หลังจากใช้เวลาอันยาวนานในที่สุดหยางเฉินก็ประสบความสำเร็จในการนำเงินสดหนึ่งล้านหยวนเข้าบัญชีตัวเอง
หลังจากวันนั้นหยางเฉินก็กลับไปบ้านด้วยความรู้สึกเพลิดเพลินเหมือนคนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง
บ่ายวันพุธหยางเฉินและหลี่จิงจิงจึงนัดพบกันในเมืองเพื่อช่วยเธอเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งห้องใหม่ของเธอ
หลี่จิงจิงแต่งกายด้วยชุดกระโปรงสีเหลืองและกระเป๋าสะพายสีขาว ด้วยใบหน้าที่งดงามปราศจากเครื่องสำอางทำให้หญิงสาวดูสวยอย่างเป็ธรรมชาติ
"พี่หยางความจริงเราหาเวลา่วันหยุดออกมาก็ได้ออกมาในวันทำงานแบบนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลย" ในขณะที่ทั้งสองกำลังเดินไปย่านขายเฟอร์นิเจอร์ในเมืองหลี่จิงจิงก็กล่าวขึ้นด้วยเสียงเบา
"เธอจะอยู่ในห้องโดยไม่มีเฟอร์นิเจอร์ได้ยังไงเด็กนักเรียนขาดเธอไปครู่เดียวคงไม่ทำให้พวกเขาโง่ขนาดสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้หรอก” หยางเฉินหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
หลี่จิงจิงพูดขึ้นด้วยความภาคภูมิใจว่า
"เด็กๆ ในห้องของฉันสอบได้ที่หนึ่งของชั้นเลยแหละ พวกเขาฉลาดกันมากๆ"
ได้ยินดังนั้นหยางเฉินก็นึกถึงเด็กสาวคนหนึ่งที่เขารู้จัก
"แล้วถังถังได้กี่คะแนนล่ะ? เด็กนั่นเอาแต่เที่ยวเล่นดูไม่ค่อยสนใจเรียนเท่าไหร่"
"ถังถังเป็เด็กที่ฉลาดมาก ่นี้แม่ของเธอเข้มงวดกับเธอมากเลย ผลคะแนนของเธอนั้นอยู่ในท็อปสิบของชั้นเรียนแต่ฉันคิดว่าหากให้เวลาเธอมากกว่านี้เธอย่อมสามารถขึ้นมาอยู่ในท็อปสามได้สบายๆ" หลี่จิงจิงพูดถึงนักเรียนของเธออย่างร่าเริง
หยางเฉินสงสัยมานานแล้วว่าพักนี้เด็กสาวไม่ค่อยมาเล่น Worldof Warcraft กับเขาและหยวนเย่เลยเป็เพราะว่าเธอเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยนี่เอง
"พี่หยางทำไมพี่ดูเป็ห่วงถังถังมากจังเลยคะ?"หลี่จิงจิงถามอย่างไม่พอใจ
หยางเฉินตะลึงงันไปชั่วครู่
"จิงจิง พี่หิวแล้วอ่ะเราไปหาอะไรกินกันเถอะ..."
หลี่จิงจิงหัวเราะและพยักหน้า
"ดูเหมือนความอยากอาหารของพี่หยางจะสูงสุดหยั่งดีที่ฉันและถังถังไม่ได้ถูกพี่หยางเขมือบเข้าไป"
หยางเฉินรู้สึกขมในปากเขาแกล้งทำเป็ไม่รู้เื่ทันที
"พี่ไม่ได้ทานอาหารเช้ามา เพราะต้องมาช่วยใครก็ไม่รู้เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ไปแต่งห้องพักใหม่ใช่มั้ย"
หลี่จิงจิงกรอกสายตามองหยางเฉิน ปากบางแกล้งประชดว่า"อ๋อเหรอคะ" กลับไป
ตามที่หลี่จิงจิงบอกหยางเฉินไว้ ในห้องของเธอนั้นขาดโซฟา และโต๊ะรับประทานอาหารดังนั้นทั้งสองจึงมุ่งหน้าไปยังโซนโซฟาทันที
ในขณะที่พนักงานขายกำลังแนะนำโซฟาหนังสีมะฮอกกานี หลี่จิงจิงก็เหลือบไปเห็นป้ายราคา นั่นทำให้ความ้าซื้อโซฟาของเธอหายไปทันทีแม้เธอจะ้าโซฟา แต่แน่นอนว่าทางบ้านจะต้องไม่ยอมให้เธอซื้อโซฟาที่ราคาสูงขนาดนั้น
หลังจากเห็นตัวเลขบอกราคาที่ยาวเหยียดของโซฟาเกรดพรีเมี่ยมแล้วหลี่จิงจิงก็กระตุกแขนหยางเฉินอย่างระมัดระวังทันที
"พี่หยางเราไปดูโซฟาบริเวณอื่นดีมั้ย ที่นี่มีแต่โซฟาที่ราคาแพงจนเกินไป"
"นี่เป็สิ่งที่เธอสมควรได้รับ" หยางเฉินกล่าว
หลี่จิงจิงส่ายหัว
"ไม่ได้นะพี่หยาง ครั้งก่อนพี่ซื้อเสื้อผ้าให้ฉันมากมายฉันยังไม่ได้ใช้คืนพี่เลย ฉันไม่สามารถรับของขวัญราคาแพงขนาดนี้ได้อีกแล้ว"
"พี่บอกว่านี่เป็สิ่งที่เธอสมควรได้รับ" หยางเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า
"เมื่อตอนที่พี่มาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ พี่ไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของที่นี่ จึงค่อนข้างที่จะปรับตัวได้ลำบากถ้าไม่ใช่เพราะตอนนั้นเธอเชื่อใจพี่ และพาไปรู้จักครอบครัวของเธอ พี่คงไม่สามารถเข้ากับที่นี่ได้รวดเร็วขนาดนี้เธออาจไม่รู้ว่าหากพี่ได้รับความเครียดโรคเก่าก็จะกำเริบขึ้นมาโชคดีที่มีเธอพี่จึงสามารถปรับตัวและกลับสู่สภาวะปกติได้อย่างรวดเร็วและตอนนี้พี่ขอบอกให้เธอรู้ไว้ว่า จำนวนเงินที่ให้เธอไปนั้นเทียบไม่ได้กับสิ่งที่เธอเคยช่วยพี่ไว้เลยแม้แต่น้อย"
หยางเฉินเห็นหลี่จิงจิงก้มหน้าเงียบไปเพราะความลำบากใจ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับหยางเฉินนั้น แตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นของเขา พ่อและแม่ของเธอต่างก็เป็เพื่อนที่ดีของเขา หากเขาตอบรับความรักของหลี่จิงจิงแน่นอนเขาคงไม่มีหน้าไปพบพ่อกับแม่ของเธอ
สิ่งเดียวที่หยางเฉินพอจะทำให้ได้ในตอนนี้คือดูแลปกป้องเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่งแม้หยางเฉินจะอยากตอบรับความรู้สึกของหลี่จิงจิงมากเพียงใดก็ตามแต่เื่นี้มันล้วนเป็ไปได้เลย
เมื่อหยางเฉินตัดสินใจที่จะซื้อโซฟาสีส้มอ่อนตรงหน้าเสียงของใครบางคนก็ดังขัดขึ้นมาเสียก่อน...
"คุณหยางไม่คิดว่าจะเห็นคุณที่นี่นะครับ"
เ้าของเสียงคือชายในชุดสูทและสวมแว่นตาสีดำ ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มแปลกใจระหว่างมองดูหยางเฉินและหลี่จิงจิง
"ประธานเฉิงก็กำลังมองหาโซฟาตัวใหม่เหมือนกันเหรอครับ?"หยางเฉินเอ่ยขึ้นอย่างสบายๆแต่หลี่จิงจิงนั้นแอบหลบไปอยู่ข้างหยางเฉินอย่างอายๆ
เฉิงซินหลินใช้มือลูบคลำโซฟาพลางทอดถอนหายใจออกมา
"ผมเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศตอนนี้บ้านใหม่จึงยังขาดโซฟาอยู่น่ะครับ"
“คิดแล้วก็นึกถึงเมื่อก่อนผมกับหลินรั่วซีมักจะมาเลือกดูเฟอร์นิเจอร์ด้วยกันประจำ แต่เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปเร็วเหลือเกิน" เฉิงซินหลินเผยรอยยิ้มจางๆ ออกมา
หยางเฉินรู้สึกเหมือนโดนถอนหงอกเขาจึงกล่าวกับเฉิงซินหลินว่า
"นี่แสดงให้เห็นว่าเสน่ห์ของคุณยังไม่เพียงพอของที่ไม่ใช่ของคุณ ยังไงมันก็ไม่ใช่ของคุณอยู่วันยังค่ำ”
"เสน่ห์ของคุณหยางนั้นช่างมากมายนัก มากเพียงพอที่จะได้แต่งงานกับผู้หญิงที่สวย แถมยังมีหญิงสาวข้างกายอีกนับไม่ถ้วนอีกด้วยไม่ทราบว่าสาวสวยทางด้านนั้นเป็ใครหรือครับ?" ในที่สุดเฉิงซินหลินก็ถามในสิ่งที่ควรจะถามออกมา
อย่างไรก็ตามหลี่จิงจิงได้ยินคำถามดังกล่าวชัดเจน เธอมองไปทางหยางเฉินด้วยความประหม่า ด้วยเพราะกลัวคำตอบของหยางเฉินจะทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอแตกเป็เสี่ยงๆ
หยางเฉินเงียบไปสักครู่ก่อนกล่าวขึ้นด้วยเสียงเรียบเฉยว่า
"คุณหลี่เป็ลูกสาวของเพื่อนสนิทผมเธอเป็น้องสาวของผม"
น้องสาว!?
หลี่จิงจิงกัดริมฝีปากบางแม้นี่จะเป็ความจริง แต่การที่ได้ยินหยางเฉินพูดออกมาตรงๆ เช่นนี้ช่างตอกย้ำความปวดร้าวในจิตใจของเธอยิ่งนัก
ดวงตาของเฉิงซินหลินส่องประกายขึ้นวูบหนึ่งทันที
"คุณหยางช่างน่าอิจฉาจริงๆ นะครับมีน้องสาวที่น่ารักขนาดนี้"
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วพวกเราขอตัวนะครับ"หยางเฉินไม่อาจอดทนได้อีกต่อไปรอยยิ้มเสแสร้งบนใบหน้าของเฉิงซินหลินทำให้เขารู้สึกอึดอัด
หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วหยางเฉินก็พาหลี่จิงจิงกลับอะพาร์ตเมนต์ทันที
เมื่อมองดูท่าทางที่เศร้าสร้อยของหลี่จิงจิงแล้วหยางเฉินก็ไม่อาจทำอย่างไรได้ เขาถอนหายใจออกมาพร้อมกล่าวว่า
"จิงจิง พี่ขอโทษ"
"พี่หยางไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะฉันรู้ดีว่าสำหรับพี่หยางแล้ว ตัวฉันอยู่ในสถานะใด" หลี่จิงจิงเงยหน้าขึ้นมองหยางเฉิน
"พี่ชายคนนั้นดูเหมือนจะเป็ศัตรูกับพี่นะคะ"
"เขาเป็รุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยของภรรยาพี่น่ะและเมื่อพวกเราแต่งงานกันเขาจึงไม่พอใจอย่างมาก" หยางเฉินไม่ได้ปกปิดเื่ราวใดๆกับหลี่จิงจิง เพราะการหลอกลวงหญิงสาวนั้นจะทำยิ่งทำร้ายเธอให้ยิ่งเ็ป
หลี่จิงจิงเข้าใจอย่างชัดเจนเธอพยักหน้าพลางยิ้มกล่าวว่า
“แม้ฉันจะไม่เคยเห็นหน้าพี่สะใภ้แต่ฉันก็รับรู้ได้ว่าเธอต้องเป็คนที่สวยมากเหมือนนางฟ้าแน่ๆ"
"อา... เธอไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา" หยางเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลี่จิงจิงกล่าวต่อว่า
"ไม่รู้ว่าพี่สาวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหรือพี่สะใภ้จะสวยกว่ากัน"
"พี่สาวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า?" หยางเฉินขมวดคิ้วอย่างสงสัย
"ใช่ค่ะก่อนที่ฉันจะพาพี่หยางไปที่นั่น ฉันได้เจอพี่สาวคนหนึ่งเธอมีหนังสือเื่เล่าสำหรับเด็กเยอะมากๆ" หลี่จิงจิงเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี
"เมื่อสัปดาห์ที่แล้วฉันไปเล่นกับเด็กๆพร้อมกับเธอด้วย แม้เราจะไม่ได้ถามชื่อกัน แต่เราก็พูดคุยกันถูกคออย่างมากเธอยังบอกด้วยว่าจะพาฉันไปเล่นที่บ้านของเธอ และจะให้ฉันดูอะไรดีๆ ด้วย"
"อะไรดีๆ?" หยางเฉินถาม
หลี่จิงจิงหน้าแดงกล่าวว่า
"ฉันบอกว่า ฉันชอบ Hello Kitty เป็อย่างมากพี่สาวคนนั้นก็เลยจะพาไปดูของสะสมของ Hello Kitty ที่บ้านของเธอ"
หยางเฉินย่อมรู้จัก Hello Kitty แต่เขาไม่คิดว่าสาววัยยี่สิบสองยังคงพูดคุยกันถึงเื่นี้อยู่แต่เมื่อหลี่จิงจิงได้พบเพื่อนใหม่ แน่นอนว่ามันเป็สิ่งที่ดีและการอาสาไปเป็พี่เลี้ยงเด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็ยังเป็สิ่งที่ดีอีกด้วย
เมื่อมาถึงอะพาร์ตเมนต์ของหลี่จิงจิงหยางเฉินกวาดสายตามองไปรอบๆ ของอะพาร์ตเมนต์ เมื่อเห็นว่าระบบรักษาความปลอดภัยค่อนข้างใช้ได้หยางเฉินก็จิตใจสงบลงอย่างมาก
หลังจากเดินขึ้นบันไดไปในอะพาร์ตเมนต์ชั้นที่สี่หลี่จิงจิงก็เห็นเงาร่างคนผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่หน้าบันได
ซึ่งทำให้ทั้งสองต่างมีสีหน้าที่ตกตะลึง