บทที่5 หยางซู: ชีวิตของบ่าวไร้ราคา
หยางซูซุกตัวอยู่ในมุมที่มืดที่สุดของห้องพักบ่าวรวม ร่างกายของนางสั่นเทาไม่หยุด ไม่ใช่เพราะความหนาวจากสายลมยามค่ำคืนที่พัดเข้ามาตามรอยแตกของผนัง แต่เป็ความหนาวเย็นที่เกาะกินอยู่กลางใจ ความหวาดกลัวที่จับต้องไม่ได้ซึ่งยังคงตามหลอกหลอนนางไม่จางหาย
ภาพที่นางเห็นในเรือนเก็บฟืนเมื่อตอนบ่ายยังคงฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหัว...ภาพของคุณหนูสามจ้าวิ่หลานที่ควรจะนอนตายจมกองเื แต่กลับลืมตาโพลงจ้องมองมาที่นาง...ดวงตาคู่นั้น...ไม่ใช่ดวงตาของเหยื่อผู้ยอมจำนนต่อชะตากรรมอีกต่อไปแล้ว
นางชื่อหยางซู อายุสิบเจ็ดปี แต่กลับรู้สึกราวกับมีชีวิตอยู่มานานนับศตวรรษ นางถูกขายเข้ามาในจวนอู่หรงแห่งนี้ั้แ่อายุสิบขวบเพื่อแลกกับเงินเพียงไม่กี่ตำลึงที่จะช่วยให้ครอบครัวของนางมีข้าวกินไปอีกหนึ่งฤดูหนาว วันแรกที่นางก้าวข้ามธรณีประตูเข้ามา นางก็ได้เรียนรู้สัจธรรมข้อแรกของชีวิตบ่าวไพร่...ที่นี่ไม่มีที่ว่างสำหรับความอ่อนแอ
ชีวิตในจวนอู่หรงเปรียบเสมือนการเดินอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางเฉียบ ทุกย่างก้าวต้องระมัดระวัง ทุกคำพูดต้องชั่งน้ำหนัก และทุกการกระทำต้องไม่เป็ที่ขัดหูขัดตาของผู้เป็นาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายหญิงผู้กุมอำนาจที่แท้จริงของเรือนหลัง...ฮูหยินรองหลิวซื่อ
ในสายตาของหยางซู ฮูหยินรองคือศูนย์กลางของทุกสิ่ง นางงดงามราวกับเทพธิดาจำแลง แต่ก็อำมหิตได้ราวกับพญามารในร่างมนุษย์ รอยยิ้มของนางสามารถมอบรางวัลให้บ่าวไพร่ได้ฉันใด ก็สามารถสั่งโบยคนจนตายได้ฉันนั้น หยางซูเรียนรู้ที่จะก้มหน้าให้ต่ำที่สุด ทำตัวให้เล็กที่สุด และเป็เหมือนเงาที่ไร้ตัวตนที่สุดเพื่อเอาชีวิตรอด
โชคร้ายที่ความพยายามของนางไม่ได้ผลเสมอไป ความกดดันและความหวาดกลัวที่สะสมมานานหลายปีได้กัดกินร่างกายนางจากภายในจนเกิดเป็ "โรคใจสั่น" ที่ไม่มีใครรู้ มันจะกำเริบขึ้นมาในยามที่นางเครียดจัดหรือตื่นใ หน้าอกของนางจะเจ็บแปลบราวกับมีเข็มทิ่มแทง หายใจติดขัด และหัวใจก็จะเต้นระรัวราวกับจะทะลุออกมานอกอก
มีเพียงคนเดียวที่รู้ความลับนี้...หลี่มัวมัว
นางจำต้องคลานไปขอความเมตตาจากนางเฒ่าคนสนิทของฮูหยินรองเพื่อขอยาประทังอาการ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการตกเป็ทาสโดยสมบูรณ์ หลี่มัวมัวใช้ความลับนี้เป็โซ่ตรวนที่มองไม่เห็น คอยบงการให้นางทำงานสกปรกที่บ่าวคนอื่นรังเกียจ และหนึ่งในนั้นก็คือ...การไปดูให้แน่ใจว่าคุณหนูสามจ้าวิ่หลานสิ้นใจแล้วหรือยัง
สำหรับคุณหนูสาม...หยางซูไม่เคยรู้สึกอะไรเป็พิเศษ นางมองจ้าวิ่หลานเหมือนกับที่บ่าวคนอื่นๆ มอง คือเป็คุณหนูตกอับที่น่าสมเพช ร่างกายอ่อนแอ จิตใจเหม่อลอย และมีดวงตาที่เศร้าสร้อยราวกับกวางน้อยรอวันถูกเชือดอยู่เสมอ นางเป็เพียงเงาจางๆ ของอดีตฮูหยินเอกเสิ่นหว่านชิงผู้เลื่องชื่อ เป็เพียงเสี้ยนหนามที่คอยทิ่มแทงใจฮูหยินรองให้ขุ่นเคืองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
การตายของจ้าวิ่หลานจึงไม่ใช่เื่น่าประหลาดใจสำหรับนาง มันเป็เพียงฉากจบที่ถูกกำหนดไว้แล้วของตัวละครที่น่าเวทนาตัวหนึ่ง
แต่สิ่งที่นางเห็นในวันนี้...มันทำลายทุกความเข้าใจที่นางเคยมี
ตอนที่นางผลักประตูเรือนเก็บฟืนเข้าไป กลิ่นคาวเืที่คละคลุ้งทำให้แน่ใจว่างานของนางจบสิ้นแล้ว แต่เมื่อนางเงยหน้าขึ้น...นางก็ได้สบตากับพญามาร
จ้าวิ่หลานที่นั่งอยู่กลางห้องนั้นไม่ใช่คนเดิม แม้จะเป็ใบหน้าเดิม ร่างกายเดิมที่ผอมบางและเปรอะเปื้อน แต่ดวงตาคู่นั้นกลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง...มันไม่ใช่ดวงตาของกวางน้อยอีกต่อไป แต่เป็ดวงตาของหมาป่าที่ซุ่มรอขย้ำเหยื่อ! ความนิ่งสงบ ความเ็า และประกายแสงอันตรายที่วูบไหวอยู่ในแววตาลึกเร้นคู่นั้น...มันคือสิ่งที่ทำให้หยางซูกรีดร้องออกมาสุดเสียงว่า "ปีศาจ!"
นางไม่ได้เปรียบเปรย แต่นางเชื่อเช่นนั้นจริงๆ นางเชื่อว่าิญญาของจ้าวิ่หลานได้จากไปแล้ว และมีุ์ที่น่าสะพรึงกลัวบางตนเข้ามาสิงสู่ร่างนั้นแทน!
ความหวาดกลัวของนางยิ่งทวีคูณขึ้นเมื่อหลี่มัวมัวเรียกนางไปพบหลังจากกลับมาจากเรือนเก็บฟืน
"นังเด็กนั่น...มันพูดอะไรกับเ้าบ้าง?" หลี่มัวมัวถามเสียงเย็น
"ไม่...ไม่ได้พูดอะไรเ้าค่ะ" หยางซูโกหก นางไม่กล้าเล่าเื่ที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่านั้น
"โกหก!" หลี่มัวมัวตบหน้านางฉาดใหญ่ "ข้าไปที่นั่นมาแล้ว! นังเด็กนั่นมันรู้เื่โรคใจสั่นของเ้า! บอกข้ามา...เ้าเอาความลับของฮูหยินไปบอกมันใช่หรือไม่!"
หยางซูหน้าซีดเผือด ตัวสั่นยิ่งกว่าเดิม "บ่าวเปล่านะเ้าคะ! บ่าวไม่เคยพูดอะไรเลย! บ่าวสาบานได้!"
หลี่มัวมัวจ้องหน้านางเขม็ง เมื่อเห็นความหวาดกลัวอันจริงใจในแววตาของหยางซู นางก็ขมวดคิ้วด้วยความสับสน "ถ้าเ้าไม่ได้บอก...แล้วมันรู้ได้อย่างไร?"
คำถามนั้นยังคงก้องอยู่ในหัวของหยางซูจนถึงตอนนี้ นางไม่รู้...และนางก็ไม่อยากรู้! นางรู้เพียงอย่างเดียวว่าชีวิตของนางกำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน
นางติดอยู่ตรงกลางระหว่างอสรพิษสองตัว
ตัวหนึ่งคือฮูหยินรองหลิวซื่อและหลี่มัวมัว...เ้านายที่กุมชะตาชีวิตของนางไว้ในกำมือ ผู้ซึ่งกำลังสงสัยในความภักดีของนางและพร้อมจะกำจัดนางทิ้งได้ทุกเมื่อเพื่อปิดปาก
อีกตัวหนึ่งคือ "ปีศาจ" ในร่างของคุณหนูสาม...ตัวตนปริศนาที่หยั่งรู้ความลับที่ลึกที่สุดของนางได้ราวกับอ่านหนังสือ มันอาจจะยังไม่ได้ทำอะไรนางในตอนนี้ แต่นางไม่รู้เลยว่าวันไหนที่มันจะหันคมเขี้ยวมาฉีกทึ้งนางเป็ชิ้นๆ
หยางซูซุกหน้าร้องไห้อย่างเงียบงัน น้ำตาที่ไหลออกมาไม่ใช่เพราะความเ็ปจากรอยตบ แต่เป็น้ำตาแห่งความสิ้นหวัง นางตระหนักได้ว่าชีวิตเล็กๆ ของนางนั้นไร้ค่าเพียงใดในเกมการแก่งแย่งชิงดีของเหล่าผู้สูงศักดิ์ นางเป็เพียงมดปลวกที่สามารถถูกเหยียบย่ำให้แหลกสลายได้ทุกเมื่อ
นางไม่รู้เลยว่าอนาคตจะเป็เช่นไร นางรู้เพียงว่าเงาของความตายกำลังทาบทับลงมาใกล้ขึ้นทุกขณะ และนาง...ก็ไม่มีที่ให้หนีอีกต่อไปแล้ว