ประกายสายฟ้าแลบที่มาพร้อมกับเสียงะเิกัมปนาทบนท้องฟ้าใกล้กับหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ทำให้ทั่วทั้งหมู่บ้านพลันสว่างวาบ
ท่ามกลางสายตาของเหล่าผู้ฝึกวรยุทธ์ที่อยู่ที่นี่ เย่เฟิงคลายอ้อมแขนที่โอบร่างของหลงหว่านเอ๋อร์ออก ก่อนจะสะกิดปลายเท้าใช้ย่างก้าวไร้เงาขั้นที่สองพุ่งตัวออกไปในพริบตา
เพียงพริบตาเดียว ร่างคนทั้งคนก็ไปถึงหน้าบ้านพักหลังหนึ่งซึ่งห่างออกไปกว่าหนึ่งร้อยเมตร ทิ้งไว้เพียงเศษเสี้ยวเงาอยู่เื้ั
วืด!
ท่ามกลางสายฝนเทกระหน่ำ กระบี่เล่มยาวสีทองพลันปรากฏขึ้นมาในมือของเย่เฟิง ชายหนุ่มตวัดกระบี่ไปทางบ้านพัก ตามมาด้วยการะเิของพลังชี่ เพียงพริบตาเดียวมันก็บินตัดหลังคาบ้านพักจนพังครืนลงมาเสียงดังสนั่นหวั่นไหว!
ในขณะเดียวกันภาพผู้ชายร่างอ้วนที่เตรียมพร้อมจะถอดกางเกงก็พลันปรากฏสู่สายตาธารกำนัลทั้งหมดผ่านฝุ่นละอองและทรายที่ปลิวว่อนอยู่ในอากาศ ชายคนนั้นกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็ตะลึงงันไปในทันที
นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เขากำลังจะได้เสพสุขอยู่แล้ว แต่ไอ้เวรตัวไหนมันกล้ามาพังบ้านทั้งหลังกันเนี่ย?
ชายร่างอ้วนเดือดดาลขึ้นมาทันที เขาถือว่าเป็บุคคลสำคัญของตระกูลหลง แล้วใครที่มันกล้ามาขัดขวางความสุขของเขา มันอยากตายใช่ไหม!
ชิ้ง!
เขาชักกระบี่เล่มหนึ่งออกมาจากเอวแล้วเงยหน้าขึ้นจ้องไปทางเย่เฟิงที่ยืนอยู่ด้านนอกตัวบ้าน สายฝนเทกระหน่ำราดรดมาบนกายกับสายตาที่ฉายแววอำมหิต
“ระวัง!”
หลงหว่านเอ๋อร์ะโขึ้นมาจากด้านหลัง ชายหนุ่มพอฟังออกว่าเธอนั้นหวาดกลัวชายร่างอ้วนคนนี้เพียงใด ซึ่งในน้ำเสียงนั้นก็แฝงความรังเกียจไว้ด้วยเช่นกัน
ผู้ฝึกวรยุทธ์ที่อยู่รอบๆ ต่างเริ่มพากันตั้งข้อสังเกตขึ้นมา
“ เฮ้ยๆ นั่นไม่ใช่หลงอู่เหรินจากตระกูลหลงเหรอวะ?”
“ใช่แล้ว ฉันได้ยินมาว่าไอ้อ้วนนั่นมันเป็พวกบ้ากาม ดูตรงมุมนั้นสิ เหมือนผู้หญิงคนที่แต่งงานเข้าตระกูลหลงเลยใช่ไหม?”
“ นั่นชูชูไม่ใช่เหรอ? ฉันได้ยินมาว่าสามีของเธอตายไปแล้วเมื่อยี่สิบปีก่อน ดูร่างเล็กๆ ที่ยังสวยงามและบอบบางนั่นสิ ขนาดฉันยังอยากลองลิ้มรสเลย...”
ภายในบ้านพักที่พังทลายลงมา ชูชูที่กำลังจะสิ้นความหวังไปแล้ว แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นไปเห็นร่างของเย่เฟิง เธอก็อดที่จะใออกมาไม่ได้
แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกจะไม่ค่อยเหมือนเท่าไร แต่ไม่รู้ว่าทำไม ชูชูถึงได้รู้สึกว่าชายสวมหน้ากากตรงหน้านี้ก็คือคนรักของหลงหว่านเอ๋อร์ และตอนนี้เขาก็มาช่วยเธอแล้ว ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นไปทั้งหัวใจ
“คุณน้าคะ!”
หลงหว่านเอ๋อร์ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เธอรีบวิ่งเข้าไปโอบกอดชูชูไว้ ก่อนจะพาเธอไปหลบฝนใต้ชายคาบ้านข้างๆ
แม้ตอนนี้หลงหว่านเอ๋อร์จะสวมหน้ากากบดบังใบหน้าอยู่ แต่พอชูชูได้ยินเสียงก็รู้ทันทีว่าเธอเป็ใคร
เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นเย่เฟิงถือกระบี่เผชิญหน้ากับหลงอู่เหรินอยู่ หัวใจของชูชูก็พลันกระตุกวูบ ความกังวลและเป็ห่วงฉายชัดขึ้นมาบนใบหน้าอ่อนโยน เธอได้ยินหลงหว่านเอ๋อร์พูดว่า “โม่จิ่วเกอ” มีระดับวรยุทธ์ไม่ถึงสิบปี แต่เขาคิดจะมาต่อกรกับหลงอู่เหรินที่มีระดับวรยุทธ์ถึงสามสิบปี ซึ่งมันต่างกันมากเกินไป!
แต่หลงหว่านเอ๋อร์กลับไม่ได้กังวลอะไร เพราะเธอเคยเห็นเย่เฟิงสังหารลัวเฟิงมาแล้ว ถ้าให้เปรียบเทียบกับลัวเฟิง หลงอู่เหรินคนนี้ยังถือว่าด้อยกว่านัก แต่สิ่งที่น่ากังวลก็คือ ตอนนี้พวกเขาตกอยู่ในสายตาของคนหมู่มาก อาจทำให้เย่เฟิงไม่สามารถปล่อยพลังลูกไฟนั่นได้อีก
‘ต้องรีบจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุด’
เย่เฟิงกำกระบี่ในมือไว้แน่น เขารับรู้สถานการณ์ตอนนี้ดี
หลงโม่หรานและชายชราหนวดขาวแห่งสำนักหมัดเทวาก็กำลังค้นหาตัวเขาอยู่ไม่ไกล แต่เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นที่หมู่บ้านแห่งนี้ นั่นหมายความว่าคนพวกนั้นต้องรีบกลับมาที่นี่แน่นอน ถ้าถึงเวลานั้นแล้วเขายังจัดการชายอ้วนคนนี้ไม่ได้อีก มันก็คงไม่สนุกแล้วล่ะ
ก็แค่ระดับวรยุทธ์สามสิบปีทั่วไป หากเย่เฟิงใช้ย่างก้าวไร้เงาขั้นที่สอง ความเร็วก็น่าจะพอสูสีกับอีกฝ่าย แล้วประสานทักษะอำพรางตาเข้าไปอีกหน่อย มันก็น่าจะสามารถกำจัดอีกฝ่ายได้ในคราเดียว
และในขณะที่เขาวาดกระบี่ขึ้นมาวางในแนวนอนเตรียมที่จะลงมือ แต่กลับเป็หลงอู่เหรินที่เป็ฝ่ายจู่โจมก่อน
“ไอ้เด็กเวร แกวอนหาที่ตายเองนะ!”
ใบหน้าของหลงอู่เหรินฉายแววโเี้ และประกายแสงสีเงินของกระบี่ในมือกระทบเข้ากับห่าฝนเมื่อเขาตวัดกระบี่ออกไป พร้อมฝีเท้าหนักๆ พุ่งตัวออกไปทางเย่เฟิง
กระบี่เล่มยาวแทงแหวกอากาศ และภายใต้ผลของพลังลมปราณภายใน พายุฝนที่เทกระหน่ำลงมารอบๆ กลายเป็คลื่นน้ำสายหนึ่ง ราวกับัวารีที่รวดเร็วและรุนแรงผสมเข้ากับหนามแหลมอันเย็นะเืที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเย่เฟิงอย่างซึ่งหน้า
“พายุหมุนสลายเมฆาของเพลงกระบี่บุปผาเหมันต์ฝ่าสายลมล้อมจันทรา!”
คนที่รู้จักวิทยายุทธ์นี้ถึงกับร้องขึ้นมาทันที
วิทยายุทธ์อันวิจิตรประณีตของตระกูลหลง เพลงกระบี่บุปผาเหมันต์ฝ่าสายลมล้อมจันทรา เป็กระบวนยุทธ์ที่เฉียบขาดที่สุดของตระกูลหลง แม้จะเป็ผู้ฝึกวรยุทธ์ฝีมือธรรมดาได้ใช้มัน แต่พลังของเพลงกระบี่ขั้นแรกที่แสดงออกมานั้นมีอานุภาพรุนแรง
“นี่คือเพลงกระบี่บุปผาเหมันต์ฝ่าสายลมล้อมจันทราเหรอเนี่ย?”
เย่เฟิงรู้สึกหนาวไปถึงขั้วหัวใจเมื่อคิดได้ว่าหลงโม่หรานคนนั้นฝึกฝนเพลงกระบี่นี้จนบรรลุขั้นที่สามแล้ว หากตอนนี้เขามีเวลามากพอก็คงทำความคุ้นเคยกับมันได้ แต่น่าเสียดายที่ในตอนนี้เขาไม่มีเวลามาเล่นกับอีกฝ่ายแล้ว
แม้จะเป็เพียงเพลงกระบี่กระบวนแรกของพายุหมุนสลายเมฆา แต่พลังภายในที่แผ่ไปทั่วทุกสารทิศนั้นทรงพลังยากเกินจะต้านทาน
นี่เป็เพลงกระบี่ที่มีความเรียบง่าย รวดเร็ว รุนแรงและดุดัน!
เย่เฟิงสะกิดฝีเท้าออกตัวะเิความเร็วของทักษะย่างก้าวไร้เงาขั้นที่สองออกมาอีกครั้ง เพียงพริบตาเดียวก็เคลื่อนที่หลบวิถีกระบี่ที่แทงมาโดยตรงได้ แต่อย่างนั้นกระแสกระบี่เล่มยาวของอีกฝ่ายก็เฉียดเข้าที่ใบหน้า เรียกเืสดๆ กระเซ็นออกมาเล็กน้อย
กระบี่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว หากเย่เฟิงไม่มีจิตหยั่งรู้ ระดับวรยุทธ์เพียงสิบปีทั่วไปคงหลบวิถีกระบี่นี้ไม่พ้นแน่
เย่เฟิงเคลื่อนที่เข้าประชิดตัวอีกฝ่าย กวัดแกว่งกระบี่ในมือออกไป รัศมีสีทองตัดผ่านไปทางด้านหลังของชายร่างอ้วน
เคร้ง!
ชายร่างอ้วนมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาพลิกกายกลับมาพร้อมกับวาดกระบี่ขึ้นมาสกัดการโจมตีของเย่เฟิงไว้ได้
ทันทีที่กระบี่ทั้งสองเล่มเข้าปะทะกัน เย่เฟิงก็รู้สึกได้ถึงพลังลมปราณภายในอันทรงพลังของคู่ต่อสู้ที่ทะลักออกมาจากกระบี่เล่มยาว
ชายหนุ่มถึงกับเซถอยหลังไปสองสามก้าว ความต่างกันของระดับวรยุทธ์นั้นทำให้เขาไม่อาจรับการปะทะกับอีกฝ่ายได้โดยตรง
‘หยาดน้ำค้างแห่งบุปผาร่วงโรย’
หลงอู่เหรินแสยะยิ้มมุมปากดูโเี้ จากนั้นเขาก็เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว มาปรากฏตัวที่ด้านหลังหมายจะแทงตัดขั้วหัวใจของเย่เฟิง
“อย่าฝันไปหน่อยเลย!”
ด้วยพลังของจิตหยั่งรู้ทำให้ชายหนุ่มสามารถจับตำแหน่งของอีกฝ่ายได้ พลังชี่ในแหวนกระบี่ัโบราณรวมตัวกันขึ้นมา ก่อนจะหมุนตัวกลับไปแล้วฟันกระบี่สีทองไปตรงหน้าในชั่วพริบตาเดียว
แกร๊ก!
แสงสีเงินประกายวาบพร้อมกับกระบี่เล่มยาวในมือของหลงอู่เหรินถูกตัดออกเป็สองท่อนด้วยฝีมือของเย่เฟิง ชิ้นส่วนปลายกระบี่ลอยกระเด็นขึ้นสูง จากนั้นก็ตกลงมาปักเข้าไปทรายจนเกือบมิด
ส่วนกระบี่อีกครึ่งหนึ่งในมือของหลงอู่เหรินก็แทงเข้าที่หน้าอกของเย่เฟิง ทันใดนั้นสายพลังลมปราณภายในอันเย็นะเืแล่นผ่านจากตัวกระบี่เจาะเข้าไปในไขกระดูก
หน้าอกของชายหนุ่มถูกย้อมด้วยเืสีแดงสดอย่างรวดเร็ว ซึ่งฉากนี้ทำให้หัวใจของหลงหว่านเอ๋อร์บีบรัดขึ้นมาอย่างรุนแรง เธอตวาดเสียงดังลั่น ก่อนที่หญิงสาวจะเคลื่อนไหวกายใช้กระบวนท่าเตะสยบัมาเตะปลายกระบี่ที่หักลงมาปักในทราย
ฟิ้ว!
เธอเตะปลายกระบี่ของส่วนที่หักพุ่งไปทางอู่เหรินทันที
หลงอู่เหรินที่ตะลึงงันเพราะกระบี่ของเขาถูกฟันจนมันหักครึ่ง มันเป็ไปได้อย่างไรที่อาวุธคุณภาพระดับนี้กลับถูกตัดขาดอย่างง่ายดาย? แต่เมื่อเขาเห็นการจู่โจมของหลงหว่านเอ๋อร์ ชายร่างอ้วนก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว โดยการเอียงตัวหลบปลายกระบี่ที่พุ่งเข้ามา
เมื่อเย่เฟิงเห็นสถานการณ์ตรงหน้าก็หวังจะใช้ประโยชน์จากตรงนี้ ชายหนุ่มฝืนความเ็ปและความเย็นะเืที่หน้าอกเอาไว้ กระชับกระบี่ในมือแล้วสะกิดปลายเท้าะเิความเร็วของย่างก้าวไร้เงาขั้นที่สองออกมา เพียงพริบตาเดียวคมกระบี่ก็พุ่งเข้าใส่ลำคอของหลงอู่เหรินอย่างไร้ความปราณี!
หลงอู่เหรินหลบปลายกระบี่ที่พุ่งเข้ามาจากฝีมือของหลงหว่านเอ๋อร์ได้ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถหลบการโจมตีที่ตามมาติดๆ ของเย่เฟิงได้ เมื่อลำคอถูกตัดด้วยกระบี่ ร่างหนาๆ ของเขาก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างแรง ดวงตาเบิกกว้าง เขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะมาจบชีวิตลงที่ทะเลตะวันออกแบบนี้
“นายเป็อะไรไหม?” หลงหว่านเอ๋อร์รีบวิ่งเข้ามาพยุงตัวเย่เฟิงไว้ พลางตรวจสอบาแของเขา
เปรี้ยง!
เสียงฟ้าร้องดังสนั่นขึ้นมาอีกครั้ง
บริเวณบนหลังคาที่อยู่ไม่ไกลนัก มีเงาร่างสามร่างปรากฏขึ้นอย่างเงียบเชียบ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือหลงโม่หรานที่มีสีหน้าถมึงทึง ท้องฟ้าด้านหลังของเขาเกิดสายฟ้าแลบพาดผ่านไปทั่วบริเวณ ทำให้ใบหน้าของเขายิ่งดูน่าสะพรึงกลัว
“ในเมื่อมันฆ่าคนตระกูลหลง วันนี้มันก็อย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอดออกไป!” หลงโม่หรานตวาดลั่นอย่างเดือดดาล ท่ามกลางเสียงฟ้าร้องดังลั่น ทั้งหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ นี้ก็ถูกปกคลุมด้วยเงามืด!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้