ท่านาุโกู่กลับลอบร้อนใจ ครั้งนี้แย่แล้ว หมดหวังแล้ว!
ท่านาุโเฉินะเิเสียงหัวเราะดังลั่น “แน่นอนแล้ว ไม่มีความจำเป็ต้องดูต่อไป ทุกคนแยกย้ายเถิด!”
ท่านาุโกู่มุมปากกระตุก หน้าแดงก่ำ “การแข่งขันยังไม่สิ้นสุด แพ้ชนะยังไม่แน่นอน”
แม้ปากจะกล่าวเช่นนั้น ทว่าที่จริงแล้วในใจเขาไม่คาดหวังใดๆ เช่นกัน
ดวงตาของรองอาจารย์ใหญ่เปล่งประกายเล็กน้อยแล้วกล่าวทั้งรอยยิ้ม “พวกเ้าพบเห็นหรือไม่? พร์ของแม่นางเฟิงนั้นไม่ธรรมดาสามัญ! แม้《พลังลมปราณดาวเจ็ดดวง》จะเป็วิธีการเดินพลังลมปราณอันยอดเยี่ยม แต่ขอถามว่าพวกเราที่อยู่ที่นี่ทุกคน มีใครบ้างที่สามารถก้าวหน้าขึ้นได้รวดเร็วเช่นนี้ในระยะเวลาสั้นๆ? หากข้าพูดไม่ผิดละก็ วันหน้านางจะต้องกลายเป็ยอดฝีมือคนหนึ่งอย่างรวดเร็ว!”
ท่านาุโทั้งหลายที่เดิมทียังถกเถียงกันเื่ผู้เข้าแข่งขันพลันตกอยู่ในความคิดของตน ใช่สิ การก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้มันผิดปกติเกินไป!
เดิมทีพวกเขาคิดว่าการก้าวหน้าขึ้นสองสามเท่าถือเป็เื่ไม่เลวแล้ว ใครเลยจะคิดว่าทันทีที่ก้าวหน้าก็จะก้าวหน้าถึงหนึ่งเท่าตัวเล่า?
พวกเขาไม่อาจไม่ยอมรับความจริงในเื่นี้--
นางเป็อัจฉริยะคนหนึ่งจริงๆ!
รองอาจารย์ใหญ่หัวเราะขึ้นอีกก่อนจะพูดว่า “ข้ากลับอยากรอดูว่า นางจะทำได้ถึงขั้นใดกันแน่?”
ในหอดอกเหมย เฟิ่งเฉี่ยนมองฝ่ามือของตนเองด้วยความดีใจ “ข้าก้าวหน้าขึ้นแล้ว! ในที่สุดข้าก็ก้าวขึ้นมาเป็เทพยุทธ์ขั้นหนึ่ง!
ท่านหญิงชิงเสียมองนางตาค้าง “เ้าเป็คนที่ก้าวหน้าได้เร็วที่สุดคนหนึ่งเท่าที่ข้าเคยพบมา! เ้าทำได้อย่างไรกัน?”
เฟิ่งเฉี่ยนครุ่นคิดแล้วกล่าวว่า “เร็วมากหรือ? เพิ่งจะเป็เทพยุทธ์ขั้นหนึ่งเท่านั้น!”
ท่านหญิงชิงเสียจะเป็ลม!
บนโลกนี้มักจะมีคนประเภทหนึ่ง ตัวเองมีพร์แต่กลับไม่เห็นเป็เื่สำคัญ ยังคิดว่าตัวเองก้าวหน้าได้ไม่เร็วพออีก!
เปรียบเทียบแล้วช่างน่าโมโห!
“ตอนนี้ถึงตาข้าแล้ว” เฟิ่งเฉี่ยนมองท่านหญิงชิงเสียด้วยแววตาครุ่นคิด
ท่านหญิงชิงเสียเป็เทพยุทธ์ขั้นเจ็ดอยู่แล้ว คิดจะเอาชนะนาง จำเป็ต้องทำให้พลังการสู้รบของนางเพิ่มขึ้นมากกว่าหนึ่งเท่าตัว ซึ่งเท่ากับเป็ระดับขั้นของอาจารย์เทพยุทธ์!
แต่เื่นี้แทบจะเป็ไปไม่ได้!
ยาก!
นางถอนใจเบาๆ
ท่านหญิงชิงเสียเห็นนางลำบากใจ จึงปลอบโยนว่า “การแข่งขันครั้งนี้สำหรับเ้าแล้วไม่ส่งผลที่ดีนัก! ไม่สู้เ้ายอมสละสิทธิ์! กลับไปข้าจะไปพูดกับท่านาุโเหลียน ดูว่านางจะสามารถยกเว้นให้เ้ามีโอกาสสอบเข้าเป็ศิษย์ได้หรือไม่?”
เฟิ่งเฉี่ยนรู้ว่านางปรารถนาดี แต่ยังคงส่ายหน้า “ไม่ได้ถ้าถอดใจ นั่นก็มิใช่นิสัยของข้าเฟิงเฉี่ยน!”
นางหยุดไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “ท่านหญิง ยื่นมือของท่านออกมา ข้าอยากจะลองจับชีพจรของท่านดู”
ท่านหญิงชิงเสียยื่นมือออกไปแต่โดยดี เฟิ่งเฉี่ยนจับชีพจรของนาง สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ท่านหญิงชิงเสียเห็นสีหน้าของนางเปลี่ยนไปจึงถามขึ้นอย่างประหลาดใจ “เป็อย่างไร? มีปัญหาอะไรหรือไม่?”
เฟิ่งเฉี่ยนช้อนตาขึ้นมองนางด้วยสายตาประเมินทว่าไม่พูดจา
ท่านหญิงชิงเสียถูกสายตาจับจ้องของนางทำให้รู้สึกร้อนใจ “ตกลงเป็อย่างไรกันแน่?”
เนิ่นนาน เฟิ่งเฉี่ยนจึงปริปากในที่สุด ทว่ากลับเป็คำพูดที่น่าใ “ท่านตั้งครรภ์แล้ว!”
“ตั้งครรภ์!” ท่านหญิงชิงเสียใ จากนั้นเม้มปากหัวเราะออกมา “นี่จะเป็ไปได้อย่างไร? เ้าดูผิดแล้วกระมัง?”
ท่านาุโในเรือนจินเฟิงถูกทำให้ใจนสะดุ้งเช่นกัน ใครๆ ต่างก็รู้ดีว่า ท่านหญิงชิงเสียยังมิได้ออกเรือน หากตั้งท้องจริงๆ นั่นจะเป็เื่น่าอับอายเพียงใด!
เฟิ่งเฉี่ยนกลับมีสีหน้าจริงจัง “ข้าแตกฉานวิชาแพทย์ รักษาอาการป่วยของมู่ไท่ฟู่จนหายดี ข้าไม่มีทางดูผิดแน่นอน!”
ท่านหญิงชิงเสียยังคงส่ายหน้าหัวเราะเบาๆ “แต่ครั้งนี้เ้าดูผิดจริงๆ ข้าไม่ได้ตั้งครรภ์จริงๆ!”
เฟิ่งเฉี่ยนมีสีหน้าเคร่งขรึม “ที่ท่านกำลังสงสัยในวิชาแพทย์ของข้าหรือ?”
นางหัวเราะถากถางขึ้นอีกครั้ง “กลับเป็ท่าน ท่านหญิง ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า ท่านจะเป็คนเช่นนี้ ถึงกับ...ถึงกับ...”
นางทำทีจะพูดแล้วอึกอัก แต่ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
สีหน้าของท่านหญิงชิงเสียเริ่มเปลี่ยนไป นางพูดด้วยโทสะ “เ้าอย่าได้พูดจาเหลวไหล! ข้าไม่มีทางตั้งครรภ์! ข้า...ข้ายังเป็หญิงพรหมจรรย์!”
พูดจบใบหน้านางพลันแดงก่ำ
เฟิ่งเฉี่ยนกลับแค่นหัวเราะเสียงเย็น แล้วพูดถากถางนาง “นั่นเป็เื่พูดยาก! ท่านเป็หญิงพรหมจรรย์หรือไม่ ใครจะรู้? ข้าเชื่อเพียงวิชาแพทย์ของข้า ข้าไม่เคยจับชีพจรผิดมาก่อน!”
ท่านหญิงชิงเสียร้อนใจเสียแล้ว “เ้าวิเคราะห์ผิดแล้วจริงๆ! ไม่สู้เ้าลองจับชีพจรใหม่อีกครั้ง เ้าจะพบว่าเ้าจับชีพจรผิด!”
“ไม่จำเป็!” เฟิ่งเฉี่ยนปฏิเสธเด็ดขาด “แต่ท่านวางใจ เื่นี้เ้ารู้ข้ารู้ ข้าไม่บอกกับผู้อื่น!”
“แม่นางเฟิง!” ท่านหญิงชิงเสียทั้งโกรธทั้งร้อนใจ
เฟิ่งเฉี่ยนพูดอีกว่า “ข้าได้ยินว่าท่านหญิงเคยมีคู่หมายคนหนึ่ง เป็คุณชายใหญ่ของจวนมหาเสนาบดี แต่วันแต่งงานเ้าบ่าวกลับหนีไป และยังพาหญิงโคมเขียวไปด้วยคนหนึ่ง เื่นี้เป็ความจริงหรือไม่?”
ท่านหญิงชิงเสียหน้าดำทะมึนทันที เสียงที่พูดสั่นสะท้าน “เ้า...เ้าถามทั้งๆ ที่รู้!”
เฟิ่งเฉี่ยนหัวเราะดูแคลน “นี่ก็ถูกต้องแล้ว คุณชายใหญ่ของจวนมหาเสนาบดีสวมหมวกเขียวให้ท่าน ท่านก็สวมหมวกเขียวให้เขา ตอนนี้พวกท่านเสมอกันแล้ว!”
“เ้า...เ้าพูดจาเลอะเทอะ!” ท่านหญิงชิงเสียมีโทสะจนต้องกุมหน้าอก
“ข้าพูดเลอะเทอะตรงไหน? เขาไม่ได้สวมหมวกเขียวให้ท่าน หรือท่านไม่ได้สวมหมวกเขียวให้เขา?” เฟิ่งเฉี่ยนก้าวเข้ามาบีบคั้นนาง “ยังมีอีก เด็กในท้องของเ้าเป็เืชั่วของใครกันแน่?”
ท่านหญิงชิงเสียถอยหลังทีละก้าวๆ หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงด้วยโทสะ “เ้าทำเกินไปแล้ว!”
ครั้งนี้ นางโมโหแล้วจริงๆ!
มือทั้งคู่กำเป็หมัดแน่นแล้วซัดฝ่ามือเข้าใส่เฟิ่งเฉี่ยน!
เฟิ่งเฉี่ยนหลบหลีก ท่านหญิงชิงเสียดึงฝ่ามือกลับไม่ทัน ฝ่ามือนั้นจึงซัดเข้าไปบนเสาทดสอบพลังยุทธ์!
พ่าง!
หลังจากเสียงดังสนั่นนั้น พรืด ท่านหญิงชิงเสียกระอักโลหิตสดๆ ออกมา!
“ท่านหญิง!” ท่านาุโเหลียนกำหมัดแน่นด้วยโทสะ “หญิงแซ่เฟิงทำเกินไปแล้ว! ท่านหญิงชิงเสียปรารถนาดีถ่ายทอด 《พลังลมปราณดาวเจ็ดดวง》ให้กับนาง เพื่อช่วยให้นางมีพลังเพิ่มขึ้น แต่นางกลับตอบแทนบุญด้วยการแก้แค้น ช่างมิใช่คนดี!”
ท่านาุโเฉินแค่นเสียงขึ้นจมูก “คนต่ำช้าเช่นนาง ไม่คู่ควรเป็อาจารย์ของสำนักศึกษา ควรจะถอนชื่อนางออกจากการเข้าสอบ!”
ครั้งนี้ กระทั่งท่านาุโกู่ก็ยังลังเลใจ “เ้าเด็กคนนี้ทำอะไรกันแน่?”
รองอาจารย์ใหญ่พลันพูดขึ้น “พวกเ้าดูที่เสาทดสอบพลังยุทธ์...”
หลายคนได้ยินเช่นนั้นจึงหันไปมองเสาทดสอบพลังยุทธ์ในลูกแก้วคริสตัล ทันทีที่มองไป แต่ละคนได้แต่ตาค้าง
“เป็ไปได้อย่างไร?” ท่านาุโเหลียนพึมพำออกมา
“ให้ตาย! นี่ได้รับเืใหม่หรือ?” ท่านาุโเฉินตกตะลึง
“ข้าไม่ได้ตาฝาดกระมัง?” ท่านาุโกู่ขยี้ดวงตา
ท่านอาวสุโสฉินยังคงมีสีหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์ดังเดิม
ในหอดอกเหมย เฟิ่งเฉี่ยนเดินเข้าไป “ท่านหญิง ขออภัยด้วย เมื่อสักครู่ข้าล่วงเกินแล้ว!”
ท่านหญิงชิงเสียถลึงตามองนาง “เ้าหลีกไป ข้าไม่อยากสนทนากับเ้า!”
เฟิ่งเฉี่ยน “ขอโทษ เมื่อสักครู่ข้าโกหกท่าน ท่านไม่ได้ตั้งครรภ์!”
ท่านหญิงชิงเสียพูดอย่างมีน้ำโห “ตกลงเ้าเจตนาทำอะไรกันแน่? ทั้งๆ ที่รู้ว่านั่นคือาแในใจของข้า เ้ายังไปสะกิดมันอีก! หรือเ้า้าเห็นข้าเ็ป เ้ามีความสุขมากใช่หรือไม่?”
เฟิ่งเฉี่ยนทอดถอนใจ “าแย่อมมีวันที่สมานตัวดีดังเดิม แต่ไข้ใจไม่รักษาไม่ได้!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้