เพลงกระบี่ดับเงา หนึ่งกระบี่ปลิดชีวิต!
เสวียนเทียนไม่ลงมือก็แล้วไป พอลงมือครั้งหนึ่งทรงพลังราวกับสายฟ้าไม่อาจต้านทาน
หนึ่งกระบี่ฟันลงมา จางกู่เฟิงที่ราวกับอยู่ในห้องแช่แข็งสีหน้าซีดขาว กลิ่นไอความตายโอบล้อมรอบตัวเขา เขาเหมือนถึงที่ตายรู้สึกถูกคุกคามถึงชีวิต
เขาอยากหลบ แต่กระบี่ของเสวียนเทียนเร็วเกินไปร่างกายของเขาอย่างไรก็ไม่มีทางตอบสนองได้ว่องไวถึงเพียงนั้น ทำได้เพียงยก ‘กระบี่โฉมจันทรา’ ในมือขึ้นกันเท่านั้น
‘กระบี่โฉมจันทรา’ เป็สุดยอดกระบี่มีชื่อ ระดับเดียวกันกับดาบยาวในมือของนักดาบอสนีบาตเมื่อถ่ายเทปราณแท้เบิกนภาเข้าไป ‘กระบี่โฉมจันทรา’ ก็เปล่งประกายเจิดจ้า เหยียดตรง ราวกับอาวุธคมกริบที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานชิ้นหนึ่ง
ทว่าในมือของเสวียนเทียนถือศาสตราวิเศษชั้นนิลระดับกลางฟันลงมาเต็มแรงไม่มีอาวุธมีชื่อชิ้นใดจะต้านทานได้
เสียงดังสนั่นดังขึ้น ‘กระบี่โฉมจันทรา’ หักเป็สองท่อน ประกายแสงหายไปในทันใด พร้อมกันนั้นเสียงกรีดร้องแหลมสั้นก็ดังขึ้น
กระบี่ขุนเขาหนักฟัน ‘กระบี่โฉมจันทรา’ หัก พลังอันไม่อาจต้านทานยังคงฟันลงไปต่อ
ร่างกายที่หุ้มปราณแท้เบิกนภาของจางกู่เฟิงสำหรับกระบี่ขุนเขาหนักที่อัดพลังปราณแท้เบิกนภาทั้งร่างของเสวียนเทียนเข้าไปและฟันลงมาอย่างรวดเร็วนี้แตกต่างกันคล้ายไข่ไก่กับก้อนหิน ร่างของจางกู่เฟิงพริบตาก็แยกเป็สองเสี่ยงหงายลงไปนอนจมกองเื
เพลงกระบี่ดับเงาแต่เดิมก็เป็เพลงกระบี่สังหาร ‘ท่าสะบั้นร่าง’ ก็เป็ท่าสังหารรุนแรงของเพลงกระบี่ดับเงาด้วย
เสวียนเทียนจับจังหวะตอนที่ในใจของจางกู่เฟิงตกตะลึงหนึ่งกระบี่ฟาดฟัน แล้วก็สังหารได้ในกระบี่เดียวจริงๆ ชั่วเวลาเพียงหนึ่งลมหายใจจางกู่เฟิงกับเฉิงหยวนอู่ต่างก็เดินลงสู่ปรภพเช่นเดียวกัน
เร็ว!
เร็วเหลือเกิน!
ผู้ฝึกยุทธ์ในลาน ยังคงตื่นตะลึงที่เฉิงหยวนอู่ถูกสังหารวินาทีต่อมาจางกู่เฟิงก็ตายดับสิ้นชีวิตอีกเหมือนกับอู๋เหวินเสียงที่ตายด้วยมือเสวียนเทียน ร่างจากหนึ่งเป็สองถูกผ่ากลางเป็สองเสี่ยง
หนึ่งกระบี่ฟันผ่าร่างกายของผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสามหากไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ที่ลงมือพลังวัตรเหนือกว่าชั้นเบิกนภาขั้นสามปราณแท้ลึกล้ำน่าหวั่นเกรง ถ้าอย่างนั้นก็ต้องยืมความคมของศาสตราวิเศษแล้ว
นาทีนี้ ในใจของคนส่วนใหญ่กระจ่างใจแล้วกระบี่ในมือของเสวียนเทียนไม่ใช่อาวุธธรรมดา แต่เป็...ศาสตราวิเศษ!
แต่รอจนพวกเขาเข้าใจก็สายไปแล้ว หนิวเจิ้นเยว่จางกู่เฟิง เฉิงหยวนอู่ยอดฝีมือชั้นเบิกนภาขั้นสามของฝ่ายตรงข้ามตายด้วยฝีมือหนึ่งคนหนึ่งกระบี่ของเสวียนเทียนเสวียนเทียนบรรลุเป้าหมายแล้ว ต่อไปคือการต่อสู้กับหนิวเจิ้นซานต้องใช้พลังทั้งหมดสู้ศึก ความสามารถทั้งหมดย่อมต้องแสดงออกมา เปิดเผยตอนนี้ก็ไม่เป็ไร
“ท่านเ้าตระกูล!”
จางกู่ซงกับเฉิงหยวนกงร้องเรียกเสียงสลดทั้งสองคนมองมาที่เสวียนเทียน แววตาราวกับอยากพ่นไฟออกมา
แต่ขนาดจางกู่เฟิงกับเฉิงหยวนอู่ยังตายด้วยมือของเสวียนเทียนถึงจะยังมึนงงอยู่ แต่พลังของเสวียนเทียนก็ไม่ใช่สิ่งที่จางกู่ซงกับเฉิงหยวนกงจะเทียบได้แม้จะโกรธแต่ไม่กล้าลงมือกับเสวียนเทียน
ศพของจางกู่เฟิงกับเฉิงหยวนอู่ล้มจมอยู่ในกองเืเสวียนเทียนยืนอยู่ระหว่างกลางศพของทั้งสองราวกับศาสตราวิเศษล้ำค่าเล่มหนึ่งที่เผยออกจากฝัก ปราณกระบี่พวยพุ่งขึ้นสูง บนศีรษะของเสวียนเทียนเห็นเงากระบี่ลวงตายาวกว่าร้อยเมตรเล่มหนึ่งอยู่เลือนรางฉีกแหวกท้องฟ้า
บนเสื้อผ้าของเสวียนเทียนอาบไปด้วยเื
กระบี่ขุนเขาหนักในมือเอียงลง เืสดหยดลงมาจากปลายกระบี่
เสวียนเทียนราวกับยมทูตแห่งความตายที่เดินออกมาจากนรกแต่ละก้าวเหยียบเืแดงฉานที่นองพื้นอยู่ ก้าวเข้ามาหาหนิวเจิ้นซานไอสังหารและกลิ่นคาวเืไร้ก้นบึ้งผนวกกับพลังกระบี่อันน่าตื่นตะลึงของเขาผู้ฝึกยุทธ์ในที่นั้นทุกคนล้วนพรั่นพรึงกับภาพนี้
เสวียนเทียนมีท่าทางาเ็สักนิดเสียที่ไหนตัวคนเผยรัศมีคมกริบ แผ่พลังอันน่าตื่นตะลึงออกมา ทรงพลังไม่อาจต้านทาน
“คนที่ทำร้ายตระกูลของข้า ตาย!”
“คนที่คิดฮุบสมบัติของครอบครัวข้าตาย!”
“คนที่บุกรุกบ้านของข้า ตาย!”
เสวียนเทียนยกกระบี่ขุนเขาหนักที่ชโลมไปด้วยเืเหยียบเืที่นองทั่วพื้น จับจ้องไปที่หนิวเจิ้นซาน พูดทีละคำ
ฟังแค่เสียงก็ััได้ถึงจิตสังหารไร้ก้นบึ้งของเสวียนเทียนผู้ฝึกยุทธ์หลายคนในลานใจนร่างกายไร้เรี่ยวแรง สองขาอ่อนยวบก้นจ้ำเบ้านั่งลงไปที่พื้น ดวงตามีแต่ความหวาดผวา
ถึงจะเป็หนิวเจิ้นซานผู้มีพลังวัตรชั้นเบิกนภาขั้นสี่ก็ยังััได้ถึงพลังมากมายที่กดทับลงมาโอบล้อมเขาไว้จนลมหายใจถี่กระชั้นขึ้น
หนิวเจิ้นเยว่ตายด้วยมือเสวียนเทียนทุกคนต่างคิดว่าหนิวเจิ้นเยว่ดูถูกศัตรู หนิวเจิ้นซานก็ไม่เว้นดังนั้นจึงไม่ได้มองเสวียนเทียนเป็ปัญหาใหญ่จนหนิวเจิ้นเยว่ถูกเสวียนเทียนฟันศีรษะขาด เขาก็เข้ามาช่วยไม่ทัน
เมื่อจางกู่เฟิงกับเฉิงหยวนอู่ลงมือทุกคนก็ยังคงดูถูกเสวียนเทียน หนิวเจิ้นซานก็เช่นเดียวกัน ใจจมจ่ออยู่กับความคับแค้นเศร้าโศกจากการตายของหนิวเจิ้นเยว่จางกู่เฟิงกับเฉิงหยวนอู่ถูกเสวียนเทียนโต้กลับ เพียงสองลมหายใจทั้งสองคนก็ถูกหนึ่งกระบี่ปลิดชีวิตในพริบตาหนิวเจิ้นซานก็เข้ามาช่วยไม่ทันอีก
สรุปแล้วหนิวเจิ้นซานไม่เคยมองเสวียนเทียนอยู่ในสายตาไม่ว่าตอนที่อีกฝ่ายหนึ่งคนหนึ่งกระบี่เข้ามาขวางพวกเขาผู้ฝึกยุทธ์นับร้อยคน หรือตอนที่หนิวเจิ้นเยว่ตายด้วยน้ำมือของเสวียนเทียนหนิวเจิ้นซานก็เป็เช่นเดียวกับทุกคน ไม่เคยมองเสวียนเทียนเป็เื่ใหญ่
ทุกคนต่างก็ถูกภาพลวงที่เสวียนเทียนสร้างขึ้นปิดบังไว้
จนถึงตอนนี้ หนิวเจิ้นซานถึงเพิ่งรู้เด็กหนุ่มสง่าหล่อเหลาอายุเพียงสิบสี่สิบห้าปีกลับน่าหวาดกลัวถึงขนาดนี้
หนิวเจิ้นซานเปลี่ยนเป็จริงจังขึ้นมาไม่ดูถูกเสวียนเทียน ตะคอก หรือะโคุ้มคลั่งใส่เขาอีก เขารู้แล้วว่าสิ่งเหล่านี้ใช้กับเสวียนเทียนไม่ได้ผล ความโกรธมีแต่จะทำให้ลมหายใจของตนเองสับสนเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายฉกฉวย
หนิวเจิ้นซานมองเสวียนเทียนเป็ศัตรูที่น่ากลัวคนหนึ่ง
หนิวเจิ้นซานยกมือขึ้นมาถุงมือสีดำวาวคู่หนึ่งสวมอยู่บนมือ
แววตาของเสวียนเทียนวูบไหวเป็ถุงมือศาสตราวิเศษตระกูลหนิวไม่เสียชื่อที่เป็ตระกูลอันดับหนึ่งแห่งอำเภอเป่ยโม่ศาสตราวิเศษสำหรับตระกูลขั้นเก้าแล้วราวกับสิ่งของในตำนานแต่หนิวเจิ้นซานกลับมีหนึ่งชิ้น
หนิวเจิ้นซานมองเสวียนเทียนด้วยสายตาเ็าพูดขึ้นเสียงเย็นว่า “เ้าเด็กเดรัจฉานพลังของเ้ามีถึงขนาดนี้ แต่กลับเล่นละคร หลอกพวกเราได้แสบทรวงนักแต่นี่เปลี่ยนชะตาที่ต้องตายของเ้าไม่ได้ คนตระกูลหวงทุกคนต้องตายลงสุสานเพื่อเื่นี้ข้าจะเอาเืของตระกูลหวงย้อมผืนดิน ใช้หัวของเ้ามาเซ่นไหว้น้องชายของข้า”
“อย่างเ้าน่ะหรือ?”
เสวียนเทียนในใจจดจ่อตั้งใจแต่ภายนอกกลับทำท่าดูถูกอย่างมาก พูดดูแคลนขึ้นว่า “อย่างเ้ายังห่างไกล หนิวเจิ้นซานวันนี้เ้าต้องตาย กองพลของตระกูลหนิว เฉิง จางที่บุกรุกจวนของข้า คนเดียวก็ไม่อาจหนีรอดจากนี้อำเภอเป่ยโม่จะไม่มีตระกูลหนิว เฉิง จางสามตระกูลอีก”
พูดถึงตรงนี้ เสียงก็หยุดไปสายตาของเสวียนเทียนกวาดมองผู้ฝึกยุทธ์ในลานทีหนึ่ง กล่าวว่า “คนที่ไม่ใช่ตระกูลหนิวตระกูลเฉิง ตระกูลจาง พวกเ้าที่ถูกบีบบังคับให้มา หากอยากรอดก็รีบวางอาวุธเสียโดยเร็วตระกูลหวงจะไม่เอาเื่ในอดีต ตระกูลของพวกเ้าก็จะอยู่รอดปลอดภัยแต่ถ้าใครกล้าลงมือกลับตระกูลหวง วันนี้จะเป็วันตายของพวกเ้า ไสหัวไปซะ!”
สายเืตระกูลหนิว เฉิงจางที่มาบุกตระกูลหวงมีไม่มาก ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นวิถียุทธ์เ่าั้เกินกว่าเจ็ดส่วนล้วนเป็ผู้ฝึกยุทธ์ที่พึ่งพิงสามตระกูลได้แต่ต้องตามมาเป็ทหารเลวยังมีผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาอีกจำนวนหนึ่งก็เป็ตระกูลดังจำนวนหนึ่งในอำเภอที่พึ่งพิงตระกูลหนิวเพื่ออยู่รอด
คนที่ควรฆ่า ไม่ใจอ่อนเด็ดขาดคนที่ไม่จำเป็ต้องฆ่า เสวียนเทียนก็ไม่ใช่คนใจหินไร้หัวใจ ไว้ชีวิตพวกเขาได้
เมื่อได้ยินเสวียนเทียนพูด ผู้ฝึกยุทธ์ไม่น้อยในใจก็เตรียมคิดจะไปแต่ก็กลัวอำนาจของหนิวเจิ้นซาน ชั่วขณะยังไม่มีใครกล้าขยับ
ดวงตาทั้งคู่ของหนิวเจิ้นซานทอประกายดุร้ายกวาดตามองผู้ฝึกยุทธ์ ตวาดว่า “ใครกล้าถอย หลังข้ากำจัดตระกูลหวง ข้าจะสังหารมันเก้าชั่วโคตร”
แต่เดิมบรรดาผู้ฝึกยุทธ์ก็กลัวอำนาจของหนิวเจิ้นซานอยู่แล้วถูกเขาขู่อีก ยิ่งหัวหด ถ้าหนิวเจิ้นซานยังไม่พ่ายแพ้ ก็ไม่มีใครกล้าต่อต้าน
เสวียนเทียนรู้ดีถึงอำนาจของหนิวเจิ้นซานที่อำเภอเป่ยโม่เอ่ยขึ้นเสียงเย็น “เ้าต้องตายวันนี้ยังกล้าพูดจาวางโตไม่อายปากอยู่อีก!”
ระหว่างที่พูด เสวียนเทียนฉับพลันก็ลงมือ ใช้กระบวนท่า ‘วายุทลาย’ ของ ‘ถลาลมเก้ากระบี่’ ออกมา
กระบี่ขุนเขาหนักในมือของเสวียนเทียนเบาราวกับขนห่าน หนึ่งกระบี่แทงทแยงลง เสียงฉึบเสียงหนึ่งดังขึ้น สายลมถูกแหวกออกเป็ทางสายหนึ่งอย่างง่ายดายฉีกออกไปสองข้าง เกิดเป็กระแสลมสองสายกระบี่ขุนเขาหนักเคลื่อนไหวไปตามกระแสลมทั้งสอง เดี๋ยวซ้ายเดี๋ยวขวาส่งรัศมีกระบี่สองสายพุ่งเข้าไปหาหนิวเจิ้นซาน
หนิวเจิ้นซานยื่นสองมือออกมามือเปล่าหันเข้าหากันเป็วง ปราณแท้เบิกนภารวมอยู่ตรงกลาง กลายเป็ภาพลวงตาของยอดเขาลูกหนึ่ง
ท่าไม้ตายขั้นสุดยอดของฝ่ามือเบิกภูผาชั้นบรรลุส่วนใหญ่...อ้อมกอดภูผาประทับ!
หนิวเจิ้นซานยกมือขึ้นยอดเขาลวงตาลูกนั้นก็ลอยสูงขึ้นไปในอากาศแล้วพุ่งเข้าชนรัศมีกระบี่ที่เสวียนเทียนแทงออกไป
เสียงเคร้งดังสนั่นสองครั้งดังขึ้นยอดเขาลูกนั้นแม้ว่าจะเป็เพียงภาพลวงตา แต่ก็แข็งแกร่งไร้เทียมทาน กระบี่ขุนเขาหนักของเสวียนเทียนเพิ่งแทงเข้าไปใน ‘อ้อมกอดภูผาประทับ’ ได้ครึ่งหนึ่ง ก็ไม่อาจแทงต่อจนทะลุได้ การโจมตีถูกทำลาย
“ข้าบรรลุ ‘อ้อมกอดภูผาประทับ’ ท่าไม้ตายขั้นสุดยอดของฝ่ามือเบิกภูผาแล้วพลังไม่เป็รองวิทยายุทธ์ชั้นนิลขั้นกลาง เ้าเด็กเดรัจฉานจงดูข้าใช้อ้อมกอดภูผาประทับทุบเ้าตายเสียเถอะ”
เสียงตื่นเต้นของหนิวเจิ้นซานดังขึ้น มั่นใจใน ‘อ้อมกอดภูผาประทับ’ เป็อย่างมาก สองแขนของเขาโอบเป็วง ‘อ้อมกอดภูผาประทับ’ อีกลูกหนึ่งปรากฏขึ้นอีกครั้ง สองมือเหวี่ยงโยน ‘อ้อมกอดภูผาประทับ’ ก็โผขึ้นในอากาศ ข้าม ‘อ้อมกอดภูผาประทับ’ ลูกแรกตกลงมาจากบนฟ้า ทุบตรงมาที่เสวียนเทียน
แค่ยกมือยกเท้าก็มีพลังพอเคลื่อน ‘ภูผา’ ท่า ‘อ้อมกอดภูผาประทับ’ นี้เป็สิ่งที่วิทยายุทธ์ชั้นนิลขั้นต้นไม่อาจเทียบได้อย่างแท้จริง
แต่ว่า ‘ภูผา’ เป็เพียงยอดเขาลวงตาเท่านั้นไม่ใช่ขุนเขาของจริง ไม่เช่นนั้นแล้วเสวียนเทียนอย่างไรก็ต้านไม่อยู่ยอดเขาลูกหนึ่งเคลื่อนมาก็เพียงพอจะฝังเสวียนเทียนทั้งเป็แล้ว
เคลื่อนูเาต่อให้เป็จอมยุทธ์ชั้นปฐีก็ไม่อาจทำได้
‘อ้อมกอดภูผาประทับ’ ถึงแม้จะไม่ใชู่เาจริง แต่มีพลังของูเา พลังโจมตีมหาศาลยิ่งแม้ว่าร่างกายของเสวียนเทียนจะแข็งแกร่งขึ้นจนชวนตะลึงแต่ก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นไออันตรายจาก ‘อ้อมกอดภูผาประทับ’
ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสามทั่วไป ถูก ‘อ้อมกอดภูผาประทับ’ ชนเข้าที่หนึ่ง ต้องมีจุดจบถูกป่นกระดูกเป็ผุยผงตัวตายวายชีวาอย่างแน่นอน
เสวียนเทียนรั้งกระบี่กลับแล้วถอยในพริบตาสองมือกุมกระบี่ขุนเขาหนัก ‘ท่าวายุสะบั้น’ ฟันออกมาในพริบตา
รัศมีกระบี่บาดตาฉับพลันพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วอัดแน่นกลายเป็เงากระบี่ขนาดมหึมากลางอากาศ ยาวถึงร้อยเมตรปราณกระบี่ยิ่งพุ่งไปอีกร้อยเมตร
หนึ่งกระบี่ฟันลงมาราวกับกระบี่์เล่มหนึ่งลงมาสู่โลกมนุษย์ ผ่าแบ่งท้องฟ้าออกเป็สอง
เสียงแตกดังขึ้น ‘อ้อมกอดภูผาประทับ’ ที่ทุบลงมาหาเสวียนเทียนจากหนึ่งแบ่งเป็สองถูกฟันผ่าเป็สองเสี่ยงพริบตาสลายไป
พร้อมกันนั้น รัศมีกระบี่อันแข็งแกร่งก็โจมตี ‘อ้อมกอดภูผาประทับ’ ที่กระบี่แรกไม่อาจแทงทะลุนั้นปลิวกลับไป พุ่งเข้าไปหาหนิวเจิ้นซาน
หนิวเขิ้นซานหัวเราะหยันทีหนึ่ง ฝ่ามือฟาดออกมา ‘อ้อมกอดภูผาประทับ’ ก็ราวกับถูกชี้นิ้วสั่ง พุ่งกลับไปทางเสวียนเทียนพร้อมกับที่สองมือโอบเป็วงโยน ‘อ้อมกอดภูผาประทับ’ อีกลูกเข้ามาหาเสวียนเทียน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้