อิ่งส่ายศีรษะและตอบว่า “นายท่าน นี่คือกฎระเบียบของหน่วยองครักษ์เงาอย่างเราขอรับ”
“งั้นเ้าก็ลองถอดให้ข้าดูหน่อยสิ? ” หร่านซวี่จือยังคงตอแยและเอ่ยถาม
อิ่งรู้สึกลำบากใจเป็อย่างมาก “นายท่าน…”
“ฮ่าๆๆ ” หร่านซวี่จือหัวเราะและเอ่ยขึ้น “ข้าไม่แกล้งเ้าก็ได้ ไม่อยากถอดก็ไม่เป็ไร”
เมื่อเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง หร่านซวี่จือก็เอ่ยถามขึ้น “อิ่ง เ้ามีพี่น้องหรือไม่? ”
“ครอบครัวของข้ามีพี่ชายอยู่หนึ่งคนขอรับ”
หร่านซวี่จือนิ่งเงียบไปสักพักแล้วเอ่ย “เวลาพวกเ้าอยู่ด้วยกัน มักจะเล่นด้วยกันอย่างไรหรือ? ”
อิ่งมองหร่านซวี่จือด้วยความสงสัยเล็กน้อยแต่เขาก็ตอบคำถามอย่างจริงจัง “ในวัยเด็ก พี่ชายมักจะพาไปปีนต้นไม้ด้านนอกขอรับ”
ปีนต้นไม้?
ตนเองโตเพียงนี้แล้วทำเช่นนี้คงแปลกไปกระมัง?
หร่านซวี่จือส่ายศีรษะ
อิ่งนิ่งเงียบไปชั่วครู่แล้วเอ่ยถาม “นายท่านกำลังคิดเื่คุณชายน้อยใช่หรือไม่ขอรับ? ”
หร่านซวี่จือถอนหายใจ “เฮ้อ ข้าไม่เคยมีพี่น้องมาก่อน การจะดูแลน้องชายเช่นนี้ ก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรจึงจะทำให้เขาเปิดใจกับข้าได้ ทำให้ข้าสับสนและทำอะไรไม่ถูก”
อิ่งลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเอ่ยว่า “นายท่านไม่ต้องกังวลไปขอรับ นายท่านจินเป็คนที่ตรงไปตรงมาและจริงใจกับผู้คน แม้ว่าเบื้องหน้าคุณชายน้อยจะไม่ยอมรับ แต่ต้องเป็คนที่จิตใจดีมีเมตตาอย่างแน่นอน ยังมีเวลาอีกนานขอรับ”
หร่านซวี่จือทอดถอนใจ “นั่นสิ ยังมีเวลาอีกนาน”
หร่านซวี่จือ: “สองสามสาม นายว่าครั้งนี้ฉันจะมีโอกาสได้เจอกับสุดที่รักของฉันหรือเปล่า? ”
ระบบ: “…กระผมไม่ทราบครับ”
หร่านซวี่จือ: “จะเป็จินเฟิงหรือเปล่านะ? เขาน่าจะเกลียดชังฉันมากนะ”
ระบบ: “คนในโลกนี้ส่วนใหญ่ต่างเกลียดชังคุณรัน แม้ว่าจะไม่ได้แสดงออกมา แต่ก็รู้สึกในใจครับ”
หร่านซวี่จือ: “อืม นายพูดมีเหตุผลมากเลย”
หร่านซวี่จือ: “แต่อิ่งคงจะไม่เกลียดฉันหรอกใช่ไหม? ”
ระบบ: “คุณรัน้าดูแถบความประทับใจไหมครับ? ”
หร่านซวี่จือ: “หือ มีตัวเลือกแบบนี้ด้วยหรือ? ”
ระบบ: “เป็รางวัลจากการทำภารกิจสำเร็จในโลกที่แล้วครับ แต่สามารถเปิดใช้งานได้เพียงครั้งเดียว และจากนั้นก็จะไม่สามารถใช้งานได้อีก แน่นอนว่าจะช่วยให้คุณรันทำภารกิจต่อไปได้อย่างแน่นอนครับ”
หร่านซวี่จือ: “นายช่วยเปิดให้ฉันดูหน่อย”
หลังจากมีเสียงดัง ‘ติ๊ดๆๆ ’ ขึ้นในสมอง และหร่านซวี่จือลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็เห็นตารางขนาดใหญ่ที่ฉายขึ้นกลางอากาศซึ่งบนนั้นมีชื่อระบุไว้มากมาย ส่วนด้านหลังก็คือระดับความประทับใจเริ่มต้น
หร่านซวี่จือไล่อ่านลงมาเรื่อยๆ คะแนนความประทับใจของจินเฟิงนั้นต่ำจนทะลุผืนดินตามคาด ซึ่งก็คือ ลบหนึ่งหมื่น
หร่านซวี่จือ: …ตัวเลขนี้คุ้นตาจริงๆ
แต่สิ่งที่ทำให้หร่านซวี่จือถึงกับตกตะลึงก็คือ อิ่ง องครักษ์เงาที่จงรักภักดีกับตนเองที่สุดก็มีระดับความประทับใจที่ติดลบเช่นเดียวกัน แม้ว่าจะไม่ได้ติดลบอย่างเช่นของจินเฟิงแต่ก็นับว่าติดลบมากพอสมควร
หร่านซวี่จือ: “สองสามสาม ตารางของนายนี่มันอะไรกัน? ฐานข้อมูลผิดเพี้ยนหรือเปล่า? ”
ระบบ: “คุณรันครับ ข้อมูลถูกต้องแน่นอนครับ”
หร่านซวี่จือ: “แล้วทำไมระดับความประทับใจของอิ่งถึงต่ำขนาดนั้น? เป็ไปได้อย่างไร? ”
ระบบ: “คุณรันครับ ระดับความประทับใจกับระดับความจงรักภักดีมันคนละส่วนกันนะครับ”
หร่านซวี่จือถึงกับตะลึงงัน
แต่เื่ราวก็ดูเหมือนจะเป็เช่นนั้น เพราะอิ่งเองก็จงรักภักดีต่อเขาและไม่ทรยศ นี่คือจรรยาบรรณในเส้นทางอาชีพ แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าเขามีความชื่นชอบในตัวหร่านซวี่จือแต่อย่างใด
ในอดีต ร่างเดิมเคยก่อเื่ที่เลวร้ายอย่างไม่น่าให้อภัยมากมาย ซึ่งอิ่งคือผู้ที่ติดตามเขามากที่สุด ก็ย่อมเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตา แม้ว่าการกระทำของหร่านซวี่จือจะเปลี่ยนไปอย่างมากในสามวันมานี้ แต่ในใจอิ่งก็ไม่ได้เปลี่ยนไปแต่อย่างใด
หร่านซวี่จือจึงรู้สึกเศร้าในใจ
ถัดจากนั้นก็พลิกดูไปเรื่อยๆ แล้วหร่านซวี่จือก็ต้องเบิกตาโต
มีคนหนึ่งที่ระดับความประทับใจสูงอย่างมาก
หร่านซวี่จือมองไปที่ชื่อของคนคนนั้นคือหลิงอวิ้น
หลิงอวิ้น?
หญิงสาวที่หน้าตาคล้ายกับไป๋หลิงฮัวคนนั้นน่ะหรือ?
หร่านซวี่จือตกตะลึง
ในภาพความทรงจำนั้นหลิงอวิ้นกับร่างเดิมไม่เคยได้พบปะกัน แต่ทำไมระดับความประทับใจจึงสูงเช่นนี้? สูงจนเกือบแตะแปดสิบซึ่งสูงจนสะดุดตาจากระดับความประทับใจเพียงหนึ่งหรือสองของคนอื่นๆ
เห็นทีอีกหน่อยต้องหาเวลาไปสำรวจดูเสียหน่อย
หร่านซวี่จือให้ระบบปิดตารางแล้วลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ สาวรับใช้ที่อยู่รอบๆ รีบมาช่วยเขาเช็ดจนเนื้อตัวสะอาด จากนั้นก็คลุมด้วยชุดนอนที่นุ่มลื่น
หร่านซวี่จือเดินหาวกลับเข้าห้อง
จินเฟิงยังเป็เพียงเด็กที่ไร้ซึ่งสิ่งอื่นใด นอกเสียจากสถานะน้องชายของเ้าสำนักชิงหยาเก๋อ หร่านซวี่จือจึงสั่งให้หวังเซวียนหาอาจารย์มาให้จินเฟิงสี่ห้าคน ทั้งดีดพิณ เล่นหมาก วาดภาพ วรยุทธ์และการขี่ม้า ครบครันทุกด้านจนความเฟื่องฟูนั้นเกือบเรียกได้ว่าเทียบเคียงกับเชื้อพระวงศ์ได้เลย
กระนั้น การร่ำเรียนของจินเฟิงที่เพิ่งเริ่มไปได้ไม่ถึงสามวัน ก็กลับเกิดเหตุการณ์ขึ้น
“ไม่ยอมรับ? ” หร่านซวี่จือขมวดคิ้ว “เ้าบอกว่านอกจากหรวนเสี่ยวเหอแล้ว อาจารย์ท่านอื่นไม่ยอมสอนแล้วอย่างนั้นหรือ? ”
หวังเซวียนท่าทีเหมือนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ “นายท่าน อาจารย์ทั้งหมดต่างก็บอกว่าคุณชายน้อยนิสัยดื้อรั้น ไม่มีเหตุผล พวกเขาจึงต่างพากันประท้วงและไม่ยอมสอนขอรับ”
“เ้าเด็กนี่สร้างเื่ปวดหัวเก่งจริงๆ ” หร่านซวี่จือนวดขมับ พลางลุกขึ้นจากเก้าอี้ “ข้าขอไปดูหน่อย”
ตอนที่หร่านซวี่จือไป จินเฟิงกำลังเล่นกู่เจิงอยู่กับหรวนเสี่ยวเหอ
นิ้วมือของหรวนเสี่ยวเหอที่ทั้งเรียวและนุ่ม ขาวผุดผ่องล้ำหิมะกำลังััสายพิณอย่างเบามือ เสียงที่ดีดออกมานั้นไพเราะเพราะพริ้งเสนาะหูอย่างมาก
จินเฟิงที่อาจารย์คนอื่นๆ ต่างก็บอกว่าดื้อรั้นและพิเรนทร์ ขณะนี้กำลังนั่งอย่างนิ่งเงียบเรียบร้อย และมองดูหรวนเสี่ยวเหอดีดกู่เจิงอยู่ข้างๆ
หร่านซวี่จือเลิกคิ้วแล้วกระแอมสองที
“นายท่าน” หรวนเสี่ยวเหอสังเกตเห็นหร่านซวี่จือก็รีบลุกขึ้นจากที่นั่ง “นายท่านมาดูเสี่ยวเฟิงเรียนหรือขอรับ? ”
เสี่ยวเฟิง?
สนิทสนมกันเร็วเพียงนี้เชียวหรือ?
หร่านซวี่จือคิดในใจ
เมื่อเสียงดีดขาดท่อนไปก็ทำให้จินเฟิงไม่พอใจอย่างมาก เขาจึงจ้องหน้าหร่านซวี่จืออย่างถมึงทึง
“ข้าได้ยินมาว่า เ้าไม่ยอมเรียนกับอาจารย์เ่าั้ที่ข้าหามาให้อย่างนั้นหรือ? ” หร่านซวี่จือส่ายพัดพับในมือและเอ่ยอย่างเชื่องช้า
จินเฟิงไม่พูดไม่จาแล้วเขาก็เบนหน้าหนีไปอีกทาง
หรวนเสี่ยวเหอรีบกระตุกเสื้อเขาและเอ่ยโน้มน้าวด้วยเสียงค่อย “เสี่ยวเฟิง! ”
จินเฟิงเอ่ยอย่างไม่ยินดีนัก “เื่เ่าั้ไม่จำเป็ต้องเรียน ข้าก็เป็อยู่แล้ว”
คำพูดนี้จินเฟิงพูดได้ไม่ผิด ในชาติที่แล้วจินเฟิงนับว่าเป็ประมุขสำนักวายุภักดิ์ที่เป็เลิศทั้งบุ๋นและบู๊ กำลังภายในนั้นลึกล้ำ และความเก่งกาจนั้นก็ไม่สามารถอ่านออกได้ แม้ว่าตำแหน่งจะเป็รองจากร่างเดิม แต่แท้จริงแล้ววรยุทธ์นั้นล้ำหน้าร่างเดิมไปนานแล้ว
ชาติที่แล้วจินเฟิงนั้นเรียนรู้ทุกอย่างกับอาจารย์ที่ร่างเดิมหามาให้ด้วยความตั้งใจ แต่ร่างเดิมกลับไม่ได้หวังดีกับจินเฟิงเท่าไหร่นัก เพราะอาจารย์ที่หามาล้วนเป็ระดับพื้นๆ โดยเฉพาะท่านที่สอนวรยุทธ์ให้เขา ก็ถ่ายทอดวิชาผิดๆ ให้แก่จินเฟิง ทำให้ใน่ต้นจินเฟิงนั้นทำได้ไม่ดี หลังจากนั้นก็ยังได้รับความลำบากยากเข็ญมากมายตามมา
เพียงแต่ว่า อาจารย์ที่หร่านซวี่จือหามาครั้งนี้ล้วนเป็ที่หนึ่งในเมืองหลวงนี้แล้ว
“เ้าเป็? ” หร่านซวี่จือพับพัดเก็บเสียงดัง “พรึบ” แล้วกวักนิ้วไปทางจินเฟิง “มานี่”
จินเฟิงชะงักเล็กน้อย
ไม่เพียงแค่จินเฟิงที่ชะงัก ทั้งหวังเซวียน หรวนเสี่ยวเหอแล้วยังสาวรับใช้ที่อยู่รอบๆ ต่างก็มองหน้ากัน
“จะทำอะไร? ” จินเฟิงเตรียมป้องกันตัว
“ข้าจะไม่ทำให้เ้าลำบากใจ” หร่านซวี่จือเอ่ย “ก่อนที่ธูปสามดอกจะดับลง หากเ้าสามารถแตะต้องตัวข้าได้แม้เพียงจุดเดียว ข้าจะตกลงไม่ให้เ้าร่ำเรียนกับอาจารย์เ่าั้”
“หากทำไม่ได้ ก็จงเชื่อฟัง ไม่อย่างนั้น” หร่านซวี่จือเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “สถานที่แห่งนี้ก็ไม่มีพื้นที่สำหรับเ้า”
ธูปดอกแรกถูกหวังเซวียนเสียบลงบนดินอย่างรวดเร็ว
จินเฟิงกัดฟัน และพุ่งตัวไปทางหร่านซวี่จืออย่างรวดเร็ว