พอได้เห็นการนองเืแบบนี้ทุกคนก็รู้สึกตะลึง เมื่อครู่พวกเขายังคิดว่าิอวี่อาจจะต้องตาย แต่ใครจะคิดว่าิอวี่กลับใช้เวลาไม่ถึงสิบอึดใจก็สังหารนักรบเืทั้งหมดได้แล้ว อีกทั้งยังไม่เหลือเลยแม้แต่คนเดียว!
ด้านล่างของตำหนักิหุน ท่าทางของิเฉินเหยียนประหลาดใจอย่างมาก ไม่เจอแค่ครึ่งปีิอวี่สามารถควบคุมมีดบินได้ถึงระดับสูงสุดแบบนี้เลยหรือเนี่ย!
ิอู่กับิเยวี่ยอึ้งไปเช่นกัน ในสายตาของพวกเขาสองคนเห็นิอวี่เป็แค่บุคคลเล็กๆ ที่แทบไม่อยู่ในสายตาเลย ต่อให้เขาได้อันดับหนึ่งในงานประลองยุทธ์ของราชสำนัก พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจอะไรเลย
เพราะพวกเขารู้สึกว่าิอวี่ก็คงทำได้แค่นั้น ต่อให้ิอวี่จะร้ายกาจมากกว่านี้ก็ไม่มีทางเหนือไปกว่าพวกเขาได้อย่างแน่นอน
แต่ใครจะไปคิดว่าในเวลาแค่ครึ่งปี น้องชายที่อายุห่างจากพวกเขาสามถึงสี่ปี ไม่เพียงไม่หลบอยู่หลังของพวกเขา แต่ยังยืนป้องกันภัยอันตรายทุกอย่างให้กับพวกเขาอีกด้วย!
พวกเขาไม่เคยเป็ตัวอย่างที่ดีให้เลย แต่ิอวี่กลับมีความรับผิดชอบ แสดงความกล้าเยี่ยงวีรบุรุษมากกว่าพี่ชายและพี่สาวที่แก่กว่าเขาถึงสองสามปีอีก
มันทำให้ิอู่กับิเยวี่ยรู้สึกผิดอย่างมาก
“ระวัง!”
ในเวลานี้เอง ิเฉินเหยียนก็ร้องด้วยความใขึ้นมา หลังจากที่เขาพูดจบก็มีแสงสีเืเส้นหนึ่งพุ่งโจมตีเข้าใส่ิอวี่มาจากบนที่สูง
แสงสีเืนั่นมันรวดเร็วมาก ระหว่างที่โจมตีมานั้นแทบไม่มีเสียงสัญญาณหรือลางสังหรณ์ล่วงหน้าให้ิอวี่ได้รู้เลย
เมื่อได้ยินคำเตือนจากิเฉินเหยียน แสงสีเืนั่นก็พุ่งมาตรงหน้าของิอวี่แล้ว
ิอวี่ยิ้มมุมปาก ท่าทางของเขาเ็ามาก ลางสังหรณ์รับรู้ของเขาแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว วินาทีที่แสงสีเืนั่นพุ่งมาเขาก็เอี้ยวตัวหลบไปด้านข้างแล้ว แสงสีเืที่มาพร้อมกับลมผ่านเสื้อของิอวี่ไปอย่างเฉียดฉิว
หลังจากที่ิอวี่หลบแสงสีเืนั้นได้แล้ว มันก็ตกลงไปบนขั้นบันไดหยกขาว และมีเสียงะเิดังสนั่นขึ้นจนเกิดหลุมขนาดใหญ่
ิอวี่หันมองไปตามทางแสงสีเืที่พุ่งมา เขาพบว่าเซิ่นเจิ่นโหวยืนอยู่หน้าตำหนักิหุน ลมปราณในร่างกายของเขาพลุ่งพล่าน เสื้อคลุมสีเืปลิวไสว ในมือของเขากำลังถือคันธนูสีเืและมีควันสีขาวฟุ้งขึ้นมา มันเกิดจากการยิงธนูที่พุ่งออกไปอย่างรุนแรง
ถูกต้องแล้ว เมื่อครู่มันคือลูกศรที่พุ่งออกมาอย่างไร้เสียงและไร้ร่องรอย เป็วิชาการยิงธนูของเซิ่นเจิ่นโหวที่มีชื่อว่า ธนูะเิไร้เงา!
ธนูะเิไร้เงาเป็ทักษะการต่อสู้หลิงระดับสูงสุด เมื่อปล่อยพลังออกมามันจะซ่อนพลังทั้งหมดไว้ในแสงของลูกธนู
เมื่อลูกธนูถูกยิงออกไปจะมีความรวดเร็วดั่งสายฟ้า ไร้เสียง ไม่มีลมปราณ ไร้เงาและรูปร่าง แต่หากพุ่งเข้าเป้าแล้วพลังทั้งหมดก็จะะเิออกมาจนทำให้ศัตรูตายได้ในทันที
เซิ่นเจิ่นโหวเอาจริงแล้ว เขา้าขวางิอวี่เอาไว้ให้ได้ รวมไปถึงสังหาริอวี่ด้วย!
นักรบเืเ่าั้เซิ่นเจิ่นโหวบ่มเพาะมานานถึงสามปี แต่กลับถูกิอวี่สังหารทิ้งภายในไม่กี่นาทีเท่านั้น มันเป็ความทุ่มเททั้งกาย ใจ และกำลังทรัพย์ของเขาอย่างมหาศาล!
ถูกต้อง เซิ่นเจิ่นโหวประเมินความสามารถของิอวี่ต่ำไปทำให้นักรบเืของเขาตายหมด แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะกลัวิอวี่ เพราะอันที่จริงเขามีพลังเทียบเท่าราชสีห์เก้าพันตัวแล้ว!
นอกจากตี้หลิงเสวียนกับิเฉินเหยียนแล้ว เซิ่นเจิ่นโหวก็คือคนที่แข็งแกร่งที่สุด ตอนนี้เขาง้างธนูขึ้นอีกครั้งและะเิพลังเทียบเท่าราชสีห์เก้าพันตัวออกมา คันธนูของเขาเป็สีแดงเื ลมปราณพลุ่งพล่านเข้าสู่ลูกธนูของเขา
ลูกธนูไร้เงาพุ่งออกมาอีกครั้ง ทุกคนเห็นแค่เศษเงาของมัน แต่ิอวี่ก็ยังสามารถหลบไปได้อีกครั้ง ทำให้ลูกธนูพุ่งไปลงที่ขั้นบันไดหยกขาวจนแตกร้าวอีกครั้ง
ระลอกคลื่นการะเิของลูกธนูดอกนี้แผ่กระจายไปทั่ว ทำให้เกิดลมซัดใส่หน้าของคนอื่นๆ
สีหน้าของิเฉินเหยียนในเวลานี้เคร่งเครียดมาก เพราะเขารู้จักความสามารถของเซิ่นเจิ่นโหวดี รู้ว่าอานุภาพของธนูะเิไร้เงาของเขานั้นมันแข็งแกร่งแค่ไหน
แต่อานุภาพของมันในคราวนี้เหมือนจะเหนือกว่าเมื่อก่อนมาก นั่นก็หมายความว่าธนูะเิไร้เงาไม่ได้มีพลังเทียบเท่าราชสีห์แปดพันตัวเท่านั้น จากการประเมินของิเฉินเหยียน เซิ่นเจิ่นโหวเหมือนจะมีพลังเทียบเท่าราชสีห์เก้าพันตัว!
เมื่อครู่ิอวี่หลบลูกธนูไปได้สองดอกก็ถือว่าแข็งแกร่งพอตัว ส่วนการโจมตีของเซิ่นเจิ่นโหวนั้นก็ดุดัน ิอวี่คงยากที่จะรับมือได้!
เดิมิเฉินเหยียนคิดอยากจะให้ิอวี่เลี่ยงอันตรายไป แต่ในเวลานี้การโจมตีของเซิ่นเจิ่นโหวที่แท้จริงได้เริ่มขึ้นแล้ว!
“เ้าคนไม่เอาไหน ข้าจะฆ่าเ้าให้ดู!”
เซิ่นเจิ่นโหวมองลงมาจากลาน้า เขาะเิพลังทั้งหมดออกมา กล้ามเนื้อแขนทั้งสองข้างเป่งจนเห็นเส้นเืและเส้นเอ็น เขาง้างธนูขึ้นอีกครั้งแล้วยิงใส่ิอวี่ ลูกธนูถูกยิงออกไปต่อเนื่องโดยแทบไม่ได้หยุดพักเลย
แขนของเซิ่นเจิ่นโหวราวกับเงา ลูกธนูสีเืพุ่งออกไปแทบไร้ร่องรอย แต่ละดอกพุ่งไปตามวิถีการวิ่งของิอวี่
ในเวลานี้เซิ่นเจิ่นโหวนั้นมั่นใจอย่างมาก ทักษะมีดบินของิอวี่ร้ายกาจมากก็จริง แต่ภายใต้การโจมตีที่ดุดันของเขา ิอวี่ทำได้แค่หนีแบบทุลักทุเลจึงไม่มีโอกาสควบคุมมีดบินของเขาได้เลย!
อีกอย่าง ต่อให้ิอวี่ใช้มีดบินมาโจมตีเขา ด้วยพลังเทียบเท่าราชสีห์เก้าพันตัวที่เขามีนั้นทำให้เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกกลัวิอวี่เลย!
ลูกธนูดอกหนึ่งะเิพลังพุ่งทะลวงอากาศมาเพื่อขัดขวางไม่ให้ิอวี่เดินก้าวขึ้นมาอีก แต่ในเวลานี้ิอวี่กลับถ่ายพลังเข้าสู่จุดเซินถิง จิตสำนึกของเขาแข็งแกร่งและทำให้มีความชัดเจนมากขึ้น ลูกธนูสีเืดอกนั้นมีความรวดเร็วมาก แต่ท่ามกลางการมองเห็นของิอวี่มันกลับเป็ระดับความเร็วที่ปกติมาก!
ิอวี่หลบหลีกท่ามกลางลูกธนูราวห่าฝน ด้านหลังของเขามีเสียงะเิดังสนั่นจากการที่ลูกธนูพุ่งตกลงไปที่ขั้นบันได ระหว่างที่ิอวี่หลบหลีกเขาก็ก้าวขึ้นไปเรื่อยๆ ขยับเข้าใกล้เซิ่นเจิ่นโหวไปทีละน้อย!
เซิ่นเจิ่นโหวคิดไม่ถึงเลยว่าิอวี่จะว่องไวได้ถึงขนาดนี้ เขาง้างธนูของเขาขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเขาอยู่ใกล้กับิอวี่มากแล้ว มันจะทำให้ิอวี่ตั้งตัวได้ช้าลงแน่นอน
ลูกธนูพุ่งทะลวงอากาศออกไปอีกครั้ง คราวนี้พุ่งตรงมาที่หน้าอกของิอวี่โดยตรง ิอวี่วิ่งเฉียงขึ้นไปด้านหน้า ลูกธนูสีเืเฉียดไหล่ซ้ายไป แรงกำลังของมันทำให้เสื้อที่แขนซ้ายฉีกขาด
ในใจของเซิ่นเจิ่นโหวตะลึงมาก เขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าิอวี่จะคล่องแคล่วว่องไวมากขนาดนี้ เขาหลบลูกธนูได้หลายดอกและยังสามารถพุ่งมาตรงหน้าของเขาด้วย
ในเวลานี้เซิ่นเจิ่นโหวระวังตัวอย่างสูงสุดแล้ว สิ่งแรกที่เขาจะทำก็คือการเว้นระยะให้ห่างจากิอวี่ เพราะเขาก็ให้ความสำคัญกับมีดบินของิอวี่ไม่น้อย
แต่ิอวี่เหมือนเดินอยู่กลางอากาศ เขาใช้เท้าแตะเมฆาพุ่งตรงไปทางด้านข้างของเซิ่นเจิ่นโหว
เขากำหมัดแล้วซัดใส่เซิ่นเจิ่นโหวในทันที
เซิ่นเจิ่นโหวััได้ว่า หมัดนี้ไม่ได้มีลมปราณอะไรเลย มันไม่ได้มีพลังสังหารของผู้กล้าขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนเลยแม้แต่น้อย!
นั่นก็หมายความว่า หมัดของิอวี่เป็แค่หมัดที่มีกำลังธรรมดาทั่วไป ไม่ได้มีลมปราณสังหารอะไรเลย
“เ้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับกำลังเลย”
เซิ่นเจิ่นโหวยิ้มอย่างดูถูก ในเมื่อิอวี่เอาตัวมาชนกระบอกปืนเอง เขาก็จะทำให้ิอวี่ได้รู้ว่าพลังเทียบเท่าราชสีห์เก้าพันตัวนั้นมันน่ากลัวแค่ไหน!
เซิ่นเจิ่นโหวเก็บธนูแล้วยกแขนขวาขึ้นมา เขาพุ่งตัวเข้าหาิอวี่โดยไม่ได้ใช้ลมปราณเหมือนกัน เขาใช้แค่กำลังเทียบเท่าราชสีห์เก้าพันตัวเท่านั้น หมัดของเขาพุ่งทะลวงอากาศไปชนเข้ากับหมัดขวาของิอวี่!
เสียงกระดูกชนกันดังลั่นราวกับแผ่นดินไหว เสียงะเืเข้าหูของทุกคน เซิ่นเจิ่นโหวบ้ากำลังมาก แต่ขณะที่หมัดขวาของเขาเข้าพุ่งชนเข้ากับหมัดขวาของิอวี่นั้น หมัดของเขาก็เปลี่ยนรูปไป มือของเขากระดูกแตกทันที เซิ่นเจิ่นโหวสีหน้าแย่อย่างมาก ใบหน้าของเขาซีดเซียว จากนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าหมัดขวาของิอวี่นั้นมีกำลังมหาศาลแฝงอยู่
กระดูกหมัดขวาของเขาแตก ความเ็ปที่เกิดขึ้นมันทำให้สีหน้าของเซิ่นเจิ่นโหวนั้นทั้งซีดและคล้ำเขียว!
แต่ความเ็ปนี้มันยังไม่จบลง เกิดเสียงกระดูกดังลั่นอีก เพราะหมัดขวาของิอวี่ที่หนักแน่นราวกับูเาที่หนักกว่าร้อยล้านตันทำให้กระดูกแขนขวาของเขาทั้งหมดถูกพลังของิอวี่พุ่งทะลวงจนแตกละเอียด!
“อ๊า!”
ความเ็ปนั้นทำให้สีหน้าของเซิ่นเจิ่นโหวเขียวจนม่วง
เซิ่นเจิ่นโหวคิดไม่ถึงเลยว่ากำลังของิอวี่จะมีมากขนาดนี้ หมัดเดียวแบบไม่ใช้ลมปราณกลับทำให้กระดูกแขนขวาของเขาแตกละเอียดได้ขนาดนี้!
มันทำให้เซิ่นเจิ่นโหวรู้สึกว่ากำลังของิอวี่นั้นน่าจะเทียบเท่าราชสีห์หนึ่งหมื่นตัว ไม่ ... น่าจะเกินหนึ่งหมื่นด้วย หรืออาจจะมากกว่านั้น มันเหมือนหลุมที่ไร้ก้น ไม่รู้ว่าอยู่ในระดับไหนกันแน่!
เซิ่นเจิ่นโหวมีสีหน้าที่หวาดกลัวปรากฏออกมา เขารู้ว่ากำลังของิอวี่เหนือกว่าเขาหลายเท่าตัว แต่ตอนนี้เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าิอวี่แข็งแกร่งกว่าเขาเท่าไi
จู่ๆ เขาก็พบว่าตนนั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพลังของอีกฝ่ายเลย!
ท่ามกลางสีหน้าที่นิ่งเรียบ หมัดขวาของิอวี่ไม่ได้หยุดเลย เขาเอาพลังที่เหลือของเขาซัดหมัดเข้าไปที่หน้าอกของเซิ่นเจิ่นโหวอีก จนเซิ่นเจิ่นโหวตกลงมาจากตำหนักิหุน
เซิ่นเจิ่นโหวกลิ้งอยู่กลางอากาศราวกับหมาและสุดท้ายก็ตกลงไปจนเกิดหลุมขนาดใหญ่ เขานอนอยู่กลางหลุมขนาดใหญ่นั้น กระอักเื ตาเหลือก ไม่รู้ว่าตายหรือเปล่า
ทุกคนได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็อดสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ไม่ได้ ิอวี่ใช้กระบวนท่าที่ธรรมดามาก แค่หมัดที่ไม่มีลมปราณก็เล่นงานเซิ่นเจิ่นโหวได้แล้ว มันจะต้องมีกำลังที่น่ากลัวแค่ไหนกันเชียวถึงจะทำแบบนี้ได้!
สายตาที่ิเฉินเหยียนมองไปที่ิอวี่อึ้งอย่างมาก เขานึกภาพไม่ออกเลยว่าิอวี่มีกำลังที่น่ากลัวถึงขนาดไหนกัน
ส่วนพระสนม องค์ชายองค์หญิงที่อยู่ด้านข้าง พวกเขาก็ถึงขั้นตกตะลึงช็อคไป
โดยเฉพาะิอู่กับิเยวี่ย ในใจของพวกเขาไม่มีความรู้สึกผิดที่ไม่ได้เป็แบบอย่างที่ดีให้ิอวี่แล้ว แต่กลับกัน ตอนนี้กลับเห็นิอวี่เป็แบบอย่างของพวกเขาสองคนแทน!
ตอนนี้พวกเขารู้สึกว่าตนเองนั้นโชคดีมาก เพราะพวกเขามีสายเืเดียวกับิอวี่ พวกเขารู้สึกภูมิใจในตัวของิอวี่อย่างมาก!
ิอวี่ได้เดินขึ้นไปจนถึงลาน้าแล้ว เขามองไปที่ตี้หลิงเสวียนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้บัลลังก์ จากนั้นก็ชี้นิ้วไปแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เ็าว่า “ลงมาจากบัลลังก์ัเดี๋ยวนี้”
