บทที่ 25 ผลวิเศษชิงอวี้
ลู่อวี่ฟังแล้วก็พูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “ท่านลุงิล้อข้าเล่นแล้ว หากคำพูดนี้ของท่านหลุดออกไป ไม่รู้ว่าจะถูกคนจำนวนเท่าไรหัวเราะเยาะเอา อย่าว่าแต่สถานะคนปรุงโอสถขั้นห้าเช่นข้าที่ไม่รู้ว่าจะมีคนเชื่อหรือไม่ แค่ชื่อเสียงเมื่อก่อนหน้านี้ของข้า หากคุณหนูเซี่ยรู้เข้าคงต้อง ‘ใและสงสัย’ เป็แน่!”
“วันนี้กับวันนั้นมันย่อมต่างกัน แม้ว่าตระกูลเซี่ยจะเป็ตระกูลอันดับหนึ่งและในตระกูลยังมีคนปรุงโอสถขั้นแปดอยู่อีกสี่ห้าคน แต่ความ้ายาขั้นสูงมีมากกว่าตระกูลลู่ของเรายิ่งนัก อีกอย่างตอนนี้นายน้อยก็กลับตัวกลับใจมาเป็คนดีแล้ว ตระกูลเซี่ยที่มีสายตาเฉียบแหลมอยู่แล้วต้องพอใจในตัวนายน้อยเป็แน่!”
หันมามองลู่เหว่ยิที่เปลี่ยนตัวเองมาเป็พ่อสื่อพูดจาฉะฉานคล้ายกับมีหลักการและเหตุผล ลู่อวี่ก็ส่ายหน้าหงึกๆ อย่างไม่มีทางเลือก และไม่พูดอะไรอีก
โชคดีที่ตอนนี้งานประมูลยังดำเนินต่อไป และเริ่มประมูลยาที่ล้ำค่ามากขึ้น วัตถุดิบและเคล็ดวิชาม้วนตำราหยกบางอัน ในนั้นรวมถึงยาวิเศษแขนงต่างๆ ด้วย ดังนั้นจึงรีบรวบรวมสมาธิหันไปจดจ่อกับสถานการณ์บนกำแพงเงางามทันที
“ยาที่จะถูกประมูลลำดับต่อไปคือยาอายุวัฒนะไท่หยวนขั้นหกสองเม็ด เริ่มต้นที่เซียนหยกขั้นต่ำหนึ่งแสนเม็ด เริ่มประมูลได้!”
“หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นเม็ด!”
“ยาวิเศษของเขาหนิงชุยเฟิง มียาอายุวัฒนะน้ำค้างขาวสามเม็ด ราคาเริ่มต้นที่เซียนหยกขั้นต่ำหนึ่งแสนเม็ด และแต่ละครั้งจะต้องเพิ่มราคาขั้นต่ำครั้งละเซียนหยกหนึ่งหมื่นเม็ด!”
หนิงชุยเฟิงคือสำนักปรุงโอสถแห่งเดียวในโลกบำเพ็ญเพียรของเทียนตู แม้ว่าความสามารถจะมีไม่เพียงพอให้กล่าวถึงในหลายๆ สำนักและในตระกูลใหญ่ๆ แต่ความสำเร็จในการปรุงโอสถนั้นไม่เป็สองรองใครอย่างแน่แท้ ไม่เพียงแต่จะมีคนปรุงโอสถขั้นห้าหนึ่งคนอยู่ในสำนักหนิงชุยเฟิงเท่านั้น แต่ยังมีสูตรยาล้ำค่าและทรัพยากรยาวิเศษมากที่สุดอยู่ที่นั่นอีกด้วย ดังนั้น ยาที่ได้รับการปรุงออกมาโดยคนจากเขาหนิงชุยเฟิงไม่เพียงแต่เป็ที่้าของผู้คนมากมาย แต่ตัวยายังมีคุณภาพและราคาสูงลิบ
หากไม่ใช่เพราะกำลังและความแข็งแกร่งของเขาหนิงชุยเฟิงอ่อนกำลังมาก และสำนักและตระกูลใหญ่ต่างๆ ยังได้รับการจัดสรรยาขั้นสูงเป็ระยะๆ คงถูกพวกคนโลภเ่าั้กำจัดทิ้งไปโดยไม่เหลือผู้สืบทอดสักคนนานแล้ว
ในห้องลับของบุคคลสำคัญหมายเลขเก้า ผียายแก่แห่งตระกูลเมิ่งเพิ่งเดินทางมาถึงที่นี่ เมิ่งเทียนอวิ๋นได้รับาเ็สาหัสทำให้นางโกรธและกังวลใจไม่น้อย เมื่อได้ยินว่าครั้งนี้มีการประมูลยาอายุวัฒนะน้ำค้างขาวขึ้น จึงรีบขอมาทันทีเพราะกลัวว่าคนอื่นในตระกูลจะนึกเสียดายเซียนหยกในขณะที่กำลังแย่งชิงราคากัน หากเป็เช่นนั้นคงสายเกินไปที่จะเสียใจ อย่างไรเสียไม่ว่ายาอายุวัฒนะน้ำค้างขาวที่ว่านี้จะแพงสักเท่าไร ก็ต้องซื้อมาให้ได้
แต่ผลของยาอายุวัฒนะน้ำค้างขาวกลับเป็ที่รู้จักกันดีในเทียนตู แม้ว่าจะเป็เพียงยาอายุวัฒนะขั้นหกเท่านั้น แต่หากมีมันไว้ในก็คล้ายกับว่ามีหลักประกันในชีวิต ดังนั้นต่อให้ไม่จำเป็ต้องใช้อย่างเร่งด่วน นอกเหนือจากเขาหนิงชุยเฟิงและตระกูลลู่แล้ว ทุกตระกูลและทุกสำนักต่างก็หมายมั่นปั้นมือเพื่อให้ได้มันมา
ดังนั้นการประมูลจึงดุเดือดมากั้แ่เริ่มต้น และความร้อนแรงในงานก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการประมูลยาอายุวัฒนะไท่หยวนก่อนหน้า
“หนึ่งล้านเม็ด!” เมิ่งชิวเลียนเสนอราคาประมูลสูงถึงเซียนหยกหนึ่งล้านเม็ด ตัดความหวังของคนส่วนใหญ่ที่คิดจะเสนอราคาประมูลแข่งทันที
แต่กลับมีสำนักและตระกูลใหญ่ที่ไม่ใส่ใจประหยัดเซียนหยกเช่นเดียวกัน!
“หนึ่งล้านหนึ่งแสนเม็ด ผียายแก่ตระกูลเมิ่ง ยาอายุวัฒนะน้ำค้างขาวหนึ่งเม็ดก็เพียงพอสำหรับเด็กหนุ่มผู้นั้นในตระกูลเมิ่งของเ้าแล้ว ตอนนี้เ้าหลีกทางให้ตำหนักอัคคีเทพของข้าเสียเถอะ หรือหากข้าประมูลมาได้ประเดี๋ยวจะยกให้เ้าสักเม็ดเป็อย่างไร?”
“หนึ่งล้านสามแสนเม็ด ปีศาจเฒ่าอัคคี อย่าพูดชักช้าให้มากความ ทำอย่างกับว่าเมืองเทียนตูเซียนเป็บ้านเ้า บังเอิญว่าสำนักกระบี่ทลายฟ้าของข้ามีศิษย์ที่เส้นลมปราณได้รับาเ็ ของสิ่งนี้สำนักข้าจำเป็ต้องได้มา”
“หนึ่งล้านห้าแสนเม็ด ฮ่าๆ สำนักกระบี่ทลายฟ้าหยิ่งผยองยิ่งนัก เช่นนั้นแล้วก็ต้องมีเซียนหยกมาซื้อ พวกเ้าไม่มีอะไรอื่นนอกจากกระบี่ไม่ใช่หรือ ตอนนี้ถึงไม่แย่งชิงต่อเล่า!”
“หนึ่งล้านหกแสนเม็ด พูดจาเหลวไหล แพ้ตกรอบแล้วยังกล้าดีมาะโใส่ข้า”
“สองล้านเม็ด หุบปากเสีย ตาเฒ่ายายเฒ่าตายยาก หากคิดจะมาทะเลาะกันก็ไสหัวไปไกลๆ ยาอายุวัฒนะน้ำค้างขาวต้องตกเป็ของตระกูลเมิ่ง ใครหน้าไหนก็อย่าหวังจะได้หยิบฉวยมันไปจากสายตาข้า”
ยอดฝีมือทั้งสามในขั้นตงซวนทันทีที่เปิดปากก็เต็มไปด้วยกลิ่นดินปืน ราคาประมูลก็สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ครั้งนี้ตระกูลเมิ่งมาที่นี่เพื่อซื้อยาอายุวัฒนะน้ำค้างขาวกลับไป ดังนั้นจึงเตรียมตัวมาอย่างดีและลงมืออย่างไม่ปรานีผู้ใดในท้ายที่สุดตระกูลเมิ่งก็ได้มันไปในราคาสูงลิบถึงเซียนหยกสามล้านหกแสนเม็ด
ในที่สุดก็สามารถซื้อยาที่ใช้รักษาเมิ่งเทียนอวิ๋นมาได้แล้ว ผียายแก่แห่งตระกูลเมิ่งถึงวางก้อนหินใหญ่ที่แขวนอยู่ในใจมาตลอดลงได้ เหตุผลที่นางใส่ใจเมิ่งเทียนอวิ๋นมากเช่นนี้ เป็เพราะมีความลับบางอย่างปกปิดไว้ มิฉะนั้น แม้ว่าเมิ่งเทียนอวิ๋นจะเป็ลูกหลานที่เก่งกาจของตระกูล นางคงไม่ทำอะไรโดยไม่ยั้งคิดถึงเพียงนี้
เมื่อพูดถึงผียายแก่แห่งตระกูลเมิ่ง เมื่อครั้งอายุยังน้อยนางขึ้นชื่อว่าเป็หญิงงามที่งดงามยิ่งนัก แต่เนื่องจากจิตใจภายในไม่ปกติจึงกลายเป็คนนิสัยสุดโต่ง ต่อมาภายหลังยิ่งฝึกบำเพ็ญเพียรเคล็ดวิชาลับผีที่ทรงพลังอย่างยิ่ง จึงทำให้ใบหน้าของนางเปลี่ยนไปไม่น้อย ความเป็จริงแล้วเมิ่งเทียนอวิ๋นเป็หลานชายในอกของนาง ทว่าลูกชายของนางกลับมีจิตใจภายในไม่ปกติเช่นกัน จึงไม่กลับมาที่ตระกูลเมิ่งอีก เื่ในตระกูลนี้นอกจากประมุขของตระกูลและผู้าุโสูงสุดแล้ว ก็ไม่มีใครทราบเื่อีก เพราะอย่างไรเสีย ความจริงที่ว่านางมีจิตใจภายในไม่ปกติในตอนนั้น ย่อมส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของตระกูล ไม่เช่นนั้นนางคงไม่มอบหลานชายในอกของตนเองให้ผู้อื่นเลี้ยงดูแทน
และเมื่อนึกถึงลู่อวี่ผู้ที่ทำให้หลานชายต้องตกอยู่ในสภาพน่าเวทนาเช่นนี้ แต่เขากลับยังมีชีวิตอยู่อย่างสุขสบายดี ก็อดใจอยากจะสังหารเขาทิ้งไม่ได้ เพียงแต่ท่านประมุขและผู้เฒ่าสูงสุดของตระกูลเมิ่งต่างเห็นตรงกันว่าไม่อยากจะหักหน้าจนมองหน้าตระกูลลู่ไม่ติดในเวลานี้ และเห็นได้ชัดว่าตระกูลลู่ก็ไม่ใช่ว่าจะรับมือได้ด้วยง่ายๆ อีกต่อไป ดังนั้นนางจึงข่มใจข่มความคิดสังหารเขาไว้แต่เมื่อครู่นี้นางเพิ่งได้รับสารมาว่าเ้าเด็กตระกูลลู่ก็มาเยือนที่เมืองเทียนตูเซียนนี้เช่นกัน และในเมื่อตอนนี้นางได้ยารักษาอาการาเ็ของหลานชายมาอยู่ในมือด้วยแล้ว ความรู้สึกที่ข่มใจจะสังหารเ้าเด็กนั่นทิ้งก็พลันพลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้ง
หลังจากนั้นในงานประมูลก็มียาวิเศษหายากและล้ำค่าอีกไม่น้อยโผล่ขึ้นมา ซึ่งในนั้นมีหลายชนิดเป็ตัวยาล้ำค่าที่ลู่อวี่เคยพบเห็นได้น้อยยิ่งนักเมื่อชาติก่อน แม้กระทั่งวัตถุดิบหลักในการปรุงยาชะล้างอวี้จิงก็รวบรวมไว้แล้วกว่าครึ่ง นี่ไม่เพียงแต่ช่วยเขาประหยัดเวลา แต่ในขณะเดียวกันหากสามารถรักษาตู้เสวียนเฉิงได้เร็วเท่าไร ก็ยิ่งมีประโยชน์ต่อตัวเองเท่านั้น
แต่เพื่อตัดปัญหาบางอย่าง ลู่อวี่จึงได้มอบหมายให้ลู่เหว่ยิเสนอราคาประมูลยาวิเศษเ่าั้แทนเขาทั้งหมด
“สิ่งที่จะนำมาประมูลในลำดับต่อไปนี้ คือยาวิเศษประเภทสุดท้าย ผลิญญาหยกเขียว ราคาเริ่มต้นที่เซียนหยกขั้นต่ำหนึ่งล้านเม็ด”
“อะไรนะ?”
“ราคาสูงถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? ผลิญญาหยกเขียว? เหตุใดถึงไม่เคยได้ยินผลวิเศษประเภทนี้มาก่อน!”
“เซียนหยกขั้นต่ำสองล้านเม็ด!” เกือบจะในเวลาเดียวกัน ที่มีหลายเสียงดังขึ้นพร้อมกัน
เมื่อทุกคนเห็นสถานการณ์นี้เข้า ก็รู้แล้วว่า ผลิญญาหยกเขียว นี้ต้องเป็ของล้ำค่าที่หายากไม่น้อย
เมื่อลู่อวี่ได้ยินว่ามันคือผลิญญาหยกเขียว ก็มีสีหน้าหน้าตื่นใ แววตาเป็ประกาย พูดด้วยความมุ่งมั่นเด็ดขาดออกมาว่า “ท่านลุงิ ท่านต้องพยายามประมูลของชิ้นนี้มาให้ได้! ไม่ว่าราคาจะสูงเท่าไรย่อมต้องประมูลมันมาให้ข้า!”
ผลิญญาหยกเขียว คิดไม่ถึงว่าจะมีของเช่นนี้อยู่ด้วย ลู่อวี่ใจเต้นตึกตัก ขอเพียงอย่ามองแค่ว่าเขาเป็ปรมาจารย์ปรุงโอสถในชาติก่อนที่ได้รับสมบัติจากสรวง์และโลกมนุษย์มานับไม่ถ้วน แต่เมื่อเทียบกับสมบัติวิเศษต่างๆ ในโลกแล้ว ก็นับว่าเป็เพียงน้ำหยดเดียวในมหาสมุทรเท่านั้น
ยังมีของอีกนับไม่ถ้วนที่เขาเคยได้ยินได้ฟังมา และยาวิเศษที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ยังมีสมบัติวิเศษอีกนับไม่ถ้วนที่เขาไม่เคยเห็นหรือเคยัั แต่บังเอิญว่าผลิญญาหยกเขียว เป็ของประเภทหนึ่งที่เขาเคยได้ยินมา แต่ไม่เคยพบเห็นมันมาก่อน เพราะเป็ยาวิเศษที่หายากและมีราคาสูงลิบลับ
แต่ในเวลานี้กลับมีของล้ำค่าประเภทนี้มาโผล่อยู่ที่นี่ ดังนั้นจะต้องได้มาให้จงได้โดยไม่มีเหตุผลใดๆ เพราะเขารู้จักยาระดับขั้นสูงอย่างน้อยสิบประเภทที่ปรุงจากผลิญญาหยกเขียว ซึ่งแต่ละชนิดนั้นหายากยิ่งนัก นอกเหนือจากยาวิเศษที่มีส่วนผสมของผลนี้ที่มีร่องรอยการสืบต่อกันมาแต่โบราณแล้ว นี่ถือเป็ครั้งแรกที่ได้ยลโฉมของจริงกับตา
“ห้าล้านเม็ด!”
“แปดล้านเม็ด!”
ในเวลานี้ บรรยากาศในห้องโถงเริ่มตึงเครียดขึ้น และหลายคนก็ค้นพบว่า ตระกูลใหญ่หลักๆ ทั้งหมดดูเหมือนจะแสดงท่าทีว่า้าอยากได้ผลวิเศษนี้
“สิบล้านเม็ด! เขาหนิงชุยเฟิงของข้าต้องได้สิ่งนี้ ทุกท่าน ถึงแม้พวกท่านจะได้ของสิ่งนี้ไป แต่กลับไม่อาจปรุงยาที่ดีออกมาได้ เช่นนั้นหากเขาหนิงชุยเฟิงของข้าใช้ของสิ่งนี้มาปรุงยาเทียนหยวนเจิน ขอเพียงทุกท่านยอมจ่าย ก็ใช่ว่าจะขายให้ไม่ได้!”
ทันทีที่คนจากเขาหนิงชุยเฟิงออกปาก รอบด้านก็พลันเงียบเสียงลงทันที เห็นได้ชัดมากว่า แม้ว่าสำนักหนิงชุยเฟิงจะไม่โดดเด่นในด้านศิลปะการต่อสู้ แต่ความสำเร็จในเส้นทางยาและอิทธิพลที่มี ไม่ว่าใครคนใดหรืออำนาจใดก็ไม่อาจดูแคลนได้
“สิบล้านห้าแสนเม็ด! ยาเทียนหยวนเจิน? ฮ่าๆ แม้ว่าาาโอสถเฒ่าจะเป็คนปรุงโอสถขั้นห้า แต่อาจปรุงยาเทียนหยวนเจินสำเร็จได้เพียงสามในสิบส่วน ผลิญญาหยกเขียว สามผลสามารถปรุงยาได้ถึงสามเตา หากประสบความสำเร็จก็สามารถปรุงยาได้หนึ่งเตาก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว แต่จะปรุงยาออกมาได้เท่าไรก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาเท่านั้น และสำนักเทียนเต้าของเราถึงแม้จะไม่มีคนปรุงโอสถขั้นห้า แต่ขั้นหกก็มีอยู่หลายคน หากมีผลิญญาหยกเขียว เพิ่มเข้ามา ไม่แน่ว่าการปรุงยาทะลวงแดนเทียนกังอาจสำเร็จมากกว่าหกในสิบส่วน แม้ว่าผลของมันจะไม่ดีเท่ายาเทียนหยวนเจิน แต่การใช้ประโยชน์และผลสำเร็จในการปรุงยาก็นับว่าสูงกว่ามาก”
“สิบล้านหกแสนเม็ด! ไม่ได้มีเพียงสำนักเทียนเต้าของเ้าเพียงสำนักเดียวที่มีคนปรุงโอสถขั้นหก หากสำนักเทพปีศาจของเรามีผลิญญาหยกเขียว เป็วัตถุดิบยาตัวหลัก ย่อมสกัดยาิญญาปีศาจขั้นหกได้!”
“สิบล้านเจ็ดแสน คนปรุงโอสถขั้นหกของตระกูลเซี่ยของข้าก็มีไม่น้อยเช่นกัน ผลิญญาหยกเขียว ทั้งหายากและล้ำค่าไม่น้อย การจะได้มาเห็นจะเป็เื่ยาก!” เสียงที่ดังผะแ่แสนนุ่มนวลของคุณหนูเซี่ยดังขึ้น
ลู่เหว่ยิเห็นว่าในชั่วพริบตาเดียว ราคาของผลิญญาหยกเขียว ก็พุ่งสูงถึงเซียนหยกขั้นต่ำสิบล้านเจ็ดแสนเม็ดแล้ว ก็พอจะรู้อยู่แล้วว่าของสิ่งนี้ต้องเป็ของล้ำค่าที่หาสิ่งใดเทียบไม่ได้ดังนั้นจึงรีบเสนอราคาต่อทันที “ยี่สิบล้านเม็ด! ตระกูลลู่ของเราก็สนใจสิ่งนี้ไม่น้อยไปกว่าใครเช่นกัน!”
แต่ละตระกูลใหญ่ต่างรู้สถานการณ์ของห้องลับของบุคคลสำคัญแต่ละห้องเป็อย่างดี แค่ฟังเสียงก็รู้ได้ทันทีว่าตระกูลใดขอเสนอเพิ่มราคา ดังนั้นเวลานี้ทุกคนจึงจำได้ว่าลู่เหว่ยิเป็คนจากตระกูลลู่แล้ว
“ยี่สิบล้านหนึ่งแสนเม็ด!” เสียงของผียายแก่แห่งตระกูลเมิ่งดังออกมาจากห้องลับของบุคคลสำคัญของตระกูลเมิ่งในอีกไม่กี่อึดใจต่อมา
“ผู้เฒ่ารอง แบบนี้คงไม่ดี? พวกเราซื้อผลิญญาหยกเขียว ไปก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์ แม้ว่ามันจะทำให้ตระกูลลู่รู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็ไม่เป็ประโยชน์อะไรต่อตระกูลเมิ่งของเรา!” เมิ่งเทียนอิงพูดด้วยน้ำเสียงวิตกกังวล
เดิมทีงานประมูลของตระกูลเมิ่งมีเขาเป็ผู้รับผิดชอบ เขาคิดจะฉวยโอกาสนี้เพื่อหาประโยชน์บางอย่างให้กับตนเอง คิดไม่ถึงว่าหลังจากการประมูลเริ่มต้นขึ้นได้ไม่นาน ผู้เฒ่ารองจะปรากฏตัวขึ้น ทำให้แผนการของเขาพังทลายทันที ดังนั้นจึงมีความไม่พอใจอยู่หลายส่วน ในเวลานี้จึงถือโอกาสเตือนสติผู้เฒ่ารอง เพราะเขาต่างหากที่เป็ผู้รับผิดชอบการประมูลของตระกูลเมิ่ง
ทว่าผียายแก่แห่งตระกูลเมิ่งไม่มองเขาด้วยซ้ำ ทำเพียงยิ้มแล้วพูดว่า “เทียนอิง หากคิดจะทำสิ่งใดก็ให้มองการณ์ไกลเสียบ้าง ผลิญญาหยกเขียว ไม่มีประโยชน์กับเรา แต่มีประโยชน์ต่อเขาหนิงชุยเฟิงไม่ใช่หรือ? แม้ว่าอาจต้องขาดทุนสักเล็กน้อยเมื่อต้องขายต่อให้พวกเขา แต่หากเป็การบีบให้ตระกูลลู่ยอมแพ้ได้ข้าก็ดีใจแล้ว ส่วนเซียนหยกที่ขาดทุนไปเล็กน้อยข้าก็ไม่คิดจะใส่ใจ” นางหยุดไปสักพัก และดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงพูดด้วยเสียงสะอึกสะอื้นว่า “ผลิญญาหยกเขียวนี้หายากยิ่งนัก แม้รู้ว่ามี แต่กลับได้มายาก ได้ยินมาว่าเป็วัตถุดิบยาหลักในการปรุงยาชะลอวัย แต่น่าเสียดายที่สูตรยานั้นหายสาบสูญไปนานแล้ว!”