ปีแล้วควบขี่สัตว์ปิศาจมือกุมหอกยาวปรากฏขึ้นตรงเบื้องหน้าหลายสิบคน ดุจกองทัพเดินแถวเข้าสู่สมรภูมิ!
สิ่งที่ทำให้พวกเซียวเฉินตระหนกยิ่งกว่าคือ สัตว์ปิศาจพาหนะของพวกเขาถึงกับเป็สัตว์ปิศาจขั้นเจ็ดระดับสูงสุดซึ่งเทียบได้กับขั้นเสวียนฟ้าห้าชั้นฟ้าขึ้นไป ส่วนความสามารถของนักรบเดนตายทุกคนอยู่ในขั้นเสวียนเต๋า!
คนทั้งสามสูดลมหายใจหนาวเหน็บ
กองทัพที่สร้างขึ้นจากผู้เข้มแข็งขั้นเสวียนเต๋า?
นี่คือความจริงเื้ัแคว้นกู่หรือ? ปัจจุบัน ผู้เข้มแข็งขั้นเสวียนเต๋าล้วนเป็บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ เรียกได้ว่าเป็ผู้เข้มแข็งระดับสูงสุด แต่แคว้นกู่ถึงขั้นมีเป็กองทัพ!
ภาพนี้ทำเอาเซียวเฉินหนังศีรษะชา
เคร้ง เคร้ง เคร้ง!
กองทัพขั้นเสวียนเต๋าพุ่งตรงมาหาพวกเซียวเฉินอย่างรวดเร็วด้วยสภาวะน่าใ นี่เป็ครั้งแรกที่เซียวเฉินเกิดความรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง
เขาพาฉู่หยวนและฉู่เยียนหรานหลบหนีอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเล หากมีขั้นเสวียนเต๋าคนสองคนเขายังมีกำลังต่อสู้ได้ แต่ถ้าให้เผชิญหน้าเป็กองทัพคงไปหาที่ตายอย่างไม่ต้องสงสัย เขาไม่มีทางเลือก ได้แต่พาฉู่หยวนและฉู่เยียนหรานหลบหนีไปในสถานการณ์เช่นนี้
ไม่เช่นนั้น พวกเขาสามคนต้องตายแน่!
ฟุ่บ!
เซียวเฉินพาสองพี่น้องหลบหนีอย่างว่องไวดุจสายฟ้าแลบ กองทัพขั้นเสวียนเต๋าทางด้านหลัง แม้เป็คนตาย แต่ิญญาไม่ดับสูญ จิติญญาอันห้าวหาญยังคงอยู่ สัตว์ปิศาจที่ควบขี่ก็แข็งแกร่งและว่องไวดุจสายลมเช่นกัน ไม่ช้าก็ใกล้เซียวเฉินเข้ามาทุกขณะ
“บุกรุกแคว้นกู่ สังหาร!”
เสียงกองทัพสะท้านฟ้า หอกยาวในมือแหวกอากาศกลายเป็สายฟ้า ผู้เข้มแข็งขั้นเสวียนเต๋าหลายสิบคนลงมือ ทำลายฟ้าดินได้อย่างง่ายดายและถึงขั้นสามารถต่อกรกับขั้นยุทธ์์
แค่คิดก็รู้ถึงอานุภาพ!
เซียวเฉินโยนฉู่หยวนและฉู่เยียนหรานไปไกลลิบ จากนั้นหันกลับมาและกระตุ้นร่างเทพอัสนี โจมตีด้วยประทับจักรพรรดิทองผลาญนภา ทะเลเพลิงม้วนตลบ ประทับทองตรงเข้าเข่นฆ่ากองทัพแคว้นกู่
ตูม!
ประทับทองแตกสลายในพริบตา แต่สายฟ้ายังคงอยู่
“พรูด...”
เซียวเฉินพ่นโลหิตสด ร่างกระเด็นลอยไปข้างหลัง สีหน้าซีดขาวทันที เพราะความสามารถแตกต่างกันมากเกินไป ต่อให้เขาได้รับสืบทอดจากเทียนฮวงและมีร่างเทพอัสนีเกื้อหนุนก็ยังได้รับาเ็ เห็นได้ถึงความแข็งแกร่งของกองทัพแคว้นกู่!
นี่เป็ครั้งแรกที่เซียวเฉินรู้สึกว่าไร้กำลัง
ความสามารถของฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งเกินไป เขาสู้ไม่ได้เลย
“เฉินเซียว!”
“พี่ใหญ่เฉิน...”
ฉู่หยวนและฉู่เยียนหรานร้องอุทาน เซียวเฉินถอยมาถึงข้างกายคนทั้งสองอย่างรวดเร็วและพาสองพี่น้องหลบหนี ฉู่หยวนเห็นสีหน้าซีดเผือดของเซียวเฉินก็บอกว่า “สหาย เ้าพาน้องสาวข้าไปเถอะ ไม่เช่นนั้น พวกเราคงไม่รอดกันหมด”
“หุบปาก ข้าจะไม่ทิ้งใครทั้งนั้น”
เซียวเฉินบริภาษอย่างเดือดดาล ดวงตาเปี่ยมความดุร้าย “ข้าจะทิ้งพวกเ้าได้อย่างไร? ถ้าจะตายก็ตายด้วยกัน หากมีความหวังแม้เพียงน้อยนิด ข้าก็จะไม่ละทิ้งเป็อันขาด!”