Chapter 26
"เค้าอยากจูบ" คนพี่เบิกตากว้างทันทีหลังจากได้ยินคำพูดของน้อง
"อะไร ใครสอนให้พูดอะไรแบบนี้?"
"พี่กรีนชอบทำเหมือนเค้าเป็เด็กเลยนะ เค้ารู้ว่าอะไรแบบนี้มันต้องรู้สึกยังไงถึงจะทำกันได้ ถึงบางเื่เค้าจะไม่รู้ แต่เค้าไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้นสักหน่อย เื่แฟนที่พี่กรีนเคยถาม ที่จริงแล้วเค้าแยกมันออกว่าแบบไหนคือรู้สึกแบบเ้านาย แบบไหนคืออยากเป็แฟนด้วย"
"ป๋าย"
"เค้าหวงพี่ตั้งหลายครั้ง ทั้งที่ดูปลา ไหนจะที่น้ำตกที่มีคนมามองพี่เยอะ ๆ แล้วพอกลับมายังจะมาเจอคุณมิเกลอะไรนี่อีก เค้าหวงทั้งหมดเลย กลัวพี่กรีนจะไปกอดใคร ไปหอมแก้มใคร ไปจูบใคร"
"รู้จริง ๆ ใช่ไหม? และความรู้สึกพวกนี้มันคืออะไร"
"เค้ารู้ ตอนอยู่ในศูนย์เค้าก็แอบกุ๊กกิ๊กกับแมวตัวอื่นตั้งบ่อย"
"ป๋ายป๋าย" กรีนเรียกชื่อน้องออกมาเสียงแข็ง
"คิก ๆ พี่กรีนหวงเค้า"
"หวงสิครับ มีแมวตัวเดียวนะ"
"จูบสิ หวงก็จูบ"
"ทำไมถึงต้องอยากโดนจูบขนาดนั้น?" นิ้วโป้งของกรีนถูกส่งไปตาแก้มใสเบา ๆ
"มันก็เป็ปกติของคนที่รักกันไม่ใช่เหรอ?"
"ทำไมเอาแต่พูดถึงเื่แฟน เื่คนรักเนี่ย"
"ก็เค้าไม่อยากให้พี่กรีนเข้าใจผิด ว่าเค้าชอบพี่กรีนแบบเ้านาย"
"อะไรเนี่ย จู่ ๆ ก็มาสารภาพรักกับพี่เฉยเลย" กรีนพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
"วันนี้ครบรอบ 3 เดือนที่อยู่ด้วยกันไง เค้าเลยคิดว่าเวลามันผ่านไปเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าเราจะได้แยกกันตอนไหน เค้าควรพูดเลยดีกว่า เพราะถ้าเค้าไม่พูด พี่กรีนก็คิดว่าเค้ายังไม่เข้าใจอะไรพวกนี้ แล้วก็ไม่ยอมพูดกับเค้าก่อนแน่ ๆ"
"เธอเข้าใจมันจริง ๆ ใช่ไหม?"
"ใช่ซี่ เค้าอายุ 20 กว่าแล้วนะ โตพอแล้ว เค้าเข้าใจจริง ๆ บอกแล้วไงว่าเคยกุ๊กกิ๊กกับแมวในศูนย์ เค้ารู้ว่ารักแบบไหนคืออะไร"
"แล้วสำหรับเธอ พี่เป็แบบไหน?"
"ก็เป็หมดเลยนะ พี่กรีนเป็พี่เค้าก็ได้ เป็เพื่อนเค้าก็ได้ เป็เ้านายที่ดีก็เป็อยู่ตอนนี้ ส่วนอีกอย่างที่อยากให้เป็แต่ยังไม่ได้เป็คือพี่กรีนต้องเป็แฟนเค้า"
"ตัวเล็ก พอได้พูดคำว่าแฟนทีพูดไม่หยุดเลยนะ"
ตัวกรีนเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องรู้สึกยังไงกับสิ่งที่คนน้องระบายออกมา จากที่อยู่ด้วยกันมานาน กรีนเองก็พอรู้ว่าน้องไม่ได้เด็กขนาดที่จะไม่รู้จักอะไรพวกนี้เลย แต่ไม่คิดว่าน้องจะรู้สึกจนมาสารภาพกับเขาแบบนี้ แต่กรีนคิดว่าก็จริงอย่างที่น้องพูด ว่าเวลามันผ่านไปเรื่อย ๆ ไม่อยากจะเสียเวลากับความกลัวในใจอีกต่อไป
"พี่กรีน"
"หื้ม?"
"พี่กรีนก็รู้สึกแบบเดียวกับเค้าใช่ไหม?" คนตัวเล็กถามออกมาเสียงอ่อนเพราะกลัวคำตอบ
"หมายถึงชอบเธอแบบคนรักเหรอ?"
"อื้ม"
"ก็คงใช่ ที่ผ่านมาพี่ไม่กล้าพูด เพราะกลัวจะไปเป็การบังคับให้เธอเข้าใจอะไรพวกนี้"
"เค้าเข้าใจอะไรพวกนี้อยู่แล้วหน่า ที่ศูนย์ก็มีละครให้ดูนะ"
"ตัวแสบ"
"ก้มมาหาเค้าหน่อย" กรีนทำตามคำสั่งคุณตัวเล็กด้วยการก้มหน้าลงไปหาคนที่อยู่ในอ้อมแขนเขา
จุ๊บ
คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นไปกดริมฝีปากของตัวเองลงบนอวัยวะเดียวกันกับอีกคน แช่ค้างไว้สักพักก่อนจะผละออกมา
"ป๋าย"
"อย่าดุ เค้าเขินนะ" ป๋ายก้มหน้างุดลงที่อกของกรีนแรง ๆ
"ได้พูดแล้วใจกล้าขึ้นมาเลยนะ"
"พี่กรีนก็อยากจุ๊บ ๆ เค้า แต่ไม่กล้าไง เค้าเลยเริ่มก่อน"
แม่ง
คนเรามันจะน่ารักอะไรได้ขนาดนี้วะ
"นอนได้แล้วตัวเล็ก"
"พรุ่งนี้เค้าไปที่ร้านด้วยได้ไหม?"
"อยู่บ้านคนเดียวเหงาเหรอครับ?"
"เหงาซี่"
"โอเค งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ปลุกไปที่ร้านแต่เช้า ห้ามงอแงนะ ถ้าไม่ตื่นไม่ต้องไป"
"เค้ารับทราบ จะตั้งใจนอนแล้วก็ตั้งใจตื่น ฝันดีน้าพี่กรีน"
"ฝันดีครับตัวเล็ก"
พอประโยคสุดท้ายที่ออกจากปากในคืนนี้จบลง กรีนก็กระชับกอดให้น้องอบอุ่นขึ้น เขาไม่รู้หรอกว่าคนตัวเล็กจะนอนหลับหรือเปล่า หรือทำได้แค่หลับตาเหมือนที่เขากำลังเป็อยู่ตอนนี้
ความรู้สึกต่าง ๆ ถาโถมเข้ามาอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน เพราะคำสารภาพของน้องเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้ สิ่งแรกที่ใ คือป๋ายรู้จักกับความรักในรูปแบบของคนรักอยู่แล้ว แยกมันออกได้ชัดเจน ส่วนเื่ที่สองก็คือน้องเพิ่งสารภาพว่าชอบเขาแบบนั้น มันทำให้เขารู้ตัวแล้วว่าควรจะชัดเจนให้มากกว่านี้ และควรจะทำอะไรให้มันเข้าที่เข้าทางได้สักที
เช้าวันถัดมา
ร้านเครื่องหอม Your Cart
"เอ้า พี่กรีน ทำไมป๋ายหลับแบบนั้น" เกรซทักทายหัวหน้าของเขาขึ้นมา หลังจากที่ร่างสูงเดินเข้ามาในร้าน พร้อมกับเ้าแรกดอลล์สีขาวขนปุยที่อยู่บนอก
"ก็งอแงจะมาด้วย แต่ไม่ยอมตื่น เมื่อคืนก็นอนเป็คนนะ แต่พอพี่ปลุกให้ไปอาบน้ำก็กลายร่างเป็แมวเฉยเลย ไม่อุ้มมาด้วยก็กลัวว่าตื่นมาจะงอนพี่อีก"
กรีนเล่าเหตุการณ์คร่าว ๆ ให้เกรซฟัง ที่ว่าเมื่อคืนตกลงกันแล้วว่าน้องอยากจะมาที่ร้านกับกรีนด้วย กรีนเองก็ตกลงแล้วบอกกับน้องว่าจะปลุกั้แ่เช้า ถ้าป๋ายงอแงหรือไม่ตื่นก็จะไม่ให้มาด้วย และมันก็เป็แบบนั้น กรีนตื่นก่อนและอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็ตั้งใจจะมาปลุกป๋าย แต่คนตัวเล็กงอแงไม่ยอมตื่น แถมยังดื้อหนีไปกลายร่างไปเป็เ้าสี่ขาอีก แต่กรีนก็ทำใจทิ้งอีกคนไว้ที่บ้านไม่ลง แล้วน้องก็พูดไว้แล้วว่าอยากจะมาด้วย สุดท้ายก็ตัดสินใจอุ้มเ้าเหมียวตัวน้อยมาทั้งที่ยังหลับแบบนั้น
หลังจากที่จัดการวางสัมภาระที่ถือมาที่ร้านด้วยเรียบร้อยแล้ว กรีนก็วางเ้าเหมียวสีขาวตัวน้อยลงบนโซฟาในห้องทำงาน ก่อนจะย้ายไปคุยธุระกับเวย์ที่ห้องทำงานของเวย์
"เป็ไงบ้างวะ?"
"เยอะมากที่มันทำเหี้ยไว้ คนในรู้ดีหมด แต่ไม่มีใครกล้าที่จะพูดออกมาเฉย ๆ"
"กูว่าแล้วมันต้องเหี้ยใส่ทุกคน"
"ใครไม่มีผลประโยชน์มันก็ไม่สน กับบางคนที่เป็ลูกน้องมัน ทำงานให้มัน มันยังทำร้ายร่างกายเขาเลย"
เื่ที่กรีนคุยกับเวย์ในวันนี้ มันไม่ใช่เื่งานในร้านแต่อย่างใด แต่มันคือเื่เกี่ยวกับครอบครัวบัตเลอร์ กรีนเริ่มสืบข้อมูลมาสักพักแล้วเกี่ยวกับพอล ว่าเคยมีประวัติอะไรบ้างในเื่ไม่ดี เพราะจากที่ดูแล้ว ก็คงจะเป็คนชั่วคนหนึ่งที่บ้าอำนาจมาก ๆ และคนประเภทนี้ก็มักจะเห็นแก่ตัว คิดว่าคงจะมีคนได้รับผลกระทบหลายคน กรีนจึงเริ่มด้วยการสืบหาข้อมูลจากคนใกล้ตัวด้วยการสอบถามไปก่อน
แล้วมันก็เป็ไปอย่างที่กรีนคิด มีหลายคนที่ถูกพอล บัตเลอร์เอาเปรียบ ส่วนคุณนายตระกูลนั้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็ผู้ที่ลงมือหรือออกคำสั่ง แต่เขารู้อยู่เสมอว่าเกิดอะไรขึ้น ว่าสามีของตัวเองทำอะไร แต่เธอก็ไม่ได้ห้ามหรือขัดขวาง
"มึงขออนุญาตพวกเขาอัดเสียงมาแล้วใช่ไหม?"
"ใช่ กูอัดเก็บไว้หมดแล้ว ตอนนี้ก็ทำได้แค่นี้ไปก่อน เพราะถ้ามากกว่านี้อีกไม่นานมันก็จะรู้ตัว ได้ข่าวมาว่าเส้นสายมันเยอะมาก พวกมีตำแหน่งหน่อยก็แทบจะเป็พวกของมันหมด ถ้าสืบโดยที่มันไม่รู้ตัวคงยากว่ะ"
กรีนถอนหายใจออกมาหนัก ๆ เขารู้ั้แ่แรกแล้วว่ามันคงยากถ้าจะหาหลักฐานมาเอาผิดบัตเลอร์ แต่พอได้เข้ามาในขั้นตอนการรวบรวมมันก็รู้สึกว่ายากกว่าตอนคิดเป็ร้อยเท่า อย่างที่เวย์บอก ว่าพวกมีตำแหน่งก็เป็พวกของบัตเลอร์หมด แบบนี้แปลว่าเราจะหาหลักฐานชิ้นใหญ่แทบไม่ได้เลย เก็บมาได้แค่คำบอกเล่าปากต่อปากของเหยื่อเท่านั้น และถ้าถามว่ามันพอหรือเปล่า ในขั้นตอนของกฎหมายแล้ว หลักฐานแค่นี้มันอาจจะอ่อนเกินไป
ในใจกรีนอยากจะเอาผิดให้บัตเลอร์ได้รับโทษทางกฎหมายให้สาสม แต่ในเมื่อมันยากขนาดนี้ เป้าหมายที่แน่วแน่ของเขาเพียงอย่างเดียวก็คงจะเป็ช่วยให้ชื่อของป๋ายหลุดออกมาจากบ้านนั้นอย่างสมบูรณ์แค่นั้นก็พอ
"มึงจะเอายังไงต่อ?" เวย์ถามขึ้น
"คงต้องให้พี่บลูเข้ามาช่วย พี่บลูพอสนิทกับคนใหญ่คนโตอยู่บ้าง แต่มันก็เสี่ยง เพราะไม่รู้ว่าคนที่พี่บลูรู้จักจะใช่คนของบัตเลอร์หรือเปล่า ถ้าใช่ก็จบ"
"แปลว่าตอนนี้แทบจะทำอะไรไม่ได้เลยใช่ไหมวะ?"
"ก็ใช่ แต่กูไม่หยุดหรอก"
"กูเข้าใจ มีอะไรให้กูช่วยก็บอกได้ตลอด"
"ขอบใจมากไอ้เวย์"
กรีนเริ่มฟังเทปเสียงพี่ให้เวย์ไปสัมภาษณ์เหยื่อมาทีละเทป จับประเด็นที่เหยื่อทุกคนพูดตรงกัน และพยายามเก็บรายละเอียดส่วนอื่น ๆ อยู่หลายชั่วโมง เขาพยายามจะไม่ให้พลาดสักประเด็นที่ได้ฟัง ในระหว่างที่ฟังเขาก็รู้สึกขยะแขยงกับการกระทำของพอล บัตเลอร์เอามาก ๆ มันมีทั้งการขู่ ทำร้ายร่างกาย ทำร้ายจิตใจ และอีกหลายอย่าง ส่วนใหญ่เหยื่อที่สัมภาษณ์มา จะเป็เหยื่อที่โดนบุกรุกพื้นที่ เพื่อเอาที่ดินไปเป็ของตัวเอง เหยื่อรายไหนที่พยายามจะเปิดโปง ก็ไม่พ้นการถูกคุกคามจนต้องย้ายหนีอยู่หลายครั้ง
ก๊อก ๆ ๆ
"พี่กรีนคะ" เกรซเคาะประตูและเปิดเข้ามา
"ครับ ว่าไง?"
"ป๋ายตื่นแล้วนะคะ ตอนนี้อาบน้ำอยู่ เกรซมาบอกไว้"
"โอเคครับเกรซ ขอบคุณมาก" เกรซยิ้มให้กรีนและโค้งเล็ก ๆ หนึ่งทีก่อนจะเดินออกไป
กรีนที่ได้ยินว่าคนตัวเล็กตื่นแล้วก็หยุดทำงานทันที ร่างหนาบิดตัวไล่ความเมื่อยเล็กน้อย จากนั้นก็ลุกขึ้นและเดินกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเองทันที
"ตัวเล็ก"
"พี่กรีน"
"หิวหรือเปล่าครับ?"
"อุ้มเค้ามาเหรอ? ทำไมไม่ปลุกเค้า?" คนน้องงอแงขึ้นมาทันที ในขณะที่มือก็เช็ดผมที่เปียกจากการอาบน้ำของตัวเองด้วย
"ต้องให้พี่พูดไหมครับ?"
"แหะ ปลุกแล้วเค้าไม่ตื่นเหรอ?" กรีนทำเพียงแค่ยิ้ม ไม่ได้ตอบอะไรน้องออกไป จากนั้นก็เดินไปที่ด้านหลัง ถือวิสาสะแย่งผ้าผืนเล็กมาเช็ดผมน้องให้แทนเ้าตัว และเหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ที่มีลายเส้นสีดำประดับอยู่
"เธอวาดเหรอครับ?" กรีนหยิบกระดาษขึ้นมาและไล่ดูทีละแผ่น
"ใช่ ๆ เกรซเอามาให้ เค้าเลยวาดก่อนไปอาบน้ำ" คนพี่ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เพียงแค่ไล่ดูลายเส้นบนกระดาษแต่ละแผ่นไม่ละสายตา
"พี่เจอสิ่งที่เธอเก่งแล้วนะ เธอวาดรูปสวยมาก"
"แบบนี้คือเรียกว่าสวยจริง ๆ ใช่ไหม?" กรีนหันไปมองน้องทันทีที่ได้ยินคำถาม
"ทำไมถามพี่แบบนั้นล่ะ? เธอว่ามันไม่สวยเหรอ?"
"คือ เค้าก็ไม่รู้"
"ใครว่าอะไรเธอ บอกพี่เร็ว"
ร่างสูงรีบวางกระดาษลงบนโซฟาดังเดิม จากนั้นก็อ้อมมานั่งข้าง ๆ อีกคน รวบมือเล็กมากุมไว้หลวม ๆ เพราะสังเกตได้ถึงอาการที่ผิดแปลกไปของคนน้อง
"คือเค้าพยายามไม่นึกถึงแล้วนะ แต่บัตเลอร์เคยบอกว่ามันเลอะเทอะ"
ไอ้เวรนี่แม่งต้องไม่ตายดี
"นี่ พี่จะบอกอะไรให้นะ ไม่ว่าเธอจะเคยฟังอะไรจากคนบ้านนั้นมา พี่อยากให้เธอลืมมันไปให้หมด คำพูดของพวกมันไม่มีความหมายเลย พี่ขอให้เธอฟังแค่พี่ได้ไหม?"
"พี่กรีนจะไม่โกหกเค้าใช่ไหม?"
"ไม่โกหกสิครับ เมื่อคืนพี่ก็บอกไปแล้วไง ว่าพี่มองแค่ระหว่างทาง ไม่ได้มองผลลัพธ์ ยิ่งเป็เื่ที่ถ้าเธอบอกว่าเธอชอบมัน พี่ก็จะสนับสนุนเต็มที่ ไม่ว่าเธอจะทำได้ดีหรือเปล่า แค่นั้นเอง"
"แล้วอันนี้เค้าทำได้ดีใช่ไหม?"
"ครับ สำหรับพี่มันสวยมาก ๆ มันเป็แบบที่พี่ชอบเลย เธอวาดมันได้สวยมากสำหรับพี่ แล้วไม่ว่าคนอื่นจะพูดว่ายังไง ขอแค่ตัวเธอมั่นใจกับมันก็พอแล้ว การวาดรูปมันคือศิลปะ ศิลปะบนโลกนี้มันมีอยู่ทุกมุมเลย บางคนอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ แต่ถ้าเธอวาดเสร็จแล้วเธอพอใจกับมัน แค่นั้นก็โอเคแล้วนะ"
"เค้าพอใจมาก ๆ เค้าว่าเค้าทำมันได้ดี"
"นั่นแหละครับ พอแล้ว หรือถ้าอยากมั่นใจขึ้น พี่จะให้เธอมาวาดการ์ดอวยพร่ท้ายปีของที่ร้านให้ อยากทำไหมครับ?" คนตัวเล็กยิ้มออกมาทันทีที่ได้ยิน
"เค้าอยากทำ"
"งั้นพรุ่งนี้ค่อยเริ่มนะครับ เดี๋ยววันนี้พี่พาไปเที่ยวก่อน"
"เที่ยวเหรอ?"
"ใช่ครับ มีตลาดท้ายปี เขาจะจัดแค่ 2 เดือนหลังเท่านั้น ของเยอะมาก ๆ มีอะไรให้เล่นด้วยนะ" กรีนยิ้มออกมาเพราะเห็นว่าคนน้องมีปฏิกิริยาที่ดูสนใจ
"เค้าไป ๆ ๆ ๆ"
่เย็น
"กลับบ้านกันดี ๆ นะ" กรีนทักทายเวย์และเกรซส่งท้ายวัน หลังจากที่จัดการปิดร้านเรียบร้อยแล้ว บอกลากันเรียบร้อยเวย์ก็ขับรถออกไปทันที
"ตลาดจะเปิดตอนไหนเหรอพี่กรีน?" คนตัวเล็กถามขึ้นถึงตลาดที่กรีนจะพาไป
"เปิดแล้วครับ เดี๋ยวเราไปกันเลย"
ในตอนที่กรีนบอกว่าตลาดเปิดแล้ว คนตัวเล็กแทบจะะโขึ้นรถในทันที ตลาดที่กรีนจะพาอีกคนไป มันคือตลาดใน่ท้ายปี ซึ่งจะมีในทุก ๆ 2 เดือนสุดท้ายของทุกปี สำหรับกรีนแล้วมันเป็ตลาดที่เดินแล้วอบอุ่นมาก เพราะจะมีทั้งมนุษย์ ครึ่งทาง แมว มาเดินกันทุกวัน รวมไปถึงร้านที่มาเปิดขายของในตลาด มีความหลากหลายมาก บวกกับอากาศที่เย็นกำลังพอดีใน่นี้ และกิจกรรมที่มีให้ทำในตลาดก็เยอะมาก ๆ ด้วยเช่นกัน
"คาดเข็มขัดด้วยครับ" หลังจะขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว กรีนหันไปพูดกับอีกคน เพราะเห็นว่าป๋ายยังไม่ได้คาดเข็มขัดเหมือนทุกครั้งที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน และสิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือปฏิกิริยาที่นิ่งเฉย กับใบหน้าที่ออกจะทะเล้น
"ป๋ายป๋าย ทำไมไม่คาดเข็มขัด"
"พี่กรีนก็มาทำให้เค้าซี่"
กรีนส่ายหัวให้กับความเ้าเล่ห์ของน้อง เมื่อพบความจริงว่าน้องไม่ได้ลืมคาดเข็มขัด แต่ตั้งใจไม่คาดเพราะอยากให้กรีนทำให้ กรีนเองก็ได้แต่โน้มตัวไปทางเบาะข้าง ๆ เพื่อดึงเข็มขัดมาคาดที่ลำตัวของอีกคน
ฟอด
คนพี่ตัวแข็งทันทีหลังจากที่น้องกดจมูกลงมาที่แก้มของเขา จากนั้นก็หันไปมองอย่างคาดโทษ พอล็อกเข็มขัดให้เรียบร้อยแล้วก็กลับมานั่งประจำที่คนขับเช่นเดิม
"ทำอะไรแบบนี้อีกแล้วนะ"
"เค้าน่ะ เป็คนชัดเจนพอตัวเลยแหละ ก็เลยแสดงออกไป ไม่เหมือนพี่กรีนที่เอาแต่พูดเยอะ ไม่ทำสักที"
"เดี๋ยวจะโดน" เสียงแข็ง ๆ ของกรีนทำให้คนตัวเล็กหัวเราะขึ้นมาทันที
จากนั้นกรีนก็เหยียบคันเร่งเพื่อออกเดินทางไปยังตลาดท้ายปีทันที การจราจรใน่เวลาทองคำเช่นนี้ แน่นอนว่ารถเยอะมากเป็พิเศษ แถมมันยังเป็ถนนเส้นเดียว ที่สามารถไปยังตลาดท้ายปีได้ เพราะตลาดท้ายปีที่ว่านี้จะตั้งอยู่เกือบ ๆ ทางเข้าชานเมือง ทางการตั้งใจที่จะตั้งตลาดไว้ให้เห็นวิวูเาได้อย่างชัดเจน และประชาชนในเมืองก็พอใจเป็อย่างมากเพราะมันทำให้บรรยากาศน่าเดินขึ้นอีกเท่าตัว เพราะได้เห็นวิวสวย ๆ
"พี่กรีน ๆ ๆ ตรงนั้นเหรอ?"
พอขับรถมาจนเกือบจะถึงตลาด คนตัวเล็กก็ถามขึ้นมาอย่างตื่นเต้น เพราะเห็นไฟที่ประดับอยู่ตามเสาตลอดทางเข้าตลาด ยิ่งด้วยความเยอะของรถในแถบนี้ ทำให้แต่ละคันต้องขับอย่างชะลอตัว ป๋ายจึงได้เห็นวิวชัดเจนและเต็มที่มากขึ้น
"ใช่ครับ สวยไหม?"
"สวยมาก ๆ เลยนะพี่กรีน เค้าซื้อไฟไปติดที่บ้านสักร้อยเส้นดีไหม จะได้เห็นวิวแบบนี้เยอะ ๆ เลย"
"ถ้าเธอชอบแบบนี้เดี๋ยวพี่จะไปตกแต่งในสวนให้"
"จริงไหม?" น้องหันกลับมาถามพร้อมกับสายตาแห่งความหวัง
"จริงครับ ถ้าเธอชอบพี่ก็ทำให้ได้"
"เค้ารักพี่กรีนที่สุดเลย!"
อ่า
หลังจากที่ได้รู้ว่าน้องคิดยังไง
คำว่ารักจากปากน้องมันก็เริ่มแปลก ๆ ไปแล้วสิ
หลังจากที่รถเคลื่อนตัวมาถึงที่จอดรถและทำการจอดรถเรียบร้อยแล้ว กรีนก็จูงมือคนตัวเล็กไปที่ทางเข้าของตลาดทันที คนน้องไม่ได้สนใจคนข้างหน้าแต่อย่างใด เพราะมัวแต่มองวิวรอบข้าง
"ป๋ายป๋าย เดินมองทางก่อนครับ เดี๋ยวสะดุดเอานะ" กรีนหันไปเอ็ดคนด้านหลังเล็กน้อย
"ก็เค้าชอบ"
กรีนได้แต่ส่ายหัวเอ็นดูกับความตื่นเต้นของน้อง พอจะรู้ว่าอีกคนคงชอบ เพราะสังเกตจากการที่น้องดูชอบไฟที่เอาไปติดตามบันได้เมื่อวานมาก ๆ จนถึงกับไปเอามาติดไว้ในห้องนอนของกรีน และที่ตลาดก็มีไฟมากกว่านั้นเป็ร้อยเท่า
"แมวตัวนี้ชอบไฟขนาดนั้นเลยเหรอครับ?"
"เหมียว~"
พอได้เข้ามาด้านในของตลาด คนก็เริ่มเยอะขึ้น มือของกรีนที่จับมือป๋ายไว้ ก็เปลี่ยนมาเป็โอบไว้ที่ไหล่แทน น้องก็ไม่สังเกตหรือระวังอะไรเพราะมัวแต่สนใจของกินตามสองข้างทาง
ปึก!
"อ๊ะ!" ป๋ายร้องขึ้นเพราะไหล่เล็กชนเข้ากับไหล่ของคนในตลาดเข้าเต็ม ๆ
"ขอโทษทีครับ คุณเป็อะไรหรือเปล่า?" ทางด้านคนที่ชนกับป๋ายถามขึ้น
"ไม่เป็ไรครับ" เป็กรีนที่ตอบขึ้นมาแทนน้อง เพราะน้องมัวแต่ลูบที่ไหล่ของตัวเองอยู่
"แต่ดูคุณคนตัวเล็กท่าจะเจ็บอยู่ ผมทำยังไงดีครับ?" กรีนเริ่มขมวดคิ้วเพราะเห็นอีกฝ่ายดูอยากจะรับผิดชอบออกหน้าออกตา
"เธอเจ็บหรือเปล่าครับ?" กรีนก้มถามน้อง
"ไม่เป็ไรนะ เค้าใเฉย ๆ"
"เห็นไหมครับ? น้องบอกว่าไม่เป็ไร"
"ผมขอเบอร์ไว้ได้ไหม? เผื่อว่าถ้าเป็อะไรขึ้นมาจะได้รับผิดชอบได้"
"ไม่สะดวกครับ ขอโทษด้วย" คนพี่พูดขึ้นเสียงแข็งเพราะพอจะรู้ถึงจุดประสงค์ของอีกฝ่าย
"คือผมถามคุณคนตัวเล็กคนนี้นะ"
"คือว่า ถ้าพี่กรีนบอกว่าไม่ให้ เค้าก็ให้ไม่ได้น้า เค้าต้องเชื่อฟังพี่กรีน" คนตัวเล็กพูดขึ้นมา กรีนยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
"ตามนั้นครับ ขอตัว" หลังจากพูดจบ กรีนพาน้องเดินออกมาจากตรงนั้นทันที พาเลี่ยงออกไปทางที่ไม่มีคนก่อน
"มันเอาอะไรใส่กระเป๋าเสื้อเธอ?" พอได้มาหยุดอยู่ที่ใต้ต้นไม้ที่คนเริ่มน้อย กรีนก็ถามคำถามขึ้นทันที
"หื้อ? อะไรอ่ะ" คนน้องเลิกคิ้วขึ้นทันที หลังจากที่ได้ยินคำถามของกรีน ก่อนจะล้วงเข้าไปในกระเป๋าข้าง ๆ เสื้อฮู้ดของตัวเองและพบว่ามันมีเศษกระดาษที่ไม่ใช่ของเขาอยู่ พอเอาออกมาดูและเปิดอ่าน ก็เห็นว่ามันคือเบอร์โทรศัพท์ของใครสักคนและข้อความเขียนว่า ถ้าพี่ชายไม่หวงแล้วโทรมาได้นะครับคนสวย
"เอามาดูครับ" ป๋ายส่งกระดาษให้กรีน
"เหอะ ไอ้เวรนี่ พูดไม่รู้เื่หรือไงวะ?" หลังจากที่อ่านจบกรีนก็สบถออกมา
"พี่กรีน" น้องที่เห็นว่ากรีนโมโหก็เข้ามากอดแขนแทบจะทันที
"ขอโทษครับ"
"ไม่ได้อะไรนะ แต่แบบ ชอบจัง" คนตัวเล็กยิ้มออกมา
"ก็แบบ พี่กรีนหึงเค้า"
หึ
ตัวแสบ