มันเป็คืนที่ทุกอย่างเงียบสงัด
เมื่อเห็นองครักษ์ล้มลงไปทีละคน ชิวอวี่ก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย เขาอยู่ข้างกายฉู่สืออวี้มานานหลายปี ทว่า ก็ไม่เคยเผชิญหน้ากับอะไรที่อันตรายมาก่อนเลย
อย่างไรก็ตาม การให้ยาทั้งหมดแก่คนเหล่านี้ก็เป็ครั้งแรกที่ได้ทำเช่นกัน
“องค์หญิง กระหม่อมทำตามคำสั่งของท่านเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้องครักษ์ของเซ่อเจิ้งอ๋องทางฝั่งใต้ทั้งหมดต่างหมดสติกันไปจำนวนมากแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“อืม เข้าใจแล้ว” ชิงอีะโลงจากต้นไม้และหาววอดอย่างเกียจคร้าน
ชิวอวี่เดินตามหลังด้วยใบหน้าขมขื่น สงสัยจริงๆ ว่าทำไมองค์หญิงถึงทรงมีรับสั่งให้ตัวเองไปวางยาให้คนของเซ่อเจิ้งอ๋อง นางคิดจะทำอะไรนะ?
หรือเป็เพราะตอนกลางวันถูกท่านอ๋อง ทำให้อับอายเกินไป ดังนั้น องค์หญิงก็เลยทรงโกรธอย่างสุดขีด และเตรียมที่จะ...
เมื่อเห็นชิงอีกำลังจะเปิดประตู ชิวอวี่ก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เขาเอาตัวแนบกับประตูราวกับตุ๊กแก พร้อมกับพูดอย่างสั่นเทาว่า “องค์หญิง ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวจะกลายเป็ความเกลียดชังไปชั่วนิรันดร์นะพ่ะย่ะค่ะ อภัยได้ก็อภัยให้กัน ท่าน...โอ๊ย!”
ชิงอีตบไปหน้าผากของเขา “หลีกไป!”
ชิวอวี่ถูกตบจนเกือบร่วง เดินโซเซออกไปด้านข้าง
ชิงอีกลอกตามองบน เมื่อกำลังจะข้ามประตูเข้าไป กลับรู้สึกว่าธรณีประตูถูกยกขึ้นอยู่ไม่น้อย
นางเหลือมองลงไป หืม นี่ไม่ใช่องครักษ์ฉู่หรอกหรือ?
ช่างเป็คนที่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่เสียจริง ขนาดหมดสติไปก็ยังไม่ลืมที่จะนอนลงที่หน้าประตูของเ้านาย
เพียงแต่แค่นี้มันจะไปกั้นอะไรได้เล่า?
ชิงอีที่มีความขุ่นเคืองอยู่ในใจเป็อย่างมากเป็ทุนเดิม คิ้วและตาของนางโค้งงอขึ้นด้วยรอยยิ้ม นางเหยียบลงไปบนท้องของฉู่สือ โดยไม่ลืมที่จะเหยียบขึ้นไปทั้งสองเท้า จากนั้นก็เดินเข้าไป
โอ๊ย...
ชิวอวี่มองไปยังใต้เท้าของชิงอีที่เหยียบไปเมื่อครู่ ก็เห็นฉู่สือส่งเสียงครวญครางออกมา จากนั้นคนคนนั้นก็ตัวอ่อนไปหมด
“เฝ้าข้างนอกไว้”
ปัง! ประตูถูกปิดไป
ในห้องที่มืดสนิท ั์ตาของชิงอีก็มีแสงแวบวาบผ่านเข้ามา นางเดินตรงไปที่หัวเตียง
เซียวเจวี๋ยที่นอนอยู่บนตั่ง โครงร่างของเขายังคงล้ำลึกและชัดเจนในแสงสลัว ขนตาแพหนาของเขาทำให้เกิดเงาขึ้น เมื่อเขาหลับตา รวมไปถึงคิ้วของเขาที่ราวกับถูกลากด้วยแปรงอย่างพิถีพิถัน
“ยังจะดูอยู่อีกหรือ? ท่านคงไม่ได้เห็นใบหน้าหนุ่มน้อยผู้นี้แล้วไม่กล้าลงมือหรอกใช่ไหม?” เสียงเย้ยหยันดังขึ้นจากด้านข้าง ดวงตาแมวสีเขียวคู่หนึ่งจ้องมาที่นางอย่างเย้ยหยัน
ชิงอีเหลือบมองมันอย่างสบายใจ “เ้าเองก็ออกไปเฝ้าข้างนอกซะ ข้ากลัวว่าจะมีคนตื่นขึ้นกลางทาง”
เ้าแมวอ้วนไม่พอใจเป็อย่างมาก “ถ้ากังวลว่าจะมีคนตื่นขึ้นมานัก เหตุใดถึงไม่ใช้คาถา ทำให้คนหมดสติไปเลยล่ะจะได้ไม่ต้องวางยา”
“เ้าจะไปรู้อะไร!” ชิงอีตีมันให้ออกไป
พลังของนางตอนนี้กลายเป็สิ่งที่ไร้ประโยชน์ไปแล้ว ตัวของนางไม่อะไรเหลืออีกแล้ว ยังจะให้เอาออกมาใช้อีกหรืออย่างไร?!
เ้าแมวอ้วนเดินออกจากประตูไปอย่างไม่เต็มใจ และไม่ลืมที่จะหันกลับมาเตือนว่า “ท่านอย่าดูดพลังจากเขาจนเกลี้ยงล่ะ เหลือไว้ให้ข้าด้วย” พลังของมันก็ถูกหนุ่มน้อยผู้นี้ขโมยไปไม่น้อยเช่นกัน!
“ออกไปๆ ชิ่วๆๆๆ!”
เมื่อไล่เ้าแมวอ้วนออกไปแล้ว ชิงอีก็จ้องไปที่ชายหนุ่มบนตั่งด้วยแววตาเปล่งประกายราวกับหมาป่าผู้หิวโหย นางยกมือเท้าสะโพก และยิ้มออกมาอย่างน่าขนลุก ราวกับเล่นเป็บทตัวร้ายที่งดงามเกินพรรณนา ทั้งสง่างาม มีเสน่ห์ และน่าจดจำ
คิคิคิ ละครจบแล้วล่ะ
ก่อนอื่นมาดูกันสิว่าเ้าหนุ่มน้อยผู้นี้มีความลับอะไรกันแน่!
เมื่อก่อนจะคอยสั่งให้เ้าแมวอ้วนลงมือตลอด เ้าโง่นั่นไม่ค่อยน่าไว้วางใจสักเท่าไร และคราวนี้ชิงอีเองก็เป็กังวล นางจึงตัดสินใจว่าต้องมาด้วยตัวเองเพื่อความสบายใจ
ดึงแขนเสื้อขึ้น เอาล่ะ อย่าคิดมาก ทำให้ดีที่สุด!
ชิงอีก้มศีรษะลง และปลดเข็มขัดของเขาออกเป็อย่างแรก ไม่นะ หนุ่มน้อยผู้นี้จะผูกเงื่อนตายไปทำไมเนี่ย? เวลานี้ใครจะไปกังวลเื่พรหมจรรย์ของเขาอีก
นางเหงื่อแตกพลั่กหลังจากปลดเข็มขัด อยากที่จะใช้มีดตัดมันเสียจริง งานใช้แรงเช่นนี้ ไม่เหมาะกับดอกไม้ที่บอบบางอย่างนางจริงๆ
ในระหว่างที่ราชินีชิงอีกำลังง่วนอยู่กับการปลดเข็มขัด นางก็ไม่ได้สังเกตว่าคิ้วบนใบหน้าที่หล่อเหลาของชายหนุ่มกระตุกอย่างรุนแรงอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่นางกำลังดุร้ายราวกับเสือ ขึ้นมานั่งบนท้องของเขาอย่างไม่ลังเล
สายตาของชิงอีที่เต็มไปด้วยความจริงจัง จ้องมองไปที่ร่างท่อนบนของเขาด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
แสงจันทร์สีนวลที่ตกกระทบเข้ามา ส่องพาดผ่านบนเรือนร่างของเขา เซียวเจวี๋ยแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอะไรที่เรียกว่าผอมเพรียวเมื่อแต่งตัว แข็งแรงเมื่อเปลือยกาย เส้นของกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์แบบของเขา ราวกับว่าใช้พู่กันอย่างดีวาดลงอย่างบรรจง มันเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งและงดงาม ทั้งยังมีาแอยู่ไม่น้อยบนหน้าอก
ไม่ว่าจะเป็าแจากมีดหรือาแจากกระบี่ เป็แผลฉกรรจ์เจ็ดแปดรอย
ถึงแม้จะหายดีแล้วก็หลงเหลือรอยแผลเป็อยู่ ทว่า ก็ยังเห็นได้ว่าใน่แรกนั้นดูรุนแรงขนาดไหน
ปลายนิ้วของชิงอีลูบไล้าแตรงกลางหน้าอกของเขา ดวงตาของนางแข็งค้างเป็เวลานาน ปลายนิ้วััมันโดยไม่รู้ตัว
เซียวเจวี๋ยรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เขาตื่นขึ้นมาก่อน ก่อนที่ชิวอวี่เป่ากลิ่นหอมนั่นเข้ามา คาดว่าคงไม่มีใครที่สามารถยับยั้งได้ และเขาคงต้องออกโรงเอง
เขาเองก็วางแผนที่จะขจัดความสงสัยของนาง ดังนั้น จึงไหลไปตามน้ำและแสร้งทำเป็หมดสติไป
เพียงแต่หลังจากที่สาวน้อยคนนี้เข้ามา นางทำเื่ที่อยากจะทำเลยไม่ได้หรือไร ทำเื่ที่มันสำคัญไม่ได้หรือ?
แล้วเหตุใดนางถึงได้ชอบถอดเสื้อผ้าของผู้คนขนาดนี้กันนะ?
ไม่รู้จริงๆ ว่าเย่เหยียนสอนน้องสาวคนนี้อย่างไร แม้ว่าปรโลกจะไม่งดงามเท่าโลกมนุษย์ ทว่า นิสัยนี้ของหญิงสาวไม่กลัวว่าจะโดนลือไปเป็เื่น่าขำของทั้งสามโลกหรืออย่างไร?
หลังจากที่เซียวเจวี๋ยตระหนักถึงปัญหาที่เขาคิดอยู่ จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่ามันไร้สาระ
เขาจะไปกังวลอะไรแทนคนทรยศคนนั้นด้วยเล่า?
ร่างกายของเขาเริ่มคันยุบยิบขึ้นมา มือเล็กๆ ของหญิงสาวลากไปมาบนหน้าอกเขา ร่างกายของเซียวเจวี๋ยเกร็งขึ้นในชั่วพริบตา เมื่อเขารู้สึกได้ถึงใบหน้าเล็กๆ ที่เข้ามาใกล้
“น่าเสียดาย...หลังจากที่เ้าตายไปแล้ว ผิวสวยๆ ของเ้าก็จะโดนถลกเอาไปทำเป็ว่าว ทว่า รูมากมายขนาดนี้ ลมจะรั่วหรือเปล่านะ?”
เสียงเล็กๆ ของใครบางคนบ่นพึมพำขึ้นมา
เซียวเจวี๋ยโกรธจนอยากจะหัวเราะออกมา
ถลกหนังเขาทำว่าวงั้นหรือ? เฮอะ ช่างกล้ายิ่งนัก
ชิงอีถอนหายใจหนึ่งเฮือก จากนั้นจึงเริ่มทำเื่สำคัญ และอาจจะเป็อีกครั้งที่ถูกเซียวเจวี๋ยกลืนกินพลังไปอย่างลึกลับ นางจึงค่อยๆ ปล่อยเส้นใยเข้าไปในร่างกายของเขาอย่างระมัดระวังเพื่อทดสอบ
นี่เป็แค่ร่างกายของมนุษย์จริงๆ ทั้งิญญาเองก็ไม่ได้ดูผิดปกติแต่อย่างใด
ปัญหามันอยู่ที่ไหนกันนะ?
นางค่อยๆ ถอนพลัง แล้วนั่งลงบนเขาและครุ่นคิดถึงเื่นี้
“หรือว่ามันจะผิดวิธีหรือเปล่า?” นางละสายตาจากอกของเขาและเงยหน้าขึ้น
ทีู่เาด้านหลังในวันนั้น นางบังเอิญไปชนกับริมฝีปากชายหนุ่ม จากนั้นพลังคาถาก็ถูกคืนกลับมา
“เป็ไปได้ไหมว่าสัตว์อสูรชนิดใดชนิดหนึ่งที่กลับชาติมาเกิดเป็มนุษย์? เ้านี่เลยกลายเป็คนตะกละตะกลาม กินไม่เลือก?” ชิงอีพึมพำและยื่นมือออกไป ใช้วิธีที่เขาจัดการกับนางเมื่อเช้านี้ นางบีบปากของเซียวเจวี๋ยจนยู่เป็ปากเป็ด จากนั้นก็เริ่มดึงทั้งสองด้าน
“มานี่สิ ให้ข้าตรวจฟันของเ้าหน่อย”
มือของเซียวเจวี๋ยกำหมัดอยู่ข้างลำตัวแน่น ยายสาวน้อยนี่...
ชิงอีที่กำลังเล่นกับท่อนบน ทันใดนั้น ก็รู้สึกว่าชายหนุ่มที่อยู่ด้านล่างขยับตัว นางตัวแข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่ง และทันใดนั้น ร่างของชายหนุ่มก็พลิกกลับทันที ทั้งร่างของนางจึงโดนย้ายไปอยู่ข้างๆ พร้อมกับใช้แขนข้างหนึ่งกดเอาไว้
ในชั่วพริบตา ตำแหน่งก็เปลี่ยนไป
นางนอนตะแคงบนตั่ง โดยมีแขนข้างหนึ่งพาดเอวอยู่
ใบหน้าที่หล่อเหลานั้นห่างจากหน้านางเพียงไม่กี่นิ้ว
ชิงอีหายใจติดขัดเล็กน้อย ชายผู้นี้...สรุปแล้วเขาตื่นหรือไม่ตื่นกันแน่เนี่ย?!