ถึงเจิ้งซวี่เหยาจะมีอายุมากกว่าหมี่หลันหยางและเพื่อนๆ ถึงสิบปี แต่ด้วยการใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน ทำให้เขามีความคิดที่เปิดกว้าง ไม่ใช่คนหัวเก่าคร่ำครึ เขาพูดคุยกับเด็กๆ เหล่านี้อย่างสนุกสนาน และต่างก็ยอมรับซึ่งกันและกันอย่างรวดเร็ว
"อาจารย์เจิ้ง อาจารย์สอนวิชาอะไรเป็พิเศษเหรอครับ พวกผมไปลงทะเบียนเรียนกับอาจารย์ได้ไหมครับ"
เฉียนหย่งจิ้นเป็คนประเภทที่สนิทกับคนง่ายอยู่แล้ว ตอนนี้เขาคุยกับเจิ้งซวี่เหยาอย่างเป็กันเองราวกับรู้จักกันมานาน
"ฉันสอนบริหารธุรกิจ และอาจจะควบสอนวิชาการเงินบางส่วนด้วย"
"ว้าว อาจารย์เจิ้ง อย่างนั้นอาจารย์ก็ต้องสอนพวกเราสิครับ"
เฉียนหย่งจิ้นตื่นเต้นขึ้นไปอีก เจิ้งซวี่เหยามองนักเรียนตรงหน้าด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
"ทำไม พวกเธอเรียนบริหารธุรกิจกันหมดเลยเหรอ"
เฉียนหย่งจิ้นพยักหน้าจนหัวแทบหลุด
"ใช่ครับๆ พวกเราห้าคนเรียนคณะบริหารธุรกิจทั้งหมด เพียงแต่ต้าเฟยเน้นไปทางบัญชีเป็พิเศษ"
นี่เป็สิ่งที่เหนือความคาดหมายของเจิ้งซวี่เหยาอย่างมาก เพราะในสภาพแวดล้อมปัจจุบันของประเทศ คนที่เรียนบริหารธุรกิจยังถือว่าไม่มากนัก
"พวกเธอเรียนบริหารธุรกิจ งั้นที่เลือกเรียนนี่เป็เพราะทางบ้านเลือกให้ หรือว่าพวกเธอเลือกกันเอง"
ถ้าเป็ทางบ้านเลือกให้ แสดงว่าผู้ปกครองเหล่านี้สายตายาวไกล แต่ถ้าเป็เด็กๆ เหล่านี้เลือกกันเอง อนาคตของพวกเขาก็คงไม่อาจประเมินได้
"ไม่ใช่ทั้งสองอย่างครับ คณะที่เราเรียนเป็หลันเยว่ช่วยกำหนดให้ครับ เธอว่าเรียนอะไรแล้วจะเป็ประโยชน์กับอนาคตของเรา เราก็จะเรียนวิชานั้นครับ หลันเยว่คือทิศทางที่เราจะเดินตาม"
ตอนที่เฉียนหย่งจิ้นพูดถึงหมี่หลันเยว่ ดวงตาของเขาก็เป็ประกาย เจิ้งซวี่เหยาอดไม่ได้ที่จะมองเขาเป็พิเศษ
เ้าหนุ่มคนนี้ดูเหมือนกำลังตกอยู่ในห้วงรักแรก แต่ดูเหมือนว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นจะยังไม่ทันสังเกตเห็น
"ใช่ครับ พวกเราตัดสินใจตามคำแนะนำของน้องสาวทั้งหมด เพราะในอนาคตพวกเราจะต้องช่วยเหลือน้องสาว เรียนอะไรที่เป็ประโยชน์กับน้องสาว พวกเราก็ต้องเรียนสิ่งนั้นครับ"
หมี่หลันเยว่ฟังแล้วรู้สึกซาบซึ้ง แต่ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
"ที่ฉันให้พวกพี่เรียนแบบนี้ ก็เพราะหวังว่าพวกพี่จะมีอนาคตที่ดีขึ้น อนาคตของจีนจะต้องพัฒนาด้านเศรษฐกิจอย่างแน่นอน พื้นฐานทางเศรษฐกิจเป็ตัวกำหนดโครงสร้างทางสังคม มีแต่ประเทศชาติที่เข้มแข็ง จีนถึงจะก้าวหน้าไปได้อีกขั้น ดังนั้นการพัฒนาเศรษฐกิจจึงเป็สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้"
แม้เจิ้งซวี่เหยาจะประทับใจในตัวเด็กผู้หญิงคนนี้มากแล้ว แต่เขาก็ไม่คิดว่าเธอยังคงทำให้เขาประหลาดใจได้อีก เด็กสาวคนนี้ดูเหมือนจะอายุน้อยกว่าเด็กหนุ่มเหล่านี้ แต่กลับสามารถทำให้พวกเขาเชื่อมั่นได้ขนาดนี้ แสดงว่าเธอมีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดใจมาก
"หลันเยว่พูดถูกแล้ว อนาคตของจีนขึ้นอยู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่ตอนนี้เรายังล้าหลังอยู่บ้าง และสายตาของคนจำนวนมากก็ไม่ได้จับจ้องไปที่ด้านนี้ ดังนั้นการที่จีนจะยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งขึ้นได้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับคนรุ่นพวกเธอแล้ว"
"หลันเยว่มีสายตาที่เฉียบแหลมมาก ประเทศของเราเริ่มทำการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจแล้ว สิ่งนี้จะทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยที่เริ่มต้นธุรกิจเป็กลุ่มแรก ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างผ่อนคลาย และยังเป็ประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในอนาคตด้วย"
เจิ้งซวี่เหยารู้สึกว่า เด็กสาวคนนี้ยังมีคุณสมบัติบางอย่างที่เขาไม่เข้าใจ แต่ในเมื่อเธอเรียนบริหารธุรกิจ ก็แสดงว่าเธออยู่ในความดูแลของเขาแล้ว ต่อไปก็คงมีโอกาสทำความเข้าใจเธอให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ตอนนี้เขาสนใจในตัวเด็กสาวคนนี้มาก
"อาจารย์เจิ้ง ถึงอาจารย์จะได้รับการแต่งตั้งเป็อาจารย์พิเศษ แต่การที่อาจารย์มาถึงมหาวิทยาลัยเร็วขนาดนี้ แสดงว่าบ้านของอาจารย์อยู่ในปักกิ่งใช่ไหมคะ"
คำถามของหลันเยว่ หมุนวนอยู่ในใจเธอครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจถามออกมา
"ใช่แล้ว บ้านของอาจารย์อยู่ในปักกิ่ง พอกลับไปถึงปักกิ่ง อาจารย์ก็เป็เ้าถิ่นแล้ว งั้นให้อาจารย์ได้ทำหน้าที่เ้าบ้าน เลี้ยงข้าวพวกเธอให้ดีๆ หน่อย"
เจิ้งซวี่เหยาก็ชอบนักเรียนเหล่านี้มากเช่นกัน แม้จะเพิ่งเจอกันได้ไม่นาน แต่ก็มองออกว่าพวกเขามีความคิดและวิสัยทัศน์ที่ดี
เขาคิดว่า นักเรียนเหล่านี้จะต้องเป็กลุ่มที่โดดเด่นที่สุดในรุ่นนี้ บางที อนาคตของพวกเขาอาจจะมีพื้นที่ให้พัฒนาอีกมาก ท้ายที่สุดแล้ว วิสัยทัศน์เป็ตัวกำหนดอนาคต ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังมีเด็กสาวที่ฉลาดหลักแหลมและมีสายตาแหลมคมคนนี้เป็ผู้บัญชาการ อนาคตของพวกเขาจะต้องไม่เลวแน่นอน ดังนั้น เขาจึงยินดีที่จะคบหากับพวกเขา และอยากจะดูว่าอนาคตของพวกเขาจะไปได้ไกลแค่ไหน
"อาจารย์เจิ้ง ไม่ต้องเลี้ยงข้าวก็ได้ค่ะ พอกลับไปถึงปักกิ่ง อาจารย์ก็คงยุ่งกับการอยู่กับครอบครัว ฉันแค่อยากให้อาจารย์บอกพวกเราหน่อยว่า เขตไหนในปักกิ่งเจริญรุ่งเรืองที่สุด เขตไหนที่มีการค้าที่ค่อนข้างดี หรือว่าเขตไหนที่เอื้อต่อการทำธุรกิจส่วนตัวมากกว่ากันค่ะ"
ในเมื่อมีคนปักกิ่งนั่งอยู่ตรงหน้า ก็ต้องใช้ให้เป็ประโยชน์ หมี่หลันเยว่อยากจะสืบข้อมูลบางอย่างจากปากของเจิ้งซวี่เหยา ไม่ว่าจะเป็ประโยชน์ต่อตัวเองหรือไม่ การทำความเข้าใจให้มากขึ้น ก็ดีกว่าไม่รู้อะไรเลย ในชาติก่อน หมี่หลันเยว่ก็แค่เดินทางผ่านปักกิ่ง และแวะพัก่สั้นๆ เท่านั้น จะว่าคุ้นเคยก็คงไม่ได้
"โอ้ หลันเยว่ ทำไมเธอถึงถามเื่นี้ล่ะ"
สำหรับคำถามของหมี่หลันเยว่ เจิ้งซวี่เหยาสนใจมาก เด็กสาวคนนี้ต้องมีจุดประสงค์บางอย่างอย่างแน่นอน เพราะคำถามเหล่านี้มีระดับและมีทิศทางที่ชัดเจนมาก
สำหรับคำถามย้อนกลับของเจิ้งซวี่เหยา หมี่หลันเยว่ลังเลเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจพูดความจริง เธอรู้สึกว่า อาจารย์เจิ้งคนนี้น่าจะพึ่งพาได้ และในเมืองปักกิ่งที่ไม่คุ้นเคยแห่งนี้ บางทีอาจารย์เจิ้งคนนี้อาจจะสามารถให้ความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแก่เธอได้
หมี่หลันเยว่ไม่คิดว่า การตัดสินใจของเธอในครั้งนี้ จะทำให้เธอไม่ต้องเสียเวลาไปกับการลองผิดลองถูกในปักกิ่งไปไม่น้อย แทบจะปูทางสู่ความสำเร็จให้เธอเลย ดังนั้น จนถึงอีกนานแสนนาน เธอก็ยังคงรู้สึกขอบคุณอาจารย์เจิ้งซวี่เหยาคนนี้อยู่เสมอ
"อาจารย์เจิ้ง ฉันขอพูดตรงๆ นะคะ ที่พวกเรามาปักกิ่งก่อนเวลา ไม่ใช่แค่้ามาดูวิวทิวทัศน์ของเมืองหลวง การมาดูวิวทิวทัศน์ไม่จำเป็ต้องมาล่วงหน้านานขนาดนี้ พวกเรามาพร้อมกับภารกิจค่ะ"
หมี่หลันเยว่มองเจิ้งซวี่เหยาด้วยสายตาที่แน่วแน่ เธอหวังว่าอาจารย์คนนี้จะตั้งใจฟังเธอพูด ไม่ใช่คิดว่าคำพูดของเธอเป็เื่ล้อเล่น
"โอ้? ภารกิจเหรอ? ว่ามาสิ"
เมื่อเจิ้งซวี่เหยาได้ยินหมี่หลันเยว่พูดแบบนี้ ก็แสดงสีหน้าที่สนใจขึ้นมาทันที เขาอยากรู้ว่าเด็กสาวคนนี้มีจุดประสงค์อะไรกันแน่ที่มาปักกิ่ง
"อาจารย์เจิ้ง ตอนที่ฉันอยู่ที่บ้านเกิด ฉันทำโรงงานเสื้อผ้า และมีร้านค้าสองร้าน การมาปักกิ่งครั้งนี้ ฉัน้าจะขยายธุรกิจของฉันมาที่นี่ บ้านเกิดของฉันเล็กเกินไป ไม่สามารถทำความฝันของฉันให้เป็จริงได้ ฉันอยากจะสร้างชื่อเสียงในปักกิ่งค่ะ"
"เพียงแต่พวกเรายังไม่ค่อยเข้าใจปักกิ่ง ฉันก็รู้ว่าการเริ่มต้นธุรกิจนั้นยากลำบากมาก แต่พวกเราได้เตรียมตัวมาพร้อมแล้ว โชคดีที่ได้เจออาจารย์ หวังว่าคุณจะสามารถให้ความช่วยเหลือแก่พวกเราบ้าง ให้การเริ่มต้นธุรกิจของพวกเราเป็ไปอย่างราบรื่น"
ไม่คิดว่าเด็กสาวจะพูดกับเขาโดยไม่ปิดบัง ทำให้เจิ้งซวี่เหยาสนใจในตัวหมี่หลันเยว่มากยิ่งขึ้น ดูเหมือนว่าเด็กสาวคนนี้จะมีความมั่นใจในการรู้จักคนสูงมาก การที่ได้ัักับเขาใน่เวลาสั้นๆ ก็เลือกที่จะเชื่อใจเขาแล้ว สายตาและความกล้าหาญนี้ ทำให้เขามองข้ามเธอไปไม่ได้จริงๆ
"ตอนนี้พูดไป เธอก็คงไม่เข้าใจมากนัก ในเมื่อเธอเชื่อใจฉัน งั้นให้ฉันเป็คนนำทางให้พวกเธอ พาพวกเธอไปเดินเล่นในปักกิ่งให้ทั่ว การไปสังเกตและศึกษาในสถานที่จริงเท่านั้น ถึงจะทำให้พวกเธอมีความเข้าใจในปักกิ่งมากขึ้น"
ไม่คิดว่าอาจารย์เจิ้งจะพูดง่ายขนาดนี้ ทำให้หมี่หลันเยว่รู้สึกเกรงใจ
"นี่มันรบกวนเวลาของอาจารย์มากเกินไป อาจารย์เจิ้ง แค่บอกพวกเราคร่าวๆ ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวพวกเราถือแผนที่ไปเดินเล่นเอง"
เธอเกรงว่าจะรบกวนเวลาของเจิ้งซวี่เหยามากเกินไป เจิ้งซวี่เหยากลับส่ายหน้า
"เธอไม่ต้องเกรงใจฉันหรอก หลันเยว่ การที่ฉันกลับประเทศในครั้งนี้ ก็้าที่จะพัฒนาธุรกิจของตัวเองเหมือนกัน ฉันอยากจะนำแิทางการเงินและประสบการณ์ภาคปฏิบัติที่ฉันได้เรียนรู้มาจากต่างประเทศ กลับมาสู่ประเทศจีน"
"ดังนั้น ฉันก็ต้องไปเดินเล่นในที่ต่างๆ ในปักกิ่งเหมือนกัน ยังไงซะ ฉันก็ไม่ได้กลับมาสองปีแล้ว ก็เพราะธุรกิจในต่างประเทศ ถึงได้รับกลับมาบ้านในตอนนี้ ปักกิ่งสำหรับฉันก็ไม่ได้คุ้นเคยมากนัก ในเมื่อฉันก็ต้องไปเดินเล่นอยู่แล้ว งั้นพาพวกเธอไปด้วยกันดีกว่า"
"ทุกคนจะได้มีเพื่อนร่วมทาง และเธอก็เป็นักเรียนของฉันด้วย นักเรียนมีข้อเรียกร้องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ ในฐานะที่เป็อาจารย์ ก็ต้องช่วยอยู่แล้ว แค่ไปเดินเล่นเท่านั้น ไม่ใช่ข้อเรียกร้องที่ใหญ่โตอะไร ตอบสนองได้ง่ายมาก จะมีอะไรที่ไม่สามารถทำได้"
เมื่อได้ยินว่าจะไม่รบกวนเจิ้งซวี่เหยา หมี่หลันเยว่ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา
"งั้นก็รบกวนอาจารย์เจิ้งด้วยค่ะ หลังจากที่ถึงปักกิ่งแล้ว อาจารย์ช่วยให้เบอร์ติดต่อกับพวกเราหน่อยนะคะ พอพวกเราหาที่พักได้แล้ว พวกเราจะไปหาอาจารย์ที่บ้าน รบกวนอาจารย์อีกครั้ง ขอบคุณอาจารย์เจิ้งอีกครั้งนะคะ"
เด็กสาวคนนี้พูดจาตรงไปตรงมามาก ความตรงไปตรงมานี้ ตรงกับรสนิยมของเจิ้งซวี่เหยามาก เขารีบพยักหน้ารับ แต่ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า
"พวกเธอไปปักกิ่งแล้วต้องหาที่พักเองเหรอ"
หมี่หลันเยว่ยังไม่ทันได้พูดอะไร หมี่หลันหยางที่อยู่ข้างหลังเธอก็จับเอวเธอเบาๆ เขาไม่คิดว่าน้องสาวจะเปิดเผยข้อมูลให้คนอื่นง่ายๆ แบบนี้ ปกติเธอไม่ใช่คนแบบนี้ ทำอะไรก็ระมัดระวัง เพราะน้องสาวฉลาด เขาถึงไม่ได้ขัดขวาง
แต่ตอนนี้ เห็นน้องสาวกำลังจะบอกคนอื่นว่าจะพักที่ไหน ทำให้หมี่หลันหยางร้อนใจขึ้นมา แน่นอนว่าการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ของเขา ไม่ได้รอดพ้นสายตาของเจิ้งซวี่เหยาไป เพียงแต่เจิ้งซวี่เหยาไม่ได้แสดงท่าทีอะไร เขาอยากจะดูปฏิกิริยาของเด็กสาวคนนี้
"ใช่ค่ะ พอพวกเราไปถึงปักกิ่ง ก็ต้องหาที่พักเอง ไม่รู้ว่าอาจารย์เจิ้งพอจะมีคำแนะนำอะไรบ้างไหมคะ ให้พวกเราไม่ต้องเสียเวลาและเสียเงินโดยใช่เหตุ"
แม้หมี่หลันเยว่จะถูกพี่ชายบีบจนเจ็บ แต่เธอก็อดทนและไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา ทำให้เจิ้งซวี่เหยาแอบชื่นชมในใจ
"หลันเยว่ พี่ชายของเธอนี่ระมัดระวังกว่าเธอเยอะเลยนะ"
เจิ้งซวี่เหยาเปิดเผยหมี่หลันหยางอย่างตรงไปตรงมา ทำให้หมี่หลันหยางหน้าแดง แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกกระอักกระอ่วนอะไรมากนัก
"พวกเรามาปักกิ่งเพื่อค้นหาอนาคตของพวกเรา แน่นอนว่าต้องระมัดระวังหน่อย ไม่ว่าคุณจะเป็อาจารย์ หรือคนอื่นๆ พวกเราก็เพิ่งเจอกันครั้งแรก"
"ฉันชอบทัศนคติของเธอแบบนี้ ไม่ปิดบังอะไรแบบนี้ ยิ่งแสดงให้เห็นว่าเธอมีจิตใจที่เปิดกว้าง หนุ่มสาวนี่ดีจริงๆ มีเวลามากกว่าที่จะค้นหาอนาคต ฉันแก่แล้ว เพียงแต่ในสายตาของฉัน พวกเธอคืออนาคต"
เจิ้งซวี่เหยาชมเชยจากใจจริง มีจิตใจที่เปิดเผย มีความฉลาดหลักแหลม และยังมีความหนุ่มสาวที่น่าอิจฉาที่สุด
