บทที่ 93 กำแพงมนุษย์
เที่ยงคืน เมฆสีแดงลอยล่องปกคลุมท้องฟ้ายามค่ำคืนจนดับแสงดวงจันทร์ นกปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนบินอาละวาด กระพือปีกอย่างแรงจนท้องฟ้าสั่นะเื
ป่าสีเือันกว้างใหญ่ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย สัตว์ปีศาจทุกตัวมีดวงตาสีแดงเืวิ่งพล่านไปทุกทิศทาง ต้นไม้ใหญ่หักโค่นเป็ทิวแถว เศษก้อนหินน้อยใหญ่กระเด็นกระจาย
ที่ต้นน้ำของแม่น้ำโลหิต ฉู่อวิ๋นและพรรคพวกต่างพุ่งไปฆ่าด้วยความโศกเศร้าและโกรธแค้น กระแสเืพุ่งกระฉูด แม้พวกเขาจะรู้ว่าซ่งอี้จมอยู่ในฝูงสัตว์ปีศาจ แต่ก็ทำได้เพียงวิ่งหนีไปทั้งน้ำตา
พวกเขาไม่อาจผิดต่อการเสียสละของซ่งอี้!
“ทุกคน อย่าแตกแถว! ตามข้ามา!” เฟิงเยี่ยนดูเคร่งขรึม คราบน้ำตายังคงเปรอะเปื้อนใบหน้า เขาคอยเปิดทางข้างหน้า ให้มีดบินพลังปราณสังหารสัตว์ปีศาจที่คอยขวางทางอยู่เรื่อยๆ
“ข้าต้องอยู่... ข้าต้องอยู่ต่อไป!!!” ดวงตาของฉู่อวิ๋นฉายแววดุร้าย เขาะโก้องอยู่ในใจ ทว่าเขาเป็กองหน้าคนที่สองของกลุ่ม ยังต้องรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง
ตอนนี้เขาตกอยู่ในความสับสน อารมณ์โมโหโกรธาล้วนฉายชัดอยู่บนใบหน้า สัตว์ปีศาจที่ผ่านเข้ามามีไว้ให้เขาใช้ระบายความเคียดแค้นเท่านั้น!
“พี่ใหญ่... ข้าอ่อนแอเกินไป ข้าช่วยท่านไม่ได้! ข้าขอโทษ... ข้าโทษ! ฮือ!!”
“หัวหน้าท่านวางใจเถอะ พวกเราออกไปได้แน่ เราทำได้แน่!”
“ฆ่า!!”
ดวงตาของทุกคนแดงก่ำ หัวใจของพวกเขาเ็ปราวกับถูกใบมีดแหลมคมกรีด แต่ในอารมณ์ที่แตกตื่นเช่นนี้ พวกเขากลับเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้นหลายเท่า พลังสุดท้ายที่เหลืออยู่พุ่งออกมาจากร่างกาย พลังปราณเพิ่มขึ้นชั่วขณะหนึ่ง ทำให้อันตรายไม่อาจกล้ำกราย
“ควั่บ ควั่บ ควั่บ!”
พลังปราณจากก้นบึ้งของแม่น้ำเปล่งประกายอย่างดุเดือด ราวกับเมฆาร่วงถล่มและดวงจันทร์แตกสลาย ด้วยความโกรธที่ลุกโชน ฆ่าสัตว์ปีศาจจนชุ่มโชกไปด้วยเื เสียงคำรามดังก้องไปในอากาศ
มองเห็นกลุ่มคนสิบคนกำลังพุ่งทะยานทวนไปตามแม่น้ำอย่างรวดเร็วคล้ายัตัวยาว พยายามกวาดล้างสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ทิ้งไว้เพียงเส้นทางที่นองเื!
“ชึบ ชึบ ชึบ——!”
สุกรวัชระหลายตัวพยายามโจมตีเข้ามา แต่ยังไม่ทันได้เข้าใกล้ก็ถูกแสงกระบี่ของฉู่อวิ๋นสับเป็ชิ้นๆ เสียก่อน
“ซ่า!”
น้ำในแม่น้ำกระเซ็นอย่างแรง ครู่ต่อมา เงาดำอีกเงาก็ปรากฏขึ้น ปลาปีศาจกว่าสิบตัวะโออกมาจากแม่น้ำ ดวงตาวาวใสดุร้าย ก่อนจะพ่นศรวารีออกมาจากปากอันใหญ่โต บนศรอาบด้วยพิษร้ายแรง แต่กลับถูกิญญายุทธ์เกราะคู่ของสือเหล่ยขวางไว้
“โฮก——! เ้าพวกสัตว์ปีศาจ! เอาชีวิตพี่ใหญ่คืนมาให้ข้า เอาคืนมา!!”
ชายร่างใหญ่ะโสุดเสียง คว้าตัวปลาด้วยมือข้างหนึ่งแล้วยกหมัดเหล็กระดมต่อยภายในพริบตา สัตว์ปีศาจน้ำที่ดุร้ายกลายเป็ชิ้นเนื้อเละๆ กลิ่นคาวเืตลบอบอวลไปในอากาศ
ในเวลาเดียวกัน ต่างฝ่ายต่างต่อสู้กันอย่างชุลมุน พลังปราณของพวกเขาพลุ่งพล่าน ทุกครั้งที่เดินไปได้ระยะหนึ่งก็จะมีสัตว์ปีศาจพุ่งเข้าหาทั้งด้านหน้าด้านหลัง
ทุกคนต่อสู้ไปพลางเดินหน้าไปพลาง ร่างกายเต็มไปด้วยหยดเื เสื้อผ้าเปียกโชก ราวกับเงาร่างสีแดงนับสิบร่างที่กำลังวิ่งหนีเอาชีวิตรอด
หากผิดพลาดสักเล็กน้อยจนตามขบวนไปไม่ทัน นั่นคือหนทางสู่ความตาย
ในขณะที่ทุกคนเดินลึกลงไปในแม่น้ำและรีบวิ่งทวนกระแสน้ำ กำแพงูเาที่อยู่ข้างๆ ก็ขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ความกว้างของผิวน้ำเหลือเพียงสองหมี่เท่านั้น ซึ่งแคบมาก
พื้นที่เล็กๆ นี้ทำให้ทุกคนไม่อาจปล่อยมือออกจากกัน ได้แต่เพียงต่อสู้อย่างสิ้นหวัง ร่างกายของทุกคนมีรอยแผลและร่องรอยโลหิตประปรายไม่มากก็น้อย
“ทุกคน ดูนั่น!”
มู่หรงซินหรี่ตามองไปข้างหน้า จากนั้นก็ส่งเสียงไชโยโห่ร้อง ทำให้ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองหลังจากฆ่าสัตว์ปีศาจไปได้อีกหลายตัว
มีแม่น้ำที่ทอดยาวอยู่ข้างหน้า ทว่าเมื่อมองไปรอบๆ ก็พบกับแสงสีแดงเข้มที่ส่องเข้ามา ราวกับเส้นขอบฟ้าที่ใฝ่หา
“นั่น...นั่นคือทางออกของแม่น้ำ! เรามาถึงแล้ว...ในที่สุดเราก็มาถึงแล้ว...” ดวงตาของฉู่อวิ๋นเป็ประกาย แต่เขากลับยิ้มเศร้าๆ
หลังจากต่อสู้มาจนสุดทางก็เห็นความหวังขึ้นมารำไร พวกเขากำลังจะรีบวิ่งออกไปอีกครั้ง
แต่ฉู่อวิ๋นรู้ดีว่าผลลัพธ์ที่ได้มาในตอนนี้ แลกมากับชีวิตของซ่งอี้
มิฉะนั้น ทุกคนก็จะถูกจระเข้กลืนฟ้ากินหมด ไม่มีใครรอดพ้น
“นี่คือทาง่สุดท้ายแล้ว! สัตว์ปีศาจก็เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ เร่งไปข้างหน้าอย่างสุดกำลัง!” เฟิงเยี่ยนยกแขนขึ้น หายใจเข้าลึกๆ และรีบรุดไปข้างหน้าทันทีเพื่อเปิดทางให้ทุกคน
“เร็ว!!”
“บุกไปด้วยกัน!!”
“ไม่ช้าก็เร็วข้าจะต้องกลับมาฆ่าสัตว์ปีศาจอย่างพวกแกให้ได้! โฮก——!”
ทุกคนะโตอบรับ ร่างกายร้อนผ่าว ก่อนจะวิ่งไปบนทางน้ำข้างหน้า คลื่นน้ำสาดซัดไปทั่ว นี่เป็่สุดท้ายของทางน้ำแล้ว
“ตึง—“
ในขณะที่ทุกคนยังคงต่อสู้ต่อไป เสียงคำรามอันกึกก้องก็ดังมาจากด้านหลัง พลังอันยิ่งใหญ่ราวกับฟ้าร้องกัมปนาท
“เร็วเข้า... ทุกคน รีบไปข้างหน้า! ์! สัตว์ปีศาจพวกนี้เยอะเกินไปแล้ว!” นักรบที่อยู่ท้ายขบวนตกตะลึง ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็สีเขียวด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะรีบวิ่งไปข้างหน้า
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็หันหลังไป มองเห็นสัตว์ปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนกรูกันเข้ามาหาพวกเขา ส่งเสียงคำรามดังก้อง ทำลายกำแพงูเาจนแตกกระจาย แลดูวุ่นวาย
เมื่อสัตว์ปีศาจมารวมตัวกันในพื้นที่แคบๆ ของแม่น้ำก็ก่อให้เกิดคลื่นลูกใหญ่สูงหลายสิบหมี่ แรดเขาทองตัวใหญ่บางตัวยังติดอยู่บนกำแพงูเาทั้งสองอีกด้วย
“ให้ตายเถอะ! นี่มันอะไรกัน?!!” เมื่อมองไปที่กลุ่มสัตว์ปีศาจที่รวมตัวกันเป็ฝูง ดวงตาของฉู่อวิ๋นก็เบิกกว้าง เขาผลักมู่หรงซินและพ่านพ่านไปข้างหน้าทันที ก่อนจะรีบไปข้างหน้า
หากถูกดันไปอยู่ท้ายขบวน ไม่โดนกัดตายก็ต้องโดนเหยียบตาย
ในความเป็จริง แม้ว่าทุกคนจะรีบเร่งไปข้างหน้าอย่างไม่ย่อท้อ เพื่อให้ไปถึงต้นน้ำให้เร็วที่สุด แต่ผลที่ตามมาของการสูญเสียบุคคลที่แข็งแกร่งในระดับห้าของขั้นมหาสมุทรนั้นเป็อันตรายถึงชีวิต
หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากซ่งอี้ สัตว์ปีศาจที่อยู่ด้านหลังคงกองกันเป็ูเา แม่น้ำก็ค่อยๆ แคบลง ดังนั้นฝูงสัตว์ปีศาจจึงซ้อนทับกันขึ้นไปเป็เรื่อยๆ แลดูแออัดในลำน้ำแคบๆ
“โฮก!”
ทันใดนั้น สุนัขปีศาจสามหัวหลายตัวก็โผล่ออกมาจากฝูงสัตว์ปีศาจที่หนาแน่นอย่างรวดเร็ว กรงเล็บของพวกมันสะท้อนแสง รีบวิ่งไปหาคนที่อยู่ท้ายขบวน
“อ้าก...โอ้ย...!!”
“หนีไป…หนีไป!”
เมื่อเห็นสัตว์ปีศาจไล่ตามมา นักรบทั้งสองที่อยู่ระดับแปดของขอบเขตควบแน่นพลังปราณก็หน้าซีดเผือด ตื่นตระหนกจนเกิดการผลักกัน ทำให้พวกเขาเสียศูนย์และตกลงไปในน้ำพร้อมกัน
“ฉึก!”
ก่อนที่ใครจะทันโต้ตอบ ชายทั้งสองก็ถูกสุนัขปีศาจฉีกเป็ชิ้นๆ พวกเขายังไม่ทันได้กรีดร้อง เนื้อและเืก็ปลิวว่อน
“หึ! สัตว์ปีศาจหน้าตาย กล้าดีอย่างไรมาฆ่าพี่น้องข้า!?” นักรบอีกคนะโอย่างโกรธขึ้ง เขาหันหลังกลับ และฟาดฝ่ามือทั้งสองออกไปฆ่าสุนัขปีศาจทั้งสองตัวในทันที
แต่เขาก็ถูกสุนัขปีศาจตัวสุดท้ายพุ่งเข้ามาที่ศีรษะ บดบังการมองเห็น จนต้องดิ้นเร่าๆ
“ข้าช่วยเ้าเอง!”
ถัดจากเขา นักรบอีกคนก็ปล่อยหมัดออกไป ทำลายร่างของสุนัขปีศาจ
“ขอบคุณ! รีบไปเร็วเข้า...อ้าก!!”
“เอ๊ะ? นี่...นี่คือ!"
นักรบทั้งสองต่อสู้กับสัตว์ปีศาจอยู่ครู่หนึ่ง พวกเขาเริ่มวิ่งได้ช้าลง ผลคือถูกสัตว์ปีศาจกลุ่มหนึ่งจับตัวไว้ได้จากด้านหลัง หลังจากกรีดร้องสองสามครั้ง พวกเขาก็กลายเป็กองเนื้อและกระดูกบดที่แหลกละเอียด
ในเวลาเพียงครู่เดียว ในกลุ่มจากสิบคนก็เหลือเพียงหกคน
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ ไม่กี่คนที่อยู่แนวหน้าของกลุ่มก็มาถึงปลายแม่น้ำแล้ว พวกเขาเห็นทะเลสาบซึ่งเงียบสงบมากอยู่ตรงหน้า ล้อมรอบด้วยูเาหิน และถนนที่สลับซับซ้อน ไม่มีร่องรอยของสัตว์ป่าชนิดอื่น
“ในที่สุดก็รอดแล้ว!”
ฉู่อวิ๋นโล่งใจ ก้าวขึ้นไปบนน้ำและเงยหน้าขึ้นมอง ขอบเขตการมองเห็นของเขาค่อยๆ กว้างขึ้น โดยมีแสงจันทร์ส่องสว่างและสายลมพัดผ่าน แม้แต่อากาศก็สดชื่นขึ้น กลิ่นไอน้ำลอยมากระทบจมูก
“วิ่งเร็วเข้า ไม่เช่นนั้นพวกเราจะถูกสัตว์ปีศาจที่อยู่ด้านหลังกินเอา!” เฟิงเยี่ยนเร่งเร้า ก่อนจะลงมือฆ่าสัตว์ปีศาจสองสามตัวสุดท้ายด้วยสีหน้าที่ผ่อนคลายขึ้น
“อื้ม!” ฉู่อวิ๋นพยักหน้า แล้วถามพ่านพ่าน “แม่นางพ่านพ่าน ดินแดนบรรพบุรุษของเ้าไปทางไหนหรือ?”
“จากที่นี่ไปทางทิศหรดี[1] ไม่นานก็ถึงแล้ว…” พ่านพ่านตอบอย่างรวดเร็ว แต่ทันใดนั้นดวงตาของนางก็สั่นไหว ชี้มือไปทางด้านหลังฉู่อวิ๋นแล้วอุทาน: “อ๊ะ! ระวัง! นั่น! ...อสุรกายน้ำตาทอง!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่อวิ๋นก็ใและหันกลับไปมองด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ซือ--"
ในเวลาเดียวกันก็มีเสียงร้องแปลกๆ ดังขึ้น น้ำในทะเลสาบพุ่งสูง กวาดล้อมไปทุกทิศทาง ปรากฏหัวของสัตว์ปีศาจค่อยๆ โผล่ขึ้นมาจากน้ำ
อสุรกายน้ำตาทองนี้ คล้ายปลาแต่ไม่ใช่ปลา ส่วนหัวของมันเป็ใบหน้าที่เคร่งขรึมของหญิงสาว เกล็ดบนตัวส่องแสงเจิดจ้า ล้ำค่ำเปล่งประกาย
ครู่ต่อมา มันก็รีบว่ายพุ่งเข้าหาฝูงชนอย่างรวดเร็ว สาดคลื่นสีขาวเข้าใส่ เผยความโกรธเคืองด้วยพลังอันดุเดือดและปรากฏเจตนาฆ่าชัดเจน
“ให้ตายเถอะ! มีสัตว์ปีศาจระดับต่ำคอยเฝ้าอยู่ที่ต้นน้ำ! ข้าเกือบลืมไปแล้ว!” เมื่อเห็นสัตว์ปีศาจแห่งแม่น้ำปรากฏตัวขึ้น ฉู่อวิ๋นก็รู้สึกหงุดหงิดทันที
ตอนนี้คนเดียวในกลุ่มที่สามารถสู้กับสัตว์ปีศาจตัวนี้ได้คือเฟิงเยี่ยน
แต่ตลอดทางมาเฟิงเยี่ยนไม่ได้หยุดพักเลย เขาคอยจัดการสัตว์ปีศาจอยู่แนวหน้าตลอด พลังปราณของเขาแทบจะหมดแล้ว ไม่อาจรับมือสัตว์ปีศาจที่มีพลังเต็มเปี่ยมได้อีก
ยามนี้ อสุรกายน้ำตาทองกำลังวิ่งมาจากข้างหน้าพร้อมด้วยสัตว์ปีศาจที่วิ่งตามหลังพวกเขามา ซ้ายขวายังมีกำแพงูเาสูงชะลูดที่ปีนยาก กล่าวอีกนัยหนึ่งคือกำลังประสบปัญหาอีกครั้ง
นี่คือวินาทีสุดท้าย ไม่อยู่ก็ตาย!
“ฮู่ว... ฉู่... จอมยุทธ์ฉู่ ไม่ต้องกังวล... ข้า... ข้ายังสู้ได้!” เฟิงเยี่ยนอ้าปากหอบหายใจอยู่ต่อหน้าทุกคน จากนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง ปรากฏิญญายุทธ์มีดบินพลังปราณข้างหลัง ก่อนจะะโ “ปีศาจน้ำข้าจัดการเอง! รอ...รอก่อน! อย่า...อย่าตาย!"
หลังจากพูดจบ เฟิงเยี่ยนก็รีบวิ่งออกไปต่อสู้กับอสุรกายน้ำตาทองอย่างสุดกำลัง มีดบินในแขนเสื้อกะพริบแสงอย่างต่อเนื่อง คลื่นพลังปราณอันแข็งแกร่งทำให้น้ำในแม่น้ำสั่นะเื
“แค่ถ่วงไว้สักนิด สักนิดก็พอ!”
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ฉู่อวิ๋นก็มองหน้าเขาแล้วหันกลับมาทันที เขายืนรวมตัวกับสือเหล่ย เมิ่งซาน และคนอื่นๆ สร้างกำแพงมนุษย์เพื่อปกป้องมู่หรงซินและพ่านพ่านที่อยู่ข้างหลังเขา
“โฮก!!!”
“ซือ--”
แม่น้ำเต็มไปด้วยเงามืดของสัตว์ปีศาจ ส่งเสียงดังกึกก้อง พลางพุ่งเข้าใส่ ทั้งยังคำรามด้วยเสียงที่น่าใ
“พี่ฉู่ เ้า... เ้ากลัวหรือไม่?” เมื่อมองดูกลุ่มสัตว์ปีศาจที่อยู่ตรงหน้าเขาสูงหลายสิบหมี่ เมิ่งซานก็อดเหงื่อตกไม่ได้และกลืนน้ำลายเต็มปาก มือของเขาสั่นไหวน้อยๆ
“กลัว! แต่... ถอยไม่ได้!” ฉู่อวิ๋นพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก ชี้กระบี่ชื่อยวนขึ้นท้องฟ้า ยืนหยัดอย่างอาจหาญ ร่างกายของเขาตรงราวกับหอก
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เืของทุกคนก็เดือดพล่านด้วยความตื่นตัว พวกเขารวบรวมพลังปราณส่วนสุดท้ายในร่างกาย ปรากฏเงาของิญญายุทธ์อยู่ที่ด้านหลัง
พวกเขาถอยไม่ได้ ต้องอดทนไว้!
“โฮก! ข้าดีใจมากที่ได้มาพบกับพวกเ้า!” ทันใดนั้น สือเหล่ยก็พูดด้วยรอยยิ้ม สีหน้าของเขาดูแปลกไปเล็กน้อย ทำให้ทุกคนสับสน
“แต่พี่น้องเกือบทั้งหมดตายไปแล้ว แม้กระทั่งพี่ซ่ง…” ดวงตาของสือเหล่ยรื้นน้ำตา เขาหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดด้วยความโกรธ “ข้า... ข้ามีพละกำลังอันดุร้าย แม้แต่พวกเ้าก็บอกว่าข้าโง่เง่าและใจง่าย”
“แม้แต่ิญญายุทธ์ของข้าก็เป็เพียงเกราะชิ้นหนึ่ง ไม่มีประโยชน์อะไร เทียบกับของพวกเ้าไม่ได้”
“ดังนั้นตอนนี้ ให้ข้าทำอะไรที่เป็ประโยชน์หน่อยเถอะ”
ทันทีที่เขาพูดจบ ดวงตาของสือเหล่ยก็เบิกกว้าง เขาเปิดใช้งานชุดเกราะวัวเงิน ร่างกายถูกปกคลุมไปด้วยแสงพร่างพราย กลายเป็เงาของชุดเกราะ พลังป้องกันของเขาก็เพิ่มสูงขึ้น
คลื่นพลังปราณปะทุออกมาจากร่างของเขา จนทุกคนที่ไม่ทันระวังก็กระเด็นออกไปครึ่งก้าว
“เ้าก้อนหิน เ้าจะทำอะไร?!” ฉู่อวิ๋นะโ อยากจะหยุดเขา แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น ก็เห็นว่าสือเหล่ยรีบพุ่งออกไปแล้ว เขายืนอยู่ที่ส่วนที่แคบที่สุดของแม่น้ำ กระแทกไปที่กำแพงูเาทั้งซ้ายและขวาอย่างสุดกำลังจนเกิดเสียงดังกึกก้อง
----------
[1] ทิศตะวันตกเฉียงใต้