เซียวยวี่ยืนอยู่ข้างนอกเมื่อเห็นว่าภายในห้องดับไฟแล้ว เขาจึงเดินไปยังห้องของเซียวจื่อเซวียน
เซียวจื่อเซวียนเพิ่งอาบน้ำเสร็จหอบหมอนไว้กำลังจะเดินออกไป
เซียวยวี่ขมวดคิ้ว “ดึกขนาดนี้แล้วจะไปไหน? ”
“พี่ใหญ่ ข้าจะไปห้องพี่สะใภ้ใหญ่ขอรับ”เซียวจื่อเซวียนกล่าวด้วยรอยยิ้มเบิกบาน
เซียวยวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย“เ้าไปห้องนางทำไม? ”
“ท่านไม่อยู่บ้าน ปกติข้าก็นอนอยู่ในห้องพี่สะใภ้ใหญ่ขอรับ”
“อาเมิ่งเล่า? เหตุใดถึงไม่อยู่ในห้อง? ” เซียวยวี่มองดูโดยรอบกลับไม่เห็นคน
“ั้แ่วันที่สองหลังท่านไปอาเมิ่งก็นอนกับพี่สะใภ้ใหญ่แล้วขอรับ”
วันที่สองหลังเขาไป เซี่ยยวี่หลัวก็คอยดูแลอาเมิ่งแล้ว?
จู่ๆ เซียวยวี่ก็นึกถึงวันแรกที่เขาออกเดินทางแต่เช้าถ้อยคำที่เซี่ยยวี่หลัวกล่าวกับเขาจากตำแหน่งที่ห่างออกไป
“เซียวยวี่ ข้าจะรอเ้ากลับมา!”
คำพูดนี้ เขาแทบจะลืมไปแล้ว
“คืนนี้เ้าไม่ต้องไป อยู่คุยกับพี่ใหญ่ก่อน”เซียวยวี่เข้าไปในห้อง
เซียวจื่อเซวียนมองไปทางห้องข้างๆอย่างรู้สึกเสียดาย ก่อนเดินตามเซียวยวี่เข้าไปในห้องด้วยท่าทางเสียดายเต็มประดา
พี่ใหญ่ให้เขาอยู่ด้วยเขาจะไม่อยู่ได้อย่างไร!
แม้นิทานจะสนุกเพียงใดก็ได้แต่ให้พี่สะใภ้ใหญ่ช่วยเล่าให้เขาฟังอีกรอบพรุ่งนี้แล้ว
เซี่ยยวี่หลัวกับเซียวจื่อเมิ่งรออยู่ในห้องครู่หนึ่งไม่เห็นเซียวจื่อเซวียนมา เกรงว่าคงถูกเซียวยวี่รั้งตัวไว้
เมื่อมาไม่ได้พวกเขาก็เล่านิทานก่อนนอนกันก่อน
เซี่ยยวี่หลัว “เราเล่านิทานกันก่อนแล้วกันพวกเราเล่าเสร็จก็นอนเลย”
“ไม่รอพี่รองหรือเ้าคะ? ” เซียวจื่อเมิ่งเอ่ยถามเสียงใส
“พี่รองของเ้าน่าจะมาไม่ได้แล้ว”เซี่ยยวี่หลัวหันมองดูข้างนอก พร้อมกล่าวอย่างเรียบสงบ
เซียวยวี่ย่อมต้องไปหาเซียวจื่อเซวียนเพื่อถามเื่บางอย่าง!
นางเปลี่ยนไปมากถึงเพียงนี้เซียวยวี่เป็คนฉลาดปราดเปรื่อง เขาต้องดูออกนานแล้วแน่
สองพี่น้องนั่งลงภายในห้อง
ห้องของเซียวจื่อเซวียนคือห้องเดิมของเซียวยวี่เมื่อก่อนห้องของเขาคับแคบมาก ทั้งต้องวางเตียง ทั้งต้องวางโต๊ะ รอบข้างมีแต่ตำราวางระเกะระกะทั้งบนเตียง บนโต๊ะ บนพื้น วางอยู่ทั่วห้อง
หลังจากย้ายข้าวของของเขาไปแล้วภายในห้องก็เหลือเพียงเตียงหนึ่งเตียง ตู้ขนาดเล็ก ตู้นี่ทำขึ้นใหม่ มีประตูบนกับล่างสองบาน้าวางเสื้อผ้าตามฤดูกาล ส่วนตู้ด้านล่างวางเครื่องนอนกับเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใส่
เซียวยวี่เปิดตู้เสื้อผ้าดูภายในตู้มีเสื้อใหม่สองตัว
“เสื้อใหม่? ” เซียวยวี่หันกลับมาถามเซียวจื่อเซวียน
เซียวจื่อเซวียนยิ้มจนตาหยีขณะขึ้นเตียง“ขอรับ พี่สะใภ้ใหญ่ทำให้ข้า”
เซียวยวี่มาถึงข้างเตียงบนเตียงมีเครื่องนอนสะอาดและใหม่ปูไว้ เซียวยวี่จำได้ว่าเมื่อก่อนเครื่องนอนบ้านเขาเต็มไปด้วยรอยปะเวลานี้เก็บกวาดอย่างสะอาดและเรียบร้อย
เซียวยวี่นั่งลงข้างเตียงจ้องมองเซียวจื่อเซวียนโดยละเอียด
เด็กคนนี้ตัวสูงขึ้นมากเมื่อก่อนหิวโซจนมีแต่หนังหุ้มกระดูก เวลานี้ใบหน้ามีน้ำมีนวล ผิวสีชมพูอ่อนนุ่ม บนกายสวมใส่เสื้อซับในสีขาวผ่องดุจหิมะนั่งอยู่ตรงนั้นพร้อมเผยรอยยิ้มที่มุมปาก เหมือนกับเขาในอดีตที่มีอายุเท่ากับจื่อเซวียนในขณะที่ท่านพ่อท่านแม่ยังมีชีวิตอยู่ไม่มีผิด
ในอดีต เขาเองก็ไร้ทุกข์ไร้กังวลเพียงตั้งใจเรียนหนังสือ ไม่จำเป็ต้องกลัดกลุ้มใจในเื่ใด
มองดูอยู่นาน ครุ่นคิดอยู่นานจึงเอ่ยถามเซียวจื่อเซวียน “อาเซวียน เ้าบอกข้าตามตรง ระหว่างที่พี่ใหญ่ไม่อยู่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ”
“พี่ใหญ่ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่ขอรับ”เซียวจื่อเซวียนไม่เข้าใจความหมายของพี่ใหญ่
เซียวยวี่ขมวดคิ้ว “เ้าไม่คิดจะอธิบายให้ข้าฟังหน่อยหรือว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้าน และเงินที่เ้าให้ท่านอาเซียวเหลียงส่งไปเป็มาอย่างไร? ”
เซียวจื่อเซวียนเข้าใจทันที“พี่ใหญ่ ท่านหมายถึงเื่นั้นหรือขอรับ นั่นเป็ เป็ เป็เงินของบ้านเราขอรับ! ”
“เงินของบ้านเรา? ” เซียวยวี่เอ่ยถาม “ตอนข้าไป แบ่งเงินเป็สามส่วน เ้าห้าตำลึง นางห้าตำลึงข้าพกติดตัวไปสองตำลึง นอกเหนือจากนั้น ในบ้านก็ไม่มีอะไรอีก เงินสิบเจ็ดตำลึงที่เ้าส่งไปในภายหลังเอามาจากไหน? ”
เซียวจื่อเซวียนครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว
เขาอยากพูดความจริงกับพี่ใหญ่แต่พี่สะใภ้ใหญ่เคยบอกไว้ ไม่ว่าจะเป็ใคร ก็จะบอกเื่ที่พี่สะใภ้ใหญ่เขียนหนังสือเป็ไม่ได้
เว้นเสียแต่พี่สะใภ้ใหญ่จะบอกด้วยตัวเอง
แต่นี่เป็พี่ชายแท้ๆ ของเขาไม่ใช่คนอื่นเสียหน่อย!
เซียวจื่อเซวียนแสดงสีหน้าลำบากใจคนหนึ่งเป็พี่ใหญ่ อีกคนเป็พี่สะใภ้ใหญ่ ล้วนเป็คนที่เขาสนิทที่สุด ถ้าไม่ใช่ทรยศพี่สะใภ้ใหญ่ก็ต้องโกหกพี่ใหญ่อย่างไรก็ต้องผิดต่อฝ่ายหนึ่ง จะดีจริงหรือ?
เซียวยวี่เห็นว่าเซียวจื่อเซวียนเงียบอยู่นานจึงถามอีกครั้ง “เอาเงินมาจากไหนกันแน่? ”
เซียวจื่อเซวียนรีบลุกขึ้นยืน“พี่ใหญ่ เงินนั่นข้าได้มาจากการคัดตำราขอรับ! ”
“เ้าได้มาจากการคัดตำรา? ” ในห้วงภวังค์ของเซียวยวี่หวนคิดถึงตัวหนังสือของเซียวจื่อเซวียนที่เขาเพิ่งเห็นเมื่อครู่แม้จะมีความก้าวหน้าขึ้นมาก แต่ก็ไม่ได้ดีถึงขั้นจะคัดตำราให้คนอื่นได้
“เป็เงินที่ได้จากการช่วยพี่เซียวยิงคัดตำราขอรับ!” เซียวจื่อเซวียนตอบ
“ตัวหนังสือที่เ้าเขียนจะเข้าตาพี่เซียวยิงหรือ? ” เซียวยวี่ขมวดคิ้วถึงแม้ว่าตัวหนังสือในตอนนี้จะดูดีขึ้นไม่น้อย แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่จะคัดตำราได้
เซียวจื่อเซวียนกัดริมฝีปากได้แต่โกหกต่อ “ข้าคัดตำราจริงขอรับ ระหว่างที่ท่านไม่อยู่บ้าน ข้าฝึกเขียนพู่กันตลอดลายมือของข้าดูดีขึ้นมากแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น พี่เซียวยิงบอกว่าตำรานั่นไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรมากขอเพียงเขียนตัวหนังสือที่อ่านออกและชัดเจนได้ก็พอ ดังนั้นเขาจึงให้งานข้าทำ”
ตำราเ่าั้ส่งไปให้พี่เซียวยิงนานแล้วพี่ใหญ่คงไม่สามารถไปขอตำรามาดู
เซียวยวี่ขมวดคิ้ว เข้าใจเื่ราวแล้ว
พี่เซียวยิงดีต่อเขามาตลอดเช่นนั้นดูท่าว่าไม่ใช่อีกฝ่าย้าตัวหนังสือของเซียวจื่อเซวียน แต่เซียวยิงจงใจปล่อยผ่านไม่อยากให้เงินต่อหน้า จึงได้แต่ช่วยดูแลอย่างลับๆ
เื่นี้ต้องเป็เพราะพี่เซียวยิงช่วยดูแลดูท่าครั้งหน้าต้องขอบคุณพี่เซียวยิงต่อหน้าแล้ว
“แล้วเรือนหลังนั้นเล่า? เงินที่ใช้ปลูกเรือนและตัดเย็บเสื้อผ้ามาจากไหน? ”
เซียวจื่อเซวียนกรอกตาไปมา“เป็สินเดิมของพี่สะใภ้ใหญ่ขอรับ”
เซียวยวี่รู้ว่าตอนเซี่ยยวี่หลัวแต่งเข้ามานำหีบใบหนึ่งมาด้วยแต่หีบนั่นใส่กุญแจไว้อย่างแ่าตลอด ใครจะรู้ว่าในนั้นมีอะไร
พอได้ยินว่าเซี่ยยวี่หลัวนำสินเดิมมาเป็ทุนปลูกเรือนและซื้อเสื้อผ้าใหม่ เซียววี่จึงพยักหน้า “อ่อ เป็เช่นนี้เอง”
เขาเชื่อแล้ว เพียงแต่ไม่อาจคาดเดาได้ว่าเซี่ยยวี่หลัวทำเช่นนี้ไปเพื่ออะไร!
เซี่ยยวี่หลัวเป็คนที่รักเงินทองยิ่งชีพเป็คนตระหนี่ถี่เหนียวที่ไม่ยอมเสียเงินแม้แต่อีแปะเดียว ตัวเองกินดีอยู่ดีก็พอแล้วไม่เคยคิดเผื่อคนอื่นแม้แต่น้อย คราวนี้ เหตุใดนางถึงใจกว้างถึงเพียงนี้ ไม่เพียงให้เด็กสองคนได้กินอาหารดีทั้งยังปลูกเรือนหลังใหม่ และตัดเสื้อใหม่ด้วย?
หรือว่า นางคิดว่าเขาสอบผ่านได้เป็ซิ่วไฉแล้วจริงๆนางจะได้เป็ฮูหยินขุนนาง ดังนั้นจึงทำเช่นนี้หรือ?
“นางปฏิบัติต่อพวกเ้าอย่างไรบ้าง? ” เซียวยวี่เอ่ยถาม
เซียวจื่อเซวียนได้ฟังคำถามนี้ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย พยักหน้าราวกับลูกไก่ที่กำลังจิกเมล็ดข้าวก็มิปาน “พี่สะใภ้ใหญ่ดีต่อพวกเรามากขอรับทำอาหารอร่อยให้พวกเรากินทุกวัน ท่านดูสิ เสื้อใหม่เหล่านี้พี่สะใภ้ใหญ่ก็เป็คนทำให้พวกเราขอรับ”
ตอนนี้บนกายเด็กๆ สะอาดหมดจดไม่มีรอยฟกช้ำดำเขียวแม้แต่น้อย ดูท่าว่าเซี่ยยวี่หลัวไม่ได้ทารุณเด็กสองคนแล้วจริงๆทั้งยังดูแลเด็กสองคนเป็อย่างดี
เซียวยวี่ผ่อนลมหายใจยาวด้วยความรู้สึกโล่งใจ
“นี่ก็ดึกแล้ว รีบเข้านอนเถอะ”เซียวยวี่ตบศีรษะเซียวจื่อเซวียนเบาๆ หันตัวเดินกลับไปยังห้องของตัวเอง
เซียวจื่อเซวียนขยับริมฝีปากเบาๆก้มหน้าด้วยความรู้สึกผิดเต็มประดา
ภายในใจรู้สึกผิดยิ่งนักพี่ใหญ่ ขอโทษจริงๆ ข้ารับปากกับพี่สะใภ้ใหญ่ก่อนแล้วว่าจะไม่บอกใครทั้งนั้น
ตอนนี้เซียวจื่อเซวียนเพิ่งตระหนักได้ที่แท้ภายในใจเขา พี่สะใภ้ใหญ่มีความสำคัญเท่ากับพี่ใหญ่แล้ว
เซียวยวี่กลับห้องไปด้วยความรู้สึกหนักหน่วงในใจ
นอนลงบนเตียง ฟูกด้านล่างอ่อนนุ่มกลิ่นหอมอ่อนๆ ของสบู่ที่แฝงเร้นด้วยกลิ่นอายของแสงอาทิตย์ลอยแตะจมูก ทั้งหอมทั้งอบอุ่น
เขาทั้งรู้สึกดีใจ ทั้งรู้สึกว่าน่าขัน
กลับมาจากจังหวัดจิ้นชางเดิมทีคิดว่ากลับถึงบ้านจะต้องเปิดศึกวิวาทกันอย่างรุนแรง ตลอดการเดินทาง เซียวยวี่ไม่เคยรู้สึกผ่อนคลายแม้แต่วินาทีเดียวพอกลับถึงบ้าน ทุกอย่างต่างจากที่เขาจินตนาการ เขากลับไม่รู้สึกดีใจ
ทั้งยังรู้สึกรังเกียจ
นางเป็คนถ่อยที่เห็นแก่ผลประโยชน์ต่อให้ดีต่อเด็กๆ มากเพียงใด ก็เป็เพราะคิดว่าเขาจะสอบผ่านได้เป็ซิ่วไฉจึงทำเช่นนี้
หากรู้ว่าเขาสอบไม่ผ่านนางต้องกลับสู่สภาพเดิมแน่ คงกลับไปเป็เซี่ยยวี่หลัวคนเดิม
เซียวยวี่มองดูมุ้งสีขาวผ่องดุจหิมะที่อยู่เหนือศีรษะพร้อมยิ้มอย่างเย็นเยียบ
ช่างเป็คนถ่อยที่รู้จักประจบเอาใจเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองจริงๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้