ฟี้!
เสียงดังราวกับลูกบอลรั่วดังขึ้น เสียงที่ดังขึ้นทำให้สวนเมามายที่เงียบสงบไม่สามารถเงียบสงบได้อีกต่อไปได้ เสียงนี้ทำเอาขวัญของใครหลายๆ คนถึงกับกระเจิงไป และทำเอาเย่ชิงขวงตกตะลึงไปอีกครั้งหลังจากที่ได้สติกลับมา
รู้สึกได้ถึงตันเถียนที่ฝึกฝนมาอย่างยาวนานหลายปีรั่วไหลออกจนเหี่ยวแห้งราวกับลูกบอลแตก รู้สึกได้ถึงพลังปราณรบที่พลุ่งพล่านภายในกายไหลเวียนสับสนไปทั่วทุกทิศทางเนื่องจากตันเถียนที่แตกสลาย มันวิ่งชนจุดชีพจรของเขาจนพังทลาย ทำลายวรยุทธ์ที่ฝึกฝนมาหลายปี ััได้ถึงความรู้สึกเ็ปและหนาวเหน็บที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ััได้ถึงสายตาที่เ็าปราศจากอารมณ์ใดๆ ของเย่ชิงหาน ััได้ถึงกริชเล่มที่อยู่ตรงคอเล่มที่อาบไปด้วยเืของตนเอง...เย่ชิงขวงลนลานขึ้นมาในทันที ร้องะโออกมาอย่างหวาดกลัว
“ไม่!”
“ไม่!”
“ไม่!”
“อย่าขยับ ตอนนี้ข้าเพียงแค่ทำลายวรยุทธ์ของเ้า หากเ้ายังขยับเขยื้อนดิ้นไปมาอีกข้ากลัวว่าเ้าคงจะไม่ได้เห็นหน้าบิดาและน้องๆ ของเ้าอีกเป็แน่...วรยุทธ์ไม่มียังสามารถฝึกฝนใหม่ได้ แต่ถ้าไม่มีชีวิตแล้วอะไรเ้าก็จะไม่เหลือ!” เย่ชิงหานหลังจากที่แทงเย่ชิงขวงไปครั้งหนึ่งทำลายวรยุทธ์ที่ฝึกฝนมาตลอดหลายปีของเขา ใบหน้ากลับไม่ได้มีอาการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย ทำเพียงแค่พูดออกมาข้างหูของเย่ชิงขวงอย่างเฉยเมย จากนั้นกวาดสายตามองไปยังผู้คนที่อยู่โดยรอบพร้อมกับพูดขึ้น
“พวกเ้าอย่าขยับ ตอนนี้มือของข้ามันรู้สึกสั่นเล็กน้อย กลัวว่าไม่ระวังมันอาจจะเฉือนคอหอยของเย่ชิงขวงเอาได้ พวกเ้าไปบอกเย่เจี้ยนว่าหากคิดจะช่วยลูกชายของเขาให้ไปเรียกตาแก่ทั้งสามที่อยูู่เาด้านหลังออกมาเดี๋ยวนี้”
ครืน!
“เย่ชิงหานเ้าบ้าไปแล้วหรืออย่างไร กล้าทำลายวรยุทธ์ของนายน้อยใหญ่ วันนี้เ้าได้ตายแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย...”
“บ้าแล้ว! บ้าไปแล้ว! ไอ้บ้าเย่ชิงหานมันบ้าไปแล้วจริงๆ มัน...มัน...”
“รีบไปรายงานเร็ว รายงานหอผู้คุมกฎ รายงานท่านหัวหน้าตระกูล เกิดเื่ใหญ่ขึ้นแล้ว! เกิดเื่ใหญ่แล้ว...”
“บ้าไปแล้วจริงๆ เย่ชิงหานกล้าเรียกท่านหัวหน้าตระกูลกับผู้าุโสูงสุดว่าตาแก่ ไอ้คนเนรคุณ ไอ้คนเนรคุณตระกูล!”
สถานการณ์ในตอนนี้โกลาหลเกินจะควบคุม ราวกับผิวน้ำที่ถูกโยนลงไปด้วยลูกะเิซึ่งไม่ใช่ก้อนหินอย่างที่เคย ไม่ใช่แค่คลื่นระลอกน้ำแต่เป็น้ำที่แตกกระเซ็นออกไปทั่วทุกทิศทาง
ผู้คนที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้มีทั้งด่าทอ มีทั้งวิ่งไปมาสับสนวุ่นวาย มีทั้งชักอาวุธออกมาตั้งท่ารอ และยังมีทั้งที่ใจนยืนเซ่อทำอะไรไม่ถูกก็มี คนจำนวนมากกำลังวิ่งตรงมากันยังที่แห่งนี้ และก็มีคนจำนวนมากที่วิ่งจากไป ไม่สามารถจะบรรยายสีหน้าอาการและอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนทั้งหลายได้ทั้งหมด
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ในที่สุด ข่าวเกี่ยวกับเื่ราวที่เกิดขึ้นก็ถูกถ่ายทอดไปทั่วทุกแห่งภายในตระกูล บนท้องฟ้าปรากฏเงาร่างหลายสายซึ่งจุดหมายของเงาร่างทั้งหมดล้วนลอยตรงมายังสวนเมามายแห่งนี้
“เย่ชิงหาน เ้ากล้าทำร้ายลูกชายข้า?”
คนที่มาถึงก่อนใครอื่นคือเย่เจี้ยน ตัวคนยังมาไม่ถึงแต่พลังเสียงที่แผดร้องคำรามออกมานั้นแฝงไปด้วยความเดือดดาลและความเศร้าสลดเสียใจ
“เย่ชิงหาน อย่าเพิ่งวู่วาม!”
เย่เชียงเองก็คอยจับตาดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ที่ตรงนี้อยู่ตลอด หลังจากที่เย่ชิงหานแทงเย่ชิงขวงไปครั้งหนึ่งเขาก็รีบเร่งมาในทันที
“เย่ชิงหาน วันนี้โทษตายของเ้าไม่อาจละเว้น!”
เย่หรงใบหน้าก็เต็มไปด้วยความเสียใจ ตอนที่เย่ชิงขวงส่งข่าวมาเขาไม่ได้คิดใส่ใจมากนักจึงเดินทางมาล่าช้า ใครจะไปคาดคิดเล่าว่าเื่ราวจะบานปลายมาถึงขั้นร้ายแรงถึงเพียงนี้ หลังจากรีบเร่งมาด้วยความรีบร้อนเห็นเย่เจี้ยนที่สีหน้าเต็มไปด้วยความเดือดดาล เย่หรงพลันร้องะโขึ้นด้วยความโกรธเช่นเดียวกัน
เย่เทียนชิง เย่เทียนสิง เย่กง เย่เฉวียน...เงาร่างนับไม่ถ้วนลอยแหวกอากาศมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็พากันเคลื่อนตัวลดต่ำลงมาสู่พื้นเบื้องล่าง ชั่วพริบตาเดียวยอดฝีมือระดับสูงทั่วทั้งตระกูลต่างมาชุมนุมกันอยู่ที่นี่อย่างพร้อมเพรียง “นอกจากเหล่าสมาชิกผู้าุโ ที่เหลือจงรีบออกไปจากที่แห่งนี้โดยเร็ว ฝ่ายหอประจัญบานปิดล้อมตระกูลโดยเร็วที่สุด เื่ราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามมิให้ผู้ใดแพร่งพรายสู่ภายนอกโดยเด็ดขาด”
เย่เจี้ยนพูดออกมาอย่างเ็าพยายามอดกลั้นความเดือดดาลที่อยู่ภายในใจ มองดูท้องน้อยของเย่ชิงขวงที่อาบไปด้วยเื ใจของเขาราวกับถูกอาบไปด้วยเืไม่ต่างกัน เมื่อััได้ถึงความโกรธเกรี้ยวของเย่เจี้ยน ทั้งองครักษ์ทั้งบ่าวไพร่ทาสรับใช้ล้วนรีบเผ่นหนีแตกกระเจิงกันออกไปอย่างรวดเร็ว
ผู้าุโที่เหลือที่มาถึงต่างพากันจ้องมองดูเย่ชิงหานที่กำลังควบคุมตัวเย่ชิงขวงอยู่ มองดูใบหน้าที่เฉยเมยของเขา มองดูกริชสีดำที่อาบไปด้วยเื ต่างคนต่างใช้ความคิดแต่ไม่มีผู้ใดปริปากพูดสิ่งใดออกมา
“ทำไมไม่มีใครพูดอะไร? อยากเห็นเขาตายใช่ไหม?”
แต่คนที่พูดออกมาคนแรกกลับเป็เย่ชิงหานที่เงียบมาโดยตลอด อาจเพราะความกดดันที่ต้องเผชิญหน้ากับบุคคลในระดับสูงมากมายขนาดนี้เป็ครั้งแรกทำให้ปรับตัวไม่ทัน หรืออาจตื่นเต้นจนเกินไปจึงต้องพูดอะไรออกมาสักอย่าง
เย่เจี้ยนคิ้วกระตุกด้วยความเคียดแค้น สองมือกำหมัดแน่นจนสั่นเทิ้ม “ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้!”
“ข้าไม่ได้โง่เขลาขนาดนั้น!”
“ชิงหาน ห้ามเืให้เขาก่อน หากเขาตายเ้าจะไม่มีอะไรมาต่อรองอีก” เย่เชียงเปิดปากพูดขึ้น น้ำเสียงสุภาพอ่อนโยน แต่เจตนาที่จะช่วยเหลือที่ออกมาในน้ำเสียงนั้นเด่นชัดอย่างยิ่ง
เย่ชิงหานครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่จึงพยักหน้าเห็นด้วย มือขวาจี้ไปยังจุดชีพจรทางด้านหน้าของร่างกายเย่ชิงขวงอยู่หลายตำแหน่งจนเืหยุดไหลออกมา จากนั้นเขาก็นิ่งเงียบลงอีกครั้ง
“เ้ารู้ไหมว่าเ้ากำลังทำอะไร? หากเ้ายังไม่ยอมปล่อยมืออีกวันนี้เ้าหนีไม่พ้นความตายอย่างแน่นอน...” เย่หรงเปิดปากพูดขึ้นน้ำเสียงดังก้องกระหึ่มและแหลม ราวกับว่าอยากใช้น้ำเสียงเช่นนี้มาปกปิดความตื่นตระหนกและความหวาดกลัวภายในใจของตนเอง
เย่หรงยังไม่ทันที่จะพูดจบเย่ชิงหานก็ตะคอกออกมาด้วยความโกรธแค้น “เ้าหุบปากไปซะร่วมมือกับคนนอกอย่างเสว่อู๋เหินวางแผนชั่วคิดลักพาตัวน้องสาวข้า เ้าเองก็มีส่วน ต้องมีสักวันข้าจะฆ่าเ้าให้ได้!”
“เ้า...ไม่คิดเลยว่าขนาดข้าเ้ายังกล้าใส่ร้าย? ฮ่าๆ ไอ้เดรัจฉานน้อยเอ๋ย ดูท่าวันนี้ใครก็ช่วยเ้าไม่ได้แล้ว” เย่หรงด่าทอออกมา
“จริงรึ? เ้าจะลองดูก็ได้ ก่อนที่ข้าจะตายข้าจะลากนายน้อยใหญ่ของเ้าลงนรกไปด้วยกันก็ไม่เลว” เย่ชิงหานหัวเราะออกมาอย่างเ็า ออกแรงไปที่มือขวาเฉือนลึกลงไปจนเืสีแดงสดไหลออกมาเป็ทาง
“อย่า เย่ชิงหานหยุดมือเ้าเดี๋ยวนี้ ท่านพ่อช่วยข้าด้วย!” เย่ชิงขวงที่กำลังเหม่อลอยราวกับคนขาดสติเนื่องจากวรยุทธ์สูญสลาย เมื่อถูกคมกริชเฉือนลงไปอีกครั้งหนึ่งทำให้สติของเขาถูกดึงกลับมาสู่โลกแห่งความเป็จริงอีกครั้ง จากนั้นจึงร้องขึ้นด้วยความตื่นตระหนก
“หยุดมือ! เย่ชิงหานตกลงเ้าจะเอาอย่างไรกันแน่?” เย่เจี้ยนอดกลั้นต่อไฟโทสะที่อยู่ภายในใจ กดน้ำเสียงของตนเองจนต่ำก่อนที่จะพูดออกมาด้วยความยากลำบาก
แน่นอนว่าเย่ชิงหานไม่คิดจะเอาอย่างไร หลังจากที่ฆ่าเย่ชิงเสรู้เื่ราวทุกอย่างจนกระจ่างดีแล้ว เขา้าเพียงแค่แก้แค้นและมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่อีกด้วย จะแก้แค้นอย่างไร? แล้วจะมีชีวิตรอดออกไปได้อย่างไร? ดังนั้นจึงจำเป็ต้องใช้ยุทธวิธีที่เหนือชั้นสักหน่อย
เริ่มแรกคือ เผาลานที่พักของตนเองเพื่อดึงความสนใจของทุกคน ทำลายวรยุทธ์และจับตัวเย่ชิงขวงเพื่อที่จะชักนำพวกผู้มีตำแหน่งสูงและผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายให้ออกมา ตอนนี้คนพวกนี้ก็มาแล้วและถูกวิธีการที่เหี้ยมเกรียมของเขาสยบจนไม่กล้าบุ่มบ่าม ขั้นต่อไปก็คือชักนำตาแก่สามคนที่อยูู่เาด้านหลังนั่นออกมา หัวหน้าตระกูลเย่เทียนหลงและสองผู้าุโสูงสุด
เขาฆ่าเย่เป้า ฆ่าเย่ชิงเสศิษย์สายในของตระกูล ทำลายวรยุทธ์ของเย่ชิงขวง แน่นอนว่าจุดจบของเขาต้องไม่น่าดู เย่เจี้ยน หอผู้คุมกฎ หอผู้าุโล้วนไม่ปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน ที่ดูว่าจะเข้าข้างเขาสักหน่อยก็คงจะเป็เย่เชียง แต่ก็ไม่มีศักยภาพพอที่จะปกป้องเขาได้ ตอนนี้ทั่วทั้งตระกูลล้วน้าให้เขาตาย
ที่สามารถช่วยเขาได้มีเพียงตาแก่สามคนที่อยู่ภายในูเาด้านหลังเท่านั้น หัวหน้าตระกูลเย่เทียนหลงที่เร้นกายและผู้าุโสูงสุดอีกสองท่าน เพราะเขามีไพ่ตายที่เก็บซ่อนไว้ ตาแก่สามคนต้องไม่กล้าฆ่าเขาอย่างแน่นอน แถมยังต้องปกป้องเขาอีกด้วย ไพ่ตายใบนี้ก็คือ อสูรศักดิ์สิทธิ์ - อสูรกลืนิญญา
ดังนั้น เขาจึงพูดออกมาอย่างเป็ธรรมชาติว่า “อยากให้ข้าปล่อยเขาย่อมได้! ไปเรียกตาแก่ทั้งสามคนที่อยูู่เาด้านหลังออกมา!”